สวัสดีครับ "มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานคร" หรือ MUT มหาวิทยาลัยที่มีพื้นที่ใหญ่ และร่มรื่นมาก ตอนนี้มีเปิดสอน 3 คณะ คือ คณะวิศวกรรมศาสตร์และเทคโนโลยี คณะสัตวแพทยศาสตร์ และคณะบริหารธุรกิจ ถึงแม้จะมีแค่ 3 คณะแต่เป็น 3 คณะที่เจ๋งมากๆ เพราะหลักสูตรลงลึกแบบสุดทางในทุกคณะเลย จนล่าสุดได้ถูกจัดอันดับเป็นมหาวิทยาลัยเอกชน อันดับ 1 ของประเทศไทยในด้านนวัตกรรม สังคม และวิจัย อีกด้วย
นอกจากในเรื่องของหลักสูตรแล้ว เรื่องของการรับนักศึกษาเข้าไปเรียน และสถิติได้งานทำหลังเรียนจบ ที่นี้ก็ได้รับการพูดถึงเยอะมากๆ อาทิ เขาไม่ปิดโอกาสทางการศึกษา อย่างคณะวิศวกรรมศาสตร์ของที่นี่ก็เปิดรับทุกแผนการเรียนเลย ในแต่ละปีจะมีน้องๆ ม.6 ที่เพิ่งรู้ตัวว่าอยากเรียนวิศวฯ แต่เรียนแผนศิลป์มาก็เข้ามาเรียนและประสบความสำเร็จได้ หรือสถิติการได้งานทำหลังเรียนจบ ด้วยความที่หลักสูตรที่นี่เขาดูว่าตลาดต้องการอะไร และต้องการคนแบบไหน เขาก็นำเอามาออกแบบหลักสูตรเพื่อผลิตนักศึกษาออกมาแบบนั้น สถิติการได้งานทำหลังเรียนจบที่นี่จึงสูงถึง 95%
วันนี้ พี่ลาเต้ จะพาไปพูดคุยพิเศษกับ อาจารย์ตั้ว หรือ ผศ.ดร.ภานวีย์ โภไคยอุดม อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานคร เกี่ยวกับการเรียนการสอนที่นี่ และรวมถึงตอบปัญหาข้อสงสัยสำหรับน้องๆ ที่กำลังหาข้อมูลเรียนที่นี่ครับ
เขาจัดอันดับโดยไม่บอกเราเลย รู้อีกทีได้รางวัลแล้ว
พี่ลาเต้ : ก่อนอื่นที่เราจะไปพูดคุยเรื่องการเรียน เห็นว่ามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานครได้รับจัดอันดับให้เป็นมหาวิทยาลัยเอกชนอันดับ 1
อ.ตั้ว : ใช่แล้วครับ พี่ลาเต้ ถือเป็นอีกหนึ่งสถิติที่มหาวิทยาลัยของเราภูมิใจมาก เนื่องจากการจัดอันดับที่ว่านี้เขาเก็บข้อมูลได้เนียนมาก คือทางหน่วยงานจัดอันดับเขามาติดตามเก็บข้อมูลเองโดยไม่บอกมหาวิทยาลัยเลย มหาวิทยาลัยก็ไม่รู้ ก็ทำตัวปกติ มารู้อีกทีคือ เราได้รับรางวัลแล้ว เลยภูมิใจมากๆ เราได้รับการจัดอันดับจาก SCImago Institutions Rankings (SIR) 2021 ซึ่งถือเป็นการจัดอันดับสถาบันที่มีผลงานทางวิชาการและการวิจัยที่เป็นที่ยอมรับและมีชื่อเสียงระดับนานาชาติโดยมหาวิทยาลัยของเราก็ได้เป็นอันดับ 1 ของกลุ่มมหาวิทยาลัยเอกชน จากการสนับสนุนและต่อยอดผลงานการวิจัยของนักศึกษาทั้งในเชิงธุรกิจและเอื้อประโยนชน์ต่อสังคม รวมไปถึงมาตรการเชิงรุกด้านการวิจัย เทคโนโลยีและนวัตกรรมอย่างต่อเนื่องด้วยครับ
เปิดสอน 3 คณะ แต่หลักสูตรสุดทางทุกคณะ
พี่ลาเต้ : ทราบว่าที่นี่เปิด 3 คณะ และออกแบบหลักสูตรจากตลาดแรงงาน เป็นยังไงเหรอครับ ?
อ.ตั้ว : ทุกคณะทุกหลักสูตรของมหาวิทยาลัยเราตั้งขึ้นมาจากความต้องการของตลาดแรงงานครับ เรารู้ว่าตลาดแรงงานต้องการคนแบบไหน ก็ผลิตบัณฑิตออกมาให้ตรงกับความต้องการนั้น ส่งผลให้อัตราได้งานทำหลังเรียนจบของมหาวิทยาลัยเราสูงถึง 95% เลยทีเดียว ซึ่งสูงมากเมื่อเทียบกับมหาวิทยาลัยอื่นๆ ตอนนี้ที่มหาวิทยาลัยของเรามีเปิดสอนคณะวิศวกรรมศาสตร์และเทคโนโลยี คณะบริหารธุรกิจ คณะสัตวแพทยศาสตร์ ไปจนถึงหลักสูตรของ Mahanakorn University of Technology International College ที่มีสาขาให้เลือกเรียน ดังนี้ครับ
ข้อมูลหลักสูตรนานาชาติ
สำหรับปริญญาตรี วิศวกรรมศาสตร์ มี 5 สาขา
- วิศวกรรมสื่อสารและอิเล็กทรอนิกส์ Communication and Electronics Engineering
- วิศวกรรมโยธา Civil Engineering
- วิศวกรรมเครื่องกล Mechanical Engineering
- วิศวกรรมกระบวนการ Process Engineering
- วิศวกรรมคอมพิวเตอร์และปัญญาประดิษฐ์ Computer and Artificial Intelligence (Ai) Engineering
บริหารธุรกิจ มี 3 สาขา
- การตลาดยุคดิจิทัล Digital Marketing
- การจัดการและการเป็นผู้ประกอบการยุคดิจิทัล Management And Digital Entrepreneur
- โลจิสติกส์สากลและการจัดการอุตสาหกรรม Global Logistics and Industrial Management
ปริญญาโท บริหารธุรกิจ
- Master of Business Administration (M.B.A.)
ปริญญาโท วิศวกรรมศาสตร์ มี 3 สาขา
- Civil Engineering
- Mechanical Engineering
- Electrical Engineering
คณะวิศวกรรมฯ ที่นี่รับทุกแผนการเรียน
พี่ลาเต้ : จริงไหมครับ ที่วิศวกรรมศาสตร์ที่นี่รับทุกแผนการเรียนเลย ?
อ.ตั้ว : จริงครับ ที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานครของเราเน้นว่า ต้องการพัฒนาบุคลากรให้ได้คุณภาพมากที่สุด และต้องไม่ปิดโอกาสทางการศึกษา ที่ผ่านมาเราพบว่าน้องบางคนเพิ่งมารู้ว่าอยากเรียนวิศวตอน ม.6 แต่ตัวเองดันเรียนสายศิลป์รวมถึงน้องที่จบโรงเรียนอินเตอร์มา แต่เลือกวิชา A-Level หรือ IB ที่ไม่ตรงสาย เลยทำให้ต้องพักความฝันนั้นไป แต่ที่นี่เราให้โอกาสครับ ไม่ว่าจะจบสายอะไรมา ขอแค่รู้ตัวว่าอยากเรียนด้านนี้จริงๆ ก็เข้ามาเรียนได้เลยครับ หรือถ้าใครยังไม่แน่ใจเราก็ยังมีคนคอยให้คำปรึกษาเรื่องการเรียนทุกสาขาวิชาเลยครับ
พี่ลาเต้ : มีน้องๆ มากคำถามมาครับ คือกังวลว่าเรียนศิลป์แล้วมาเรียนวิศวะ จะไหวไหม จะถูกรีไทร์ไหม ?
อ.ตั้ว : ด้วยความที่เราอยากผลักดันความฝันของน้องๆ ทุกคนไม่ว่าจะจบสายอะไรมา ขอแค่มีความฝันและอยากเรียนจริงๆ ก็เดินเข้ามาที่นี่ได้เลยครับ ทางเราพร้อมซัพพอร์ตน้องๆ ทุกคนแน่นอน ไม่ปล่อยให้น้องๆ เรียนตามลำพังตัวใครตัวมันแน่นอน นี่คือความพิเศษของเราที่มีมากกว่าที่อื่นๆ เราจะมีทีมอาจารย์ที่ดูแลช่วยเหลือน้องๆ ด้านนี้โดยเฉพาะ อย่างวิศวจะมีอาจารย์ระดับท็อปมาปูพื้นฐานกันตั้งแต่ปี 1 กันเลยครับ
เครื่องมืออุปกรณ์จัดเต็มในทุกคณะ
พี่ลาเต้ : ขึ้นชื่อว่า ม.เอกชน ก็ต้องจัดเต็มเรื่องเครื่องมืออุปกรณ์ที่นี่ยังไงบ้างครับ
อ.ตั้ว : เราให้ความสำคัญทั้งหลักสูตรและอุปกรณ์เลยครับ ตลาดแรงงานเขาใช้แบบไหน เราใช้แบบนั้นในการเรียนการสอนเลย นักศึกษาทุกคนเลยมีประสบการณ์ได้ลองได้คุ้นเคยก่อน อุปกรณ์การเรียนที่นี่ก็กล้ารับประกันเลยว่า ครบครัน และทันสมัยที่สุดแห่งนึงเลย อย่างของคณะวิศวกรรมศาสตร์ที่มีพวกเทคโนโลยีต่างๆ ซึ่งเป็นสายจุดเด่นของเราเลย อย่างเช่นแขนกล 3D Printing processing Lab ก็คือเรียกได้ว่าเครื่องมือของเราไฮเทคมากๆ ครับ
พี่ลาเต้ : สุดท้าย ฝากอะไรถึงน้องๆ กำลังจะมาเรียนที่นี่หน่อยครับ
อ.ตั้ว : ยินดีต้อนรับน้องๆ นักเรียนทุกคนที่สนใจเข้ามาเรียนที่นี่นะครับ ขอแค่มีความฝันและอยากเรียน เราพร้อมสนับสนุนเต็มที่ เรียนสายอะไรก็ได้เราพร้อมสร้างให้ทุกคนเป็นนวัตกรที่มีคุณภาพครับ
เรียกได้ว่าเป็นมหาวิทยาลัยที่แน่นไปด้วยคุณภาพมากๆ มีแค่วิศวฯ บริหารฯ และสัตวฯ แต่หลักสูตรอุปกรณ์จัดเต็มมาก แถมสถิติการได้งานทำก็สูงมากด้วย พี่ลาเต้ชอบประโยคหนึ่งที่ว่า "เราพร้อมสร้างให้ทุกคนเป็นนวัตกรที่มีคุณภาพ" ไม่เคยเจอประโยคนี้จากที่ไหนเลย ฟังแล้วเห็นภาพตอนเรียนจบเลย และหลักสูตรที่นี่ก็การันตีด้วยรางวัล ม.เอกชนอันดับ 1 ด้านนวัตกรรม สังคม และวิจัยอีกด้วย
สุดท้ายนี้ การเรียนในมหาวิทยาลัยคือ การเรียนในวิชาที่เราสนใจ เรียนแบบเข้มขึ้น ลึกขึ้น และวิชาเหล่านั้นก็จะปูทางไปสู่อาชีพของเราในอนาคตครับ ดังนั้น อย่าลืมค้นหาตัวเองให้เจอนะครับ เราอยากเรียนหรือเหมาะกับคณะไหน และดูมหาวิทยาลัยว่าที่ไหนปั้นหรือสอนเราให้เป็นแบบนั้นได้ ส่วนใครที่มีเป้าหมายว่า อยากเรียนในคณะที่ชอบ ในมหาวิทยาลัยที่เก่งๆ และปั้นให้เราเป็นคนที่เก่งและเชี่ยวชาญในด้านนั้นได้ ชื่อของ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานคร เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ตรงโจทย์แทบทุกข้อ และน่าสนใจมากๆ ครับ สวัสดีครับ
เข้าดูข้อมูลหลักสูตร และการสมัครเรียน ม.เทคโนโลยีมหานคร ได้ทาง www.mut.ac.th
0 ความคิดเห็น