ไอดอลกับประเด็นโลก: ย้อนรอยการ Call Out ปัญหาสังคมของวง ‘BTS’

อันยองค่าชาว Dek-D หลายคนคงทราบดีว่าทุกวันนี้โลกของเราเต็มไปด้วยประเด็นปัญหาทางสังคมมากมายที่ยังรอการแก้ไข ซึ่งการออกมาเรียกร้องก็เป็นอีกทางที่จะช่วยทำให้ผู้คนตระหนักถึงปัญหามากขึ้น วันนี้พี่บีมบันจะพามาย้อนรอยเหตุการณ์ที่หนุ่มๆ บังทัน หรือ ‘BTS’ วงบอยกรุปชื่อดังของเกาหลีใต้ ที่ได้ออกมา Call Out เป็นกระบอกเสียงต่อเหตุการณ์ต่างๆ ทั่วโลกด้วย

เกริ่นกันก่อนว่าตอนนี้  ‘BIGHIT MUSIC’ ค่ายต้นสังกัดของ BTS และ TXT กำลังเปิดรับสมัคร “2021 Global Audition” เพื่อค้นหาเด็กฝึกหัดไอดอลจากทั่วโลก ซึ่งนอกจากการเทรนนิงการร้องและการเต้นแล้ว ทางค่ายออกมาบอกว่าจะมีหลักสูตรสอนเรื่องความหลากหลายทางวัฒนธรรม ประเด็นความอ่อนไหวเรื่องเพศ (Gender Sensitivity) รวมไปถึงปัญหาภาวะโลกรวน (Climate Change)  ให้เหล่าเทรนนีได้เรียนอีกด้วย เป้าหมายคือต้องการให้เด็กฝึกทุกคนเป็นทั้งศิลปินที่สร้างสรรค์ผลงานดีๆ พร้อมกับการรู้จักตั้งคำถามกับปัญหาที่เกิดขึ้นและมีความรับผิดชอบต่อสังคมไปพร้อมๆ กันนั่นเองค่ะ 

จากการที่ค่ายได้ตระหนักถึงอิทธิพลและความรับผิดชอบต่อสังคมในระยะยาวของเด็กฝึก เรียกว่าน่าชื่นชมและนับเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับวงการไอดอลเกาหลีเลยค่ะ เพราะทุกวันนี้ K-POP ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในเกาหลีอีกต่อไป และยังขยายอิทธิพลและมีแฟนคลับจากทั่วทุกมุมโลก และนั่นก็มีประเด็นความอ่อนไหวมากมายที่เหล่าไอดอลควรเรียนรู้เพื่อตระหนักและระมัดระวัง ซึ่งศิลปินรุ่นพี่อย่างหนุ่มๆ ‘BTS’ เองก็นับเป็นแบบอย่างที่ดีในเรื่องนี้ เพราะพวกเขาได้ออกมา Call Out ขับเคลื่อนในหลายเหตุการณ์ ว่าแล้วก็ตามมาย้อนรอยกันต่อว่ามีประเด็นไหนที่หนุ่มๆ เคยออกมาเรียกร้องบ้าง!

• • • • • • • • •  •

#StopAsianHate เหตุการณ์เหยียดชนชาติเอเชีย

เชื่อว่าน้องๆ เคยได้ยินเหตุการณ์ที่เป็นกระแสไปทั่วโลกอย่าง #StopAsianHate ที่สร้างความเจ็บปวดให้ชาวเอเชีย ทั้งการถูกล้อเลียน พูดทำร้ายจิตใจ รวมไปถึงการทำร้ายร่างกาย สร้างความเจ็บปวดให้กับคนถูกเหยียดจำนวนไม่น้อยเลยค่ะ // ยิ่งช่วงการระบาดโควิด-19 ก็คือมีเหตุเกิดรายวันเลยทีเดียว TT (อ่านต่อ: #StopAsianHate จากความกลัวสู่ความเกลียดชัง: ย้อนเหตุการณ์ ‘เหยียดเอเชีย’ ที่เป็นกระแสทั่วโลก) 

ซึ่งหนุ่มๆ วง BTS ก็ได้ออกมาแสดงความเสียใจกับผู้ที่ต้องสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักจากความรุนแรงที่เกิดขึ้น และกล่าวถึงเหตุการณ์นี้เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2021 โดยมีใจความว่า พวกเขาเองก็เคยอดทนกับคำด่าทอที่ไร้เหตุผล และถูกตั้งคำถามว่าทำไมชาวเอเชียถึงพูดภาษาอังกฤษได้ แม้สิ่งที่เคยประสบมาอาจจะดูเป็นเรื่องเล็กน้อยหากเทียบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ก็เพียงพอจะทำให้รู้สึกถูกลดทอนเรี่ยวแรงและคุณค่าในตนเอง

สำหรับเรื่องที่เกิดขึ้น ชาวเอเชียก็มีส่วนเกี่ยวข้องด้วย พวกเขาจึงขอยืนหยัดในการต่อต้านการเหยียดเชื้อชาติ และประณามการใช้ความรุนแรง อีกทั้งยังบอกอีกว่า "ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะได้รับความเคารพ" // นับเป็นการเรียกร้องที่สร้างอิมแพ็คให้กับสังคมมากๆ เลยค่ะ

• • • • • • • • •  •

‘Black Lives Matter’ ประเด็นเรียกร้องความยุติธรรมให้คนผิวดำ 

อีกประเด็นความรุนแรงในปีที่ผ่านมาคือกรณีของนาย George Floyd ชาวอเมริกันวัย 46 ปีที่ถูกตั้งข้อสงสัยว่าใช้เงินดอลลาร์ปลอม ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจรัฐมินนิโซตาจึงเข้าควบคุมตัว และใช้เข่าซ้ายกดบริเวณระหว่างหัวและคอเป็นเวลากว่า 8 นาทีจนเสียชีวิต เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ทั่วโลกมองว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจทำเกินกว่าเหตุ เกิดเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์และออกมาประท้วงเรียกร้องความยุติธรรมให้กับผู้เสียชีวิต และเป็นที่มาของ #BlackLiveMatters ที่สร้างแรงกระเพื่อมไปทั่วโลก 

ทางด้านหนุ่มวง BTS และค่ายได้ร่วมบริจาคเงินให้องค์กร Black Lives Matter จำนวน 1 ล้านเหรียญสหรัฐเพื่อสนับสนุนการเคลื่อนไหวครั้งนี้ (ถ้าตีเป็นเงินไทยก็ราวๆ 32 ล้านบาทเลยค่ะ) 

“พวกเราพยายามพูดคุยถึงวิธีแก้ปัญหา ไม่ว่าจะเป็นการบริจาคหรือวิธีอื่นๆ ที่ช่วยบรรเทาอคตินี้ได้” — จิน พี่ใหญ่ของวง

“พวกเราต้องการทำสิ่งที่สามารถทำได้เพื่อช่วยให้โลกนี้ดีขึ้น”  — เจโฮป

“ความจริงที่พวกเราต้องการบอกคือ ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะไม่ตกเป็นเหยื่อของการเหยียดเชื้อชาติและการใช้ความรุนแรง” — ชูก้า 

• • • • • • • • •  •

‘Climate Change’ ภาวะโลกรวน 

ปัญหาสิ่งแวดล้อมก็เป็นประเด็นที่ทั่วโลกให้ความสนใจมากในตอนนี้โดยเฉพาะกับ Climate Change ปรากฏการณ์ที่อุณหภูมิของโลกร้อนขึ้นและเกิดการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ รวมถึงความแห้งแล้ง และระดับน้ำทะเลสูง ที่อาจกระทบการใช้ชีวิตของมนุษย์ในอนาคตอย่างใหญ่หลวงเลยค่ะ

ล่าสุดในการประชุมสมัชชาใหญ่ UN ครั้งที่ 26 เมื่อวันที่ 18 กันยายน 2021 ที่ผ่านมา หนุ่มๆ บังทันได้รับเชิญจากผู้นำเกาหลีใต้ ‘มุน แจอิน’ ในฐานะ ‘ตัวแทนของประธานาธิบดีสำหรับคนรุ่นใหม่และวัฒนธรรม’ ซึ่งเนื้อหาในสุนทรพจน์ของหนุ่มๆ ก็ได้พูดถึงประเด็น Climate Change ด้วยค่ะ

“ทุกคนมีความเห็นตรงกันว่าปัญหาภาวะโลกรวนคือเรื่องที่สำคัญ แต่การจะพูดถึงทางออกที่ดีที่สุดก็คงไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะเป็นประเด็นที่ซับซ้อนและยากที่จะสรุปครับ” — เจโฮป

“ผมได้ทราบมาว่ามีเยาวชนจำนวนมากให้ความสนใจกับประเด็นสิ่งแวดล้อม และเลือกเรียนสาขาวิชานี้ด้วย แม้ว่า ‘อนาคต’ จะเป็นดินแดนที่ยังไม่เคยได้เจอ และพวกเขาจะได้ใช้เวลาที่นั่นมากกว่าใคร เยาวชนจึงกำลังออกเดินทางเพื่อค้นหาคำตอบเหล่านั้นครับ” —  RM ลีดเดอร์ของวง

“ผมไม่อยากให้ทุกคนคิดว่าอนาคตข้างหน้าจะมืดมน เพราะยังมีผู้คนที่เป็นห่วงโลกและกำลังเดินทางเพื่อหาคำตอบเหล่านั้น อีกทั้งเรื่องราวของเรายังมีอีกหลายหน้าให้ได้เขียนลงไป ดังนั้น เราไม่ควรด่วนสรุปราวกับว่าจุดจบนั้นได้ถูกกำหนดไว้แล้ว” — วี

• • • • • • • • •  •

แคมเปญ ‘Love Myself’ กับ UNICEF

ในปี 2017 หนุ่มๆ BTS ได้จับมือกับองค์กรยูนิเซฟ (UNICEF) ก่อตั้งแคมเปญระดับโลกอย่าง "Love Myself" ขึ้นภายใต้คอนเซปต์ "รักแท้ต้องเริ่มต้นด้วยการรักตัวเองก่อน" และส่งต่อเจตนารมณ์ผ่านอัลบั้ม LOVE YOURSELF เพื่อสนับสนุนให้คนหันมาทำความเข้าใจและรักตัวเองมากขึ้น

นอกจากนี้ยังได้ระดมทุนกว่า 3.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สนับสนุนแคมเปญ #ENDviolence ที่เกิดขึ้นเพื่อรณรงค์ต่อต้านความรุนแรงต่อเด็กและเยาวชนทั่วโลกอีกด้วย // เมื่อต้นปีที่ผ่านมาพวกเขายังกล่าวว่าจะดำเนินแคมเปญนี้ต่อไปในอนาคตด้วยค่ะ

แม้ว่าจะผ่านมา 4 ปี แต่ต้องบอกว่าแคมเปญ Love Myself ได้สร้างอิมแพ็คมากเลยทีเดียว และมีผู้กล่าวถึงแคมเปญกว่า 5 ล้านทวีต กับอีก 50 ล้านโพสต์! (อัปเดต 21 ต.ค. 64) นับเป็นการส่งแรงกระเพื่อมและส่งต่อความรู้สึกดีๆ ให้กับเด็กและเยาวชนทั่วโลกได้มีสภาพจิตใจที่ดีขึ้น โดยเฉพาะท่ามกลางสถานการณ์โควิดที่ทำให้ใครหลายคนสิ้นหวัง คำพูดเหล่านี้อาจเปลี่ยนเป็นพลังใจให้พวกเขาได้มีกำลังสู้ต่อ :)  

Speak Yourself : จงกล้าที่จะพูดเพื่อตัวเอง 

วันที่ 24 กันยายน 2018 หัวหน้าวง ‘RM’ ได้กล่าวสุนทรพจน์ที่ UN เพื่อเรียกร้องให้เยาวชนรักและฟังเสียงของตัวเอง เป็น Speech ที่สร้างความประทับใจให้กับคนทั่วโลกเลยค่ะ

“เพลงอินโทรในอัลบั้มแรกๆ ของเรามีท่อนที่บอกว่า 'ใจของฉันหยุดเต้นไปตอนอายุ 9 หรือ 10 ขวบ' หากมองย้อนกลับไป นั่นคือช่วงเวลาที่ผมเริ่มรู้สึกกังวลว่าคนอื่นคิดยังไงกับตัวผม จากนั้นก็เริ่มมองตัวเองผ่านมุมมองของพวกเขา ผมหยุดมองดวงดาวในตอนกลางคืน หยุดที่จะฝันกลางวัน และพยายามยัดเยียดตัวเองให้เป็นเหมือนแม่พิมพ์ที่คนอื่นสร้างขึ้น” 

“ผมเริ่มเงียบเสียงของตัวเองและเริ่มฟังเสียงคนอื่น ไม่มีใครเรียกชื่อของผมอีก แม้แต่ตัวผมเองก็เช่นกัน หัวใจของผมหยุดเต้น ตาของผมปิด ตกอยู่ในช่วงเวลาที่พวกเราสูญเสียชื่อของตัวเองไป และกลายเป็นวิญญาณที่ไร้ตัวตน”

“แม้ว่าผมจะได้ก้าวเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของวง BTS แล้ว แต่ยังถูกรายล้อมด้วยอุปสรรค หลายคนอาจคิดว่าเราสิ้นหวัง และบางครั้งเองผมก็รู้สึกอยากล้มเลิกเหมือนกัน แต่แล้วผมก็พบว่าตัวเองโชคดีมากที่ยังไม่ยอมแพ้ไปซะก่อน แล้วเชื่อว่าในหนทางข้างหน้า ทั้งตัวผมและสมาชิกก็ยังคงสะดุดและล้มให้กับปัญหาที่จะเกิดขึ้น ถึงตอนนี้พวกเราได้กลายเป็นศิลปินที่ได้แสดงบนสเตเดียมขนาดใหญ่ และมียอดขายเป็นหลักล้านก็ตาม”

“เมื่อวานผมอาจจะทำอะไรผิดพลาด แต่เมื่อวานก็ยังเป็นตัวผม ที่กลายมาเป็นตัวผมในวันนี้ และแม้ในวันพรุ่งนี้ผมอาจจะฉลาดขึ้นกว่าเดิมเล็กน้อย นั่นก็ยังเป็นตัวของผมเช่นกัน”

“หลังจากที่พวกเราได้เรียนรู้ที่จะรักตัวเองแล้ว ต่อไปนี้ผมอยากให้ทุกคนพูดเพื่อตัวเองบ้าง ผมอยากถามทุกคนว่า คุณชื่ออะไรและเรื่องอะไรที่ทำให้หัวใจของพวกคุณเต้นแรง”

“เล่าเรื่องราวของคุณออกมาให้ผมฟัง ผมอยากจะได้ยินเสียงของทุกคนและอยากได้ยินความมั่นใจของพวกคุณ ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร มาจากที่ไหน สีผิวอะไร เพศอะไร ขอแค่คุณพูดเพื่อตัวเองก็พอครับ”

• • • • • • • • •  •

แทบัก!! ไม่แปลกใจเลยค่ะว่าทำไมพวกเขาถึงได้รับความรักจากคนทั่วโลก และเป็น Ideal of Idol ของใครหลายคน นับเป็นอีกตัวอย่างของไอดอลที่ไม่ใช่แค่สร้างความบันเทิงเพียงเท่านั้น แต่ยังแสดงให้เห็นว่าการไม่เพิกเฉยและออกมา Call Out ต่อประเด็นสังคม ก็ช่วยสร้างคุณค่าและการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ได้ (แม้เราจะเป็นเสียงเล็กๆ ก็สามารถกระตุ้นให้คนรอบข้างตระหนักและลุกขึ้นมาต่อสู้เพื่อสังคมที่น่าอยู่ขึ้นได้เช่นกันนะคะ)

สำหรับวันนี้พี่ก็ขอตัวไปฟังเพลง ‘Love Myself’ ของหนุ่มๆ ก่อนนะคะ >< ไว้เจอกันใหม่บทความหน้าค่าา บ๊ายบายย