ปังมาก! 5 ทริคจากซีรีส์สุดหลอน เขียนเรื่องสยองขวัญแบบไม่มีผีก็ทำคนอ่านขนลุกได้!

ปังมาก! 5 ทริคจากซีรีส์สุดหลอน
เขียนเรื่องสยองขวัญแบบไม่มีผีก็ทำคนอ่านขนลุกได้! 


สวัสดีค่ะนักเขียนชาวเด็กดีทุกคน ใครที่กำลังเขียนนิยายและอยากสร้างประสบการณ์ชวนขนลุกให้กับตัวละคร พี่แนนนี่เพนมีทริคการเขียนนิยายแนวสยองขวัญจากซีรีส์ American Horror Story มาแนะนำกันค่ะ ในซีรีส์ที่พี่เคยดูมาแต่ละซีซันจะมีธีมการเล่าเรื่องแบบจบในตอนที่น่าสนใจเอามากๆ แถมยังเล่าเรื่องสยองขวัญของชาวอเมริกันให้ออกมาได้หลอนกันแบบสุดๆ อีกด้วย ซึ่งใครที่ชอบเรื่องราวแฟนตาซี ไสย์ศาสตร์ และความมูเตรู พี่ว่าทริคเหล่านี้น่าสนใจและเหมาะจะเอาไปเขียนเป็นนิยายสักตอนหนึ่งเพื่อสร้างความตื่นเต้นและคาดไม่ถึงให้นิยายของเราได้เลยค่ะ แอบกระซิบว่านำไปใช้ได้กับนิยายได้ทุกแนวจริงๆ ค่ะ 
 

1. ชวนขนลุกได้ง่ายๆ แค่มีฉากที่ดี!

มาเริ่มกันที่ฉาก (Setting) เป็นอันดับแรกกันเลยค่ะ ฉากในนิยายจะเป็นสถานที่ในจินตนาการของเราที่มีอยู่จริง เป็นสถานที่และเวลาที่มีความสัมพันธ์กับตัวละคร การดำเนินเรื่อง และบรรยากาศของเรื่องเป็นอย่างมาก การจะสร้างเรื่องราวชวนหลอนได้นั้น ขอบอกเลยว่าฉากเป็นทุกอย่างของเรื่องราวสยองขวัญเลยค่ะ หากเราไม่สามารถสร้างบรรยากาศ และฉากที่น่ากลัวอย่างธรรมชาติได้ เราก็เหมือนแพ้ไปแล้วครึ่งหนึ่งเลยค่ะ เราจะต้องสร้างฉากที่น่ากลัวสำหรับตัวละครและคนอ่านขึ้นมา (คนอ่านสำคัญมากๆ เลยค่ะ) โดยฉากที่ได้รับการการันตีมาแล้วว่าเหมาะกับแนวเรื่องสยองขวัญมากที่สุด ก็คือ บ้านผีสิง, โรงพยาบาลบ้า, ปราสาทเก่า, สุสาน, พื้นที่โล่งๆ, และโรงแรม เป็นต้น ซึ่งตัวอย่างฉากที่กล่าวมาทั้งหมดนี้มีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกันก็คือ การตั้งอยู่อย่างโดดเดี่ยวและอยู่ห่างไกลผู้คนนั่นเองค่ะ ถ้าหากเราต้องการสร้างประสบการณ์ที่น่ากลัวให้ตัวละครและนักอ่านของเรา เราก็ต้องแยกตัวละครเอกออกมาอยู่ในฉากเหล่านี้เพียงลำพังเพื่อให้นักอ่านรู้สึกโดดเดี่ยว และเผชิญกับความกลัวจากสิ่งไม่สามารถคาดเดาได้ เพียงเท่านี้ก็สามารถสร้างเรื่องชวนขนหัวลุกขึ้นมาได้แล้วค่ะ 

อย่างใน American Horror Story ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดก็คือการเซ็ตติ้ง หรือสร้างสถานที่ขึ้นมาแล้วนำเรื่องเล่าแนวสยองขวัญมาใช้เป็นเรื่องราวของฉากนั้นๆ เช่น ในซีรีส์เซ็ตติ้งให้มีครอบครัวหนึ่งย้ายไปอยู่ในบ้านที่เคยมีการฆาตกรรมกันมาก่อน ทำให้บ้านหลังนี้เป็นเหมือนบ้านผีสิง คนที่อยู่อาศัยก็จะรู้สึกหลอน และหวาดระแวงต่อเรื่องราวเหนือธรรมชาตินั่นเองค่ะ 
 

2. อย่าพยายามเขียนให้รู้สึกว่าต้องกลัว! 

ในซีซั่น 2 ของซีรีส์มีฉากหลังเป็นโรงพยาบาลบ้าที่เต็มไปด้วยเรื่องเหนือธรรมชาติ เช่น มนุษย์ต่างดาว และยมฑูตค่ะ โดยรวมเป็นการเล่าเรื่องที่ค่อนข้างชวนงง หลอนแบบหนังไทย คือ พยายามกระตุ้นความกลัวด้วยเสียง หรือสิ่งที่มองไม่เห็น ซึ่งจุดนี้เปฌนทริคที่น่าสนใจมาก เพราะหากมีมากจนเกินไปก็อาจทำให้ความกลัวลดลงได้เช่นกัน 

ดังนั้นทริคในข้อนี้จึงอยากบอกว่าอย่าพยายามสร้างความกลัวมากเกินไปค่ะ ความกลัวมาจากสิ่งที่ไม่รู้ มองไม่เห็น และไม่อาจคาดเดาได้ แต่หากนักเขียนพยายามเขียนให้ตัวละครและนักอ่านรู้สึกกลัว นอกจากจะเป็นการชี้นำแนวทางแล้ว ยังทำให้ความน่ากลัวลดลงอีกด้วย ฉะนั้น หากจะสร้างฉากชวนขนหัวลุกขึ้นมา เราต้องร่างเรื่องราวคร่าวๆ ก่อนว่ากำลังจะเขียนเกี่ยวกับอะไร ลองอธิบายความสยองขวัญจากเรื่องราวของเราในหนึ่งหรือสองประโยคดูค่ะ แล้วพิจารณาดูว่าเราสามารถเพิ่มองค์ประกอบเพื่อสร้างความสยองขวัญในฉากนี้ได้อย่างไรบ้าง เช่น กรณีบ้านผีสิงที่มีคนจริงๆ อาศัยอยู่ และรู้ประวัติของบ้านเป็นอย่างดี หมายความว่า บ้านหลังนี้จะต้องมีเสียงของตก หรือหนังสือหล่นเองได้รึเปล่า สิ่งเหล่านี้สามารถเกิดขึ้นได้ค่ะ แต่ลองทบทวนดูดีๆ ว่ามันดูตั้งใจไปหรือเปล่า เพราะบางครั้งการปล่อยให้ตัวละครและนักอ่านรู้สึกว่าทางข้างหน้าไม่ปลอดภัย เป็นป่าที่ไม่รู้ว่าจะมีสัตว์ตัวไหนโผล่มา น่าจะทำให้จินตนาการของนักอ่านสร้างความกลัวได้ดีกว่านะคะ 
 


 

3. เรื่องสยองขวัญจากตำนาน เรื่องจริง ดีที่สุด!

ไม่ว่าจะเขียนเรื่องอะไรก็ตามหากไม่รู้จริงหรือยังไม่ชำนาญมากพอ นักเขียนควรจะหาข้อมูลไว้เสมอค่ะ การจะสร้างเรื่องเล่าให้น่ากลัวได้ต้องมีองค์ประกอบที่น่าสนใจ ตัวละครและนักอ่านรู้สึกมีส่วนร่วมกับเรื่องราวเหล่านั้น เช่น ตำนาน เหตุการณ์จริง หรือบันทึกประวัติศาสตร์ เป็นต้น เราต้องทำความเข้าใจก่อนค่ะว่าบางครั้งสิ่งที่น่ากลัวที่สุดในชีวิตก็มาจากเรื่องจริง ลองสังเกตกันดูว่าทำไมสารคดีบ้านผีสิง และรายการล่าผี ถึงได้รับความนิยมจากผู้คนเป็นอย่างมาก สาเหตุหนึ่งอาจเป็นเพราะเรื่องราวเหล่านั้นมีพื้นฐานมาจากความจริงบางส่วน หรืออย่างน้อยที่สุดก็มีพยานยืนยันได้จริงๆ ฉะนั้น เราควรหาข้อมูลไว้มากๆ เพื่อนำมาเป็นส่วนประกอบของฉากในนิยายของเรา แต่หากใครคิดไม่ออกว่าจะเริ่มต้นจากอะไร ลองถามตัวเองดูว่าเรากลัวอะไรบ้าง แล้วทำไมเราถึงรู้สึกกลัว หากเรามีความรู้สึกร่วมด้วยก็จะบรรยายความกลัวออกมาได้ดีมากๆ แน่นอนค่ะ 

สำหรับตัวอย่างของซีรีส์ที่ทำออกมาได้ดีเลยก็คือ เรื่องเล่าของเด็กสาวที่เพิ่งค้นพบว่าตัวเองเป็นแม่มดค่ะ มีเรื่องราวเกี่ยวกับไสยศาสตร์ และความมูเตรูแบบเหนือธรรมชาติมากๆ เรื่องราวดำเนินอยู่ในเมืองนิวออร์ลีน พร้อมนำตำนานของบุคคลสำคัญทางประวัติศาสตร์อย่าง มารี ลาโว (Marie Laveau) ราชินีวูดูแห่งนิวออร์ลีนส์ (The Voodoo Queen of New Orleans) มาเป็นเรื่องเล่านำไปสู่เส้นทางการใช้ไสยศาสตร์ได้อย่างลึกซึ้งเลยค่ะ 
 

4. ต้องรู้จักตัวละครของเราให้ดีที่สุด!

ตัวละครคือสิ่งที่นักเขียนต้องคงคาแรคเตอร์ไว้มากที่สุดค่ะ โดยเฉพาะนิยายที่ทำเอาขวัญตัวละครกระเจิงได้แบบนี้ เรายิ่งต้องใส่ใจตัวละครมากขึ้นไปอีกค่ะ และที่สำคัญที่ต้องจำไว้ให้ดีก็คือ เรื่องชวนขนหัวลุกไม่ควรผูกโยงกับเรื่องราวดราม่า เพราะอาจจะทำให้ความน่ากลัวลดลงได้ และอาจเปลี่ยนความรู้สึกของตัวละครและนักอ่านไป สิ่งที่ต้องโฟกัสก็คือ เมื่อเรามีฉาก มีองค์ประกอบเรื่องราวพร้อมแล้ว เราต้องเลือกประเภทของตัวละครว่าใครเหมาะที่จะต่อสู้กับความหวาดกลัว และใครที่ไม่พร้อมรับมือกับความหวาดกลัว ลองเล่นกับจุดแข็งของตัวละครเหล่านี้ และไม่เปลี่ยนคาแรกเตอร์จากประสบการณ์ของตัวละครมากเกินไป นิยายของเราก็จะมีตัวละครที่ทำงานได้อย่างดี โดยที่เราไม่ต้องเพิ่มลูกเล่นเพื่อสร้างความกลัวขึ้นมาเลยค่ะ 

ในซีรีส์ตัวละครทุกตัวละครมีคาแรกเตอร์ของตัวเองค่อนข้างชัดเจน ตัวละครที่จิตแข็งมักจะไม่หวาดหวั่นต่อเสียง หรือสิ่งที่มองไม่เห็น แต่จะพยายามค้นหาความจริง และสร้างความปลอดภัยให้ตัวเอง ขณะที่ตัวละครที่จิตอ่อน มักจะเป็นเหยื่อของความไม่รู้เสมอ และมักจะนำอันตรายมาสู่ตนเองโดยที่ไม่รู้ตัว 
 


 

5. อย่าทิ้งเรื่องราวไว้แค่ความกลัว!

นาทีนี้ต้องถามแล้วว่า ทำไมเราถึงอยากเขียนนิยายให้ตัวละครและนักอ่านรู้สึกขนหัวลุก หรือหวาดกลัวต่อสิ่งที่มองไม่เห็นกันล่ะ จริงๆ แล้วการเขียนนิยายให้มีฉากสยองขวัญ นักเขียนหลายคนมักจะหลีกเลี่ยง เพราะมันเข้าธีมนิยายที่เขียนอยู่ยาก (หากไม่ได้เขียนแนวสยองขวัญอยู่แล้ว) ดังนั้น ทริคในข้อนี้จึงอยากจะแนะนำให้หาธีมเฉพาะกิจไว้ค่ะ หมายถึง การคิดถึงผลที่ตามมาในเหตุการณ์สยองขวัญ เช่น ครอบครัวที่มีเรื่องบาดหมางกัน กลุ่มเพื่อนที่สนิทกัน หรือคนรักกัน เมื่อพวกเขาต้องมาผจญภัยอยู่ในสถานการณ์บีบคั้น ความสัมพันธ์จะดีขึ้นหรือแย่ลงก็อยู่ที่นักเขียนวางเรื่องเอาไว้ นอกจากนี้ ฉากชวนขวัญผวา ยังทำให้ตัวละครและนักอ่านได้จินตนาการถึงเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต และได้เผชิญกับเรื่องราวหักมุมซึ่งมักจะเกิดขึ้นในฉากเฉพาะกิจแบบนี้เสมออีกด้วย ยิ่งเราสามารถทำให้นักอ่านอยู่ในความกลัวได้นาน และไม่สามารถคาดเดาสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไปได้ ฉากสยองขวัญในนิยายของเราก็จะแข็งแกร่งมากขึ้นแน่นอนค่ะ
 

พี่ว่าเป็นไอเดียที่ดีเลยค่ะ ลองจับมาใช้สักทริคสองทริค แล้วเขียนลงในนิยายของเราดูสักตอนสองตอนก็น่าสนใจไปอีกแบบ ไม่ต้องกลัวว่าจะเขียนแล้วไม่เข้าพล็อตเรื่องหรือไม่น่าสนใจเลยค่ะ ทุกทริคที่นำมาแนะนำในวันนี้สามารถปรับเปลี่ยนให้เข้าได้กับทุกสถานการณ์แน่นอน เพราะทริคเหล่านี้คือ การสร้างฉาก สร้างพล็อต ตัวละคร และธีมเรื่อง เราสามารถเรียนรู้จากเรื่องราวเหล่านี้ แล้วนำไปปรับใช้ได้แน่นอนค่ะ หวังว่าน้องๆ จะได้ไอเดียๆ ดีนำไปต่อยอดการเขียนนิยายกันนะคะ แล้วเอกันใหม่ค่ะ ^^

พี่แนนนี่เพน
 

ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก
https://www.imdb.com/title/tt1844624/?ref_=ttmi_tt

Deep Sound แสดงความรู้สึก

พี่แนนนี่เพน
พี่แนนนี่เพน - Columnist สาวเหนือที่มีความสุขกับการเขียนนิยาย และเชื่อว่านิยายให้อะไรดีๆ กับสังคมเสมอ

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

0 ความคิดเห็น