เส้นทางนักเขียนไม่ง่าย!
รวม 5 ความท้าทายที่คุณต้องรู้
(และวิธีรับมือกับมัน)
ใครว่าเป็นนักเขียนมันง่าย ไม่จริง!
การเป็นนักเขียนย่อมีอุปสรรรคที่เราต้องเผชิญ กว่าจะประสบความสำเร็จได้ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะงั้นมันสำคัญมากๆ ที่เราต้องรู้จัก “ความท้าทาย” หรือ “อุปสรรค” ที่จะเข้ามาขัดขวางเราบนเส้นทางนักเขียน ทั้งอุปสรรคที่ทำให้เราเขียนนิยายไม่จบ หรืออุปสรรคที่ทำให้เราไม่ได้เขียนนิยาย ไม่ว่าคุณจะเป็นนักเขียนมือใหม่ หรือเป็นนักเขียนที่มากด้วยประสบการณ์ ทุกคนล้วนเจอความท้าทายแน่นอน
และนี่คือความท้าทายบางส่วนที่คาดว่าจะเจอ พร้อมวิธีรับมือกับมัน
01 ความกลัว
คุณเคยมีความคิดเหล่านี้มั้ย?
- ใครจะอยากอ่านในสิ่งที่ฉันเขียน?
- เขียนไปก็ไม่มีคนอ่าน ไม่ต้องเขียนหรอก
- ถ้ามีคนบอกว่านิยายฉันไม่สนุกล่ะ จะเป็นยังไง?
- ฉันจะเขียนนิยายได้ดีจริงๆ หรอ?
เชื่อว่านักเขียนหลายคนต้องเคยเผชิญหน้ากับความกลัวและความสงสัยในตนเอง หลายครั้งที่การเขียนนิยายของเราไม่ประสบผลสำเร็จ เพราะเรานำความกลัวมาครอบงำ เมื่อเรากลัว เราก็จะไม่ยอมลงมือเขียนสักที
และความกลัวคือความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่เราต้องเอาชนะให้ได้ ใครจะไปรู้ ความกลัวเหล่านั้นอาจเป็นแค่สิ่งที่เราคิดมากและกังวลไปเอง
วิธีรับมือกับความท้าทายนี้
แรกเริ่มเลยคือ เราต้องกล้าหาญเข้าไว้ และหาเพื่อนร่วมอุดมการณ์ด้วย เป็นเรื่องปกติที่เราจะรู้สึกกลัวเมื่อเริ่มเขียน และยิ่งรู้สึกประหม่าเวลาจะแบ่งปันงานเขียนให้ใครสักคนอ่าน แต่การมีเพื่อนร่วมอุดมการณ์ มีทีม เป็นหนึ่งในสิ่งที่ดีที่สุดที่ช่วยให้เรามีไฟเขียนจนจบ คนส่วนใหญ่คิดว่าตนเองสามารถเขียนนิยายให้จบได้ด้วยตัวเอง โดยไม่ต้องการแรงสนับสนุน และนั่นเป็นสาเหตุที่นักเขียนส่วนใหญ่จะล้มเหลว
เมื่อคุณมีเพื่อนที่ใช่ พวกเขาจะให้กำลังใจคุณในยามที่คุณรู้สึกสงสัยในตัวเอง พวกเขาจะช่วยเหลือคุณเมื่อคุณมีปัญหา และพวกเขาจะบอกคุณให้เขียนต่อในวันที่คุณรู้สึกอยากเลิกเขียน
หากคุณยังไม่มีเพื่อนร่วมอุดมการณ์ คุณต้องมีแล้วนะ
02 ไม่มีเวลาเขียน
เคยเป็นเหมือนกันมั้ย อยากเขียนนิยายแต่ไม่มีเวลาเขียน
- สัปดาห์นี้ยุ่งมาก ไม่มีเวลาเลย…
- เดี๋ยวค่อยเขียนวีคหน้าดีกว่า ไม่ยุ่งขนาดนี้
- ขอเขียนตอนมีไฟละกัน
- เดี๋ยวเขียนตอนลาออก จะได้มีเวลามากขึ้น
แต่อย่างที่รู้กันดี เราทุกคนล้วนมีเวลาเท่ากัน 24 ชั่วโมง แต่ขึ้นอยู่กับการจัดสรรเวลาของแต่ละคนว่าจะแบ่งเวลายังไงให้ได้เขียนนิยาย เป็นเรื่องปกติที่เรามักจะยุ่งๆ อยู่กับบางสิ่งบางอย่าง แต่ถ้าเราไม่หาเวลามาเขียน ข้อแก้ตัวก็จะมีมาเรื่อยๆ จนในที่สุดเราก็ไม่ได้เขียนมัน
ที่สำคัญ การเขียนนิยายให้จบทั้งเล่มไม่ได้เกิดขึ้นใน 1 วันด้วย One Night Miracle ไม่มีอยู่จริงสำหรับเรื่องนี้ การเขียนนิยายให้จบต้องใช้เวลา อาจจะหลักเดือนหรือหลักปี แน่นอนว่าปัญหาที่นักเขียนหลายคนเจอคือ “ไม่มีเวลาเขียน” ดังนั้นเราควรวางกลยุทธ์เพื่อหาเวลาที่เราต้องการ
วิธีรับมือกับความท้าทายนี้
ถ้าคุณต้องการเขียนนิยาย จงให้ความสำคัญกับการเขียนเป็นอันดับต้นๆ
ดูตารางเวลาและวางแผนให้ชัดเจนเลยว่า เราจะเขียนนิยายที่ไหนและเมื่อไหร่ในตารางที่พอแทรกได้ในชีวิตประจำวัน อาจจะตี 5 ที่โต๊ะในครัว เป็นเวลา 5 วันต่อสัปดาห์ หรืออาจเขียนตอนพักกลางวัน หรือหลังจากที่เด็กๆ เข้านอน บางทีเราอาจต้องเสียสละบางอย่างเพื่อได้เวลานั้นมาเขียนนิยาย เช่น เวลาดูทีวีในตอนเย็น
สิ่งสำคัญคือ ให้กำหนดความตั้งใจของเราสำหรับเวลาในการเขียน จากนั้นทำตามมัน
หากเราต้องการเวลามากขึ้น ให้มองหาช่องว่างสัก 2-3 นาทีตลอดทั้งวันของเรา เช่น ตอนอยู่บนบีทีเอส ตอนนั่งรถเมล์กลับบ้าน ตอนต่อแถวซื้ออาหาร ให้จดจดไอเดียสิ่งที่เราจะเขียนไว้ และเมื่อเรามีเวลาเขียน ก็ค่อยนั่งเขียนต่อ
จริงอยู่ที่คุณอาจไม่ว่างและไม่มีเวลาเขียนนิยาย แต่เมื่อลองคิดดีๆ คุณยังมีเวลามากกว่าที่คุณคิด ตราบเท่าที่ต้องใช้เวลาในการเขียนนิยายของคุณ ให้เลือกจัดลำดับความสำคัญในการเขียนและยัดมันลงไปในทุกที่ที่เหมาะสม
03 อยากให้นิยายสมบูรณ์แบบ
นิยายที่อยู่ในจินตนาการของเรายอดเยี่ยมมาก ดูสนุกมาก! ฉลาดหลักแหลม! อัจฉริยะ! หากนักวิจารณ์สามารถอ่านนิยายที่อยู่ในหัวเราได้ตอนนี้ บอกเลยว่าคุณจะอยู่ในอันดับต้นๆ ของรายชื่อหนังสือขายดี Newyork Times อย่างไม่ต้องสงสัย
และเมื่อคุณนั่งลงเพื่อเขียน คำพูดก็ไม่ออกมาอย่างที่คุณคิด ความคิดตีกันในหัว คำที่ออกมาก็ดูงงๆ ไม่สวยงาม ไม่มีตรงไหนที่ใกล้เคียงกับหนังสือขายดีที่คุณใฝ่ฝันถึง!
แต่อย่าเศร้าไปเลยค่ะ ร่างแรกของใครๆ ก็เป็นแบบนี้ทั้งนั้น คุณไม่จำเป็นต้องให้ร่างแรกของคุณสวยหรูหรือสมบูรณ์แบบ เพราะมันไม่มีวันเป็นในแบบที่คุณต้องการ หากเราพยายามเขียนนิยายที่สมบูรณ์แบบในครั้งแรก เราจะเขียนนิยายไม่จบ เพราะเรามัวแต่ลบๆ แก้ๆ จนกว่าจะรู้สึกพอใจ ทางที่ดีคือควรเขียนร่างแรกให้จบๆ ไปก่อน แล้วค่อยกลับมาแก้ไขใหม่ในภายหลัง
ความจริงก็คือ ร่างแรกมันจะเละๆ หน่อยแหละ แต่นั่นคือสิ่งทีมันควรจะเป็น
วิธีรับมือกับความท้าทายนี้
ขั้นตอนแรกในการเอาชนะความสมบูรณ์แบบคือ อนุญาตให้ตัวเองเขียนแย่ๆ ได้
ก่อนเขียนนิยาย คุณควรปรับมายเซ็ตของตัวเองก่อนว่า “ในโลกนี้ไม่มีอะไรที่สมบูรณ์แบบ” สิ่งสำคัญคือการเขียนร่างแรกให้จบ แล้วค่อยกลับมาแก้ไขรีไรต์ให้ดีขึ้นในภายหลัง พอเราอนุญาตตัวเองให้เขียนทุกอย่างที่อยากจะเขียนลงไป โดยไม่สนว่าสำนวนจะห่วยแค่ไหน หรือเนื้อเรื่องยังไม่เชื่อมโยงมากนัก ถือว่าเราเอาชนะความสมบูรณ์แบบไปอีกขั้น
อนุญาตให้ตัวเองได้ปลดปล่อยจินตนาการและเขียนมันอย่างไหลลื่น จนกระทั่งเราเขียนไปจนจบ ค่อยย้อนกลับมาอ่านและแก้ไข ปรับปรุงมันให้ดีขึ้น เราสามารถรีไรต์มันจนกว่าจะพอใจ เพราะยังไงเราก็เขียนมันจบแล้ว
แต่สิ่งสำคัญที่เราต้องจำก็คือ ร่างแรกของเราไม่สมบูรณ์แบบหรอก
04 ตัน ไม่รู้จะไปต่อยังไง
อ้าว เขียนอะไรต่อดี?
เชื่อว่าหลายคนเคยเป็นแบบนี้ เขียนอยู่ดีๆ ก็เกิดอาการชะงัก คิดอะไรไม่ออก หมดไอเดียกะทันหัน ต่อให้ตั้งคำถามกับตัวเองซ้ำๆ ว่าควรเขียนอะไร ก็ไม่ได้คำตอบอยู่ดี อาการตันเป็นสิ่งที่นักเขียนหลายคนเผชิญ และเชื่อเถอะ ไม่มีใครอยากตันหรอก มันทำให้เรารู้สึกสับสน งงงวย และทำให้การเขียนของเราล่าช้าขึ้น แน่นอนว่าการไม่สามารถคิดไอเดียใหม่ๆ ออกมาได้เป็นเรื่องที่เครียด และสำหรับบางคน อาการตันอาจอยู่กับเราเป็นหลักวันหรือสัปดาห์เลยก็ได้
วิธีรับมือกับความท้าทายนี้
วิธีที่ดีที่สุดที่จะเอาชนะอาการตัน คือหยุดเพ่งความสนใจไปที่ปัญหานี้!
หากคุณรู้สึกติดขัด คุณจำเป็นต้องหาวิธีที่จะเพ่งความสนใจไปที่สิ่งอื่น อาจจะลองหยิบหนังสือมาอ่าน หรือฟังความคิดของคนอื่นๆ มันจะช่วยกระตุ้นให้เราได้ไอเดียใหม่ๆ แต่ถ้าเรายังมัวจดจ่อกับมัน ก็จะทำให้เรายิ่งตันมากขึ้นเรื่อยๆ
นอกจากนี้ อีกวิธีที่น่าสนใจคือการเขียนพล็อตอย่างละเอียด ทำทรีตเมนต์ในแต่ละตอน มันจะช่วยให้เราเห็นภาพชัดมากขึ้นว่าฉากที่เราเขียนเป็นอย่างไร แต่ถ้าหากคุณมีไอเดียที่แน่นอยู่แล้ว แต่เมื่อเขียนจริงกลับตัน ไม่เป็นอย่างที่คิด หากเป็นเช่นนั้น บางครั้งเราก็ต้องเต็มใจที่จะทิ้งแผนดั้งเดิม แล้วเปิดกว้างสำหรับความคิดใหม่ๆ
05 เขียนให้จบ
รู้มั้ย อะไรคือความท้าทายสุดท้ายในการเขียนนิยาย?
มันคือการเขียนให้จบไงล่ะ!
กว่าจะเริ่มเขียนนิยายได้ ก็ต้องเอาชนะความกลัว แต่เขียนไปเขียนมา ดันเขียนไม่จบสักที บ้างก็เทกลางคัน บ้างก็ออกทะเล พยายามทำให้จบแล้วแต่จบไม่ได้ เชื่อว่านักเขียนหลายคนเคยเจอปัญหานี้เหมือนกัน เรียกได้ว่าปัญหาเขียนไม่จบอยู่คู่กับนักเขียนสุดๆ
เพื่อจบปัญหานี้ แรกสุดเราต้องรู้ก่อนว่า อะไรคือสาเหตุที่ (คาดว่า) ทำให้เราเขียนนิยายไม่จบ? ลิสต์ออกมาให้หมดทั้งข้ออ้าง ความกลัว ความกังวล จากนั้นค่อยจัดการไปทีละอย่าง แต่เราอยากให้คุณระลึกไว้กับตัวเองเสมอว่า คุณมาไกลขนาดไหนแล้ว จะมามัวเทเอาทีหลังไม่ได้!
วิธีรับมือกับความท้าทายนี้
เอาละ บอกตัวเองก่อนว่า คุณเก่งมากที่ก้าวข้ามผ่านความกลัวด้วยการลงมือเขียนนิยายสักที คุณมาไกลได้แค่ไหนแล้ว ดูสิ คุณยอดเยี่ยมมาก เพราะงั้น ฮึ้บสู้อีกหน่อยก็จะถึงตอนจบแล้ว!
สิ่งที่คุณต้องการคือกลยุทธ์ คุณอาจจะลองวิธีเหล่านี้ดูก็ได้
- ตอบคำถามเหล่านี้ก่อน : ดูว่าเหลืออีกกี่หน้ากว่าจะจบ อีกไม่กี่ฉากกว่าจะถึงตอนจบ? อีกกี่ตอนที่ต้องเขียน?
- ร่างตอนจบไว้ก่อน : ก่อนที่คุณจะเริ่มต้นเขียน เราขอแนะนำให้คุณกำหนดพล็อตคร่าวๆ ไว้ จากนั้นเขียนตอนจบก่อน เพราะตอนจบจะช่วยให้เรามองเห็นภาพชัดขึ้นว่านิยายควรไปทิศทางไหน
- ทิ้งความสมบูรณ์แบบ : ตอนจบของเราไม่จำเป็นต้องสมบูรณ์แบบ แค่เราต้องลองเขียนมัน อนุญาตให้ตัวเองเขียนแม้มันจะเป็นตอนจบที่ยุ่งเหยิง แปลกประหลาด และไม่สมบูรณ์ แต่ไม่เป็นไร เราสามารถแก้ไขมันได้ในภายหลัง
……………………
การเขียนนิยายเป็นความท้าทายอย่างมาก หากคุณเคยสงสัยกับตัวเองว่า คุณมีคุณสมบัติพอมั้ยที่จะเป็นนักเขียน ก่อนอื่นเราอยากให้คุณรู้ว่า คุณไม่ได้อยู่คนเดียวนะ ยังมีนักเขียนหลายคนที่ในตอนแรกกลัวการเริ่มต้น หรือแม้กระทั่งเขียนนิยายแล้วตัน และส่วนใหญ่พวกเขาก็มีคำถามเดียวกันนี้ ที่แย่ไปกว่านั้น ความสงสัยหรือคำถามเหล่านี้ไม่ได้หายไปแม้ในตอนที่พวกเขาเขียนนิยายแล้ว ถึงกระนั้นพวกเขาก็ยังฝ่าฟันเขียนนิยายให้จบ และเราเชื่อว่าคุณก็ทำได้เหมือนกัน เริ่มต้นเขียนนิยายให้จบเลย
หากสนใจเคล็ดลับการเขียนหรืออยากเป็นนักเขียนที่เก่งขึ้น สามารถกดติดตามรวมบทความเด็ดได้ที่ "เปิดคัมภีร์! ส่งต่อเคล็ดลับที่จะทำให้การเขียนนิยายของคุณกลายเป็นเรื่องง่าย!" เชื่อว่าน่าจะมีเคล็ดลับการเขียนที่ตรงใจทุกคนอยู่แน่ๆ ค่ะ
พี่น้ำผึ้ง : )
ขอบคุณรูปภาพจาก freepik / unsplash
0 ความคิดเห็น