วิจัยเผยสูดฝุ่น PM2.5 เสี่ยงทำให้เกิดสมองเสื่อม ซึมเศร้า หนักสุดอาจโง่ลงและเสียชีวิตได้!

โรคภูมิแพ้กำเริบจนทนไม่ได้

หมอก็ขอให้หนีจากกรุงเทพไป

แต่ก็ไม่รู้จะหนีไปไหนเพราะเกือบทุกจังหวัดก็มีแต่ฝุ่น PM2.5

“เมืองหลวงควันและฝุ่นมากมาย พี่สูดดมเข้าไปร่างกายก็เป็นภูมิแพ้” นอกจากภูมิแพ้แล้วบอกเลยว่ายังมีโรคอื่นๆ ตามมาอีกแน่นอน แม้ไม่เคยสูบบุหรี่ก็เป็นโรคมะเร็งปอดได้ เพราะตอนนี้เกือบทุกจังหวัดในประเทศไทยก็หนีไม่พ้นกับฝุ่น PM2.5 ที่คอยกวนใจเราอยู่ทุกวัน ซึ่งส่งผลกระทบต่อสุขภาพและเป็นสาเหตุให้เกิดโรคระบบทางเดินหายใจเรื้อรังอีกด้วย

ฝุ่น PM2.5 เป็นฝุ่นละอองขนาดเล็ก ซึ่งขนจมูกของเราไม่สามารถกรองมันได้ และมันจะสามารถลอยในอากาศได้นาน แถมอาจจะมีสารพิษเกาะติดมาด้วย นอกจากปัจจัยด้านการเผาไหม้เชื้อเพลิงที่ทำให้เกิด ฝุ่น PM2.5 อีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดคือ สภาพภูมิอากาศ หรือแม้แต่กิจกรรมในครัวเรือนก็ส่งผลให้เกิดได้เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นการสูบบุหรี่ การจุดธูปเทียน ไอเสียจากรถยนต์หรือการจราจร อากาศพิษจากโรงงานอุตสาหกรรมและโรงงานไฟฟ้า 

โดยเช้านี้ (5 กพ 67) ศูนย์ข้อมูลคุณภาพอากาศกรุงเทพฯ รายงานสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5) ของสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศของกรุงเทพฯ เวลา 07.00 น. ค่าเฉลี่ย 24 ชั่วโมง ของฝุ่น PM2.5 ตรวจวัดได้ 20.2-47.6 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) พบว่า เกินมาตรฐานอยู่ในระดับสีส้ม เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ และสถานการณ์ฝุ่นทั่วไทย ภาพรวมในประเทศพบฝุ่น PM2.5 เกินค่ามาตรฐาน 35 จังหวัด

ฝุ่นพิษตัวร้าย ยิ่งสะสม ยิ่งมีความเสี่ยง!

ผศ.นพ.สุรัตน์ ตันประเวช แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านประสาทและสมอง ม.เชียงใหม่ เผยผลวิจัย PM2.5 สามารถส่งผลกระทบต่อโครงสร้างสมองของเด็กและผู้ใหญ่ได้ ซึ่งจะทำให้สมองของเด็กถูกลดพัฒนาการลง ส่งผลต่อความฉลาด ด้านความจำและความคิดเร็วมีการเปลี่ยนแปลง ส่วนในวัยผู้ใหญ่มีความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดภาวะสมองเสื่อม และ stroke โดยเฉพาะคนสูงวัย

งานวิจัยเรื่องมลพิษทางอากาศ โดยสำนักบริหารมหานครลอนดอน (Greater London Authority) พบว่า การรับมลพิษทางอากาศจากฝุ่นละอองขนาดเล็กเข้าสู่ร่างกาย อาจนำไปสู่การแท้งลูกในหญิงตั้งครรภ์ เป็นสาเหตุของภาวะสเปิร์มลดปริมาณลง และยับยั้งการเจริญเติบโตของปอดในเด็ก ส่วนอันตรายต่อสุขภาพในวัยผู้ใหญ่ อาจป่วยเป็นโรคเรื้อรัง มะเร็ง หรือภาวะสมองขาดเลือด

กลุ่มนักวิจัยต่างสถาบัน นำโดย นักวิจัย Xi Chen จากมหาวิทยาลัย Yale University ทำการวิจัย มลภาวะเมืองหลวงมีผลให้สมองของมนุษย์มีการเรียนรู้ถดถอยอย่างไร ที่กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งพบว่า ผู้คนที่อาศัยอยู่ใกล้ถนนที่มีการจราจรคับคั่งตลอดวัน มีแนวโน้มเป็นโรคความจำเสื่อมแบบ demantia และโดยเฉพาะสมองเด็กๆ ที่ได้รับผลกระทบจากมลภาวะซึ่งเห็นได้อย่างชัดเจน คือเด็กๆ ที่อยู่ในช่วงวัยกำลังเรียนรู้ หากอยู่ในพื้นที่มีระดับไนโตรเจนไดออกไซด์เข้มข้น มีโอกาสเป็นโรคสมาธิสั้น (ADHD) โรคซึมเศร้า และภาวะวิตกกังวล

ฝุ่น PM2.5 สามารถเล็ดลอดจากระบบการป้องกันสิ่งแปลกปลอมเข้าสู่ร่างกาย และแทนที่มันจะสามารถกำจัดออกไปเมื่อเราหายใจออก แต่มันกลับเข้าไปติดอยู่ในปอดหรือระบบเส้นเลือด ทำให้เกิดการระคายเคือง อักเสบในระบบทางเดินหายใจ ซึ่งการสัมผัสกับฝุ่นพิษ เป็นสาเหตุของการเกิดโรคมะเร็ง โรคหัวใจ และหัวใจวาย และยังสามารถก่อให้เกิดภาวะภูมิแพ้ที่รุนแรง โดยมลพิษชนิดนี้ทำให้อาการโรคหอบหืดรุนแรงขึ้น และการศึกษาพบว่าการสัมผัสมลพิษเป็นระยะเวลานาน เพิ่มโอกาสเสี่ยงของการเสียชีวิตจากระบบหายใจล้มเหลว

นอกจากนี้ ยังมีงานวิจัยของนักวิทยาศาสตร์ที่สถาบันฟรานซิส คริก ในลอนดอน เมื่อปี 2022 ซึ่งค้นพบการอธิบายกลไกของมลพิษทางอากาศขนาดเล็กที่อาจเป็นสาเหตุทำให้เกิดโรคมะเร็งปอดในคนที่ไม่เคยสูบบุหรี่มาก่อน 

อีกทั้ง ยังก่อให้เกิดการระคายเคืองบริเวณดวงตา แสบตา ทำให้เกิดตาแดง ตาอักเสบได้ ทำให้ผิวหนังอักเสบ ระคายเคืองง่าย ไวต่อการแพ้ เป็นโรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง และทำให้เกิดปัญหาผิวต่างๆ มากมาย เช่น ปัญหาสิว ผิวมัน  ปัญหาริ้วรอย ปัญหาจุดด่างดำ ความหมองคล้ำ

ซึ่งเมื่อร่างกายของเราสะสมฝุ่น PM2.5 ในปริมาณมาก ก็จะส่งผลกระทบต่อร่างกายและสุขภาพ ถึงแม้มันจะเป็นฝุ่นละอองตัวจิ๋ว แต่ภัยของมันไม่ได้เล็กจิ๋วตามไปด้วยนะ เพราะเมื่อเราสูดมันเข้าไปในระบบทางเดินหายใจ มลพิษที่มากับฝุ่นสามารถเข้าสู่กระแสเลือด และแทรกซึมสู่กระบวนการทำงานในอวัยวะต่างๆ ของร่างกาย เพิ่มความเสี่ยงเป็นโรคเรื้อรัง อีกทั้ง ยังส่งผลกระทบต่อระบบเผาผลาญในร่างกายและยิ่งเราสะสมในปริมาณมากเท่าไรก็จะยิ่งเพิ่มความเสี่ยงจนอาจทำให้เสียชีวิตได้!