รวม! ข่าวเด่น ปี 2024 เผื่อออกสอบ TCAS68

สวัสดีค่ะน้องๆ ชาว Dek-D อีกไม่กี่เดือน #dek68 จะสอบ A-Level หลายคนน่าจะเริ่มเตรียมตัวกันไปบ้างแล้ว อ่านเนื้อหาแค่ในหนังสือเรียนอาจไม่พอ ข่าวสารต่างๆ ก็เป็นอีกหนึ่งเนื้อหาที่อยากให้น้องๆ ติดตามกัน เพราะปีนี้มีข่าวหลากหลายประเด็นที่อาจถูกหยิบมาออกข้อสอบ TCAS68  

นอกจากข้อสอบ A-Level แล้ว ข่าวเหล่านี้ก็อาจออกในข้อสอบที่ทางมหาวิทยาลัยจัดสอบเองอีกด้วย เตรียมปากกา กระดาษมาจดให้พร้อม คอลัมน์ ‘รู้ไว้เผื่อออกสอบ’ เก็งประเด็นที่น่าออกข้อสอบไว้ให้แล้ว มีอะไรบ้างที่น่าสนใจ ไปดูกัน!  

รวม! ข่าวเด่น ปี 2024 เผื่อออกสอบ TCAS68
รวม! ข่าวเด่น ปี 2024 เผื่อออกสอบ TCAS68

1. ดิจิทัลวอลเล็ต  (Digital wallet)  

แน่นอนว่าเรื่องที่เป็นกระแสตลอดปีที่ผ่านมา คงหนีไม่พ้นเรื่อง ‘เงินดิจิทัลวอลเล็ต’ ซึ่งเป็นนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของพรรคเพื่อไทยที่ใช้หาเสียงในการเข้าสู่ยุครัฐบาลดิจิทัล แนวคิดของนโยบายนี้ คือ จะให้เงินดิจิทัล 10,000 บาท แก่ประชาชนทุกคน โดยกำหนดให้ประชาชนที่มีอายุตั้งแต่ 16 ปีขึ้นไป ต้องมีเงินเดือนหรือรายได้ไม่เกิน 70,000 บาท มีเงินฝากทุกบัญชีน้อยกว่า 500,000 บาท และใช้จ่ายภายในอำเภอตามทะเบียนบ้าน สำหรับการซื้อของอุปโภคบริโภคเท่านั้น

โดยดิจิทัลวอลเล็ตเฟสแรก จ่ายเป็นเงินสดให้กลุ่มเปราะบาง (ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและคนพิการ) ก่อน โดยไม่มีเงื่อนไข เริ่มวันแรกเมื่อวันที่ 25 กันยายน 2567 ส่วนดิจิทัลวอลเล็ต เฟส 2 สำหรับกลุ่มคนที่ลงทะเบียนผ่านแอปทางรัฐ คาดว่าจะจ่ายไม่ทันภายในปี 2567 นี้ เนื่องจากติดปัญหาเรื่องระบบ ซึ่งขณะนี้ก็ยังไม่มีกำหนดวันที่แน่ชัด ต้องรอติดตามกันต่อไป  

แนวข้อสอบดิจิทัลวอลเล็ต  

สำหรับข่าวนี้เป็นเนื้อหาที่น่าออกสอบในวิชาสังคมศึกษา พาร์ตเศรษฐศาสตร์ แนะนำให้น้องๆ ศึกษาเรื่อง

2. ภาวะโลกรวน (Climate Change)

ภาวะโลกรวน คือ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของโลกที่แปรปรวนรุนแรง และเกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติต่างๆ  เช่น โลกเดือด ฝนหลงฤดู พายุ ไฟป่า คลื่นความร้อน และธารน้ำแข็งละลาย เห็นได้ชัดเจนจากปี 2024 ที่ยังไม่หมดปี แต่โลกรวนให้เห็นแบบสุดขั้ว ทั้งร้อนสุดขีด แล้งจัด ฝนตกหนัก และน้ำท่วมสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ซึ่งสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดโลกรวนก็คือก๊าซเรือนกระจกที่มีปริมาณมากจนโลกไม่สามารถรักษาสมดุลไว้ได้  

หนึ่งในเหตุการณ์ที่ได้รับผลกระทบจากภาวะโลกรวน เช่น ข่าวน้ำท่วมใหญ่ ทางตอนใต้ของบราซิล เมื่อเดือนเมษายน-พฤษภาคมที่ผ่านมา เนื่องจากพายุฝนที่ตกหนัก 420 มิลลิเมตร ตลอดระยะเวลาประมาณ 10 วัน จนสร้างความเสียหายเป็นวงกว้าง โดย “ฟรานซิสโก เอลิซู อากีโน” นักอุตุนิยมวิทยา เผยว่า พายุฝนที่รุนแรงทางตอนใต้ของบราซิล เกิดจากสภาพอากาศโลกแปรปรวนรุนแรง และปรากฏการณ์เอลนีโญ ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมใหญ่ขึ้นมานั่นเอง

อีกหนึ่งเหตุการณ์ คือ ข่าวไฟป่าประเทศชิลี  เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ สาเหตุมาจากชิลีตั้งอยู่ในทวีปอเมริกาใต้ที่กำลังเผชิญกับคลื่นความร้อนรุนแรง ผนึกกำลังความร้อนกับภัยแล้งจากเอลนีโญ ทำให้ชิลีอากาศร้อนถึง 36 องศาติดต่อกันหลายวัน ส่งผลให้พื้นที่ภาคกลางกลายเป็นสัปดาห์ที่ร้อนที่สุดเท่าที่เคยมีมา ทำให้จากที่ไฟไหม้แค่จุด 4 จุด ก็ลุกลามมอดไหม้ป่าอย่างรวดเร็วถึง 161 จุด นอกจากนี้ ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ชิลีประสบภัยแล้งติดต่อกันเป็นเวลานาน ผืนป่าแห้งแล้ง ปริมาณน้ำลดลงเหลือ 10-37 % ในรอบ 30 ปีอีกด้วย

แนวข้อสอบภาวะโลกรวน

ข่าวภาวะโลกรวนเป็นเนื้อหาที่น่าออกสอบในวิชาสังคมศึกษา พาร์ตภูมิศาสตร์ หัวข้อ ‘ภัยพิบัติทางธรรมชาติ’ ซึ่งเป็นหัวข้อที่ออกสอบทุกปี แนะนำให้น้องๆ อ่านเรื่อง

3. ระเบิดฝน (Rain bomb)

 ข่าวนี้น้องๆ อาจจะยังไม่คุ้นหูกันเท่าไหร่ เพราะเป็นคำศัพท์ใหม่ที่ยังไม่ถูกใช้อย่างเป็นทางการ Rain bomb  คือ ปรากฏการณ์ฝนตกกระหน่ำอย่างไม่ลืมหูลืมตา มีลักษณะการตกในระยะเวลาสั้น ๆ แต่ตกหนักในพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่งถี่มากขึ้น ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน ทั้งนี้ Rain Bomb อาจแฝงมาพร้อมพายุฝนฟ้าคะนอง และจะเกิดบ่อยขึ้นเรื่อยๆ ในยุคโลกเดือด เพราะเมื่อมหาสมุทรร้อนจะทำให้น้ำระเหยมากขึ้น ส่งผลให้อากาศร้อนเพิ่มขึ้น เมื่อเมฆมีน้ำอยู่มากก็พร้อมจะทะลักทลายจากบนฟ้าในช่วงสั้นๆ นั่นเอง  

ตัวอย่างเช่น เหตุการณ์น้ำท่วมภูเก็ต เมื่อวันที่ 30 มิถุนายนที่ผ่านมา มีฝนตกหนักต่อเนื่องติดกันถึง 4 ชั่วโมง และตกแช่จุดเดิม ทำให้มีปริมาณน้ำฝนมากถึง 330 มิลลิเมตร ประกอบกับมวลน้ำป่าไหลหลากมาจากเทือกเขาและระบายไม่ทัน ส่งผลให้เกิดสถานการณ์น้ำท่วมในหลายพื้นที่ ได้แก่ อ.เมืองภูเก็ต อ.กะทู้ อ.ถลาง นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม เกิดดินถล่ม ที่ ต.กะรน อ.เมือง จ.ภูเก็ต เนื่องจาก Rain Bomb ฝนตกเพียงไม่กี่ชั่วโมง แต่ปริมาณน้ำฝนมากถึง 200 กว่า มิลลิเมตร ทำให้แผ่นดินที่อุ้มน้ำ ชุ่มน้ำอยู่สไลด์ลงมา สร้างความเสียหายให้กับประชาชน

แนวข้อสอบ Rain bomb

ปรากฏการณ์ Rain bomb ก็เป็นอีกเรื่องที่น่าออกสอบในวิชาสังคมศึกษา พาร์ตภูมิศาสตร์ หัวข้อ ‘ภัยพิบัติทางธรรมชาติ’ เหมือนกัน  แนะนำให้น้องๆ อ่านเรื่อง

4. ปลาหมอคางดำ (Blackchin tilapia)

จากกรณีที่ประเทศไทยพบการระบาดของปลาหมอคางดําในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะในภาคใต้ จังหวัดสงขลาและนครศรีธรรมราช จนสร้างความเดือดร้อนให้เกษตรกร และกระทบต่อระบบนิเวศทางน้ำ หลายคนสงสัยว่า ปลาหมอคางดำเข้ามาในประเทศไทยได้อย่างไร และเข้ามาตั้งแต่ตอนไหน เรื่องนี้ สำนักข่าวอิศรา เคยรายงานว่า

  • พ.ศ. 2549 คณะกรรมการด้านความหลากหลายและความปลอดภัยทางชีวภาพของกรมประมง (IBC) อนุญาตให้บริษัทนำเข้าปลาหมอคางดำเข้ามาเพื่อปรับปรุงสายพันธุ์ปลานิล
  • พ.ศ. 2553 บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) ได้นำปลาหมอคางดำจำนวน 2,000 ตัว มาเลี้ยงที่ จ.สมุทรสงคราม โดยระบุว่าตายเกือบทั้งหมดและได้ทำการกำจัดทิ้งแล้ว พร้อมแจ้งให้กรมประมงทราบด้วยวาจา แต่ไม่ได้จัดทำรายงานอย่างเป็นทางการและเก็บซากปลาส่งให้กับกรมประมงตามเงื่อนไขการอนุญาตของคณะกรรมการ IBC
  • พ.ศ. 2555 เกษตรกรชาวสมุทรสงครามพบการแพร่ระบาดของปลาหมอคางดำเป็นครั้งแรก
  • พ.ศ. 2561 กรมประมงได้แก้ไขประกาศกระทรวงฯ ห้ามนำเข้าปลาหมอสีคางดำ ปลาหมอมายัน และปลาหมอบัตเตอร์ ใครฝ่าฝืนจะมีโทษทางกฎหมาย ซึ่งประกาศฉบับดังกล่าวจะมีผลบังคับตั้งแต่วันที่ 19 มีนาคม 2561

หลายปีผ่านไป ปลาหมอคางดำยังคงแพร่ระบาดไปหลายจังหวัด กัดกินสัตว์น้ำชนิดอื่น ไม่ว่ากุ้ง หรือปลาชนิดต่างๆ ทั้งในแหล่งน้ำธรรมชาติหรือฟาร์มเพาะสัตว์น้ำ ทำให้ชาวบ้านจำนวนมากได้รับความเดือดร้อน จนกลายเป็นข่าวดังในช่วงเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา แม้จะพยายามคิดค้นวิธีในการกำจัดปลาชนิดนี้ แต่เพราะมันสามารถปรับตัวกับสภาพแวดล้อมได้ดี ทำให้ขยายพันธุ์ทั้งในน้ำจืด น้ำกร่อย และน้ำเค็มได้อย่างรวดเร็ว ปัจจุบันยังไม่มีข้อสรุปอย่างแน่ชัดถึงการนำเข้าของปลาหมอคางดำ อย่างไรก็ดี ปลาหมอคางดำกลายเป็นปัญหาสำคัญที่ควรแก้ไขอย่างรวดเร็ว เพื่อไม่ให้ส่งผลเสียต่อระบบนิเวศ รวมไปถึงชาวประมงและเกษตรกรไทย

แนวข้อสอบปลาหมอคางดำ

สำหรับข่าวนี้เป็นอีกเรื่องที่น่าออกสอบในวิชาสังคมศึกษา พาร์ตภูมิศาสตร์ เพราะถือเป็นข่าวที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อมและระบบนิเวศ แนะนำให้น้องๆ อ่านเรื่อง

5. น้ำท่วมเชียงราย-เชียงใหม่

จากสถานการณ์น้ำท่วมเชียงราย-เชียงใหม่ในปีนี้ เนื่องจากฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่เดือนสิงหาคมจนถึงต้นเดือนตุลาคม ทำให้หลายพื้นที่เกิดน้ำท่วมเฉียบพลัน และน้ำป่าไหลเชี่ยวรุนแรง ทั้งยังมีดินโคนถล่มตามมาอีกหลายระลอก ส่งผลให้บ้านเรือนของประชาชนได้รับความเสียหาย โดยฝนที่ตกหนักอย่างต่อเนื่องได้รับอิทธิพลจากพายุยางิ ซึ่งลดระดับจากซูเปอร์ไต้ฝุ่นเป็นพายุดีเปรสชัน คือ ปัจจัยของน้ำท่วมหนักเดือนกันยายนที่ จ.เชียงราย และ จ.เชียงใหม่ ขณะที่มีร่องมรสุมความกดอากาศต่ำพาดผ่านภาคเหนือตอนบน ทำให้ อ.แม่สาย จ.เชียงราย น้ำท่วมหนักเสียหายมากที่สุดในรอบ 40 ปี มากกว่าปี 65 และที่ อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ เกิดดินถล่มจากภูเขาทับบ้านเรือนทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บหลายคน

ดยมวลน้ำจากเชียงราย-เชียงใหม่ยังส่งผลต่อจังหวัดริมแม่น้ำโขงในภาคอีสานบางส่วน ได้แก่ เลย หนองคาย นครพนม และบึงกาฬ ขณะที่เดือนสิงหาคมที่ผ่านมา สถานการณ์น้ำท่วมในหลายจังหวัดทางภาคเหนือ ก็เกิดจากปริมาณฝนตกหนักในพื้นที่เช่นกัน อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันสถานการณ์น้ำท่วมเชียงราย-เชียงใหม่ เริ่มคลี่คลายแล้ว อยู่ในช่วงเร่งฟื้นฟู ทำความสะอาดพื้นที่ เพื่อกลับเข้าสู่สภาวะปกติ และเตรียมกระตุ้นท่องเที่ยวรับช่วงไฮซีซั่นต่อไป

แนวข้อสอบน้ำท่วมภาคเหนือ

เป็นอีกเรื่องที่น่าออกสอบในวิชาสังคมศึกษา พาร์ตภูมิศาสตร์/เศรษฐศาสตร์ หัวข้อ ‘ภัยพิบัติทางธรรมชาติ’ เหมือนกัน  แนะนำให้น้องๆ อ่านเรื่อง

6. สมรสเท่าเทียม

อีกหนึ่งประเด็นที่หลายคนให้ความสนใจ และจับตามอง จริงๆ แล้วจุดเริ่มต้นของสมรสเท่าเทียม มีจุดเริ่มต้นตั้งแต่ 23 ปีก่อน ซึ่งมีไทม์ไลน์ ดังนี้

  • พ.ศ. 2544 รัฐบาลยุคนายทักษิณ ชินวัตร โดย "รมว.มหาดไทย" เริ่มแนวคิดเรื่องนี้ แต่กระแสสังคมไม่เห็นด้วยอย่างรุนแรง รัฐบาลมองเห็นว่าสังคมไม่พร้อมสำหรับเรื่องนี้จึงตกไป
  • พ.ศ.  2555 มีการร่างกฎหมาย พ.ร.บ.คู่ชีวิต ในสมัยอดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
  • พ.ศ.  2557 เกิดการรัฐประหาร ทำให้การผลักดันร่าง พ.ร.บ.ยุติลง
  • พ.ศ.  2563 พรรคก้าวไกลยื่นเสนอร่าง พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม ต่อสภาฯ และได้รับการถูกบรรจุวาระแรก
  • พ.ศ.  2563 - 2566 ร่าง พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม ผ่านวาระที่ 1 ไปแล้ว ในวันที่ 15 มิถุนายน 2565 แต่ด้วยเหตุสภาล่มบ่อยครั้ง จึงไม่สามารถพิจารณาได้ครบ 3 วาระ ทำให้ พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียมตกไปตามรัฐธรรมนูญ
  • 18 มิถุนายน 2567 กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีมติเห็นชอบ ด้วยคะแนนเห็นด้วย 130 เสียง ไม่เห็นด้วย 4 เสียง งดออกเสียง 18 ไม่ลงคะแนนเสียง 0 ผู้ลงมติ 152 เสียง
  • 24 กันยายน 2567 มีประกาศราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ 24) พ.ศ. 2567 ซึ่งมีเนื้อหารับรองการสมรสระหว่างบุคคล โดยไม่จำกัดเฉพาะชาย-หญิง อีกต่อไป

โดยกฎหมายนี้จะมีผลบังคับใช้เมื่อพ้น 120 นับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษา หมายความว่า กฎหมายสมรสเท่าเทียมจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 22 มกราคม 2568 เป็นต้นไป  

แนวข้อสอบสมรสเท่าเทียม

สำหรับข่าวนี้เป็นเนื้อหาที่น่าจะออกสอบในวิชาสังคมศึกษา พาร์ตหน้าที่พลเมือง วัฒนธรรมและการดำเนินชีวิตในสังคม หัวข้อ ‘กฎหมายแพ่งและพาณิชย์’  แนะนำให้น้องๆ อ่านเรื่อง

 

เป็นอย่างไรกันบ้างคะ พี่แป้งเก็ง 6 ข่าวที่น่าออกสอบมาให้แล้ว มีเรื่องไหนที่น้อง ๆ รู้กันบ้างมั้ยคะ ถ้าใครพอรู้รายละเอียดมาบ้างแล้ว ถือว่ามาถูกทางแล้วค่ะ จำประเด็นสำคัญเหล่านี้ไว้ให้ดี อย่างไรก็ตาม ยังเหลือเวลาอีก 2 เดือนก่อนจะหมดปี 2024 ถ้ามีข่าวไหนที่น่าสนใจและดูน่าออกสอบ พี่แป้งจะนำข่าวมาอัปเดตให้อีกครั้งนะคะ  

 

 

พี่แป้ง

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

1 ความคิดเห็น

ความคิดเห็นนี้ถูกลบเนื่องจาก

ถูกลบโดยทีมงาน เนื่องจากงดตั้งกระทู้วิจัย โครงงาน หรือใช้พื้นที่เว็บบอร์ดเพื่อการส่งการบ้าน เนื่องจากเป็นการรบกวนผู้ใช้บอร์ดท่านอื่นๆ ขออภัยในความไม่สะดวก

กำลังโหลด
กำลังโหลด