คุยกับ “เหมย สุพิชฌาย์ ” ศิลปินคนล่าสุดจาก Boxx Music พลังความสดใสเต็มร้อย!

Spoil

  • MV เพลง "ใช่ตั้งแต่ไม่รู้จัก( First Met )" เป็นตัวตนของเหมยถึง 90 เปอร์เซ็นต์!
  • ไม่ว่างานจะหนักแค่ไหนการเรียนก็เป็นสิ่งสำคัญของเหมย
  • กาเรียนในคณะอักษรศาสตร์ จุฬาฯ ช่วยให้เหมยตระหนักรู้ประเด็นต่างๆ ในสังคมมากขึ้น

เชื่อว่าเพื่อนๆ ชาว Dek-D หลายคนน่าจะรู้สึกคุ้นหน้าคุ้นตา “เหมย สุพิชฌาย์ ชีวพิทักษ์ผล” กันมาบ้าง เพราะเธอเป็นสาวน้อยที่ร้องเพลง Cover ในยูทูบ จนโด่งดัง และมีผลงานร้องเพลง Cover จากค่าย Boxx Music อยู่เป็นระยะ และตอนนี้เหมยก็ได้เดบิวต์เป็นศิลปินเดี่ยวอย่างเป็นทางการกับค่าย Boxx Music  และได้ปล่อยซิงเกิลแรกเพลง “ใช่ตั้งแต่ไม่รู้จัก ( First Met )” ที่เหมยทั้งร้องและเล่น MV เองแล้ว!

ภาพจาก Instagram @maiysupitcha
ภาพจาก Instagram @maiysupitcha

จากงานอดิเรกสู่อาชีพศิลปิน!

จริงๆ หนูสนใจเรื่องดนตรีกับการร้องเพลงมาตั้งแต่เด็กๆ แล้ว แต่ช่วงแรกๆ ทำเป็นงานอดิเรก ร้องสนุกๆ กับที่บ้าน ไม่ค่อยไปประกวดร้องเพลงแข่งอะไรกับใคร เพิ่งมาได้ร้องจริงจังช่วงตอนเข้าปีหนึ่งที่มาเข้าทำกิจกรรมกับที่ชมรมดนตรีสากลของคณะ จริงๆ ไม่ได้คิดมาก่อนเลยว่าอยากเป็นนักร้อง คิดว่าการเป็นนักร้องเป็นเรื่องที่ไกลตัวมาก ทำคลิปวิดีโอคือทำเล่นๆ เป้าหมายในชีวิตแต่แรกไม่เคยมีเรื่องคิดจะเป็นนักร้องเลย แต่อยากเป็นพวกพิธีกร นักข่าวนะ ถ้าไม่ได้เป็นนักร้องตอนนี้คงทำงานที่ได้ออกต่อหน้าสื่อ 

ตอนแรกเราก็ทำวิดีโอในยูทูบกับเฟซบุ๊ก แล้วก็มีพี่ๆ จากค่าย Boxx Music มาเห็นคลิปวิดีโอกับบทสัมภาษณ์ออนไลน์ของเรากับ The Guitar Mag ทางค่ายสนใจเลยทักมาในอินสตาแกรมมาว่าเราอยากจะลองเข้ามาคุยกับทางค่ายดูมั้ย ก็คุยกันประมาณปีสองปีจนได้มาเซ็นสัญญาแบบทุกวันนี้ ส่วนเหตุผลที่เซ็นสัญญากับ Boxx Music ก็เพราะว่าสไตล์เพลงของค่ายเป็นแนวง่ายๆ สบายๆ เข้ากับเราดีค่ะ แล้วก็เราชอบบรรยากาศในการทำงานด้วยก็เลยได้กลายมาเป็นศิลปินกับ Boxx Music ค่ะ 

ภาพจาก Instagram @maiysupitcha
ภาพจาก Instagram @maiysupitcha

เพลง “ใช่ตั้งแต่ยังไม่รู้จัก” เพลงแรกที่บอกความเป็นตัวเหมยล้วนๆ!

ถ้าให้นิยามสไตล์ความเป็นตัวตนของหนูก็คือหนูเป็นคนน่ารักสดใส เข้าถึงง่าย เหมือนเพลงของ Boxx ที่สดใส เข้าถึงง่ายเหมือนกัน ตัวตนใน MV เพลง “ใช่ตั้งแต่ยังไม่รู้จัก (First Met)” เป็นตัวเหมยเก้าสิบเปอร์เซนต์เลย เพลงนี้เป็นแนวเพลงน่ารักสดใส อินเลิฟ ซึ่งมันก็เอื้อให้เหมยได้โชว์ความเป็นตัวเอง เป็นคนช่างฝัน ช่างจินตนาการ มีความเป็นเรามาก การแสดง MV ก็เลยไม่ยากเพราะรู้สึกได้เป็นตัวเอง เราไม่ต้องทำความเข้าใจกับบทบาทมากเพราะว่าได้แอคติ้งตามที่เราแสดงออกปกติเลยค่ะ 

ผลงานชิ้นแรกช่วยให้ก้าวไปข้างหน้า

ตอนทำช่องยูทูบเราทำด้วยตัวเอง เราก็เอาตัวเองเป็นหลัก อยากทำตอนไหนก็ได้ แต่พอเป็นศิลปินมันจะต้องมีการทำงานร่วมกับคนอื่น เราก็ต้องรับผิดชอบส่วนของเราให้เต็มที่มากที่สุด ต้องทำงานให้ดีที่สุดที่เราจะทำได้เพื่อที่คนอื่นเค้าจะได้ทำงานได้ง่ายขึ้น พวกโปรดักชั่นก็จะยิ่งใหญ่ต่างจากที่เราเคยทำด้วยตัวเอง สิ่งที่เหมยประทับใจมากๆ ในการทำงานนี้ก็คือพี่ๆ ที่คอยทำงานกับเราอย่างเช่น พี่พล โปรดิวเซอร์เพลง พี่ๆ ในค่ายที่คอยให้คำปรึกษา เค้าช่วยเราได้หมดเลย ไม่มั่นใจอะไรก็คอยให้ความรู้ การที่เราได้ลองเป็นศิลปิน ได้เล่น MV ทำให้เราได้พัฒนาตัวเองมากขึ้น ช่วยให้เราก้าวไปข้างหน้าได้เร็วขึ้น ทำให้เรารู้สึกอยากเก่งขึ้นเพื่อจะได้สร้างสรรค์ผลงานดีๆ ทำให้เราเอนจอยกับการทำงานมากยิ่งขึ้น

ภาพจาก Instagram @maiysupitcha
ภาพจาก Instagram @maiysupitcha

ใช้เวลาฝึกฝนกว่า 5 ปีกว่าจะมาถึงจุดนี้!

จุดเริ่มต้นตอนแรกของหนูคือร้องเพลงทำคลิปในเฟซบุ๊กให้เฉพาะเพื่อนๆ ดู แล้วค่อยจริงจังมาเรื่อยๆ จนเปิดช่องยูทูบ ซึ่งคลิปแรกก็ยอดวิวดีเลย งงมากว่ายอดมาจากไหน อาจจะเป็นดวงเราที่เฮงด้วย รู้สึกว่าตัวเองโชคดีมากๆ หนูหัดทำทุกอย่างด้วยตัวเอง ทั้งดนตรี ทำขนม ทำช่องยูทูบ ดีที่ครอบครัวสนับสนุน ให้การซัพพอร์ตทางด้านการเงิน อุปกรณ์ต่างๆ ให้เราทำสิ่งต่างๆ ได้อย่างเต็มที่ แต่ก็ต้องใช้เวลาฝึกฝน เวลาการฝึกจริงๆ น่าจะมากกว่า 4-5ปี เป็นช่วงเวลาที่นานมาก แต่มันก็ค่อยๆ พัฒนาขึ้นๆ ไป เพราะดนตรีมันเป็นสิ่งที่เรียกได้ว่าเป็นแพสชั่นของเรา เป็นสิ่งที่เราทำโดยไม่ต้องมีใครบังคับ เป็นสิ่งที่เรามีความสุขในการทำ มีความรู้สึกอยากพัฒนามันให้ดีขึ้น

ภาพจาก Instagram @maiysupitcha
ภาพจาก Instagram @maiysupitcha

งานหนักแค่ไหน การเรียนก็ต้องมาก่อน

โดยส่วนมากหนูให้ความสำคัญกับการเรียนเป็นหลักค่ะ โชคดีที่พี่ๆ ที่ค่ายสนับสนุนเรื่องเรียนให้เป็นงานหลักก่อน ถ้าเรามีเวลาช่วงวันเสาร์อาทิตย์หรือศุกร์ หรือวันอื่นๆ ที่เราพอจะมีเวลาช่วงค่ำ เราค่อยมาคุยเรื่องงาน ส่วนงานยูทูบเก็บเอาไว้ทีหลัง หลังจากไม่มีการบ้าน ไม่มีงานที่ต้องทำ หนูรู้สึกว่านี่อาจจะเป็นการจัดสรรเวลาที่เราให้ความสำคัญกับเรื่องเรียนเป็นหลักมาก่อน แล้วค่อยเป็นงาน จากนั้นค่อยงานอดิเรก เหมยเคยเจอเวลาที่งานกับเรียนชนกันทำให้เราต้องเลื่อนกองไปก่อน หรือบางครั้งก็เป็นคิวต้องไปอัดเสียงแต่ดันชนช่วงสอบก็ทำให้คิวงานยุ่ง เราก็เลยต้องแบ่งเวลาไปอ่านหนังสือล่วงหน้านานๆ เลย ถ้ารู้ว่าช่วงสอบมาช่วงไหนเราก็เตรียมอ่านหนังสือสอบ เตรียมเคลียร์งานก่อนตั้งแต่เนิ่นๆ เลย  เพื่อที่เวลามีงานกะทันหันจะได้จัดการได้โดยที่ไม่ทำให้รู้สึกว่าเหนื่อยเกินไป

ภาพจาก Instagram @maiysupitcha
ภาพจาก Instagram @maiysupitcha

โฟกัสที่ตัวเอง ไม่เปรียบเทียบกับคนอื่น

ถ้าถามถึงเคล็ดลับการเรียนดีเหมยไม่มี (หัวเราะ)  แต่เคล็ดลับการเรียนให้สนุกนี่มีค่ะ! อย่างแรกเลยคือเหมยจะตั้งใจเรียนในห้อง จะเรียนให้มีความสุข ไม่ต้องไปแข่งกันคนอื่นค่ะ แล้วก็ดูว่าการเรียนนี้จะประยุกต์ใช้ในชีวิตเราได้ยังไง เราจะโฟกัสที่ตัวเอง ไม่ไปเปรียบเทียบคนอื่น กับการทำงานก็เหมือนกัน อย่างในวงการบันเทิงแบบนี้มันก็มีการแข่งขันสูงมาก สิ่งที่เราทำได้คือเราก็ต้องทำงานของเราให้ดีที่สุด ไม่เอาตัวเอาไปเปรียบเทียบกับคนอื่นค่ะ

ศิลปินที่มีความตระหนักรู้

เหมยเลือกเข้าคณะอักษรศาสตร์ จุฬาฯ เพราะชอบเรียนภาษา ชอบเนื้อหามนุษยศาสตร์ แล้วการเรียนในคณะอักษรนี้ก็ทำให้ได้เราตระหนักถึงประเด็นในสังคมมากขึ้น สอนให้เราได้คิด เวลามาเป็นศิลปินเลยได้สกิลการคิด ไตร่ตรอง กล้าที่จะตั้งคำถาม กล้าที่จะพูด ในสิ่งที่เราคิด มันเป็นสกิลที่ค่อนข้างสำคัญเหมือนกัน เพราะว่าการที่เราได้มาเป็นคนที่อยู่ในสปอตไลต์ใช่มั้ยคะ เราก็ต้องตระหนักในสิ่งที่เราจะทำหรือพูดว่ามันมีผลต่อคนจำนวนหนึ่งอย่างไรบ้าง เลือกจะใช้พื้นที่ๆ เรามีกับคนอื่นอย่างไรบ้างค่ะ

ภาพจาก Instagram @maiysupitcha
ภาพจาก Instagram @maiysupitcha

ชมรมดนตรีเป็นโรงเรียนฝึกการเป็นศิลปิน

ชมรมดนตรีเป็นเหมือนโรงเรียนฝึกการเป็นศิลปินค่ะ การได้อยู่ชมรมดนตรีสากลเป็นประสบการณ์ที่ดีมาก เป็นการเปิดโลกดนตรีของหนูเลยเพราะได้เจอพี่ๆ ที่เล่นดนตรีเก่งๆ ได้อยู่กับคนที่ชอบดนตรีเหมือนกัน ได้ทำโชว์สนุกๆ ด้วยกัน เป็นการฝึกให้เราไม่ตื่นเวที ให้เราได้ลองทำโชว์ในแบบที่เราชอบ ได้ฝึกการเป็นนักร้อง ถ้าไม่ได้เข้าชมรมก็ไม่รู้ว่าตัวเองจะมีความมั่นใจกับการแสดงโชว์หน้าคนอื่นมั้ย ชมรมดนตรีสากลนี้เลยเป็นเหมือนโรงเรียนฝึกให้เรากล้าแสดงออก กล้าร้องเพลงต่อหน้าคนอื่นจริงๆ 

มีความสุขกับปัจจุบัน

ในช่วงที่เรากำลังค้นหาตัวเองอยู่ก็ใช้ช่วงเวลานั้นให้เต็มที่ แล้วก็ไม่ต้องกดดันกับการที่จะต้องมีเป้าหมายในชีวิต แต่ว่าให้มีความสุขกับตัวเองในปัจจุบันแล้วก็ค่อยๆ พัฒนาตัวเองไปเพราะสักวันหนึ่งสิ่งที่เราทำมาตลอดก็จะทำให้เราประสบความสำเร็จในแบบของเราได้โดยที่เราไม่ต้องไปยึดติดกับความสำเร็จในแบบของคนอื่น ทำแบบที่เราชอบ ทำให้เต็มที่ชีวิตเรามีครั้งเดียวค่ะ!

เชื่อว่าเพื่อนๆ ชาว Dek-D ที่อ่านจบแล้วจะต้องตกหลุมรักศิลปินสาวหน้าใหม่ แต่เต็มไปด้วยพลังที่สดใสเต็มร้อยอย่าง “เหมย สุพิชฌาย์” คนนี้แน่นอน! และอย่าลืมตามไปฟังซิลเกิลแรกจากเหมย “ใช่ตั้งแต่ไม่รู้จัก ( First Met )” ทาง Youtube Boxx Music และสตรีมมิ่งอื่นๆ ได้ทุกช่องทางเลยค่ะ ชาว Dek-D คนไหนตกหลุมรักเหมยเข้าแล้ว มาคอมเม้นท์บอกกันซะดีๆ!

พี่หมิง
พี่หมิง - Columnist คอลัมนิสต์

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

1 ความคิดเห็น

ความคิดเห็นนี้ถูกลบเนื่องจาก

ถูกลบโดยทีมงาน เนื่องจากงดตั้งกระทู้วิจัย โครงงาน หรือใช้พื้นที่เว็บบอร์ดเพื่อการส่งการบ้าน เนื่องจากเป็นการรบกวนผู้ใช้บอร์ดท่านอื่นๆ ขออภัยในความไม่สะดวก

กำลังโหลด
กำลังโหลด