รีวิวเรียน ป.โท Com-Sci ที่ไต้หวัน: บ้านเมืองแสนสงบ ผู้คนเป็นมิตรยกเว้นตอนขับรถ!

สวัสดีค่ะชาว Dek-D ช่วงนี้ได้สัมภาษณ์คนไปเรียนต่อไต้หวัน จนรู้สึกอยากไปเที่ยวตามเลยค่ะ TT  ถ้าใครอยากหาทางลัดฝึกภาษาจีน ใช้ชีวิตในบ้านเมืองที่ทันสมัย ผู้คนที่เป็นมิตร และการเดินทางที่สะดวกสบายจนน่าตกใจ วันนี้ขอพาไปอ่านรีวิวสั้นๆ ของ  ‘ฝน’ ณัฐวรา วิริโยทัย ในมุมมองเด็ก ป.โท สาขา Computer Science and Information Engineering ที่ National Formosa University (NFU / 國立虎尾科技大學) ว่าเรียนประมาณไหน? ชอบและช็อกอะไรในไต้หวันบ้าง?

ไปเรียนอินเตอร์
แต่ยังไงก็หนีภาษาไม่พ้น
 

“ช่วงเรียนป.ตรีวิศวะฯ ที่ มศว ฝนมีไปฝึกงาน 4 เดือนในโรงพยาบาล ทั้งดูแล  ซ่อมแซม และตรวจความสมบูรณ์ของเครื่องมือแพทย์ และเห็นว่าแต่ละแผนกต้องการเครื่องมืออะไรบ้าง พอจบมาเลยขอทุนของ National Formosa University ไปเรียน ป.โท ในสาขาที่เกี่ยวกับเทคโนโลยีค่ะ ใช้เวลาเตรียมตัว 2 เดือน ส่งเอกสารพื้นฐาน เขียนเรียงความเล่าว่าเราคือใคร อะไรจุดประกายให้เราอยากมาเรียนที่นี่สาขานี้ (ไม่มีสัมภาษณ์) ฝนก็เล่าว่าตัวเองสนใจการแพทย์และอยากปรับปรุงระบบสาธารณสุขทั่วโลกให้ดีขึ้น"

“ตอนนั้นยื่นคะแนน TOEIC 700 (กำหนดขั้นต่ำ 550) และไม่มีพื้นฐานภาษาจีนเลย แต่ไปถึงก็หนีภาษาไม่พ้นอยู่ดี 55555 เมืองที่ฝนไปอยู่คือฮู่เว่ย (Huwei) ไม่ใช่ทั้งเมืองใหญ่และเมืองท่องเที่ยวเลยค่ะ คนพูดภาษาอังกฤษไม่ค่อยได้ โดยเฉพาะเรื่องกินคือเรื่องใหญ่มาก เพราะในเมนูเป็นภาษาจีนหมด แถมไต้หวันใช้จีนตัวเต็มอีก ช่วงแรกต้องพึ่งพี่คนไทยที่ไปอยู่นานจนเริ่มพูดภาษาจีนได้แล้ว”

“ตอนเปิดเรียน ทางมหา'ลัยมี offer คอร์สภาษาจีนให้เรียนฟรีได้ด้วย เป็นคลาสที่เน้นฟังกับพูดสำหรับใช้ในชีวิตประจำวัน ขนาดฝนไม่เคยเรียนจีนมาก่อนยังรู้สึกเค้าสอนสนุก ได้ฝึกต่อเนื่อง มีสอบตัวต่อตัวทุกสัปดาห์จนแบบว่ายังไงก็ต้องฝึกพูดจนได้นั่นแหละ (ฝนเคยเรียนภาษาเกาหลีมาบ้าง สังเกตได้ว่ามีบางคำคล้ายกัน) พอเรียนเสร็จใช้ชีวิตสบายไปอีกเปราะทั้งตอนกินข้าว เที่ยว ซื้อของ ทำกิจกรรมกับครอบครัว ฯลฯ ถ้าไปร้านอาหารแบบสบายๆ ก็ใช้เวลาเทอมนึง 55555 ถ้ามีเพื่อนไต้หวันจะไปเร็วกว่านี้อีกนะ” 

เด็ก Com-Sci
เรียนอะไรบ้าง?
 

“เรียนกันแบบชิลล์ๆ ชิลล์มากทั้งเพื่อนและอาจารย์ คลาสไม่ใหญ่และเรียนเน้นปฏิบัติ เราเลือกลงวิชาในหรือนอกคณะได้ตามที่สนใจเลย (ถ้าคลาสไหนไม่เปิดสอนเป็นภาษาอังกฤษ เราสามารถลองคุยกับอาจารย์ได้) ฝนมีลงเรียนวิชาพวก Machine Learning and Big Data Analysis , Cloud System, Intelligence Optimized Algorithms, Image Processing ประมาณนี้ เป็นแนวๆ เขียนโ้ค้ดเพื่อวิเคราะห์ข้อมูล และปรับปรุงวิธีการวิเคราะห์ข้อมูลให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ตอนเรียนเราใช้ภาษากับโปรแกรมที่ถนัดได้เลยนะคะ เพราะอาจารย์สนใจแค่ input กับ output"

“หรือพวกวิชานอกคณะก็มี Business Intelligence และ Database Management เรียนจัดการข้อมูลและสร้างฐานข้อมูลที่เอาไปใช้ในเชิงธุรกิจ เช่น หยิบฐานข้อมูลลูกค้ามาวิเคราะห์ว่าเค้าน่าจะอยากซื้อสินค้าอะไรบ้าง"

“แล้วด้วยความที่ Com-Sci เป็นอะไรที่ใกล้ตัวมาก ประยุกต์ได้หมดทั้งการตลาด การแพทย์ การสร้างเว็บ การสร้างหุ่นยนต์ ฯลฯ ตอนทำวิจัยฝนเลยหยิบมาโยงกับความสนใจเรื่องยา โดยหาความสัมพันธ์ของยากับยีนส์เป้าหมาย (Targeted gene) เพื่อหายาใหม่มาทดแทนยาเดิม (Drug Repositioning) สำหรับรักษาโรคมะเร็งปอด ซึ่งสามารถนำวิธีนี้ไป adapt ต่อสำหรับการรักษาโรคอื่นๆ ได้อีกค่ะ ปกติเค้าจะมีฐานข้อมูลของข้อมูลแต่ละประเภทให้อยู่แล้ว  แต่เราต้องรู้ว่าจะต้องใช้ข้อมูลประเภทไหน เพื่อให้หยิบฐานข้อมูลมาใช้ได้ถูกที่"

“ส่วนเพื่อนๆ คณะนี้ก็น่ารักมากเลยยย ถึงบางคนจะพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ เลยไม่กล้าคุยกับเราเท่าไหร่ แต่ถ้าเกิดเราไปขอความช่วยเหลือ เค้า nice มาก พูดแล้วไม่เข้าใจก็พาไปเลย 55555 แต่เรื่องที่ต้องระวังทั้งการทำงานและตอนพูคคุยคือประเด็นไต้หวัน-จีน มีครั้งนึงฝนเผลอใช้คำจีนลงเปเปอร์ (คนไต้หวันจะใช้อีกคำนึง) แล้วอาจารย์คอมเมนต์กลับมา ถึงได้รู้ว่าจริงๆ มีกฎห้ามใช้คำภาษาจีนในเมืองไต้หวันด้วยนะคะ อาจต้องพึ่งเพื่อนๆ ไต้หวันให้ช่วยพรูฟ"

บ้านเมืองสุดเฟรนด์ลี่
เห็นความเท่าเทียม
 

“เมืองนี้จะเป็นฟีลต่างจังหวัด บรรยากาศจะตรงข้ามกับเมืองใหญ่เลย ทั้งรถน้อยคนน้อย ใช้ชีวิตไม่เร่งรีบ ผู้คนชอบออกกำลังกาย ลุงๆ ป้าๆ ชอบทักทายเราเป็นปกติ (ถึงคุยไม่รู้เรื่องเค้าก็ยังเล่าให้ฟังต่อนะ น่ารัก~) ความปลอดภัยที่นี่ก็สูงมาก ตอนกลางคืนไม่น่ากลัว แถมมีร้านค้าเปิด 24 ชั่วโมงเหมือนกับบ้านเรา แต่ถ้าใครมาเมืองนี้อาจต้องทำใจว่าที่เที่ยวไม่เยอะ รสบัสไม่เยอะเท่าในเมือง แต่เช็กทุกอย่างได้หมด รถจะมาตรงเวลามากๆ"

“เท่าที่สังเกต ฝนรู้สึกว่าไต้หวันมีระบบที่เอื้อต่อผู้พิการและผู้สูงอายุ ทั้งถนนหนทาง สิ่งอำนวยความสะดวก หรือแม้กระทั่งโอกาสเรื่องงาน  เพราะผู้พิการที่ไต้หวันทำงานออฟฟิศเยอะมากในหน้าที่ที่เค้าทำได้”

“อีกเรื่องที่ดีเหมือนกันแต่เราไม่ชินคือการแยกขยะ แต่ละวันจะมีรถขยะกับรถรีไซเคิลวิ่งมา 2 รอบ สัก 3 โมงกับ 4 โมงเย็น มาพร้อมเพลงประจำวัน พอมาถึงเราก็เอาขยะที่แยกไว้เรียบร้อยแล้วไปโยนขึ้นรถเอง ถ้าทิ้งผิดมีโดนปรับด้วย”

แต่เรื่องนิสัยการขับรถที่เจอนั้น…

“เมืองใหญ่ๆ ยังดีที่มีฟุตบาธ แต่เมืองที่ฝนอยู่ส่วนใหญ่ต้องเดินตรงขอบถนนแทน สิ่งที่ฝนเจอคือรถขับอยู่ดีๆ แล้วคิดจะจอดก็จอด อาจจะคร่อมเลน ปาดหน้าคนที่กำลังเดิน หรือจอดตรงทางโค้ง แล้วขับไม่ค่อยดีด้วย นั่งยังไงก็เมารถ นั่งรถบัสก็เป็นเหมือนกัน หรืออย่างตอนไปเที่ยวขับขึ้นเขา เจอทางโค้งเค้าขับแบบไม่เบรกเลย ส่วนมอเตอร์ไซค์คือขับแบบไม่เอาเท้าวางที่พักเท้าเลยค่ะ ทำให้เห็นข่าวอุบัติเหตุค่อนข้างบ่อย แต่ข้อดีคือเค้าไม่ฝ่าสัญญาณไฟแดง”

Before  & After

“พอไปเจอประสบการณ์ใหม่ วิธีเรียนใหม่ๆ คนหลากหลายเชื้อชาติ ฝนว่าตัวเองกลายเป็นคนเปิดรับความคิดต่างมากขึ้นโดยไม่รู้ตัว  และมองภาษาจีนในมุมที่เปลี่ยนไปด้วย เมื่อก่อนฝนไม่ได้ชอบภาษานี้เลย รู้สึกมันโช้งเช้งๆๆ แต่ไปเรียนแล้วกลับอยากเรียนเพิ่ม เพราะมันสำคัญจริงๆ ทั้งตอนใช้ชีวิิตที่นั่น และช่วยสร้างโอกาสที่ดีในอนาคตด้วย”

ถือเป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจมากๆ ขนาดพกภาษาอังกฤษไปเรียนภาคอินเตอร์ แต่ก็ยังได้ภาษาจีนกลับมาแบบคุ้มๆ ความดีงามคือมีทุนที่เปิดโอกาสให้เราได้ไปเรียนภาษาหรือเรียน ป.ตรี-ป.เอกที่ไต้หวันหลายทุนมาก ตัวอย่างเช่น

• ทุนรัฐบาลไต้หวัน (ทุน MOE หรือ MOE Taiwan Scholarship Program) เป็นทุนรัฐบาลไต้หวัน ต้องเรียนจบ ม.ปลายหรือปริญญาขึ้นไป ยื่นได้ตั้งแต่ช่วงเรียน เรียนต่อได้ทั้ง ป.ตรี / ป.โท / ป.เอก เปิดรับสมัครช่่วง 1 ก.พ.-31 มี.ค. ของทุกปีค่ะ ทุนนี้จะช่วยออกค่าเรียน 40,000 TWD (บางคณะออกส่วนต่างให้) และมีเงินสนับสนุนรายเดือนให้ด้วย
• ทุนเรียนภาษาจีนระยะสั้น (ทุน HES หรือ Huayu Enrichment Scholarship) ต้องจบ ม.ปลายขึ้นไป และเปิดรับ 1 ก.พ. - 31 มี.ค. ของทุกปีเหมือนกันค่ะ โดยเราขอไปเรียนได้เป็นระยะเวลา 3, 6, 9 และ 12 เดือน และกรรมการจะเป็นผู้พิจารณาอนุมัติอีกครั้ง
• ทุน UMAP (University Mobility in Asia and the Pacific) ทุนแลกเปลี่ยนสำหรับนิสิตนักศึกษาหรือบุคลากร สนับสนุนเงินทุนโดยกระทรวงศึกษาธิการของไต้หวัน มีรายชื่อมหาวิทยาลัยในเครือให้เลือก ส่วนคณะเลือกได้อิสระ
• ทุนอื่นๆ ของไต้หวัน เช่น ทุน MOFA Taiwan Fellowship สำหรับนักวิจัยและนักวิชาการ, ทุน Spring Branch Education Foundation (SBEF)