รู้จัก! “ไม้หมอน-วชิรวิทย์” ศิลปินหนุ่มเสียงลุ่มลึก กับชีวิตที่เต็มไปด้วยเรื่องราว!

Spoil

  • ไม้หมอน วชิรวิทย์ จากแชมป์เดอะวอยซ์ไทยแลนด์ สู่ศิลปินสังกัดค่ายระดับโลก
  • โตมากับเพลงพื้นบ้าน ไม่เคยรู้จักเพลงร็อก สุดท้ายมาจบที่เพลงเพื่อชีวิต ฟังแล้วรู้สึกอินมาก
  • ไม่รู้ว่าตัวเองชอบอะไร สุดท้ายพบว่าการร้องเพลงคือสิ่งที่ทำมากที่สุด ร้องมาทั้งชีวิต

“ไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะมาถึงจุดนี้” ประโยคสุดคลาสสิกหลังจากที่ใครสักคนประสบความสำเร็จอย่างไม่ได้คาดหวังมาก่อน แต่เมื่อมีเวลาได้ทบทวนก็จะเข้าใจว่า ความสำเร็จที่ผ่านมาไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เป็นเพราะผ่านการฝึกฝนมายาวนาน ทำซ้ำๆ หลายต่อหลายครั้งจนรู้ตัวว่านี่คือ “สิ่งที่รัก” เหมือนที่ “ไม้หมอน-วชิรวิทย์” จากค่าย “Basecamp Records” ภายใต้สังกัด “ยูนิเวอร์ซัล มิวสิค (ประเทศไทย)” บอกเล่าเรื่องราวชีวิตให้เราฟังกันวันนี้

แม่ผมชอบเก็บสตอรี่ ผมได้สิ่งนี้มาจากแม่!

ชื่อ “ไม้หมอน” จริงๆ เป็นชื่อที่พ่อแม่ตั้งให้ครับ ไม้หมอนนี่ตรงตัวเลยคือหมายถึงแท่งๆ ที่อยู่บนทางรถไฟ แต่สตอรี่มันจะยาวหน่อยนะครับ (ฮ่าๆ) คือเมื่อก่อนพ่อแม่ผมเพิ่งแต่งงานกันใหม่ๆ อยู่ที่โคราช พ่อเป็นคนทำงานควบคุมการเปิด-ปิดที่กั้นรถไฟ ตอนนั้นแม่ท้องผมอยู่ แม่ผมทำหน้าที่ส่งปิ่นโตข้าวให้พ่อ โดยทางเดินที่ใกล้ที่สุดคือเดินตามทางรถไฟครับ ถือปิ่นโตเถาใหญ่ๆ กางร่ม เดินก้มหน้าหนีความร้อน มองไม้หมอนไปเรื่อยๆ ทำแบบนี้ทุกวันจนจำได้ว่า ไม้หมอนท่อนไหนมีไม้บิ่น มีน็อตผุ จนรู้ว่าเมื่อถึงไม้หมอนบิ่นหรือน็อตผุนี่ก็คือใกล้ถึงที่ทำงานพ่อแล้ว พอเงยหน้าขึ้นมาก็จะเจอพ่อยืนโบกมือให้แม่อยู่ ก็เลยตั้งชื่อผมว่า “ไม้หมอน” ครับ... คือแม่ผมเป็นคนชอบเก็บสตอรี่ ชอบเล่าเรื่อง ผมก็จะได้แม่มาเยอะ

โตมากับเพลงพื้นบ้าน ไม่รู้จักเพลงร็อก สุดท้าย “อินกับเพลงเพื่อชีวิต”

ผมเริ่มร้องเพลงมาตั้งแต่เด็กๆ เลยครับ คืออยู่ต่างจังหวัดไม่มีอะไรทำ ไม่มีเทคโนโลยีมากเท่าปัจจุบัน อยู่บ้านต่างจังหวัดก็เล่นดนตรีร้องเพลงกับคุณตาที่เป็นหมอแคน ผมก็เลยเล่นดนตรีพื้นบ้าน ร้องเพลงพื้นบ้าน เช่น เพลงต๋ายข้อล่อ คอฮาดคักคัก ของแสง สกุลโพน จนกระทั่งเข้ากรุงเทพฯ ก็มีโอกาสได้ฟังบอดี้สแลม เราก็แบบ เอ้ย! เพลงอะไร เพลงร็อก ไม่รู้จัก! ก็เริ่มร้องตาม หลังจากนั้นก็ร้องเพลงร็อก เพลงแร็ปมาเรื่อยๆ ส่วนเพลงเพื่อชีวิตที่จริงก็ร้องและฟังมาตั้งแต่เด็ก แต่ตอนนั้นฟังน้าแอ๊ด พอโตมาฟังพี่ปู พงษ์สิทธิ์ เริ่มอิน ก็รู้ว่าเราชอบเพื่อชีวิตว่ะ! ตอนนั้นเรียนมัธยม ม.1 ก็เริ่มฝึกกีตาร์ ร้องเพลงเพื่อชีวิต ซื้อหนังสือเพลงเพื่อชีวิตมาฝึกเลย ในเล่มมันก็จะมีทั้งคาราบาว ปู พงษ์สิทธิ์ มาลีฮวนน่า ร้องมาทั้งชีวิตเลยครับ รู้สึกว่าการร้องเพลงเป็นสิ่งที่ผมทำเยอะที่สุดเลย

เมื่อผู้ใหญ่มองว่า เส้นทางดนตรีไม่ควรเป็นอาชีพหลัก

ครอบครัวผมเค้าก็ไม่ได้ปิดกั้นอะไรพวกนี้นะครับ แต่เค้าก็เคยพูดว่า “หากชอบดนตรีน่ะ ก็ควรหางานเสริมบ้าง ชีวิตมันจะได้มั่นคง” ผมเลยไม่ได้เลือกเรียนสายดนตรีโดยตรง ไปเลือกเรียนธุรกิจดนตรีแทน พอผมไม่ได้ไปทางดนตรีโดยตรง แม่ผมก็สนับสนุน แต่พอขอไปประกวดเดอะวอยซ์ แม่ก็บอกว่า “จะได้เหรอ มันเป็นรายการใหญ่นะ” แต่ปรากฏว่าผมก็ร้องเพลงเข้ารอบไปเรื่อยๆ แม่ก็สนับสนุนมากขึ้น แต่ก็ยังไม่ได้เชื่อมั่นในอาชีพนี้มากนักครับ

หาตัวเองไม่เจอ แต่รู้ว่า “ร้องเพลงมาทั้งชีวิต”

ตอนจะสอบเข้ามหาวิทยาลัย ผมอยากเป็นอะไรเยอะมาก ทั้งหมอ วิศวะ สุดท้ายผมก็เลือกที่ตัวเองทำบ่อยมากที่สุด ตอนเลือกดุริยางคศาสตร์คือเพราะเป็นคณะที่เกี่ยวกับดนตรี และที่นี่มีสาขาที่เป็นเรื่องอื่นนอกจากดนตรีด้วย จะได้มีความรู้ที่นำไปปรับใช้ได้หลายอาชีพ เกิดสิ่งใหม่ๆ มุมมองใหม่ๆ มากขึ้นครับ

ตอนเตรียมตัวสอบเข้าก็เน้นถามรุ่นพี่ว่าจะต้องเตรียมตัวยังไงบ้าง ผมสอบรอบ 3 ตอนนั้นยังไม่ค่อยแน่ใจเลยด้วยซ้ำว่าอยากจะเข้าคณะอะไร แต่เห็นคณะดุริยางคศาสตร์ก็ลองสอบ แล้วก็สอบติดคณะดุริยางคศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากรครับ จริงๆ ก็สอบหลายที่มาก ถ้าจะให้แนะนำน้องๆ เรื่องสอบ ก็แนะนำให้เตรียมปากกาดินสอไว้แล้วกันนะครับ จะได้ไม่ต้องยืมเพื่อน (ฮ่าๆ)

The Voice คือเวทีใหญ่สุด ค่าย Universal ก็เกินฝันมาก

ผมมีวงดนตรีทำกับเพื่อนมัธยม ไม่เคยไปประกวดร้องเพลงนะ แต่เป็นประกวดเล่นวงดนตรีมากกว่า ไปหลายงานประกวดแต่ตกรอบแรกตลอดเลยครับ ด้วยความเป็นวงและยังเด็กไม่มีประสบการณ์เท่าไร ก็ถือว่าไปลองหาประสบการณ์กัน แล้วการเป็นวงมันก็ยากกว่าร้องเดี่ยวด้วย นอกนั้นก็มีแสดงงานโรงเรียน มีออดิชั่นแข่งกับเพื่อนในโรงเรียน ก็ถือว่าประสบความสำเร็จอยู่บ้างครับ พบจบมัธยมก็มาประกวด The Voice เลย อย่างที่บอกไปตอนต้นว่า แม่ยังไม่คิดว่าจะได้ แต่ผมก็เข้ารอบมาเรื่อยๆ ส่วนค่าย Universal นี่ไม่เคยคิดเลยนะ จริงๆ ผมแทบโตมากับเพลงในค่าย เช่น Maroon5 Katy Perry Lady Gaga Tayler Taylor Swift ฟังมาตั้งแต่เด็กๆ ยุคนั้นน่ะครับ ไม่เคยคิดว่าโตขึ้นจะได้มาอยู่ค่ายนี้เลย

ทุกเพลงที่แต่ง สะท้อนตัวตนในมุมที่อยากให้ทุกคนเห็น

เพลงทุกเพลงที่ผมแต่งก็ใส่ตัวตนเข้าไปอยู่แล้ว ทั้งคำพูด ความรู้สึก การสัมผัส น้ำเสียง คือสิ่งที่ผมได้นำเสนอไป ซึ่งเป็นตัวตนด้านนึงของผม นำเสนอในมุมมองที่ผมคิด อยากให้ทุกคนเห็น

อย่างเพลงล่าสุด "รู้สึกดีขึ้นไหม" เพลงนี้ผมแต่งบอกเล่าเกี่ยวกับสิ่งที่ผมเคยเจอมา เป็นประสบการณ์ตรงที่เราเคยไปพบเจอใครคนนึงที่เจ็บปวดกับความรักมา และเราเองก็เจ็บปวดจากความรักมาเหมือนกัน เราทั้งสองคนก็นึกถึงความรู้สึกรักไม่ออก นึกถึงความสุขของความรักไม่ออก ก็ลองมาอยู่ด้วยกันดู เจอเหตุการณ์หลายๆ อย่างจนเราอยากจะถามว่า มันรู้สึกดีขึ้นไหมที่เราได้มาอยู่เคียงข้างกัน หรือเรารู้สึกไปเองคนเดียว ซึ่งเค้าจะเข้าใกล้ความรักมั้ยมันก็เป็นเรื่องของเขา พอเค้าเข้าใกล้ความรัก เค้าจะไปหารักอื่นหรือมาลงเอยกับเราก็ยังไม่รู้ ซึ่งมันก็เป็นคำถามที่ยังไม่มีคำตอบในเพลงครับ

แม้ช่วงนี้จะผ่านหลายเรื่องไปได้ยาก แต่ชีวิตก็ยังมีอะไรให้ทำอีกเยอะ

กว่าที่จะมาถึงจุดนี้ ผมอยากขอบคุณทุกสรรพสิ่งเลยที่ทำให้ผมรู้สึกถึงมนุษย์ รู้สึกถึงโลก อยากขอบคุณความรู้สึกแล้วกันครับที่ทำให้ผมเขาถึงหลายๆ อย่าง ขอบคุณมนุษย์ ขอบคุณครอบครัว ที่ทำให้ผมได้เข้าถึงพวกเขา ได้คิด แล้วก็ขอบคุณแฟนคลับที่คอยซัปพอร์ตกันมาตลอดครับ

สำหรับผมเองสนใจหลายอย่าง เดี๋ยวนี้วงการบันเทิงมันเปิดกว้างมากขึ้น มีธุรกิจใหม่ๆ ที่น่าไปค้นหา น่าไปลอง หรือลงทุน คือสิ่งที่เราเคยเห็นจากทีวี จากอินเทอร์เน็ต มันก็เริ่มจะเก่าแล้ว มันมีอะไรใหม่ๆ อีกมากมาย ส่วนถ้าเป็นการทำงาน ก็อยากลองงานโฆษณา ภาพยนตร์ อยากลองแสดงหนังหรือซีรีส์ดูสักเรื่อง ประมาณนั้นครับ

และสำหรับทุกๆ คน ช่วงนี้มันอาจจะผ่านไปยากหน่อย ด้วยวิกฤติที่เจอกันทั่วโลก ก็ขอให้ทุกคนสู้ๆ ครับ ดูแลสุขภาพจิต สุขภาพกายเป็นเรื่องสำคัญครับ

จากซิงเกิลที่ผ่านมาสู่ซิงเกิลล่าสุด

ตอนนี้ก็เดินทางมาถึงซิงเกิลที่ 6 แล้วคือ “รู้สึกดีขึ้นไหม” พร้อม 5 ซิงเกิลก่อนหน้าคือ “หลุด”, “คว้าชัย”, “กระจกวิเศษ”, “เหมือนเดิมๆ” และ “อาวุธพิฆาต” ก็ขอฝากผลงานไว้ให้ติดตามกันด้วยนะครับ ฟังได้แล้ววันนี้ทุกสตรีมมิ่งทั้ง Sportify, Joox, Apple Music และติดตามชม Official Visualizer เพลง “รู้สึกดีขึ้นไหม” ได้ผ่าน YouTube ช่อง Maimhon ครับ

 

เป็นอย่างไรคะ “รู้สึกดีขึ้นไหม” หลังจากที่ได้อ่านมุมมองชีวิตของ “ไม้หมอน-วชิรวิทย์” กันไปแล้ว อย่าลืมไปติดตามผลงานเป็นกำลังใจให้ไม้หมอนพร้อมย้อนฟังซิงเกิลก่อนหน้ากันด้วย หลังจากนี้อาจจะหลงรักเพลงเพี่อชีวิตกันมากขึ้นก็ได้

 

ขอขอบคุณไม้หมอน - วชิรวิทย์ จีนเกิดค่าย “Basecamp Records” ภายใต้สังกัด “ยูนิเวอร์ซัล มิวสิค (ประเทศไทย)”https://www.youtube.com/user/assassin0808095993https://www.facebook.com/MaimhonOfficialhttps://twitter.com/Maimhonthhttps://www.instagram.com/mmaimhon/
พี่ซาร่า
พี่ซาร่า - Columnist คอลัมนิสต์ประจำคอลัมน์ Lifestyle

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

1 ความคิดเห็น

ความคิดเห็นนี้ถูกลบเนื่องจาก

ถูกลบโดยทีมงาน เนื่องจากงดตั้งกระทู้วิจัย โครงงาน หรือใช้พื้นที่เว็บบอร์ดเพื่อการส่งการบ้าน เนื่องจากเป็นการรบกวนผู้ใช้บอร์ดท่านอื่นๆ ขออภัยในความไม่สะดวก

กำลังโหลด
กำลังโหลด