สวัสดีค่ะน้องๆ ปฏิเสธไม่ได้ว่า การเลือกคณะ การเลือกสาขาวิชา เป็นอีกจุดเปลี่ยนหนึ่งที่สำคัญของชีวิตใครหลายคน จนทำให้หลายๆ คนเกิดความลังเล และความสับสนเมื่อถึงเวลาที่จะต้องตัดสินใจเลือกคณะ โดยเฉพาะในช่วงนี้ ช่วงที่เปิดภาคเรียนใหม่ของปีการศึกษา มักจะมีน้องเข้ามาปรึกษาพี่ๆ ทีมงานตามช่องทางต่างๆ รวมถึงตั้งกระทู้ในเว็บบอร์ดเด็กดี เพื่อปรึกษาพี่ๆ เพื่อนๆ ด้วย
.jpg)
เมื่อรวบรวมน้องๆ ที่เข้ามาปรึกษาเรื่องการเลือกคณะ ก็พอจะแบ่งน้องๆ ออกได้อยู่ 3 กลุ่มใหญ่ๆ คือ 1) กลุ่มที่ยังไม่รู้เลยว่าอยากเรียนอะไร 2) กลุ่มที่พอรู้ตัวเองบ้างแต่มีหลายช้อยส์ ไม่รู้ว่าสุดท้ายจะเลือกอะไรดี เช่น คณะแพทยศาสตร์กับคณะทันตแพทยศาสตร์ หรือ คณะเภสัชศาสตร์กับคณะวิทยาศาสตร์ เป็นต้น 3) กลุ่มที่มีความชอบหลายอย่าง ต่างขั้วกัน จะเลือกเรียนแบบไหนดี เช่น ชอบวาดรูป แต่ก็ชอบภาษา จะเลือกเรียนคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ หรือ อักษรศาสตร์ดี เป็นต้น
โดยคำถามหลักๆ ที่น้องๆ ถามคือ "เลือกเรียนอะไรดี" "คณะนี้กับคณะนี้ควรเลือกเรียนอะไร" "คณะไหนดีกว่ากัน" วันนี้พี่แนนนี่ก็เลยจะมาแนะนำเทคนิค และแนวทางในการเลือกคณะ เพื่อช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับน้องๆ
1. สำรวจตัวเอง
การที่เราจะเลือกคณะ เลือกสาขาวิชาที่จะเรียน อันดับแรกอยากให้น้องๆ ลองสำรวจตัวเอง ทำความรู้จักตัวเราเองก่อนว่า ชื่นชอบอะไร ชอบทำอะไร เป็นคนแบบไหน มีบุคลิก และลักษณะนิสัยยังไง ลองลิสต์ๆ ไว้ เพราะตรงนี้จะเป็นข้อมูลคร่าวๆ ที่จะทำให้น้องๆ เห็นแนวทางต่อไปได้ว่า "จะเลือกเรียนคณะ หรือสาขาวิชาอะไรดี" ซึ่งวิธีการสำรวจตัวเอง ก็มีหลากหลายรูปแบบ เช่น ทำแบบทดสอบทางจิตวิทยาต่างๆ พูดคุยแลกเปลี่ยนมุมมองกับคนอื่น ลองลงมือทำ หรือเข้าไปอยู่ในบรรยากาศ/สภาพแวดล้อมของสาขาวิชานั้นๆ เป็นต้น
2. ศึกษารายละเอียดแต่ละสาขาวิชา
ข้อนี้สำคัญ ให้น้องๆ ลองศึกษาค้นคว้า รายละเอียดสาขาวิชาต่างๆ ที่สนใจ ทั้งตัวหลักสูตร รายวิชาที่เปิดสอน คำอธิบายรายวิชา บรรยากาศในการเรียน รวมไปถึงปริญญาที่จะได้รับ เพราะชื่อสาขาวิชา ชื่อคณะ ไม่สามารถบอกสิ่งที่จะได้เรียนในคณะได้ทั้งหมด โดยพวกรายละเอียด และข้อมูลต่างๆ เหล่านี้จะทำให้น้องๆ เห็นภาพของสาขาวิชา หรือคณะนั้นๆ ชัดเจนมากขึ้น และเมื่อเรารู้ว่าสาขาวิชานั้นๆ เรียนเกี่ยวกับอะไรบ้าง ก็จะทำเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจเลือกคณะได้ดี
นอกจากจะช่วยเลือกคณะได้แล้ว การศึกษาข้อมูลเหล่านี้ยังช่วยเลือกมหาวิทยาลัยที่จะเข้าเรียนได้อีกด้วย เพราะถึงแม้ว่าจะเป็นคณะเดียวกัน สาขาวิชาเดียว แต่แต่ละมหาวิทยาลัยก็จะมีหลักสูตร การเรียนการสอนที่แตกต่างกัน
3. ศึกษาวิธีการทำงาน หรืออาชีพ
มองข้ามไปอีก step ลองศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับหน้าที่การงาน หรืออาชีพที่สนใจแบบคร่าวๆ ว่าในแต่ละวันทำอะไร มีหน้าที่ความรับผิดชอบเป็นยังไง รูปแบบการทำงานเป็นแบบไหน มีข้อจำกัด หรือขอบเขตในการทำงานเป็นยังไง แล้วเราชื่นชอบในการทำงานแบบนั้นหรือไม่ เราโอเคที่จะทำไหม ซึ่งการรู้ข้อมูลเหล่านี้ก็เหมือนเป็นตัวช่วยในการจำลองภาพตัวเองในอนาคตว่า เราสนใจที่จะทำในอาชีพๆ นั้นจริงๆ รึเปล่า หรือเราเหมาะที่จะทำอาชีพแบบนี้หรือไม่ วิธีนี้ ก็คือจะเป็นเหมือนการมองจากอนาคตแล้วย้อนกลับมาดูว่า ถ้าเราสนใจหน้าที่การงานแบบนี้ อยากทำงานในลักษณะนี้ แล้วเราควรจะเลือกเรียนคณะ หรือสาขาวิชาอะไรดี
4. ชั่งน้ำหนักในการเลือกคณะนั้นๆ
เมื่อเกิดความลังเลในการเลือก หรือมีหลายตัวเลือกอยู่ในมือ ขั้นแรกให้น้องๆ ลองลิสต์เหตุผลออกมาว่า ทำไมถึงสนใจในแต่ละสาขาวิชา ทำไมถึงอยากเรียนสาขาวิชานั้นๆ จากนั้นก็ไปไล่ดูข้อมูลต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับสาขาวิชาที่สนใจอยู่ ทั้งการเรียนการสอน หลักสูตร วิชาที่เปิดสอน หน้าที่การงาน รวมไปถึงข้อดี ข้อเสียต่างๆ ของแต่ละสาขาวิชาที่เป็นตัวเลือกว่าเป็นยังไงบ้าง มีอะไรเหมือนกัน หรือต่างกันบ้างไหม แล้วก็ลองนำมาชั่งน้ำหนักดูว่า เราชื่นชอบ หรือเอนเอง อยากเรียน อยากทำงานไปในทางไหนมากกว่ากัน
ทั้งนี้น้องๆ อย่าลืมว่า การตัดสินใจเลือกสาขาวิชา คณะ และมหาวิทยาลัยที่จะเรียน ต้องดูตามปัจจัยต่างๆ ของแต่ละคนด้วย เช่น ที่ตั้งของมหาวิทยาลัย ค่าธรรมเนียมการศึกษา (ค่าเทอม) ค่าครองชีพ การเดินทาง คะแนนสอบ เป็นต้น
สำหรับใครที่ยังลังเลในการเลือกคณะอยู่ ไม่ว่าจะเป็น คนที่ยังไม่รู้ว่าจะเลือกสาขาวิชาอะไรเลย หรือมีสาขาวิชาในใจบ้างแล้ว นำ 4 วิธีข้างต้นไปประยุกต์ใช้กับตัวเอง ก็จะช่วยให้น้องๆ สามารถตัดสินใจในการเลือกคณะ เลือกสาขาวิชาได้ง่ายมากขึ้นนะคะ
2 ความคิดเห็น
ไม่เคยรู้เลยค่ะว่าตัวเองอยากเรียนอะไร ใช้วิธีตัดเอา
1. กลัวเข็ม กลัวเลือด กลัวเครื่องมือหมอ = ตัดแพทย์ พยาบาล ทันต สัตวแพทย์ ทุกอย่างที่เกี่ยวกับแพทย์ออกหมดเลย
2. ตกเลข = ตัดวิศว เศรษฐศาสตร์ บริหารออกหมด
3. ไม่ชอบวิทยาศาสตร์ = ตัดวิทยา
4. ชอบระบายสี แต่วาดรูปไม่เป็น = ตัดศิลปกรรมศาสตร์ออก ตัดสถาปัตย์ออก ตัดศิลปศาสตร์ออก
เหลือ อักษร นิเทศ วารสาร รัฐศาสตร์ นิติศาสตร์ คหกรรมศาสตร์
- ที่บ้านอยากให้เข้ารัฐศาสตร์ สอบให้แล้ว ติดแล้ว เข้าไปเรียนแล้ว แต่เหมือนเรียนประวัติศาสตร์มากกว่า ท่องจำเยอะเกิน อยากวิเคราะห์มากกว่า
- เป็นคนที่ไม่ค่อยเชื่อมั่นกับความยุติธรรมของกฎหมายไทย เลยตัดนิติศาสตร์ออก เรียนไป ก็ไม่มีประโยชน์อ่ะ
- วารสาร เขียนเยอะไปหน่อย อีกอย่างสื่อสิ่งพิมพ์ ส่วนตัวมองว่ามันไม่ค่อยมั่นคงเท่าไหร่ เลยเลือกที่จะตัด
- คหกรรมอยากเรียนเสริมมากกว่า คงไม่จำเป็นต้องเข้าคณะคหกรรม หรือจบคหกรรม
ก็เลยเหลือแค่ อักษร หรือ นิเทศ
- หันกลับมามองที่ connection รอบตัวของตัวเอง เพื่อนอยู่ในวงการเยอะ คนรู้จักอยู่ในวงการบันเทิงเยอะ คิดว่าถ้าเรียนนิเทศจบมา น่าจะได้ใช้ connection ให้เป็นประโยชน์
แล้วสุดท้ายก็จบนิเทศ (เกียรตินิยมด้วย)
ขอบคุณที่เข้ามาแชร์ประสบการณ์กันนะคะ :)