สวัสดีค่ะชาว Dek-D ถ้าใครกำลังเก็บข้อมูลทุนเรียนต่อเมืองนอก เชื่อว่าน่าจะคุ้นหูกับชื่อ "ทุนเล่าเรียนหลวง" (King's Scholarship) ซึ่งเป็นทุนที่ในหลวงพระราชทานให้นักเรียน ม.6 ไปเรียนต่อต่างประเทศ ข้อดีคือเลือกได้เองเลยว่าอยากเรียนอะไรที่มหาวิทยาลัยไหน ดูแลตั้งแต่ค่าตั๋ว ค่าใช้จ่ายก่อนเดินทาง ค่าใช้จ่ายรายเดือน ค่าเล่าเรียน ค่าหนังสือและอุปกรณ์ ไปจนถึงค่าคอมพ์ฯ แต่ มีข้อแม้ว่าถ้าเรียนจบแล้วต้องใช้ทุนเท่ากับระยะเวลาที่รับทุน (เช่น เรียน 4 ปี ก็ต้องทำงาน 4 ปี) และแน่นอนว่าการแข่งขันสูงมากๆ
ทีนี้วันก่อนเรามีโอกาสพูดคุยกับ 'น้องฟิล์ม' วีรินทร์ บุษบรรณ ที่จบ ม.ปลายจากสายศิลป์-สเปน รร.เตรียมอุดมศึกษา แล้วได้ทุนคิงไปเรียน Economics ที่ Bowdoin College โดยเรียนปรับพื้นฐานมาแล้ว 1 ปี และกำลังเรียนปี 1 เทอม 2 ถึงจะหนักแต่บอกเลยว่าไลฟ์สไตล์สายลุยมากก! ชีวิตนอกคลาสคือทำกิจกรรมอย่างมันส์ เรามาฟังทั้งพาร์ตเตรียมตัวและหลังจากไ้ด้ทุนกันเลยค่าา
รีโนเวตตัวเองครั้งใหญ่
ให้เป็นคนทันข่าวรอบโลก
"เริ่มจากฟิล์มได้เข้าชมรมโต้วาทีของโรงเรียน แล้วรู้จักพี่ๆ หลายคนทั้งที่เคยสอบและเคยได้ทุนนี้ไปเรียนจริงๆ ค่ะ ตอนนั้นคิดว่าเป็นโอกาสที่ดี + เราก็อยากไปต่างประเทศมานานแล้ว เลยเริ่มเตรียมตัวจริงจังตั้งแต่ ม.5 สมัครสอบของสายศิลป์-ภาษา มีสอบข้อเขียนและสอบสัมภาษณ์ ซึ่งมันเป็นงานยากตรงที่เราไม่ใช่แค่ต้องอ่านหนังสือ เรียนพิเศษ ทำข้อสอบเก่า แต่ยังต้องเปลี่ยนตัวเองจากคนที่ไม่ตามข่าวเลยย มาเป็นอ่านข่าวทั้งในและต่างประเทศอย่างจริงจังจากหลายช่องทาง"
(รีวิวสิ่งที่เจอในข้อสอบ)
- วิชาภาษาไทย (เขียน 5 ข้อ / 3 ชม.) มีทั้งเรื่องหลักภาษาและเขียนเรียงความแสดงความคิดเห็น สิ่งที่ต้องรู้แน่นอนค่ะวรรณคดีค่ะ ตอนนั้นฟิล์มเลยไล่อ่านทุกเรื่องในหนังสือวรรณคดีวิจักษ์ เพื่อให้เข้าใจเนื้อเรื่องและ main idea ของเรื่อง"
- วิชาสังคม (เขียน 5 ข้อ / 3 ชม.) ถือว่ายากสุดสำหรับเราเลย เพราะต้องรู้ทั้งเนื้อหาแบบครอบจักรวาล และสถานการณ์ที่เกิดขึ้นรอบโลก + ฝึกเขียนเรียงความ ซึ่ง ประเด็นที่หนูเจอในข้อสอบมีทั้งการเมือง เศรษฐศาสตร์ ประวัติศาสตร์ และศาสนา ซึ่งจริงๆ เนื้อหาอยู่ใน ม.ปลายทั้งหมด แต่ต้องเอาหลักเบื้องต้นไปประยุกต์ใช้มากกว่าค่ะ"
- วิชาภาษาอังกฤษจะมีทั้งข้อช้อยส์ ข้อเขียน แนะนำให้ เก็บพื้นฐานให้แน่นเพื่อให้ไม่กังวลภาษาตอนเขียน essay เพราะสิ่งที่ฟิล์มคิดว่ายากกว่าคือต้องเขียนให้เคลียร์ และเหตุผลที่ยกมาสนับสนุนก็ต้องมีน้ำหนักด้วย
- วิชาการแปล มีทั้งแปลอังกฤษเป็นไทย แปลไทยเป็นอังกฤษ และแบบสรุปความ ด้วยความที่เราชอบอ่านนิยายตั้งแต่เด็กๆ ทำให้สนุกกับพาร์ตนี้ที่สุด 555"
ช่วงปรับพื้นฐานสุดหิน
การบ้านหนักหน่วงกว่าที่เคยเจอ
"หลังจากได้ทุนแล้วเราก็ต้องเรียนปรับพื้นฐานก่อน 1 ปีที่ Prep School ในอเมริกาค่ะ ได้เรียนหลักสูตรที่เด็กทุนคิงทุกรุ่นจะได้เรียน ฟิล์มคิดว่าช่วงนี้คือช่วงที่ยากที่สุดแล้ว เพราะเราต้องห่างบ้านไกลมากเพื่อมาอยู่โรงเรียนประจำ ต้องบาลานซ์เรื่องเรียน กิจกรรม และการหาเพื่อน ทั้งหมดนี้ต้องทำได้ดีทุกอย่างในเวลาเดียวกันด้วย"
"นอกจากนี้ยังเป็นการเรียนที่เจอ essay เยอะมากกก วิชาที่ยากแบบช็อกสุดคือ 'ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ' เราต้องรู้สิ่งที่นักปราชญ์ในอดีตเคยกล่าวไว้ ต้องรู้ว่าทั่วโลกมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง แล้วประเด็นคือเพื่อนๆ เขาก็รู้กันหมด เพราะประเด็นที่คนอเมริกันคุยเล่นกันเป็นปกติก็คือ 'ข่าว' นี่แหละ " (เข้าใจเลยว่าทำไมข้อสอบทุนคิงถึงเป็นแบบนั้น...)"
เด็กอีคอน VS ตำนานกรีก,
ฟิสิกส์, แดนซ์, สเปน ฯลฯ
"ตอนแรกหนูไม่รู้จัก Bowdoin College แต่โครงการก็พามารู้จักช่วงเรียนปรับพื้นฐานตอนซัมเมอร์ จุดเด่นของที่นี่คือเป็น 'Liberal Arts College' ที่เน้นให้เราได้ลองเรียนแบบกว้างๆ หลากหลายวิชาก่อนจะเลือกสาขาเฉพาะ เทอมนึงลงได้ 4 วิชา แล้วแต่การจัดการเวลาของเราเลยค่ะ //เห็นแค่ 4 วิชาแบบนี้คือการบ้านเยอะมากๆ ถ้าเทียบกับตอน ม.ปลาย แต่ฟิล์มยังงานไม่เยอะเท่าเพื่อนอีกหลายๆ คนที่นี่นะคะ "
"แล้วอย่างที่บอกคือวิชาหลากหลายมาก เทอมแรกฟิล์มลง Calculus, Jane Austen, Economic Policy และ Spanish ส่วนเทอม 2 มี Calculus (ระดับสูงขึ้น), Physics (Energy & Technology), Intro to modern dance, Classical Mythology (ตำนานกรีก) และ การเรียนที่นี่จะมี 2 คือกลับไปอ่านแล้วมา discuss กับเพื่อนๆ และอาจารย์ในห้องเรียน กับอีกแบบคือเป็นคลาสเลกเชอร์ นั่งฟังอาจารย์สอน
" ตัวอย่างเช่น วิชาเจน ออสเตน (Jane Austen) ซึ่งเป็นชื่อของนักเขียนนวนิยายชาวอังกฤษที่โด่งดังระดับโลก (อ่านเพิ่มเติมที่ 5 ข้อคิดจากงานเขียน 'เจน ออสเตน' ที่รู้แล้วชีวิตดี๊ดี ) วิชานี้เราได้อ่านนวนิยายทุกเล่มของเขา แล้วมา discuss กัน น่าสนใจตรงที่เขาพาเด็กไปดูจดหมายในยุคนั้นจริงๆ หลักฐานทางประวัติศาสตร์มันเจ๋งดี ไม่ต้องนั่งจินตนกาารเอง ทำให้เราอยากเรียนต่อยอดไปอีกด้วย"
"วิชาที่ยากสุดสำหรับฟิล์มคือภาษาสเปนค่ะ ตอน ม.ปลายเราเรียนศิลป์สเปนจนแม่นแกรมมาร์แล้ว แต่ที่นี่จะมาแบบให้เขียน essay สเปน 3 หน้า อย่างเช่นก่อนหน้านี้ให้ไปอ่านสิ่งที่เกิดขึ้นในลาตินอเมริกา แล้วเลือกข่าวนึงมาแสดงความคิดเห็น"
"ส่วนวิชาแคลคูลัส เราอาจเคยเรียนเลขแบบจำไปสอบ แต่ที่นี่สอนให้รู้ที่มาที่ไปว่าทำไมถึงต้องคิดแบบนี้? ประยุกต์ใช้ยังไงบ้าง? ใช้เครื่องคิดเลขได้ด้วย ยิ่งพอได้ทำงานร่วมกับเพื่อนๆ ก็ได้วิธีมาปรับใช้เพิ่ม ที่สำคัญคืออาจารย์เขาไม่มองว่าเราโง่เลข แต่ตั้งใจสอนให้ตามทันกันทุกคน สุดท้ายฟิล์มก็ทันแบบไม่น่าเชื่อ 5555 ส่วนหนึ่งเพราะเคยเรียนปรับพื้นฐานมาแล้วปีนึง และมีช่วงที่ให้เราเข้าไปปรึกษาอาจารย์ได้ด้วยค่ะ"
กิจกรรมทั้งสายลุยกับจิตอาสา
เซิร์ฟ, สกี, ตั้งแคมป์ในป่า ฯลฯ
"เล่าก่อนว่ามหา'ลัยที่ฟิล์มเรียนตั้งอยู่เมือง 'Maine' ชื่อนี้หลายคนอาจไม่คุ้นเพราะไม่ใช่รัฐท่องเที่ยว แต่คนอเมริกันชอบมาพักผ่อนกันค่ะ เมืองนี้จะเป็นเมืองบรรยากาศสบายๆ มีต้นไม้ ทะเล แม่น้ำ แล้วรู้สึกปลอดภัยพอสมควร ถ้าวันไหนจำเป็นต้องกลับดึก ตี 1-2 ก็เดินกลับหอคนเดียวได้สบายๆ เลย และอีกจุดเด่นนึงคือหิมะตกยาวนานมาก ตั้งแต่ พ.ย. และอาจยิงยาวไปถึง เม.ย. เราโอเคมากเพราะมันสวย~ 555"
"แล้วทีนี้ ม.ก็มีจัดกิจกรรมเยอะ เช่น ทริปที่เด็กปี 1 ทุกคนต้องเข้าร่วม โดยมีกฏว่า 'ห้ามเอามือถือไปด้วย' (เหมือนเป็นการดีทอกซ์) มีทั้งกิจกรรมสไตล์จิตอาสากับสายลุย เช่น สอนพายเรือ เล่นเซิร์ฟ นอนเต็นท์ จุดไฟท ำอาหารเอง ถ้าเหนื่อยๆ ก็ไปทะเลสาบชิลล์ๆ โดดลงน้ำเล่นๆ งี้ ค่อนข้างสบายเลย (อ่านเพิ่มเติมที่ Outing Club Bowdoin College) แล้วเขายังมีชมรม (Clubs) ให้เราเข้าร่วมตามความสนใจ อย่างเช่นเทอมนี้หนูก็ไปสมัครเป็นนักเขียนหนังสือพิมพ์ของโรงเรียน และไปรวมกลุ่มกับนักเรียนจากเอเชียค่ะ มีทั้งจัดอีเวนต์จิตอาสา คุยกับเด็ก ม.ต้นที่โรงเรียนในพื้นที่ใกล้เคียง"
"เราสังเกตว่าวัฒนธรรมอเมริกาแตกต่างจากบ้านเรามาก ในขณะที่คนไทยมักจะไปไหนมาไหนกันเป็นแก๊ง แต่ คนที่นี่เขาค่อนข้างเป็นตัวของตัวเองสูง อยู่กับตัวเอง พึ่งพาตัวเอง ทำให้เราต้องออกไปทำอะไรใหม่ๆ และเมกเฟรนด์เพื่อนกลุ่มใหม่ตลอด ตามกิจกรรมที่ทำค่ะ"
สุดท้ายนี้...
"อยากฝากถึงน้องๆ ที่อยากมาเรียนต่างประเทศหรือไม่ก็ความท้าทายที่รู้สึกยากเหลือเกิน ขอให้ลองทำดูก่อน จะได้ไม่เสียดายทีหลัง หรือต่อให้ลองแล้วไม่สำเร็จ เราก็จะภูมิใจกับความพยายามของตัวเองแน่นอนค่ะ"
ถือเป็นชีวิตเด็กมหา'ลัยที่ครบรสสุดอะไรสุด และทำให้เห็นระบบการศึกษาที่ให้ความสำคัญกับทั้งวิชาการและกิจกรรมนอกห้องเรียนควบคู่กัน ถ้าน้องๆ สนใจสถาบันนี้ เข้าไปเก็บข้อมูลที่ www.bowdoin.edu และ www.facebook.com/Bowdoin ได้เลย และหากสนใจทุนคิง สามารถศึกษา ประกาศรับสมัครของปี 2562 ไว้เป็นแนวทางเตรียมตัวตั้งแต่เนิ่นๆ แล้วตั้งใจให้เต็มที่ ไม่ว่าผลจะเป็นยังไง ประสบการณ์ที่เราได้กล้าทำสิ่งที่ท้าทาย ก็จะเป็นผลดีติดตัวเราไปแน่นอนค่ะ :)

.jpg)










1 ความคิดเห็น
เตรียมอุดมอีกแล้ว TT