รวมมาให้แล้ว 10 พลังวิเศษสุดเจ๋งที่นักเขียนแฟนตาซีห้ามพลาด!

รวมมาให้แล้ว 10 พลังวิเศษสุดเจ๋ง
ที่นักเขียนแฟนตาซีห้ามพลาด!

ถ้าพูดถึงเรื่องราวแฟนตาซี องค์ประกอบที่พบเห็นได้บ่อยเลยคือ "พลังวิเศษ"  ของตัวละคร ซึ่งก็มีพลังวิเศษมากมายที่น่าสนใจ และสามารถหยิบมาพลิกแพลงให้เนื้อเรื่องหักมุมแบบปังๆ ได้ อย่างเช่น อ่านใจคนได้ หรือการมองเห็นอนาคต มักพบเห็นได้บ่อยในภาพยนตร์สุดอลังการของตระกูลจักรวาลมาร์เวลและ DC 

ว่าแต่...นักเขียนนิยายแฟนตาซีทั้งหลายเคยอยากได้พลังวิเศษที่น่าสนใจไหม? 

ถ้าใช่ วันนี้พี่ได้รวบรวมพลังวิเศษแปลกๆ มาฝากทุกคนกันค่ะ บางพลังวิเศษก็อาจเคยผ่านหูผ่านตามาก่อน บางอันก็ไม่  แต่ไม่ว่าจะเป็นอันไหน...พี่น้ำผึ้งหวังว่าจะช่วยจุดประกายไอเดียดีๆ ให้กับนิยายแฟนตาซีของเราได้ ถ้าทุกคนพร้อมแล้ว รีบมาเก็บพลังวิเศษไปพร้อมกันเลย!

01 Aligist – พลังแห่งการเข้าใจทุกภาษา

Aligist เป็นคำบ่งบอกถึงคนที่เข้าใจทุกภาษา! นี่ไม่ใช่เรื่องธรรมดาเลยนะ บางคนเกิดมาพร้อมกับของขวัญชิ้นนี้ ในขณะที่บางคนพยายามฝึกฝนทั้งชีวิตเพื่อเรียนรู้หลากหลายภาษา! แน่นอนว่ามันเป็นหนึ่งในของขวัญไม่กี่ชิ้นที่มนุษย์ปกติสามารถเรียนรู้ได้ เพียงแค่ได้รับการฝึกฝนเล็กๆ น้อยๆ จากผู้ที่เป็น Aligist ที่แท้จริง

ไม่มีภาษาใดที่ Aligist ไม่เข้าใจ พวกเขาอยู่เหนืออุปสรรคทางภาษาทั้งหมดทั้งมวล แต่บางครั้งพวกเขาก็อาจถูกหลอกได้หากมีคนพูดเป็นรหัส แต่หลังจากได้ยินคำพูดแม้เพียงเล็กน้อย พวกเขาก็สามารถถอดรหัสได้

02 Clairvoyance – พลังตาทิพย์

พลังตาทิพย์ คือความสามารถในการมองเห็นสิ่งที่ไม่รู้จัก คนเหล่านี้สามารถนั่งอยู่ในห้องและรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นรอบตัวพวกเขาในโลก ณ เวลานั้น แต่พวกเขาไม่เห็นอดีตหรืออนาคตหรอกนะ สิ่งที่เห็นมีเพียงแค่ “ปัจจุบัน” เท่านั้น โดยปกติแล้วพวกเขาจะรับรู้เพียงความรู้สึกในตอนนั้น เพราะภาพมักหายไปก่อนที่จะมีสมาธิอยู่กับมันนานพอ

บางครั้งคนที่มีตาทิพย์จะสามารถจับชีวิตของใครบางคนได้ และมองเห็นสิ่งที่คนๆ นั้นกำลังทำอยู่ในขณะนั้น พวกเขาสามารถจับภาพอุบัติเหตุทางรถยนต์และผู้คนที่เดือดร้อนได้ คนเหล่านี้กลายเป็นทุกข์เพราะมองเห็นปัญหาทั้งหมดนี้ในโลก นี่เป็นพลังที่ไม่ธรรมดาเลยสักนิด และคนมักเข้าใจผิดว่าสามารถทำนายอนาคตได้ ทั้งที่จริงทำนายอนาคตไม่ได้

03 Fire – พลังไฟ

หลายคนอาจเคยเห็นพลังนี้จากในการ์ตูน นิยาย หรือภาพยนตร์หลายเรื่อง มันคือพลังที่บุคคลสามารถสร้างไฟโดยใช้ความคิด บางครั้งพวกเขาต้องมีเปลวไฟอยู่แล้วจึงจะใช้พลังนี้ได้ และบางคนสามารถสร้างเปลวไฟขึ้นมาเองได้โดยไม่ต้องมีไฟ! มีพลังงาน 2 รูปแบบหลักที่พบคือ ไฟแห่งความร้อน (Heat fire) และไฟแห่งการส่องสว่าง (Illumination fire)

• ไฟแห่งความร้อน (Heat fire) คือการที่บุคคลสามารถสร้างลูกบอลไฟได้ โดยทั่วไปจะมีสีแดงส้ม เปลวไฟของกองไฟเหล่านี้ บางส่วนจะถูกย้อมเป็นสีฟ้า สีเขียวหรือแม้กระทั่งสีม่วง ซึ่งแต่ละส่วนแสดงถึงบุคลิกของพวกเขา นี่คือเปลวไฟที่ทำให้เกิดไฟไหม้อย่างรุนแรง ยกเว้นผู้ที่มีพลังนี้! มันเป็นพลังที่อันตรายมากๆ คนเหล่านี้มักถูกควบคุมด้วยอารมณ์และมักโกรธจัดโดยไม่มีเหตุผล
   
• ไฟแห่งการส่องสว่าง (Illumination fire) คือการที่บุคคลสามารถสร้างลูกบอลพลังงานแสงแทนพลังงานความร้อน คนเหล่านี้ไม่ตอบสนองต่ออารมณ์ของพวกเขามากเท่ากับคนที่มีไฟแห่งความร้อน โดยทั่วไปแสงของพวกเขาจะมีสีขาวหรือสีเหลือง และมีโอกาสน้อยที่จะมีสีอื่นๆ ลูกไฟเหล่านี้มีลักษณะคล้ายดวงอาทิตย์หรือหลอดไฟ บางครั้งคนเหล่านี้สามารถจุดไฟได้ แต่ก็ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยนัก

04 Ice - พลังน้ำแข็ง

พลังน้ำแข็งนั้นง่ายมาก ผู้ที่มีพลังนี้สามารถควบคุมสถานะของน้ำได้ แม้จะเรียกว่าพลังน้ำแข็งก็ตาม พวกเขาสามารถระเหย ละลาย หรือต้มน้ำได้ ที่น่าประทับใจที่สุดเห็นจะเป็น “การเปลี่ยนของเหลวให้เป็นน้ำแข็ง” ในการทำสิ่งนี้จะต้องมีความชื้นในอากาศที่มากพอเพื่อสร้างน้ำแข็ง ถ้าอากาศแห้งมากไปก็ไร้ประโยชน์ 

คนที่มีพลังน้ำแข็งมักอาศัยอยู่ในพื้นที่ที่เปียกชื้น ซึ่งทำให้พวกเขาสามารถใช้พลังอย่างเต็มที่ ในทางตรงกันข้าม พวกเขามักหลีกเลี่ยงสถานที่แห้งแล้ง เช่นทะเลทราย

05 Regeneration – พลังแห่งการฟื้นฟู

พลังแห่งการฟื้นฟูทำให้ผู้ใช้สามารถรักษาตัวเอง (และผู้อื่น) ได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ยังเป็นเรื่องยากอย่างยิ่งที่จะทำให้คนเหล่านี้ตาย วิธีเดียวที่จะฆ่าได้คือทำลายศีรษะของพวกเขาซะ! เพราะทำให้พวกเขาไม่สามารถใช้จิตเพื่อบังคับร่างกายให้ฟื้นตัวได้

คนเหล่านี้มักค้นพบพลังของตนเองหลังจากเหตุการณ์ฆ่าตัวตายที่ล้มเหลว หรือสิ่งที่อาจเป็นอุบัติเหตุร้ายแรง พวกเขาเชื่อว่าพวกเขาควรจะตาย แต่ดันเห็นการรักษาร่างกายตัวเองต่อหน้าต่อตา! ทันใดนั้นจึงตระหนักได้เลยว่าพวกเขาคืออะไร จากนั้นคนเหล่านี้อาจพยายามทุกวิถีทางที่จะทำลายตัวเอง จนกว่าจะยอมรับความจริงได้ว่าพวกเขาไม่สามารถตายได้ หลังจากจุดนี้พวกเขามี 2 เส้นทางให้เลือก

• พวกเขาจะพยายามช่วยเหลือผู้อื่นที่ตกอยู่ในสถานการณ์อันตราย
• หรือจะกลายเป็นอาชญากรเพราะรู้ว่าพวกเขาสามารถหลีกหนีจากอาชญากรรมใดๆ ได้

ข้อเสียของพลังนี้คือ บุคคลนั้นจะรู้สึกถึงความเจ็บปวดทั้งหมด ที่เกี่ยวข้องกับการบาดเจ็บของพวกเขา แต่บางครั้งก็รู้สึกว้าวุ่นเกินไปที่จะสังเกตเห็นความเจ็บปวด

06 Retrocognition – พลังแห่งการมองเห็นอดีต

Retrocognition คือความสามารถในการมองเห็นสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นในอดีต เชื่อกันว่าวัตถุนั้นกักเก็บพลังงานรอบตัวไว้ และพลังงานนั้นยังคงอยู่จนกว่าจะถูกล้างออกด้วยวิธีพิเศษ แน่นอนว่าคนเหล่านี้สามารถสัมผัสได้ถึงพลังงานนั้น และมองเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นในห้องหรือรอบๆ วัตถุ

พวกเขามักกลายเป็นนักสืบและทำงานร่วมกับตำรวจเพื่อช่วยแก้ปัญหาอาชญากรรม 

คนเหล่านี้ไม่ธรรมดา เพราะสามารถใช้พลังนี้ได้อย่างง่ายดาย และต้องการทำทุกอย่างที่ทำได้เพื่อช่วยเหลือผู้อื่น! นี่เป็นหนึ่งในพลังที่ง่ายที่สุดในการควบคุม และยังสามารถเรียนรู้ได้ด้วยตัวเอง

07 Shapeshifter – พลังแห่งการจำแลงร่าง

Shapeshifter คือคนที่สามารถเปลี่ยนรูปร่างและโครงสร้างของร่างกายให้เป็นอย่างอื่นตามที่ต้องการ นี่ไม่เหมือนกับแอนิเมจัสในแฮร์รี่ พอตเตอร์

พวกเขาสามารถเปลี่ยนตัวเองให้เป็นได้ทั้งคนอื่น สัตว์ หรือแม้แต่สิ่งของที่ไม่มีชีวิต! 

แม้ว่าการเปลี่ยนรูปร่างของพวกเขาจะอยู่ได้ไม่นานมากเท่าไหร่ แต่ก็จัดว่าเป็นความสามารถพิเศษที่เจ๋ง  นักจำแลงร่างบางคนเลือกที่จะเปลี่ยนตัวเองให้กลายเป็นสิ่งมีชีวิตอื่น ซึ่งมันแนบเนียนมากเสียจนคิดว่านั่นคือของจริง ขณะที่บางคนเลือกเปลี่ยนตัวเองไปสู่สิ่งต่างๆ มากมาย แต่บางคนก็เลือกที่จะเลือกเปลี่ยนเป็นสัตว์ชนิดใดชนิดหนึ่งเท่านั้น 

นั่นคือส่วนหนึ่งของตำนานมนุษย์หมาป่า ที่บางคนบอกว่ามันเป็นเพียงแค่ชนเผ่าหนึ่งที่สามารถจำแลงร่างได้ และพวกเขาเชิดชูหมาป่าเป็นที่สุด

08 Teleportation – พลังแห่งการเคลื่อนย้ายมวลสาร

เชื่อว่าหลายคนน่าจะรู้จักเทเลพอร์ต หรือการเคลื่อนย้ายวัตถุและมวลสาร มันเป็นพลังที่มีมานานแล้ว และมักพบได้ในภาพยนตร์ไซไฟแฟนตาซีหลายเรื่อง ใครก็ตามที่มีความสามารถนี้จะสามารถไปได้ทุกที่ที่ต้องการ ขอเพียงแค่ “คิด” ไม่ว่าจะเป็นการข้ามห้องหรือข้ามโลก พลังนี้ใช้เวลาเพียงไม่นานในการเชี่ยวชาญ แน่นอนว่าถ้าทำได้จะสามารถใช้พลังนี้ได้ตลอดชีวิต

พลังนี้มักพบในผู้ที่มีความบกพร่องแต่กำเนิด ดูเหมือนว่าจะเป็นรูปแบบหนึ่งของวิวัฒนาการที่ทำให้พวกเขาสามารถไปไหนมาไหนได้ การเทเลพอร์ตต้องมีจิตใจที่เข้มแข็งและเต็มใจที่จะยอมรับอันตราย 

เพราะมันมีโอกาสเสมอที่จะไปอยู่ผิดที่และติดอยู่ที่นั่น! 

นอกจากนี้ยังมีเรื่องราวของผู้คนที่ใช้พลังนี้เพื่อเดินทางข้ามเวลา ไม่ทราบแน่ชัดว่าพลังนี้ทำงานอย่างไร แต่เชื่อกันว่าจิตใจได้สลายโมเลกุลของร่างกาย และส่งไปยังทุกที่ที่คนต้องการไปด้วยความเร็วแสง

09 Mind Control – พลังแห่งการโน้มน้าวใจ

การควบคุมจิตใจ เรียกอีกอย่างว่าพลังแห่งการโน้มน้าวใจ มันคือความสามารถในการมีอิทธิพลต่อจิตใจของคนรอบข้าง แต่ผู้ควบคุมจิตใจจะไม่สามารถอ่านความคิดของผู้ที่ตนกำลังมีอิทธิพลได้ 

พวกเขาทำได้เพียงแค่สอดแทรกความคิด ชักจูง และหวังว่ามันจะแข็งแกร่งมากพอที่จะทำให้อีกฝ่ายรับรู้และเชื่อมัน 

นี่เป็นพลังที่อันตรายมากเพราะผู้ที่ถูกชักจูงมักไม่รู้ตัวและเชื่อว่าความคิดนั้นเป็นของตัวเอง นอกจากนี้ยังถูกบังคับให้เชื่อว่าความคิดเหล่านั้นถูกต้องโดยไม่ตั้งคำถามใดๆ น่ากลัวจริงๆ

10 Empath - พลังแห่งการดูดซับอารมณ์ผู้อื่น

คนประเภท Empath คือคนที่รู้สึกถึงอารมณ์ของผู้อื่น และสามารถดูดซับอารมณ์นั้นมาไว้กับตัวเอง  พลังนี้พบได้บ่อยในเด็กที่รับรู้โลกและผู้คนรอบตัว บางครั้งพลังนี้ก็จางหายไปตามอายุ แต่ก็มีบางคนที่สามารถรักษามันไว้ได้ตลอดชีวิต 

คนเหล่านี้มักจะกลายเป็นครูและที่ปรึกษาเพราะพวกเขามีความปรารถนาดีที่จะช่วยเหลือผู้อื่น แต่จะดีก็ต่อเมื่อพวกเขาสามารถควบคุมพลังของตัวเองได้หากสถานการณ์ไม่เอื้ออำนวย

นอกจากนี้ผู้ที่เป็น Empath ส่วนใหญ่มีแนวโน้มที่จะเข้าสู่ภาวะซึมเศร้าจากอารมณ์เชิงลบที่เกิดจากผู้อื่น คนเหล่านี้จำเป็นต้องเรียนรู้ที่จะปิดกั้นอารมณ์ของผู้อื่น เพื่อที่พวกเขาจะได้กลับมาเป็นตัวเองและอยู่ท่ามกลางผู้คนที่คิดบวก

……………

เป็นอย่างไรบ้างคะกับพลังวิเศษที่พี่นำมาฝากในวันนี้ แต่ละอย่างน่าสนใจมากๆ และน่าหยิบไปใช้ในนิยายแฟนตาซีของเรา เชื่อว่าตัวละครและพล็อตเรื่องจะต้องน่าสนใจมากขึ้นแน่นอน 

อย่างไรก็ตามในการหยิบพลังวิเศษเหล่านี้มาใช้ ตัวละครของเราไม่ควรเหนือธรรมชาติมาตั้งแต่แรก! ไม่เช่นนั้นจะลดความน่าตื่นเต้นในนิยาย ในทางตรงกันข้าม ตัวละครของเราควรใช้สัญชาตญาณในการแก้ไขปัญหาส่วนตัวบางอย่างก่อนที่เรื่องราวจะเริ่มต้นขึ้น และเผยพลังวิเศษของพวกเขาออกมาทีละนิดในแต่ละฉาก

พี่น้ำผึ้ง :)