สู้ไม่หวั่นโกโกวา! รวม 7 ทักษะเอาตัวรอดเมื่อไปเรียนต่อนอก แบบฉบับ Squid Game

“มุกุงฮวาโกชี พีออตซึมนีดา” มาแล้วค่า ปรากฏการณ์หลอนหูจากเพลงของน้องยองฮี (หรือที่คนไทยเรียกว่า น้องโกโกวา) จากซีรีส์ชื่อดัง “Squid Game” ที่กลับมาพร้อมกับภาค 2 ที่ทำเอาหลายคนอินและรู้สึกค้างคาจนอยากดูซีซัน 3 กันแล้ว // ใครดูจบแล้วบ้างเอ่ย~ 

นอกจากความสนุกและลุ้นไปกับผู้เล่นแล้ว ในซีรีส์เรื่องนี้ก็มีแฝงข้อคิดดีๆ ให้เรานำไปปรับใช้ได้เยอะเลยทีเดียว โดยเฉพาะกับน้องๆ ที่กำลังเตรียมตัวจะไปเรียนต่อต่างประเทศ แน่นอนว่าต้องต่อสู้ชีวิตแบบรอบด้าน ทั้งต้องสู้กับความเหงา อาการคิดถึงบ้าน (Homesickness) ไหนจะเรียนก็ยาก แถมมีกำแพงเรื่องภาษา รวมถึงวัฒนธรรมที่อาจยังปรับตัวไม่ได้ จนทำให้บางคนท้อแท้ใจอยากล้มเลิก แต่ๆๆ อย่าเพิ่ง give up ลองมาอ่านบทความนี้กันก่อน เพราะพี่ลูกหมู ได้รวม 7 ทักษะถอดบทเรียนจาก Squid Game มาให้น้องๆ เตรียมพร้อมกันก่อน รับรองว่ามีแรงฮึดสู้จนคว้าความสำเร็จกลับบ้านแน่นอน! ว่าแล้วเราก็มาเริ่มกันที่เกมแรกกันเลย~ 

1. "ไฟเขียว ไฟแดง" (Red Light, Green Light)

ทักษะที่ได้: ความอดทนและการวางแผน

มาเริ่มจากเกมแรกกันเลยนะคะ “เกมไฟเขียวไฟแดง” ก็เหมือนกับการเริ่มต้นวางแผนในแต่ละ step ของน้องๆ ที่ต้องคิดหน้าคิดหลังก่อนลงมือทำ เพราะแต่ละก้าวล้วนส่งต่อตัวเราเสมอ

• เปรียบกับการเรียนต่อต่างประเทศที่ต้องวางแผนล่วงหน้าตั้งแต่การเลือกมหาวิทยาลัย การเตรียมเอกสาร การวางแผนการเงิน จนถึงชีวิตหลังได้ไปเรียนจริง
• การเรียนต่อต่างประเทศต้องใช้ความอดทนในการปรับตัว และการวางแผนอย่างรอบคอบทั้งเรื่องเรียนและชีวิตประจำวัน ต้องรู้ว่าควร "เดิน" เมื่อไหร่ และควร "หยุด" เพื่อประเมินสถานการณ์ใหม่เมื่อไหร่ 
• ไฮไลต์ของเกมนี้ก็คือต้องฟังสัญญาณ "ไฟเขียว" และ "ไฟแดง" อย่างตั้งใจ เปรียบเหมือนการสังเกตสถานการณ์ในต่างประเทศ เช่น การเข้าใจวัฒนธรรมท้องถิ่น ระบบการเรียน หรือปฏิกิริยาของผู้คนรอบตัว เป็นต้น
• เกมนี้มีความกดดันสูงซึ่งเหมือนกับการเรียนในต่างถิ่นต่างแดน ฉะนั้นน้องๆต้องควบคุมสติและสมาธิเพื่อไม่ให้ตื่นตระหนกเมื่อเจอความท้าทาย (การสอบที่ยาก การสื่อสารภาษาต่างชาติ หรือความคิดถึงบ้าน)

สรุปคือ เกมไฟเขียวไฟแดงสอนให้เรารู้จัก ก้าวเดินอย่างรอบคอบ อดทน และมีสมาธิ ซึ่งเป็นคุณสมบัติสำคัญสำหรับการใช้ชีวิตในต่างประเทศ ต้องรู้ว่าเมื่อไหร่ควร "เดินหน้า" เพื่อคว้าโอกาส และเมื่อไหร่ควร "หยุด" เพื่อทบทวนสถานการณ์ เหมือนกับเกมนี้ที่ไม่ได้วัดแค่ความเร็ว แต่เป็นการรู้จังหวะและเดินไปสู่เป้าหมายอย่างมั่นคงนั่นเอง!

..............

2. "แกะน้ำตาล" (Honeycomb Challenge)

ทักษะที่ได้: ความละเอียด ความใจเย็น และสมาธิ

• การแกะน้ำตาลก็เหมือนกับการเตรียมเอกสารสมัครเรียนต่างๆ ที่ต้องละเอียดมากๆ เพราะถ้าแกะผิดนิดเดียวทุกอย่างที่ตั้งใจมาก็พังได้พริบตา เหมือนกับการเตรียมเอกสารวีซ่า การยื่นขอทุน หรือการกรอกข้อมูลสมัครเรียน ซึ่งสิ่งเหล่านี้ต้องมีความละเอียดมากๆ เช็กแล้วเช็กอีก ถ้าเราเตรียมเอกสารผิดหรือเตรียมเอกสารไม่ครบ จะทำให้ไม่ได้รับการตอบรับเข้าเรียนจากมหาวิทยาลัย หรือส่งผลให้ไม่ผ่านวีซ่าได้นั่นเองค่า
• หากรีบเร่งหรือกดดันตัวเองมากเกินไปอาจทำให้น้ำตาลแตกได้ เช่นเดียวกับการเผชิญความท้าทายขณะเรียนต่อต่างประเทศ  เราไม่ควรกดดันตัวเองนะคะ ค่อยๆ คิด แก้ไข เรียนรู้กันไปค่ะ
• ในเกมจะเห็นได้ว่า ผู้เล่นบางคนใช้วิธีสร้างสรรค์ เช่น ใช้ไฟรน หรือ เลียน้ำตาลแทนการแกะ แสดงถึงความสามารถในการคิดนอกกรอบและปรับตัวเมื่อเจออุปสรรค เราก็สามารถนำไปปรับใช้ได้ เช่น ถ้าแผนการเรียนที่วางไว้ไม่เป็นอย่างที่คิด หรือที่พักที่หาไว้ไม่เป็นไปตามที่หวัง ก็อาจต้องลองคิด option อื่นๆ เผื่อไว้ และปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ที่กำลังเผชิญอยู่ได้อย่างมั่นใจ

..............

3. "ชักเย่อ" (Tug of War) และ มินิเกม (Mini Game)

ทักษะที่ได้: การทำงานเป็นทีม

  2 เกมนี้แน่นอนว่าเน้นเรื่อง "Teamwork" หรือการทำงานเป็นทีม ซึ่งตอนเรียนต่อต่างประเทศ การทำงานเป็นกลุ่มกับคนหลากหลายเชื้อชาติเป็นเรื่องสำคัญและหลีกเลี่ยงไม่ได้ ดังนั้นต้องเรียนรู้วิธีการสื่อสารและการร่วมมือกัน เราต้องรู้จักปรับตัว รวมถึงเรียนรู้วัฒนธรรมต่างชาติ ซึ่งเรื่องนี้ยังรวมไปถึงการเลือกคบเพื่อนได้นะคะ ถ้าเราได้เพื่อนดี ก็เหมือนกับการเลือกทีมที่ดี ซึ่งอาจจะพาเราชนะจนไปสู่ความสำเร็จที่ปลายทางได้ค่ะ

หรืออย่างเช่นเวลาเราต้องทำงานกลุ่มหรือโพรเจกต์ร่วมกับเพื่อนๆ  ถ้าเรามีกลุ่มที่ดี ทุกคนช่วยกันทำงาน รับผิดชอบหน้าที่ในส่วนของตัวเอง ผลลัพธ์ก็จะออกมาดี และได้คะแนนตามที่เราคาดหวังไว้นั่นเอง

..............

4. "ลูกแก้ว" (Marbles Game)

ทักษะที่ได้: การเจรจา การเข้าใจผู้อื่น การตัดสินใจ และการรับมือกับความล้มเหลว

ในเกมลูกแก้วนั้น ผู้เล่นจะต้องใช้ทักษะการเจรจาและกลยุทธ์ต่างๆ เพื่อเอาชนะ  เหมือนกับการที่เราไปเรียนต่างประเทศ ซึ่งแน่นอนว่าจำเป็นมากๆ และต้องใช้ในทุกสถานการณ์จริงๆ  เช่น การทำงานกลุ่ม การพูดคุยกับอาจารย์ การซื้อของ การต่อรอง หรือการเข้าหาเพื่อนใหม่ๆ เป็นต้น  

นอกจากนี้ ‘ชนะได้ ก็ต้องแพ้ให้เป็น’ ในเกมเราจะเห็นได้ว่า ผู้เล่นบางคนต้องยอมรับความพ่ายแพ้หรือละทิ้งบางสิ่งเพื่อเอาชีวิตรอด เช่นเดียวกับการเรียนต่อต่างประเทศที่อาจเจอความล้มเหลว หรือบางอย่างที่ฝันไว้กลับไม่ได้ดั่งใจ เช่น สอบตก คะแนนสอบไม่ถึงเป้า หรือไม่ได้ทุนที่คาดหวัง ซึ่งหากน้องๆ เจออุปสรรคเหล่านี้ก็ควรเรียนรู้จากข้อผิดพลาดและปรับตัวเพื่อทำให้ดีขึ้นในครั้งต่อไป move on ให้ไวที่สุด

สรุปคือเกมลูกแก้วสอนให้เรียนรู้ทักษะ การเจรจา การเข้าใจผู้อื่น การตัดสินใจ และการรับมือกับความล้มเหลว หากน้องๆ สามารถเผชิญหน้ากับสถานการณ์ยากลำบากด้วยความรอบคอบและความยืดหยุ่น น้องๆ ก็จะผ่านความท้าทายเหล่านั้นได้เหมือนผู้ชนะในเกมเลยค่ะ!

..............

5. "สะพานแก้ว" (Glass Bridge)

ทักษะที่ได้: การตัดสินใจในความไม่แน่นอน การรับความเสี่ยงอย่างมีกลยุทธ์ และการเรียนรู้จากผู้อื่น

รู้ว่าเสี่ยงแต่คงต้องขอลอง! ในเกมนี้ผู้เล่นจะต้องก้าวเดินบนสะพานแก้วที่มีความเสี่ยงเป็นเสี่ยงตาย ซึ่งก็อาจจะคล้ายกับไปการเรียนต่อต่างประเทศ ที่เราต้องมีการวางแผนค่าใช้จ่าย มีการลงทุนด้านการเงิน รวมถึงลงแรงใจให้อะไรที่อาจไม่แน่นอน  รวมถึงการเปิดใจทำความรู้จักกับคนใหม่ๆ ที่ไม่รู้ว่ามาดีหรือมาร้าย หรือบางคนอาจลองเสี่ยงเลือกเรียนในวิชาที่ท้าทายตัวเอง แม้ไม่รู้ว่าผลลัพธ์จะออกมาดีหรือไม่ แต่สุดท้ายก็ต้องกล้าตัดสินใจและยอมรับกับความไม่แน่นอนที่เกิดขึ้น

นอกจากนี้ในเกมสะพานแก้ว ผู้เล่นที่อยู่ด้านหลังสามารถเรียนรู้จากการก้าวเดินของคนข้างหน้าได้ การเตรียมตัวไปเรียนต่อต่างประเทศก็เช่นกัน เราสามารถเรียนรู้จากประสบการณ์ของรุ่นพี่หรือเพื่อนที่เคยผ่านเส้นทางเดียวกัน โดยอาจเริ่มจากการหา contact และขอคำปรึกษารุ่นพี่หรือเพื่อนที่เรียนในมหาวิทยาลัยหรือสาขาเดียวกัน เกี่ยวกับวิธีการเตรียมตัว การเรียน รวมถึงการใช้ชีวิต หรืออาจลองเข้าร่วมชุมชนนักเรียนต่างชาติเพื่อสร้าง connection หรืออ่านรีวิวจากคอลัมน์ประสบการณ์เด็กนอก Dek-D เพื่อเก็บข้อมูลที่มีประโยชน์ให้นำไปปรับใช้ได้

สุดท้ายนี้การเดินบนสะพานแก้วเต็มไปด้วยความกดดันที่ต้องควบคุมตัวเองให้มั่นคง เช่นเดียวกับชีวิตนักเรียนต่างชาติที่อาจเผชิญกับความเครียดและความคาดหวังในเรื่องการเรียนหรือการปรับตัว แต่ถ้าเราเดินอย่างระมัดระวัง เรียนรู้จากคนข้างหน้า ก็สามารถที่จะไปถึงเส้นชัยได้อย่างสวยงามเลยค่า

..............

6 “เกมม้าหมุน” (Mingle)

ทักษะที่ได้: สติ ความฉลาด ไหวพริบ  ความยืดหยุ่น

ริงการิงการิง~ แม้เสียงเพลงจะสดใส แต่ว่าเกมม้าหมุนก็โหดแบบสวนทางเลยก็ว่าได้ เพราะเมื่อเพลงจบลง จะมีจำนวนตัวเลขปรากฏขึ้น ซึ่งผู้เล่นจะต้องจับกลุ่มให้ได้ตามจำนวนตัวเลขนั้นๆ และวิ่งเข้าห้องให้ทันก่อนที่เวลาจะหมดลง พอได้ดูเกมนี้แล้วก็ได้ข้อคิดและทักษะสำคัญๆ ที่นำมาปรับใช้กับการเรียนต่อต่างประเทศได้เช่นกัน โดยสอนให้เรียนรู้การจัดการความกดดัน การแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง และการปรับตัวในสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลง การเอาตัวรอดในสถานการณ์ที่ท้าทาย และการเผชิญหน้ากับปัญหาที่ไม่คาดคิด หากเราสามารถรักษาสมดุลระหว่างความสำเร็จส่วนตัวและการทำงานร่วมกับผู้อื่น ก็จะสามารถรับมือกับทุกความท้าทายและประสบความสำเร็จในชีวิตการเรียนต่างแดนอย่างแน่นอน!

..............

7. "เกมปลาหมึก" (Squid Game)

ทักษะที่ได้: ความมุ่งมั่นและกลยุทธ์

ปิดท้ายที่ ‘เกมปลาหมึก’ ด่านชี้ชะตาที่เล่นใจคนดูสุดๆ ซึ่งในเกมนี้ผู้เล่นต้องวางแผนอย่างรอบคอบ ทั้งในเชิงรุกและเชิงรับ เพื่อเอาชนะฝ่ายตรงข้าม และมีความมุ่งมั่นที่จะต่อสู้จนถึงวินาทีสุดท้าย เหมือนกับการเรียนต่อต่างประเทศที่ต้องเผชิญกับความท้าทาย เช่น ความเครียดจากการเรียน ความเหงา หรือปัญหาทางการเงิน และในเกมปลาหมึก ผู้เล่นต้องปกป้องเขตของตัวเองหรือพยายามเข้าถึงเป้าหมาย ซึ่งเหมือนกับการเรียนต่อที่เราต้องพยายามควบคุมเป้าหมายของตัวเอง แม้จะเจอแรงกดดันหรือสิ่งปัจจัยภายนอกที่อาจทำให้เราไขว้เขวได้

เกมปลาหมึกสอนให้เราใช้ กลยุทธ์ ความมุ่งมั่น และการเผชิญหน้ากับปัญหาอย่างตรงไปตรงมา ความสำเร็จของการเรียนต่อต่างประเทศขึ้นอยู่กับ passion ที่มีต่อเป้าหมาย และความสามารถในการปรับกลยุทธ์ตามสถานการณ์เฉพาะหน้า  และเมื่อทำเราทำเต็มที่ที่สุด เราก็จะเดินหน้าสู่ความสำเร็จได้อย่างแน่นอน!

..............

สำหรับใครที่มองหาโอกาสโกอินเตอร์ ตอนนี้มีหลายทุนกำลังเปิดรับสมัคร
ตามไปเช็กกันต่อได้เลยที่ "โปรแกรมค้นหาทุนเรียนต่อนอก by Dek-D"