ทุนรัฐบาล UIS เพื่อดึงดูดผู้มีศักยภาพสูงฯ ปี 2565 สำหรับนักศึกษา ป.ตรี ชั้นปีสุดท้าย (บรรจุก่อนต่อ ป.โท)

สวัสดีชาว Dek-D ทุกคน วันนี้มีข่าวทุนรัฐบาลที่ชื่อ “UiS” หรือ “ทุนรัฐบาลเพื่อดึงดูดผู้มีศักยภาพสูงที่กำลังศึกษาอยู่ในสถาบันการศึกษาในประเทศ ประจำปี 2565”  มาฝากกันค่ะ ว่าแต่เงื่อนไขจะมีอะไรบ้าง ตามไปเช็กรายละเอียดการสมัครทุน UIS รอบปีนี้กันเลยค่ะ

ทุน Undergraduate Intelligence Scholarship Program (UIS) เป็นทุนที่มอบให้กับนิสิต/นักศึกษาระดับปริญญาตรีชั้นปีสุดท้ายที่มีความมุ่งมั่นอยากพัฒนาประเทศ ซึ่งหลังจากผู้ได้ทุนเรียนจบ ป.ตรีแล้ว จะได้เข้าบรรจุและปฏิบัติราชการทันทีก่อนไปศึกษาต่อ ป.โทที่ต่างประเทศ รวมถึงมีโอกาสฝึกงาน ศึกษาดูงาน และฝึกอบรม เพื่อพัฒนาศักยภาพให้พร้อมปฏิบัติงานให้เป็นประโยชน์ต่อประเทศต่อไป

สำหรับปี 2565 ทุน UIS มีโควตาให้ถึง 26 ทุน แบ่งออกเป็น 2 ประเภท **เนื่องจากทุนรัฐบาลฯ จะมีข้อผูกพันสำหรับผู้ได้รับทุน กรุณาศึกษารายละเอียดและตัดสินใจอย่างถี่ถ้วนก่อนสมัครนะคะ

ผู้ได้รับทุนจะได้ทุน 2 ระยะ ดังนี้

• ระยะที่ 1 ให้ทุนรัฐบาลเพื่อเรียนชั้นปีสุดท้ายจนจบ ป.ตรี ตามโครงสร้างหลักสูตร (ต้องใช้ระยะเวลาศึกษาไม่เกิน 1 ปี)
• ระยะที่ 2 ให้ทุนรัฐบาลเพื่อเรียนต่อ ป.โท ในไทยหรือต่างประเทศ ตามเงื่อนไข ที่ ก.พ. กําหนด โดยภายหลังสําเร็จการศึกษา จะต้องกลับมาปฏิบัติราชการชดใช้ทุนในส่วนราชการเดิมที่ได้รับการบรรจุ

ข้อผูกพันในการรับทุน

1. เมื่อเรียนจบ ป.ตรี ผู้ได้ทุนจะต้องปฏิบัติงานราชการเพื่อชดใช้ทุนในส่วนราชการที่ ก.พ. กำหนด เป็นเวลา 2 เท่าของระยะเวลาที่ได้รับทุน
2. หากผู้ได้รับทุนประสงค์จะเปลี่ยนหน่วยงานปฏิบัติราชการชดใช้ทุน จะต้องปฏิบัติราชการในหน่วยที่ ก.พ.กำหนดมาแล้วไม่น้อยกว่า 5 ปีนับตั้งแต่บรรจุหรือเข้าทำงานชดใช้ทุน และ ก.พ.ต้องเห็นชอบตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่ ก.พ. กําหนด
3. หากผู้ได้ทุนไม่เข้าปฏิบัติงานราชการเพื่อชดใช้ตามสัญญาที่ทำไว้กับ ก.พ. นอกจากต้องชดใช้เงินทุนที่ได้จ่ายไปแล้วทั้งหมด ยังต้องชดใช้เงินอีก 2 เท่าของจำนวนเงินดังกล่าวเป็นเบี้ยปรับอีกด้วย
4. ระหว่างปฏิบัติงานราชการใช้ทุนระยะที่ 1 ผู้ได้ทุนต้องพัฒนาข้อเสนอในการปรับปรุงและพัฒนางานด้วย

เงื่อนไขการให้ทุนระยะที่ 2 เพื่อศึกษาต่อระดับปริญญาโท

1. ผู้ได้รับทุนต้องมีผลการศึกษาระดับ ป.ตรี ตามเกณฑ์ที่ ก.พ. กําหนด
2. ผู้ได้รับทุนต้องปฏิบัติราชการชดใช้ทุนในส่วนราชการที่ ก.พ. กําหนดเป็นเวลา 5 เท่าของระยะเวลาการรับทุน โดยหากผู้ได้รับทุนต้องเดินทางไปเรียนต่อ ป.โท ก่อนจะชดใช้ทุนระยะที่ 1 ครบตามกำหนด จะสามารถเดินทางก่อนครบได้ไมเ่กิน 5 เดือน และต้องผ่านการเห็นชอบจากส่วนราชการต้นสังกัดและสอดคล้องกับเงื่อนไขอื่นที่ ก.พ.กำหนดด้วย
3. ผู้ได้รับทุนต้องพัฒนาข้อเสนอในการปรับปรุงและพัฒนางาน และได้รับความเห็นชอบจากส่วนราชการ ภายในระยะเวลา 5 ปีนับจากวันที่บรรจุเข้ารับราชการ (อาจขยายระยะเวลาได้ โดยต้องเสนอให้ ก.พ. พิจารณาให้ความเห็นชอบเป็นกรณีๆ ไป)
4. ผู้ได้รับทุนต้องได้รับการประเมินผลการปฏิบัติงานราชการในระดับ “ดีมาก” ขึ้นไป หรือมีผลคะแนนการปฏิบัติราชการร้อยละ 80 ขึ้นไป โดยจะนับถึงวันที่ผู้ได้รับทุนให้ข้อเสนอในการปรับปรุงและพัฒนางาน
5. ผู้ได้รับทุนต้องรับทุนระยะที่ 2 เพื่อไปเรียนต่อ ป.โท ตามโครงการที่ส่วนราชการต้นสังกัดและสํานักงาน ก.พ. กําหนด ภายในระยะเวลาไม่เกิน 3 ปีงบประมาณนับตั้งแต่วันที่เริ่มบรรจุเข้ารับราชการ ทั้งนี้ อาจขยายระยะเวลาได้ โดยต้องเสนอให้ ก.พ. พิจารณาให้ความเห็นชอบเป็นกรณีๆ ไป (ส่วนราชการจะเป็นผู้ประเมินศักยภาพและความเหมาะสมของผู้ได้รับทุนในการศึกษาต่อในหรือต่างประเทศ)
6. รายละเอียดภารกิจและงานที่จะมอบหมายภายหลังจากสําเร็จการศึกษาสําหรับหน่วยทุนต่างๆ สามารถศึกษาได้ที่รายละเอียดแนบท้าย 2 ดาวน์โหลดได้ที่ลิงก์ด้านล่างนี้ (เลือกหัวข้อทุน UIS)

ผู้ได้รับทุนจะได้ทุน 2 ระยะ ดังนี้

• ระยะที่ 1 ให้ทุน ก.ล.ต. เพื่อศึกษาชั้นปีสุดท้ายจนจบ ป.ตรี ตามโครงสร้างหลักสูตร (ต้องใช้ระยะเวลาศึกษาไม่เกิน 1 ปี)
• ระยะที่ 2 ให้ทุน ก.ล.ต. เพื่อศึกษาต่อ ป.โทในต่างประเทศ ตามเงื่อนไขที่กําหนด และหลังเรียนจบจะต้องกลับมาปฏิบัติงานชดใช้ทุนใน ก.ล.ต.

ข้อผูกพันในการรับทุน

1. เมื่อเรียนจบตามระยะเวลาให้ทุนระยะที่ 1 และ 2 ผู้ได้รับทุนต้องปฏิบัติงานชดใช้ทุนในส่วนงานที่ ก.ล.ต. กําหนด เป็นเวลา 2 เท่าของระยะเวลาที่ได้รับทุน
2. กรณีที่ผู้ได้รับทุนไม่เข้าปฏิบัติงานในส่วนงานชดใช้ทุนตามสัญญาที่ได้ทําไว้กับ ก.ล.ต. นอกจากต้องชดใช้เงินทุนที่ได้จ่ายไปแล้วทั้งหมด ยังต้องชดใช้เงินอีก 2 เท่าของจำนวนเงินดังกล่าวเป็นเบี้ยปรับอีกด้วย

เงื่อนไขการให้ทุนระยะที่ 2 เพื่อศึกษาต่อระดับปริญญาโท

1. ผู้ได้รับทุนต้องมีผลการศึกษาระดับ ป.ตรี ตามเกณฑ์ที่กําหนด
2. ผู้ได้รับทุนต้องรับทุนระยะที่ 2 เพื่อไปศึกษาต่อ ป.โท ตามที่ ก.ล.ต.กําหนด ภายในระยะเวลาไม่เกิน 2 ปี นับถัดจากปีที่เริ่มปฏิบัติงานที่ ก.ล.ต. โดยต้องมีผลประเมินการปฏิบัติงานในเกณฑ์ “ดี” ถึง “ดีมาก” และได้รับความเห็นชอบจาก ก.ล.ต. เป็นกรณีไป (ก.ล.ต.จะเป็นผู้ประเมินศักยภาพและความเหมาะสมของผู้ได้รับทุนในการศึกษาต่อต่างประเทศ)
3. รายละเอียดภารกิจและงานที่จะมอบหมายภายหลังจากสําเร็จการศึกษาสําหรับหน่วยทุนต่างๆ ดาวน์โหลดได้ที่ลิงก์ด้านล่างนี้ (เลือกหัวข้อทุนตลาดหลักทรัพย์)

คุณสมบัติผู้สมัคร

1. เป็นผู้มีคุณสมบัติทั่วไปและไม่มีลักษณะต้องห้าม ตามมาตรา 36 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 และมีคุณสมบัติเฉพาะตามที่กำหนดไว้ในทุนแต่ละหน่วย
2. นักศึกษาป.ตรี (กำลังจะศึกษาชั้นปีสุดท้าย) จะต้องมีเกรดเฉลี่ย 2.75 หรือ 3.00 ขึ้นไป // แล้วแต่หน่วยทุน
3. ส่วนทุนตลาดหลักทรัพย์ นักศึกษาป.ตรี (กำลังจะศึกษาชั้นปีสุดท้าย) จะต้องมีเกรดเฉลี่ย 3.00 ขึ้นไป //แล้วแต่หน่วยทุน
4. ไม่เป็นผู้ที่มีข้อผูกพันในการชดใช้ทุน
5. เป็นผู้ที่มีศีลธรรม วัฒนธรรม และความประพฤติดี
6. สำหรับภิกษุ สามเณร ไม่สามารถสมัครสอบแข่งขันเพื่อรับทุนรัฐบาลฯ ได้

เอกสารหลักฐานที่ใช้ในวันสอบข้อเขียน

1. ใบสมัครที่พิมพ์จากอินเทอร์เน็ต ติดรูปถ่าย 1 X 1.5 นิ้ว และลงลายมือชื่อในใบสมัครให้ครบถ้วน
2. หนังสือรับรองสถานภาพการศึกษาสำหรับใช้ในการสมัครสอบ (ฟอร์ม สนง.กพ. 5 ดาวน์โหลด)
3. สำเนาระเบียนแสดงผลการเรียน (Transcript of Records) ทุกภาคการศึกษาที่ผ่านมาถึงภาคการศึกษาที่ 1 ของชั้นปีก่อนชั้นปีสุดท้ายตามโครงสร้างหลักสูตร ปตรี จำนวน 1 ชุด
4. หนังสือรับรองความประพฤติและกิจกรรมจากอาจารย์ที่ปรึกษา ตามแบบฟอร์มที่ ก.พ. กำหนด 1 ฉบับ
5. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน จำนวน 1 ชุด
6. เอกสารอื่นๆ (ถ้ามี) เช่น สำเนาใบเปลี่ยนชื่อ - นามสกุล หนังสือรับรองผลการเรียน ผลการทดสอบภาษาอังกฤษ เป็นต้น

การสอบและเกณฑ์ตัดสิน

1. สอบข้อเขียน  2 วิชา ได้แก่ วิชาภาษาอังกฤษ และวิชาความสามารถทั่วไปเชิงวิชาการ
2. เมื่อผ่านข้อเขียนตามเกณฑ์ที่กำหนด จะต้องฝึกงาน ณ ส่วนราชการ รวมถึงเข้ารับการสัมภาษณ์ และ/หรือ Assessment Center Method : ACM เพื่อประเมินความเหมาะสมของบุคคลเพื่อรับทุน (ทั้งความเหมาะสมในการปฏิบัติงานราชการและเรียนต่อต่างประเทศ)

ขั้นตอนการสมัครสอบ

1. กรอกใบสมัครสอบออนไลน์ที่ http://www.ocsc.go.th/scholarship หรือ http://uis.ocsc.go.th ตลอด 24 ชั่วโมง ไม่เว้นวันหยุดราชการ
2. ระบบจะออกเลขประจําตัวสอบและแบบฟอร์มการชําระเงินผ่านเคาน์เตอร์ บมจ. ธนาคารกรุงไทย ให้โดยอัตโนมัติ
3. พิมพ์ “ใบสมัคร” และ “แบบฟอร์มการชําระเงิน” ลงในกระดาษขนาด A4 จํานวน 1 แผ่น หรือ หากไม่มีเครื่องพิมพ์ในขณะนั้น ให้บันทึกข้อมูลเป็น File ไว้ก่อนเพื่อสั่งพิมพ์ในภายหลัง
4. ชำระเงินค่าธรรมเนียมการสมัครสอบภายในเวลาทําการของธนาคาร โดยจะสมัครเสร็จสิ้นหลังจากชำระค่าธรรมเนียมแล้ว(ค่าสมัครสอบหน่วยละ 100 บาท + ค่าธรรมเนียมธนาคาร 30 บาท)

กำหนดการสมัครทุน

“จุดเริ่มต้นการสมัครทุนนี้คือเรากำลังขึ้นปี 3 แล้วเครียดกับชีวิตว่าจะเอายังไงดี เพราะต้องคิดแล้วว่าในอนาคตอยากทำอะไร ฝึกงานที่ไหน ยิ่งคณะเราไม่ได้เจาะจงเหมือนคนอื่นด้วย จนกระทั่งเห็น Line กลุ่มคณะอักษรศาสตร์เด้ง จำได้แม่นว่ามีคนนึงส่งลงกรุ๊ปว่า ‘รายละเอียดทุน UIS มาแล้วนะปีนี้’ พอเราดูรายละเอียดแล้วก็ตัดสินใจสมัครดู เพราะคิดว่าเป็นทุนที่ค่อนข้างน่าสนใจเลยค่ะ”

 

—พริ้ม 

นักเรียนทุน UIS

 

อ่านบทความรีวิวกว่าจะคว้าทุน UIS (ทุน ก.พ.) จากเด็กทุนปี 62 ที่บอกเลยว่าแต่ละด่านโหดมาก!

 https://www.dek-d.com/studyabroad/54049/