สวัสดีค่ะชาว Dek-D น้องๆ ป.ตรีคนไหนอยากไปแลกเปลี่ยนช่วงสั้นๆ ที่มหาวิทยาลัยในอเมริกา ตอนนี้ Global Undergraduate Exchange Program หรือ Global UGRAD สนับสนุนโดยกระทรวงต่างประเทศของอเมริกา กำลังเปิดรับสมัครถึง 6 ม.ค.65 นะคะ
และหากกำลังมองหารีวิวว่าทุนนี้คุ้มจริงมั้ย และควรเตรียมตัวขอทุนยังไงบ้าง? วันนี้เรามีรีวิวจาก "พี่แบงค์ — วรวิทย์ ดุมกลาง" นักเรียนทุน Global UGRAD ปี 2019 ไปแลกเปลี่ยนที่ Maryville College ที่เมือง Maryville รัฐ Tennessee ที่อบอุ่นและธรรมชาติดีสุดๆ! เค้าจะมาเล่าให้ฟังแบบจัดเต็มตั้งแต่ process ขอทุน และบรรยากาศการเรียนและทำกิจกรรมที่นั่นด้วย ไว้ช่วยประกอบการตัดสินใจ // บอกเลยครบรสมากกก ตามมาลุยกันเลยค่ะ!
Q: แนะนำตัว & แชร์โพรไฟล์ช่วงสมัครทุน
“สวัสดีครับ ชื่อ ‘แบงค์’ นะครับ เรียนจบ ป.ตรี สาขาวิชาภาษาอังกฤษ คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี ปัจจุบันทำงานเป็นครูที่วิทยาลัยสารพัดช่างศรีสะเกษครับ”
ผมมีความฝันอยากสัมผัสบรรยากาศเรียนกับสังคมในอเมริกา จนมาเจอข่าวทุนนี้จากเพจ Global UGRAD Thailand ผมคิดวา่เป็นโอกาสที่ดี ก็เลยสมัครจนได้ทุนนี้ปี 2019 // ตอนนั้นปี 4 แล้วนะ แต่ก่อนหน้านั้นคือชวดมา 2 รอบ (ปี 2 ไม่ผ่านสัมภาษณ์ ปี 3 ไม่ติดรอบสัมภาษณ์) พอได้ไปแล้วคุ้มกับที่พยายามมานานครับ
ภาพรวมคือทุนนี้จะให้เราไปเรียน แลกเปลี่ยนวัฒนธรรม และทำกิจกรรมเพื่อสังคม สนันสนุนค่าใช้จ่ายทุกอย่างตั้งแต่ค่าตั๋วไป-กลับ ค่าที่พัก ค่าอาหาร ค่าธรรมเนียมการเรียน ค่าประกันสุขภาพ ค่าใช้จ่ายในการขอวีซ่า ค่าใช้จ่ายในการปฐมนิเทศก่อนเดินทาง ค่าเบี้ยเลี้ยงอีกเดือนละ $300 รวมถึงค่าหนังสือ ซึ่งปกติที่อเมริกาแพงมาก เล่มนึง $50-100 เลยครับ
ข้อดีคือตอนสมัครเรายังไม่จำเป็นต้องมีคะแนนสอบ TOEFL มาก่อนก็ได้ ถ้าเกิดผ่านรอบสัมภาษณ์แล้วเค้าจะให้ voucher ไปสมัครสอบ TOEFL iBT ฟรีๆ // ตอนนั้นผมได้ 75 เต็ม 120 คะแนนครับ
แต่ข้อกำหนดของปี 2019 ที่ผมสมัครจะต่างกับปีล่าสุดนี้นะครับ ตอนนั้นทาง Fulbright เค้าให้สิทธิ์คนที่อยู่นอกมหาวิทยาลัยในกรุงเทพฯ และปริมณฑลเท่านั้น โดยเราจะต้องสมัครเองผ่านเว็บกลางของ Global UGRAD ไปก่อน แต่พอเขียน Essay ครบก็ต้องยื่นหน่วยงานที่ดูแลการประสานงานทุนนี้ (เช่น วิเทศสัมพันธ์) ถ้ามหาลัยไหนมีสมัครเกิน 2 คน เค้าจะคัดเลือกอีกที
. . . . . . . . . .
Q: เนื่องจากทุนนี้โฟกัสความเป็นผู้นำ เราเคยทำกิจกรรมอะไรมาก่อนบ้าง?
ตอนเป็นนักศึกษา ผมทั้งเรียนและเน้นทำกิจกรรมเยอะมากครับ อย่างเช่นเป็นประธานนักศึกษาสาขาภาษาอังกฤษ, ทีมสโมรนักศึกษาของคณะครุศาสตร์ ได้เป็นผู้นำจัดกิจกรรมต่างๆ ร่วมกับทีมเพื่อนสโมสรจากต่างสาขา แล้วด้วยความที่เป็นสายครูด้วย ส่วนใหญ่กิจกรรมจะเน้นไปทางวิชาการ เช่น จัดค่ายภาษาอังกฤษ ค่ายอาสาบริการชุมชน ปรับปรุงสภาพแวดล้อมของโรงเรียนตามหมู่บ้านในพื้นที่ห่างไกล
และก่อนหน้านี้เคยได้ทุนจากกระทรวงการต่างประเทศในอเมริกา ไปเป็นตัวแทนเยาวชนในการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยสามัญครั้งที่ 72 ที่องค์การสหประชาชาติ (UN) ที่นิวยอร์ก 3 สัปดาห์ กิจกรรมนี้เป็นแรงผลักดันสำคัญในการขอทุนนี้เลยครับ เพราะได้เห็นการแสดงความคิดเห็นและการอภิปรายในที่ประชุม เลยอยากลองไปสัมผัสบรรยากาศเหล่านี้ในรูปแบบการเรียนบ้างครับ
. . . . . . . . . .
Q: แชร์ทริคการเขียน Essay สมัครทุน Global UGRAD (*ปรับใช้กับทุนอื่นได้)
ตอนที่สมัคร ผมเจอ 2 คำถาม
- Why would you be a great participant? (ทำไมคุณถึงจะเป็นผู้ร่วมโครงการที่ดี)
- มี Quote เกี่ยวกับความเป็นผู้นำให้เราเลือก แล้วมาเขียนเชื่อมโยงกับเรื่องราวของตัวเอง
Tips
- ตีโจทย์ให้แตกว่าเค้าถามอะไรบ้าง ถ้าเป็นปลายเปิดให้หยิบเรื่องเด่นๆ ที่แสดงออกถึงความเป็นผู้นำออกมาเลย และเขียนตอบออกมาให้ครอบคลุมสิ่งที่โจทย์ถาม เช่น ผมหยิบเรื่องประธานจัดค่ายอาสาขึ้นมากิจกรรมเดียวเพราะเห็นภาพชัดสุด แล้วโจทย์จะมีถามว่าในฐานะที่เป็นผู้นำ (Leader) เราเจอปัญหาอะไรบ้าง และแก้ไขอย่างไร
- ไม่ควรเขียนตอบเป็นข้อๆ (bullets) แต่เขียนเป็นเรียงความให้เรื่องราวผูกกัน
- ควรอธิบายให้ชัดเจน และเล่าเจาะจงให้กรรมการเห็นภาพเลยว่าเราได้โชว์ศักยภาพด้านนั้นยังไงบ้าง (อย่าเขียนกลางๆ กว้างๆ)
- อาจลองเขียนร่าง (Draft) ด้วยภาษาอังกฤษง่ายๆ ก่อน จากนั้นเปิดดิกชันนารีออนไลน์ เช่น https://www.thesaurus.com เพื่อหาคำศัพท์อื่นที่สื่อความหมายเหมือนกัน (Synonyms) เพื่อหลากคำให้น่าสนใจขึ้น รวมถึงปรับคำที่ดูเป็นภาษากันเองเกินไป เพราะเรากำลังเขียนเรียงความขอทุน ควรมีความเป็นภาษาเขียนและกึ่งทางการมากขึ้น
*อยากเน้นถึงน้องๆ เลยครับ เพราะปีแรกๆ ผมอาจจะพลาดทุนเพราะเขียนเหมือนเล่าให้เพื่อนฟังเกินไป จนตอนขอทุนครั้งที่ 3 ถึงได้คำแนะนำจากอาจารย์ว่าต้องปรับให้ทางการขึ้นครับ
. . . . . . . . . .
Q: แนะนำว่าควรให้ใครเป็นผู้เขียน Recommendation Letter ให้?
ปีผมเค้าจะมีกำหนดให้ขอ Recommendation Letter จาก 2 ท่าน
- อาจารย์ในสาขาที่เรียน
- คนที่เคยมีประสบการณ์ทำงานร่วมกับเรา
Tips
- เลือกอาจารย์ที่รู้จักเราดีที่สุด และรู้ว่าเรามีศักยภาพด้านไหนบ้าง
- ควรติดต่อตั้งแต่เนิ่นๆ เพื่อให้เวลาท่านด้วย และควรเตรียม CV, ข้อมูลโครงการ และลิสต์กิจกรรมที่เราเคยทำ เพื่อให้อาจารย์อ่านประกอบ เพราะบางครั้งเค้าอาจจะตกหล่นว่าเราเคยทำกิจกรรมไหนมาบ้าง
ผมคิดว่าจดหมาย 2 ฉบับนี้มีผลมากต่อการพิจารณาให้ทุน ผมอยากถือโอกาสขอบคุณ Mr. David Schectman อาจารย์ชาวต่างชาติจากสาขาวิชาภาษาอังกฤษ คณะครุศาสตร์ และ อาจารย์ ดร.นุชประภา กงเพชร เดนนิส สาขาวิชาภาษาอังกฤษ คณะมนุษย์ศาสตร์และสังคมศาสตร์ครับ เพราะทั้งสองท่านเขียนให้ผมแบบทุ่มเทและใส่ใจมาก เรียกว่าเป็น Killer Letter of Recommendation เลยครับ
. . . . . . . . . .
Q: บรรยากาศสัมภาษณ์เป็นยังไงบ้าง
ช่วงนั้นยังไม่มีโควิด แต่ก็ได้สัมภาษณ์ออนไลน์ผ่านโปรแกรม Skype นะครับ คณะกรรมการจะสัมภาษณ์จากสถานทูตอเมริกาที่กรุงเทพฯ ส่วนเราจะนั่งอยู่ที่มหาวิทยาลัยของตัวเอง เจอกรรมการ 5-6 ท่านเลยครับ หลักๆ จะถามเกี่ยวกับตัวเรา ถามเกี่ยวกับเรื่องที่เรียน และมีวัดไหวพริบบ้าง และคำถามยอดฮิตคือทำไมเราถึงสมควรได้รับเลือกให้ได้ทุนนี้
Tips
- ควรอ่านเอกสารที่ยื่นสมัครไปทั้งหมด ทั้ง Essay, Letter of Recommendation และประวัติส่วนต่างๆ จนมั่นใจว่ารู้จักทุกแง่มุมของตัวเองแล้ว
- ศึกษาวัตถุประสงค์ของโครงการฯ สมมติเจอคำถามว่าทำไมถึงอยากไปอเมริกา ถ้าเกิดตอบว่า อ่าา "อยากเที่ยว" "อยากไปเจอหิมะ" "อยากฝึกภาษา" ฯลฯ อาจไม่ได้ตรงวัตถุประสงค์ ในทางกลับกันคือถ้าใครสามารถเชื่อมโยง Professional Goals ของตัวเองให้เข้ากับวัตถุประสงค์ของโครงการให้ได้จะดีมากเลยครับ
- แนะนำว่าให้ติดตามข่าวและสถานการณ์ปัจจุบันไว้ด้วย
- เป็นตัวของตัวเอง ไม่ต้องเครียดครับ ยิ้มๆ ไว้ตลอด :)
. . . . . . . . . .
Q: เลือกมหาวิทยาลัยที่อยากเรียนได้มั้ย?
อ้างอิงปีผมคือยังเลือกสถาบันไม่ได้ครับ หลังจากสอบ TOEFL iBT เสร็จแล้ว ทาง Fulbright Thailand เค้าจะส่งคะแนนเราไปยัง World Learning ซึ่งเป็นหน่วยงานในสหรัฐฯ จากนั้นเขาจะคัดเลือกมหาวิทยาลัยที่เหมาะสมกับเราให้เอง (ช่วงรอคือตื่นเต้นมาก 5555) ก่อนหน้านั้นในใบสมัครจะมีให้เขียนข้อมูลและไลฟ์สไตล์ว่าเราชอบอะไร สนใจเรื่องอะไรบ้าง แล้วมีเขียนความต้องการไปก่อนว่าอยากไปเทอม Fall หรือ Spring แต่ก็ไม่ได้การันตีว่าจะได้ตามนั้น
ตอนนั้นผมได้ไปแลกเปลี่ยนเทอม Spring ตามที่อยากได้เลย และได้เรียนที่ Maryville College ม.เอกชนเล็กๆ ที่เด่นสาขาศิลปศาสตร์ (Liberal Arts) อยู่ท่ามกลางธรรมชาติก็จริง แต่คือทันสมัยมาก (ผมว่าที่อเมริกาเค้ากระจายความเจริญได้ดีมากเลย) ในคลาสจะมีจอทีวีใหญ่ๆ โต๊ะเรียนมีที่วางเขียน และมีล้อเลื่อนเพื่อให้เคลื่อนย้ายไปหากันง่าย แล้วส่วนใหญ่ก็เรียนแบบ Discussion ด้วย
. . . . . . . . . .
Q: ทุนนี้จะกำหนดให้ลงเรียนวิชาในมหาวิทยาลัยด้วย อยากชวนพี่แบงค์รีวิววิชาที่เลือกให้ฟังหน่อยค่ะ
สำหรับหลักสูตรนักศึกษาแลกเปลี่ยนของ Global UGRAD ทาง World Learning จะให้ลงขั้นต่ำ 4 วิชา บนเว็บมหาวิทยาลัยจะมีเหมือนเป็นแคตตาล็อกให้เลือกลงทะเบียนได้เลย (เค้ามีบังคับ 12 หน่วยกิต)
- วิชาที่เกี่ยวข้องกับสาขาที่เราเรียน 2 วิชา
- วิชาที่เกี่ยวข้องกับอเมริกัน 1 วิชา
- วิชาเสรี ลงอะไรก็ได้ 1 วิชา
ทั้งหมดผมลงไป 4 วิชาไม่ขาดไม่เกิน เพราะจะเอาเวลาที่เหลือไปทำกิจกรรม
- Educational Technology (สายครู) เช่น สอนเทคนิคใช้ Google, สร้างเว็บ, ครีเอตผลงานลงเว็บ แล้วมาแชร์กับเพื่อนในคลาส มีทั้ง discuss และทำงานกลุ่ม // วิชานี้อาจารย์เก๋มาก ผมชมพูมาเลยครับ!
- Composition for ESL Students (สายภาษา) วิชานี้ได้เรียนกับเพื่อนนานาชาติ เช่น ญี่ปุ่น เม็กซิโก ฯลฯ
- American Social History through Cookbooks (ประวัติศาสตร์หนังสือทำอาหาร) ยากสุดสำหรับผมเลยเพราะเจอศัพท์โบราณที่ไม่คุ้นหู อ่านแล้วไม่เข้าใจ บางช่วงก็ฟังเพื่อนกับอาจารย์ไม่ทันด้วย
- Sustainable Tourism (การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน) เป็นวิชาเสรีครับ มีคาบที่อาจารย์พาไป discuss กลางป่าของมหา’ลัยด้วย อากาศดีมากก แล้วจริงๆ ก็จะมีทริปไปฟาร์ม แต่แผนล่มเพราะเจอโควิดระบาดก่อน
. . . . . . . . . .
Q: คิดว่าอะไรคือข้อดีของระบบเรียนที่อเมริกา?
- เน้นให้ถ่ายทอดความคิดตัวเอง คำถามเป็นปลายเปิด ไม่มีถูกผิดแต่ต้องมีเหตุผลรองรับ ทั้งการอภิปรายในห้อง (discuss) และงานมอบหมายส่วนใหญ่ที่เป็นเรียงความ (essay)
- เน้นให้เราอ่านหนังสือล่วงหน้า พอถึงเวลาอาจารย์จะถือว่าทุกคนอ่านมาแล้ว และใช้เวลาในคลาสเพื่ออภิปรายกัน
- คนในคลาสให้เกียรติกันเสมอ ไม่ว่าเพื่อนหรืออาจารย์กำลังพูด ทุกคนจะตั้งใจฟังมากโดยไม่พูดแทรก พอมีโอกาสค่อยยกมือถาม หรือพออาจารย์ยิงคำถาม ทุกคนจะยกมือตอบ ซึ่งก็ต้องรอให้อาจารย์อนุญาตก่อนด้วยด้วยครับ
*ผมสังเกตว่าตอนเรียนหรือตอนอยู่ข้างนอก เด็กอเมริกันจะนึกถึงคำถามเสมอ เพราะพออาจารย์พูดจบเค้ายกมือถามทันที ขนาดแต่ละวิชาไม่มีคะแนนการมีส่วนร่วม เค้ายังแอคทีฟกันมากเลยครับ พอผมเจอซึมซับวัฒนธรรมการเรียนของเขามาสักพักใหญ่ๆ กลับไทยมาผมก็ยกมือถามจนเพื่อนมอง
ข้อควรระวัง
เมืองนอกอย่างเช่นที่อเมริกา เค้าซีเรียสมากเรื่อง Plagiarism หรือการคัดลอกผลงานคนอื่นมาเป็นของตัวเอง ถ้าพบเห็นถือเป็นความผิดร้ายแรง อาจโดนปรับตกวิชานั้นได้เลยครับ คิดจะก็อปอะไรจากเน็ตมาวางเนี่ยไม่ได้เลย ถ้าเกิดเขียน Essay แล้วนำข้อมูลหรือคำพูดของใครมาจะต้องมีอ้างอิง (Citation) กำกับไว้เสมอครับ
ใบเกรดดด~~
Honor Roll เกียรตินิยมประจำเทอม!
. . . . . . . . . .
Q: อีกไฮไลต์ของทุนนี้คือต้องทำกิจกรรม Community Service ขั้นต่ำ 20 ชม. อยากให้แชร์ความสนุกให้ฟังหน่อยค่ะ~
ก่อนอื่นผมไปขอคำแนะนำจากมหาวิทยาลัยก่อนว่าจะหากิจกรรมสาธารณประโยชน์ทำที่ไหนได้บ้าง จากนั้นศึกษาข้อมูลแหล่งที่สนใจ แล้ว walk-in ไปขอเป็นอาสาสมัครครับ ที่ผมทำคือ “Welcome Table Event” จัดที่โบสถ์ในเมือง จุดประสงค์คือการแชร์อาหารให้ผู้สูงอายุและผู้มีรายได้น้อย ผมได้ไปช่วยยกของ จัดโต๊ะ เตรียมวัตถุดิบ และเสิร์ฟอาหาร บรรยากาศคืออบอุ่นมากกก ทีมแม่ครัวเค้าต้อนรับอย่างดี มีคนบอกว่าเคยเที่ยวไทยแล้วประทับใจด้วยครับ
แต่นอกจากกิจกรรมที่เค้ากำหนดแล้ว ตอนอยู่อเมริกาผมยังได้ทำอีกหลายอย่างมากกก
- กิจกรรมรับน้องปฐมนิเทศ เป็นแนวๆ Walk Rally ที่ป่าหลังมหาวิทยาลัย เค้าจะแบ่งกลุ่มกันเข้าฐานและช่วยกันทำภารกิจให้สำเร็จ เน้นทีมเวิร์กครับ
- Hiking Trip กับชมรม Fit.Green.Happy ของมหาวิทยาลัยที่ The Great Smoky Mountains National Park ธรรมชาติดีสุดๆ พอได้ขึ้นไปยืนบนยอดของภูเขาคือหายเหนื่อยเลยครับ!
- ร่วมเดินขบวนพาเหรด Martin Luther King
- ออกทริปกับเพื่อนๆ นั่งรถบัส Greyhound ไปเที่ยวเมือง Chattanooga (มีไปน้ำตก Ruby Falls ด้วย)
. . . . . . . . . .
Q: ชวนมาแชร์ข้อดี-ข้อเสีย ของชีวิตในเมือง Maryville ที่รัฐ Tennessee
ข้อดี
- รัฐ Tennessee เป็นเมืองขึ้นชื่อเรื่องเพลงคันทรี (Country) ส่วนบรรยากาศในเมือง Maryville ก็เต็มไปด้วยธรรมชาติ รายล้อมด้วยภูเขา
- หนาวตลอด แต่ไม่ถึงกับออกมาเดินไม่ไหว ถ้าตกดึกจะเฉลี่ย 1-2 องศาได้ครับ ตอนที่ผมไปเคยมีหิมะตกแบบติดพื้นอยู่ประมาณ 2 ครั้ง
- อากาศบริสุทธิ์ (ถ้าไปเช็กค่าฝุ่น PM2.5 คือขึ้นสีเขียว) แถมเมืองยังอยู่ไม่ไกลจากอุทยานแห่งชาติเทือกเขาเกรทสโมคกี้ The Great Smoky Mountains National Park ด้วยครับ จัดเป็นที่เที่ยวยอดฮิตเลย
. . . . . . . . . .
Q: ถ้ามีน้องๆ เตรียมไปใช้ชีวิตเมือง Maryville ควรเตรียมรับมือกับอะไรบ้าง?
- ถึงจะเล่าไปว่าอากาศเป็นข้อดี แต่ช่วงแรกผมยังปรับตัวไม่ได้ มีเอาแค่ผ้าห่มบางๆ ไปผืนเดียว คืนแรกคือนอนขดทั้งคืนเลยครับ ถ้าใครจะมาเมืองนี้ช่วง Spring ควรติดผ้าห่มหนาๆ มาสักผืนด้วย
- เดินทางลำบาก ไม่มีรถบัส เพราะคนในเมืองขับรถยนต์เป็นหลัก พอผมไม่มีรถแล้วจะไปไหนที ก็ต้อง Uber เท่านั้น และอาจทำให้เราเสียเงินกับการเดินทางเยอะมาก เวลาผมจะเดินไป supermarket ใช้เวลาเกือบครึ่งชั่วโมงกว่าจะถึง แต่ก็สนุกดี ได้เดินชมเมืองเพลินๆ ถนนหนทางที่นั่นไม่มีหลุมบ่อเลย เหนื่อยแค่ตอนหอบของกลับนี่แหละครับ 555 (จริงๆ แล้วที่ International House จะมี Shopping Trip ทุกสัปดาห์เพื่อพานักศึกษาต่างชาติไปซื้อของเข้าหอ แต่ผมดันมีเรียนช่วงกับเวลาที่เค้าไปกันตลอดเลยครับ)
. . . . . . . . . .
Q: อะไรคือ Top3 สิ่งที่พี่แบงค์ประทับใจในอเมริกา
- คุณภาพชีวิต ผมไปอยู่เมืองเล็กแต่กลับรู้สึกเจริญมาก มีห้างเยอะและหลากหลาย และแม้ว่าระบบขนส่งสาธารณะเมืองผมจะเข้าถึงยาก แต่ถ้าใครมีรถยนต์คือสบายเลย ถนนหนทางดี ไม่มีหลุมบ่อ หรือถ้ามีช่วงที่ทำถนน เค้าก็มีรถบอกสัญญาณให้เห็นชัดเจน ระบบ Safety ดีมาก
- วัฒนธรรม ผมชอบความเป็นเองของคนที่นั่นมากกก เวลาเรียนมหาวิทยาลัยเหมือนได้ express ความเป็นตัวเองออกมาจริงๆ ไม่มีกำแพงเลยครับว่าเป็นใคร มาจากไหน อายุเท่าไหร่ ฯลฯ เหมือนเค้าไม่มีแบ่งแยก ทุกคนเป็นเพื่อนกันหมด อาจเพราะอิทธิพลของภาษาอังกฤษด้วยที่ไม่ต้องเรียก พี่… น้อง… ผมว่าเป็นอะไรที่ comfortable สบายใจอย่างบอกไม่ถูก
- ความปลอดภัย เวลามีเหตุเกิดขึ้น เช่น ภัยธรรมชาติ หรือแม้กระทั่งหมีดำหลุดเข้ามหาวิทยาลัย เค้าจะมีระบบแจ้งเตือน Amber Alert ส่งข้อความเตือนถึงโทรศัพท์ทุกเครื่อง!
. . . . . . . . . .
Q: รู้สึกมีอะไรที่เป็น Culture Shock มั้ยคะ?
- ผมตกใจเรื่องเวลาจะข้ามถนนนี่แหละ ปกติถ้ามีสัญญาณไฟแดงไฟเขียวให้คนข้ามถนน รถก็จะจอดให้ตามสัญญาณอยู่แล้วใช่มั้ยครับ แต่ขนาดตรงไหนที่เป็นทางม้าลาย ไม่มีสัญญาณไฟบอก รถก็หยุดให้เราข้ามก่อนเลย (ไม่ชิน ไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อน 555)
- เราสามารถดื่มน้ำจากก๊อกได้ น้ำที่นั่นสะอาด แล้วยังมาจากธรรมชาติด้วย
- Hold the door for each other เขาจะคอยเปิดประตูให้กันตลอด และชอบพูดว่า Thank you ตลอดเวลาใครช่วยเหลือหรือทำอะไรให้ ขนาดตอนผมจาม ยังมีเพื่อนจากโต๊ะข้างๆ พูดว่า Bless you ขึ้นมาทั้งที่เราไม่รู้จักกันมาก่อน
- เวลาเข้าโรงหนัง เราจะนั่งตรงไหนก็ได้แล้วแต่เราครับ
. . . . . . . . . .
Q: อยากฝากอะไรถึงน้องๆ ที่กำลังลังเล และอาจปล่อยโอกาสนี้หลุดมือไป?
ก่อนมาแลกเปลี่ยนผมหวังว่าจะได้เรียนรู้และพบปะผู้คนใหม่ๆ ดูว่าคนข้างนอกมีมุมมองความคิดเห็นยังไงบ้าง พอได้ไปแลกเปลี่ยนกลับมา รู้สึกคุ้มและตอบโจทย์มากกก จากที่เคยเห็นโลกแค่มุมเดียว เราได้มาเจอความแตกต่าง ความหลากหลาย ช่วยขยายสโคปความคิดเราให้ไม่มีที่สิ้นสุด ได้พูดคุยและแชร์กับเพื่อนต่างวัฒนธรรม ทำให้รู้สึกดีมาก แม้จะเสียใจที่พลาดทริป Global UGRAD Summit ที่ Washington D.C. เพราะโควิด แต่ก็ถือเป็นประสบการณ์ที่มีค่ามากๆ อยู่ดี
อยากฝากน้องๆ ที่สนใจว่าอย่าลังเลที่จะสมัครเลยครับ ผมเชียร์มาก แล้วทุน Global UGRAD ยังให้ฟรีทุกอย่างด้วย (ให้กระทั่งค่าข้าวของที่ซื้อเข้าหอพัก) เค้าดูแลดีตลอดโครงการจริงๆ
4 ความคิดเห็น
ที่พี่บอกว่า “แต่ข้อกำหนดของปี 2019 ที่ผมสมัครจะต่างกับปีล่าสุดนี้นะครับ ตอนนั้นทาง Fulbright เค้าให้สิทธิ์คนที่อยู่นอกมหาวิทยาลัยในกรุงเทพฯ และปริมณฑลเท่านั้น “ เกณฑ์ปัจจุบันเป็นยังไงคะ
สำหรับคุณสมบัติผู้สมัครของทุน Global UGRAD ปี 2022 มีดังนี้ค่ะ ***สามารถอ่านรายละเอียดต่อได้ที่ https://www.dek-d.com/studyabroad/59116 นะคะ ^^
- สัญชาติไทย และอายุ 18 ปีขึ้นไปนับจากวันที่เข้าร่วมโปรแกรม
- กำลังเรียนอยู่ปริญญาตรี ณ มหาวิทยาลัยในประเทศไทย (เรียนอยู่ปี 1 เทอม 2 เป็นต้นไป) และหลังจบโปรแกรมจะต้องกลับมาลงทะเบียนเรียนต่อที่ไทยอย่างน้อยอีก 1 เทอมหรือเทียบเท่า
- แสดงถึงความเป็นผู้นำผ่านผลงานทางวิชาการ กิจกรรมนอกห้องเรียน รวมถึงกิจกรรมในชุมชนที่เคยเข้าร่วม
- มีคะแนน TOEFL iBT ขั้นต่ำ 48 คะแนน
- ต้องเดินทางกลับประเทศไทยหลังจบกิจกรรม
- พิจารณาผู้สมัครที่ไม่เคยมีอาศัยอยู่ในอเมริกาหรือต่างประเทศมาก่อน / หรือถ้าหากเคยอยู่ จะต้องมีประสบการณ์เพียงเล็กน้อย
พอจะมีคอนแทคไหมคะ พอดีสนใจมากๆเลยค่ะ ว่าจะสมัครปีนี้ อยากทักไปคุยค่ะ
สวัสดีค่ะคุณ Panny ขอบคุณที่เข้ามาอ่านบทความคอลัมน์ของเรานะคะ คอนแทคจะมีเป็น FB ของพี่ในบทความนี้ค่ะ แต่ทางเราขออนุญาตส่งให้ทางข้อความลับ จึงขอรบกวนสมัครสมาชิกแล้ว reply ใต้คอมเมนต์นี้อีกครั้ง หรือใช้ไอดีสมาชิกส่งข้อความลับมาทางพี่หน่อยนะคะ ♡ ขอบคุณค่า