สวัสดีชาว Dek-D ทุกคนค่า~ สำหรับ #ทีมเด็กนอก อย่างเราแน่นอนว่าต้องขึ้นเครื่องบินเพื่อไปเรียนต่อ เดินทางกลับไทย (หรือแอบไปเที่ยว) กันอยู่แล้วเนอะ ดังนั้นการเลือกสายการบินที่ดีจึงเป็นเรื่องสำคัญมาก เชื่อว่าหลายคนจึงเลือกดูรีวิวว่าสายไหนบ้างที่มี service น่าประทับใจ มี Facilities ที่ทำให้เราได้รับประสบการณ์ดีๆ ตลอดการเดินทางที่ต้องใช้เวลานาน และเต็มไปด้วยความราบรื่นและแฮปปี้ที่สุด // ที่สำคัญอาหารต้องอร่อยด้วยค่ะ!
วันนี้พี่ลูกหมูเลยขอพาน้องๆ ไปส่อง Top 10 สายการบินที่ดีที่สุดในโลก ประจำปี 2025 เดี๋ยวเรามาดูกันค่ะว่ามีสายไหนบ้างที่เราเคยบิน หรือเล็งๆ จะซื้อตั๋วเร็วๆ นี้ เรามาเริ่มกันที่ Full-Service Airlines กันก่อนเลย~
Note: จัดอันดับโดย Airline Ratings ซึ่งเป็นเว็บไซต์ที่จัดอันดับและให้คะแนนสายการบินทั่วโลก โดยเว็บไซต์นี้เป็นที่ยอมรับในอุตสาหกรรมการบิน และมักถูกใช้เป็นแหล่งอ้างอิงสำหรับการจัดอันดับสายการบินที่ดีที่สุดในแต่ละปี
………
Full-Service Airlines
เริ่มที่ประเภท Full-service Airline หรือสายการบินที่ให้บริการเต็มรูปแบบ โดยมีจุดเด่นคือราคาตั๋วสูง แต่ก็แลกมาด้วยบริการที่ครอบคลุมทุกอย่างมาให้แบบครบครัน เช่น อาหาร เครื่องดื่ม การโหลดสัมภาระ และสามารถเลือกหรือเปลี่ยนที่นั่งได้ และอีกไฮไลต์คือ จะเป็นสายการบินที่มีที่นั่งหลายคลาส เช่น Economy, Premium Economy, Business และ First Class นอกจากนี้มีบริการพรีเมียม เช่น การเสิร์ฟเครื่องดื่มไวน์ มี Wi-Fi บนเครื่องบิน สื่อบันเทิงครบ และที่สำคัญนะคะ ยังมีโปรแกรมสะสมไมล์ที่สามารถสะสมแต้มเพื่อใช้แลกสิทธิพิเศษหรืออัปเกรดที่นั่งได้ จึงไม่แปลกใจเลยที่ตั๋วโดยสารจะสูงกว่าประเภทอื่นๆ นั่นเองค่ะ
เกณฑ์ในการพิจารณาจัดอันดับดังนี้
- สายการบินต้องให้บริการแบบ Full Service รวมถึง อาหาร ของว่าง และเครื่องดื่ม
- ที่นั่งชั้น Economy ต้องมีระยะห่างระหว่างแถวไม่น้อยกว่า 31 นิ้ว
- ที่นั่งชั้น Business สามารถปรับเอนราบได้เต็มที่
- ด้าน Safety ต้องได้รับคะแนนความปลอดภัยระดับเจ็ดดาว
- มาตรฐานผลิตภัณฑ์บนเครื่องบินที่สม่ำเสมอ
- สายการบินมี Financial Status ที่มั่นคง
- (ไม่บังคับ) มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน เช่น บริการ Wi-fi, ช่องเสียบไฟในทุกชั้นโดยสาร, ชุดของเล่นสำหรับเด็ก รวมไปถึง ชั้นโดยสาร Premium Economy
Top 10 Full-Service Airlines ประจำปี 2025
- Korean Air (เกาหลีใต้)
- Qatar (กาตาร์)
- Air New Zealand (นิวซีแลนด์)
- Cathay Pacific (ฮ่องกง)
- Singapore Airlines (สิงคโปร์)
- Emirates (สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์)
- Japan Airlines (ญี่ปุ่น)
- Qantas (ออสเตรเลีย)
- Etihad (สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์)
- Turkish Airlines (ตุรกี)
Good to Know!ปีนี้สายการบินไทย (Thai Airways) ก็ติด Top 20 ของโลกด้วยนะคะ โดยอยู่อันดับที่ #17 ซึ่งขยับขึ้นมาจากปีที่แล้วพอสมควร (ปีที่แล้วอยู่อันดับ 33) จะเห็นได้ว่าสายการบินแห่งชาติของเราก็มีการพัฒนาขึ้น บริการจนทำให้นักเดินทางประทับใจเยอะทีเดียวค่ะ |
………
Low-Cost Airlines
สำหรับ Low-Cost Airlines จะตรงกันข้ามกับแบบ Full-Service Airlines เลยค่ะ เพราะเป็นสายการบินต้นทุนต่ำ ราคาค่าตั๋วโดยสารจะถูกกว่ามากๆ แต่จะไม่มีบริการอะไรเลย ถ้าเราต้องการบริการเสริม เช่น อาหาร การเลือกที่นั่ง น้ำหนักสัมภาระ หรือ Wi-fi ก็อาจจะต้องซื้อเพิ่ม และที่นั่งจะแคบกว่า อาจจะรู้สึกอึดอัด จึงเหมาะกับการเดินทางในระยะสั้นๆ รวมถึงบางสายอาจจะไม่มีโปรแกรมการสะสมไมล์ด้วยค่ะ
เกณฑ์ในการพิจารณาอันดับสายการบิน Low Cost มีดังนี้
- การให้บริการบนเครื่องบินที่มีราคาประหยัด เช่น อาหาร เครื่องดื่ม ของว่าง
- บริการเสริมต่างๆ เช่น Wi-fi หรือระบบ Entertainment
- ค่าโดยสารราคาถูกเป็นพิเศษ
- มีเส้นทางการบินที่หลากหลาย
- ผ่านมาตรฐานความปลอดภัยที่เข้มงวด (คะแนนความปลอดภัยระดับ 7 ดาว)
Top 10 Low-Cost Airlines ประจำปี 2025
- AirAsia (มาเลเซีย)
- Jetstar (ออสเตรเลีย)
- AirBaltic (ลัตเวีย)
- HK Express (ฮ่องกง)
- Easyjet (อังกฤษ)
- FlyDubai (สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์)
- Ryanair (ไอร์แลนด์)
- Scoot (สิงคโปร์)
- Breeze (สหรัฐอเมริกา)
- Southwest (สหรัฐอเมริกา)
………
Hybrid Airlines
สำหรับหมวดใหม่ที่มีการจัดอันดับในปีนี้ คือ Hybrid Airlines ซึ่งเป็นสายการบินที่อยู่ระหว่าง Full Service และ Low-cost โดยมีการผสมข้อดีของทั้งสองประเภทเพื่อให้ผู้โดยสารมีทางเลือกมากขึ้น โดยจุดเด่นคือ ราคาค่าตั๋วไม่แพงมาก แต่จะได้รับบริการบางอย่าง เช่น น้ำดื่ม อาหารว่าง ที่นั่งก็จะกว้างกว่าสายการบิน Low Cost และมี Wi-Fi หรือ Entertainment ระหว่างไฟลต์ในบางเที่ยวบิน
มีเกณฑ์การพิจารณาดังนี้
- ต้องมีระยะห่างระหว่างแถวของที่นั่งชั้น Economy มากกว่า 30 นิ้ว
- ให้บริการเครื่องดื่มฟรี (เครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์)
- ถ้าสายการบินไหนมีที่นั่งชั้น Business สามารถปรับเอนนอนได้ รวมถึงมีระบบ Entertainment ต่างๆ บนเครื่องบินจะได้รับการจัดอันดับที่สูงกว่า
Top 10 Hybrid Airlines for 2025
- Jetblue (สหรัฐอเมริกา)
- WestJet (แคนาดา)
- Virgin Australia (ออสเตรเลีย)
- Delta Airlines (สหรัฐอเมริกา)
- United (สหรัฐอเมริกา)
- American Airlines (สหรัฐอเมริกา)
- Lufthansa (เยอรมนี)
- Air Canada (แคนาดา)
- LOT Polish Airlines (โปแลนด์) (สายการบินนี้อาจจะอัปเกรดไปเป็น full service เร็วๆ นี้)
- TAP Portugal (โปรตุเกส)
สรุปภาพรวม:
- สายการบิน Full Service #อันดับ 1 ในปีนี้ตกเป็นของ ‘Korean Air’ เพราะที่นั่ง Economy มีความกว้างขวางสุดๆ (สายการบินนี้เน้นให้ความสะดวกสบายกับผู้โดยสาร)
- แชมป์เก่าของปีที่แล้วอย่าง ‘Qatar’ ตกไปอยู่ที่ #อันดับ 2 ในปีนี้
- สายการบิน #อันดับ 1 ด้าน Low Cost ประจำปี 2025 คือ ‘Air Asia’
- สายการบิน #อันดับ 1 ด้าน Hybrid ประจำปี 2025 คือ ‘Jetblue’
เป็นยังไงกันบ้างคะ กับ Top 10 สายการบินแต่ละประเภทประจำปีนี้ เรียกได้ว่าสมมงเลยทีเดียวค่ะ ใครที่กำลังจะต้องขึ้นเครื่องเพื่อไปเรียนต่อ ไปทำงาน หรือไปท่องเที่ยว ก็เก็บลิสต์ไว้เป็นตัวเลือกเพื่อพิจารณาได้นะคะ แล้วเจอกันใหม่บทความหน้าค่า~
สำหรับใครที่มองหาโอกาสโกอินเตอร์ ตอนนี้มีหลายทุนกำลังเปิดรับสมัคร
ตามไปเช็กกันต่อได้เลยที่ "โปรแกรมค้นหาทุนเรียนต่อนอก by Dek-D"
ติดตามทุนต่อนอกง่ายๆ กับ Dek-D
- Website: www.dek-d.com/studyabroad
- X: @tornokandcourse
- IG: @tornokandcourse
- Facebook: Study Abroad เรียนต่อนอก by Dek-D
- Facebook: Study Guide ไปเรียนต่อนอกกันเถอะ
- TikTok: @tornokandcourse
0 ความคิดเห็น