‘พี่นิท’ เปิดชีวิตเด็กทุน Erasmus+ เรียนและวิจัย ป.โท ที่ยุโรป 5 ประเทศ! (อังกฤษ, เดนมาร์ก, โปแลนด์, โปรตุเกส, ฝรั่งเศส)

สวัสดีค่ะชาว Dek-D สำหรับใครที่อยากเรียนต่อประเทศในยุโรป ระยะหลังมานี้โครงการ Erasmus+ ศึกษาต่อระดับปริญญา เริ่มถูกพูดถึงกันมากขึ้นเรื่อยๆ ด้วยความที่เป็นทุนเต็มจำนวนแบบไม่มีผูกมัด มีหลักสูตรที่เจาะลึกและทันสมัยให้เลือกสมัคร อีกทั้งยังมอบประสบการณ์เรียนที่ได้ย้ายประเทศทุกเทอม เป็นทั้งสีสันและความท้าทายที่ไม่อยากให้น้องๆ ปล่อยโอกาสนี้ผ่านไปค่ะ

และวันนี้เรามีรีวิวจาก “พี่นิท-อกนิษฐ์” รุ่นพี่ที่จบ ป.ตรี สาขาสังคมสงเคราะห์ ม.ธรรมศาสตร์ (Aug 2015 - May 2019) และเป็นศิษย์เก่าทุน Erasmus+ เพิ่งจบ ป.โท สดๆ ร้อนๆ จากโปรแกรมชื่อ Erasmus Mundus MA In Advanced Development In Social Work โดยไปเรียนตั้งแต่ปี 2022-2024 มาเล่าประสบการณ์เรียนแบบกระชับๆ!

แนะนำตัวสั้นๆ

สวัสดีค่า ชื่อพี่นิทนะคะ เป็นเด็กจังหวัด (จ.เชียงใหม่) แล้วอยากเข้ามาอยู่กรุงเทพฯ ซึ่งมองว่าการเรียนต่อคือทางเลือกน่าสนใจ จากนั้นก็เริ่มดูหลักสูตรใน ม.ธรรมศาสตร์ ว่ามีสาขาไหนบ้างที่พอจะตรงกับความสนใจและไม่เกินความสามารถเรา สุดท้ายก็เลยมาเข้า ป.ตรี คณะสังคมสงเคราะห์ค่ะ

พอเข้ามหาลัยเริ่มมีความเครียดและเรื่องสุขภาพจิตเข้ามาเพราะต้องปรับตัวเรื่องอยู่ไกลบ้านครั้งเเรก ช่วงปี 3 เลย gap year 1 ปี ได้เดินทางไปต่างประเทศเพื่อออกจากสภาพแวดล้อมเดิม และได้เข้ารับการช่วยเหลือที่ควรได้รับ ก็เลยเป็นปีที่ได้เห็นตัวเองชัดขึ้นและได้ฮีลตัวเอง

“ภาษาอังกฤษจะช่วยให้อนาคตสายสังคมสงเคราะห์ของเราไปได้ไกลขึ้น”

คนที่จบคณะสังคมสงเคราะห์ สามารถทำงานต่อในหน่วยงานรัฐ เช่น งานในกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ในเทศบาล โรงพยาบาล หรือทำงานกับ NGO ทั้งในไทยและระดับนานาชาติ ถ้าภาษาอังกฤษดี โอกาสก็ยิ่งเยอะขึ้น

โชคดีที่เราชอบภาษาอังกฤษมาตั้งแต่ ม.ปลาย เพราะเรียนศิลป์-ภาษาอังกฤษ-ฝรั่งเศส แล้วโรงเรียนก็มีครูเจ้าของภาษาที่ supportive มาก เน้นอ่านเองโดยไม่เคยเรียนพิเศษเลย และยังมีโอกาสได้ฝึกภาษาอังกฤษกับอาสาสมัครชาวต่างชาติด้วย ซึ่งมันช่วยเพิ่มทักษะและเปิดโอกาสมากมายให้เราในอนาคต

ทำงานอาสาและร่วมโครงการ YSEALI 
เปิดมุมมองทางสังคมในหลายประเทศ

ในช่วงที่ gap year เราไปทำงานอาสาสมัคร และได้เข้าโครงการ AIESEC ทั้งหมด 2 โครงการ  โครงการนี้เป็นองค์กรเยาวชนระดับนานาชาติ มีสาขาใหญ่ในหลายประเทศ ซึ่งก็มีร่วมกับมหาวิทยาลัยในไทยด้วยนะคะ ถ้าเกิดใครอยากค้นหาตัวเองก็แนะนำว่าลองไปทำดูได้ สำคัญคือศึกษาประเทศนั้นให้ดีว่าปลอดภัยสำหรับเราหรือไม่

  • Generation Why Not, Brussels, Belgium ไปทำงานอาสาเล็กๆ น้อยๆ และเห็นระบบ Community Volunteer Network ซึ่งแม้จะเป็นรัฐสวัสดิการอยู่แล้วแต่ก็ยังมีช่วยเหลือกัน ในรูปแบบเชลเตอร์คนที่เป็นผู้ลี้ภัย
  • American Friend of Georgia, Tbilisi, Georgia ไปทำงานที่ศูนย์ดูแลแบบประคับประคอง (Palliative Care Center)
  • Bursa Kent Konseyi Gençlik Meclisi, Bursa, Turkey สอนภาษาอังกฤษให้เด็กๆ ที่ Summer Schools ถือเป็นโอกาสเปิดโลกค่ะ ทูร์เคียคือประเทศที่รุ่มรวยด้วยประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม อาหารอร่อย และคนจิตใจดี แต่สำหรับผู้หญิงอยากให้ระมัดระวังตัวเป็นพิเศษนะคะ

นอกจากอาสาสมัครช่วง gap year ช่วงที่เรียนอยู่ก็ทำงานอาสาสมัครที่ Warm Heart Foundation  และ Thanyarak Hospital Drug Abuse Treatment ด้วยค่ะ

และการได้ทำหลายอย่างตั้งแต่ตอนเรียน ทำให้เราเห็น Career Path ชัดเจนขึ้นค่ะ แม้ว่าโครงการ AIESEC จะมีค่าใช้จ่าย แต่ก็ประหยัดกว่าจัดการเองทั้งหมด และมีโฮสต์ ได้แลกเปลี่ยนวัฒนธรรม และเจอเพื่อนๆ จากต่างประเทศ (โพรเจ็กต์นึงประมาณ 4 เดือน) ได้มองเห็นภาพใหญ่ของสังคมว่าไม่มีที่ใดสมบูรณ์แบบ ได้สะท้อนชีวิตตัวเอง มองเห็นทั้งข้อดีและข้อเสียของตัวเราเองและสิ่งรอบตัว ตกผลึกความคิดในมุมมองที่รอบด้านกว่าที่เคยเห็นจากสื่อโซเชียลฯ // เรามองว่าการจะได้อะไรกลับมาก็ขึ้นอยู่กับ stage ของชีวิตเราในตอนนั้นด้วย

YSEALI เป็นโครงการทุนของรัฐบาลอเมริกา ส่วนตัววางแผนสมัครโครงการนี้ไว้มานาน จนมาเจอจังหวะที่เหมาะก็ออกจากงานไปเข้าร่วมหัวข้อ Governance and Society ข้อดีคือเป็นโครงการของรัฐบาลอเมริกาที่ให้เราได้ไปเรียนรู้กับ Leadership Mentoring เหมาะกับการเตรียมตัวเองให้พร้อมสู่การก้าวไปในตำแหน่งงานที่ใช้ศักยภาพความเป็นผู้นำ แถมหัวข้อก็ยังตรงความสนใจของเราอีก

สิ่งที่ประทับใจมากคือการได้เห็นการทำงานขององค์กรในอเมริกาที่อยู่ในสายงานเดียวกับเรา พร้อมทั้งได้เรียนหลักสูตรเสริมสร้างศักยภาพความเป็นผู้นำ และยังได้พบเพื่อนจากหลากหลายประเทศ โครงการนี้ช่วยสร้างเครือข่ายที่แข็งแกร่ง ซึ่งจะมีประโยชน์มากหากในอนาคตต้องประสานงานในระดับนานาชาติค่ะ

ตัดสินใจสมัครโครงการ Erasmus+
เผยข้อดี & ความท้าทายที่ไม่ควรมองข้าม

คนในยุโรปจะรู้จักโครงการ Erasmus อย่างดีเลยค่ะ โดยเฉพาะระดับ ป.ตรี เพราะมีโปรแกรมแลกเปลี่ยนสำหรับนักศึกษาใน EU ที่ให้ไปเรียนข้ามประเทศได้ เป็นอีกวิธีที่ใช้ส่งเสริมความสัมพันธ์และเสถียรภาพระหว่างภูมิภาค (ครั้งหนึ่งบนหน้าประวัติศาสตร์เคยมีความขัดแย้งกัน) พร้อมกับส่งเสริมการศึกษาและวัฒนธรรมด้วย

แต่หลายคนอาจยังไม่ทราบว่า Erasmus+ มีโปรแกรมในระดับปริญญาโทด้วย ในรูปแบบ Joint Master Degree เป็นความร่วมมือของหลายมหา’ลัยใน EU 

ทำไม Erasmus+ ถึงน่าสนใจ?

  • เราจะเรียนมากกว่า 1 แห่ง เช่น ในจำนวน 4 เทอม อาจได้ย้ายไปเรียน 4 มหา’ลัยใน 4 ประเทศก็ได้ค่ะ ขึ้นอยู่กับว่ามีมหาวิทยาลัยไหนร่วมมือกันบ้าง คอนเซ็ปต์ของ Erasmus+ คือการไปเรียนในประเทศที่เก่งในด้านนั้นๆ มีโอกาสได้ดูงานและสัมผัสประสบการณ์ในสถานที่จริง
  • หลังจบจะได้ใบปริญญาจากมหา’ลัย Host และได้เอกสารรับรองครบทุกแห่ง ซึ่งเป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติ
  • ทุนสนับสนุนค่าเรียนและค่าครองชีพพื้นฐาน (แต่ถ้าอยากใช้ชีวิตเต็มที่แบบไม่ต้องประหยัดจนเกินไป อาจเตรียมเงินส่วนตัวมาด้วย) จริงๆถ้าคนไหนขยันทำงานพาร์ตไทม์ไปด้วยก็ได้ค่ะ ถ้าไม่เหนื่อยไป
  • เป็นทุนที่ไม่ได้มีข้อผูกมัดให้กลับมาใช้ทุนในประเทศต้นทาง หากอยากอยู่ต่อหลังเรียนจบก็ทำได้เลย เช่น เดนมาร์กอนุญาตให้อยู่ต่อได้ถึง 3 ปีหลังเรียนจบ แถมยังสนับสนุนด้วย และที่ดีไปกว่านั้นคือมีรุ่นพี่ในเครือข่ายช่วยไกด์ไลน์ให้
  • โปรแกรมนี้มีเพื่อนจากหลากหลายประเทศ เช่น ในรุ่นของเรา มีคนจาก 29 ประเทศทั่วโลก ซึ่งบางคนอาจไม่ได้ทุนเต็มจำนวน และบางโปรแกรมให้ทุนแก่ทุกคน เช่น โปรแกรมที่เราเรียน ทุกคนได้รับทุนหมด แต่อาจเป็นตัวแทนจากแต่ละประเทศ เช่น ประเทศละ 1 คน
  • ปัจจุบันคนไทยไปเรียนในยุโรปมากขึ้นเรื่อยๆ ถ้าไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหนดี หรือหาข้อมูลในเน็ตไม่เจอ อาจลองติดต่อสมาคมนักเรียนไทยในยุโรปได้ เพราะมักจะมีเครือข่ายรุ่นพี่ในเมืองหรือสายงานเดียวกันที่พร้อมช่วยไกด์ให้

ควรพิจารณาอะไรเพิ่มเติม?

  • ส่วนใหญ่คนในยุโรปมักจะพูดได้มากกว่า 1 ภาษา ก็คือภาษาอังกฤษเป็นพื้นฐาน ภาษาของประเทศตน และอาจมีภาษาที่ 3, 4… ไปอีกค่ะ แต่ข้อดีคือมหาวิทยาลัยหรือรัฐบาลมักจะจัดให้เรียนคอร์สภาษาฟรีได้ เงื่อนไขกับระยะเวลาอาจต่างกันในแต่ละประเทศ
     
  • ทุนกำหนดให้นักศึกษาต้องย้ายประเทศมากกว่า 1 แห่ง พอทำให้พอเพิ่งปรับตัวกับที่แรกได้ ก็ต้องย้ายอีกที่แล้ว ถ้าใครไม่เคยใช้ชีวิตในต่างประเทศก็อาจรู้สึกท้าทาย ทั้งเรื่องเรียน การปรับตัว หรือเรื่องปัญหาสุขภาพจิต แต่โชคดีที่มหาวิทยาลัยในยุโรปหลายแห่งมี Student Support Services ที่พร้อมช่วยเหลือนักศึกษาทุกระดับ ถ้ามีปัญหาหรือกังวลอะไรขอความช่วยเหลือได้ทันที

ภาพรวมการเรียนทั้งหมด
ถ้าผ่านการเรียนเดือดๆ มาก่อน พี่ว่าไหว!

ช่วงเรียน ป.โท Advanced Development In Social Work พี่ไปเจอระบบการเรียน + การซัปพอร์ตนักศึกษาที่ดีมากของยุโรป ตารางเรียนไม่แน่น ความกดดันน้อย เน้นเข้าใจมากกว่าการแข่งขัน และใช้การตัดเกรดแบบอิงเกณฑ์ เช่น ถ้าถึงเกณฑ์ที่กำหนด คุณก็ได้ A ซึ่งคะแนนส่วนใหญ่เกรดก็มาจากโพรเจ็กต์ การอ่านคิดวิเคราะห์ แล้วเขียนเรียบเรียงออกมา ไม่มีที่ต้องจำเนื้อหาให้เป๊ะทุกอย่าง แต่สำหรับคนที่คาดหวังกับผลการเรียนมากๆ อาจรู้สึกนอยด์ๆ ไม่ได้เกรดตามที่ตั้งใจไว้ได้ค่ะ

หลักสูตร Erasmus Mundus MA Advanced Development in Social Work จะแบ่งการเรียนออกเป็น 4 เทอม เริ่มมาถึงจะได้ syllabus ว่าทั้งเทอมเราต้องอ่านอะไรบ้าง ทำให้เตรียมตัวมาล่วงหน้าได้ ซึ่งถ้าเกิดภาษาดีมาตั้งแต่อยู่ไทยแล้ว น่าจะรู้สึกเป็นการเรียนที่ง่ายด้วยซ้ำ แต่โปรแกรมอาจเหมาะกับคนที่มีประสบการณ์มาก่อน เพราะจะเรียนแบบเจาะลึก ประยุกต์ใช้งานในระดับการทำงานจริง 

อีกอย่างที่ดีมากคือ มี Support Office คอยช่วยเหลือ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเรียน การปรับตัว หรือการใช้ชีวิต ถ้าสมมติมีวิชาที่เรียนแล้วไม่เข้าใจหรือยังทำได้ไม่ดีพอ บางมหา’ลัยอาจมีหน่วยคอยช่วยเหลือ เช่น ในอังกฤษและเดนมาร์ก สามารถสมัครเรียนเสริมเพื่อช่วยให้เข้าใจเนื้อหาได้ดีขึ้นได้

เข้าใจระบบสังคมในหลายประเทศ

จริงอยู่ที่เราหาอ่านได้จากเว็บอยู่แล้ว แต่ถ้าไปเห็นด้วยตัวเองจะช่วยให้เข้าใจชัดขึ้น เช่น ถ้าไปอยู่ประเทศที่มีระบบรัฐสวัสดิการ เราจะเห็นวิธีบริหารจัดการและความเชื่อมโยงกับคนในสังคมค่ะ

เทอมแรก Semester 1: University of Lincoln, UK

เน้นการปูพื้นฐานเรื่อง Social Works และการเขียนและงานวิชาการค่ะ เช่น การเขียนเชิงวิชาการและการวิเคราะห์ประเด็นทางสังคม

วิชาเรียน

  1. Transformational Leadership in Social Work (15 ECTS)
  2. Professional Ethics and Social Justice (5 ECTS)
  3. Critical Perspectives on Global Social Issues (10 ECTS)

สรุปโครงสร้าง & เนื้อหาเทอมนี้

https://www.socialworkadvances.aau.dk/courses-curriculum/Semester+1 

Semester 2: Aalborg University, Denmark

เดนมาร์กเป็นประเทศที่โดดเด่นด้านระบบสวัสดิการสังคม (Social Welfare) ในเทอมนี้เราได้เรียนเรื่องการจัดการโครงการและนโยบายที่ตอบโจทย์ปัญหาสังคม มีโอกาสได้ไปดูงานช่วงนึง และร่วมในโพรเจ็กต์เล็กๆ กับทาง Child Protection Service เกี่ยวกับสิทธิเด็กค่ะ

วิชาเรียน

  1. Power Relations and Actor Perspectives in Social Work (10 ECTS
  2. Field Study and Problem-Based Approaches (10 ECTS)
  3. Research Methodology and Ethics (10 ECTS)

สรุปโครงสร้าง & เนื้อหาเทอมนี้

https://www.socialworkadvances.aau.dk/courses-curriculum/Semester+2 

Summer School (บังคับ)

เป็นภาคบังคับ 5 หน่วยกิตนะคะ University Paris Nanterre ฝรั่งเศส เรียนรู้เรื่อง Social Development ได้แลกเปลี่ยนกับเพื่อนๆ ต่างชาติเต็มที่เลย

สรุปโครงสร้าง & เนื้อหาเทอมนี้

https://www.socialworkadvances.aau.dk/courses-curriculum/Summerschool 

Semester 3: University of Lisbon, Portugal

โปรตุเกสเป็นประเทศที่เด่นเรื่องการทำงานกับชุมชน เพราะเป็นสังคมที่ความร่วมมือระหว่างชุมชนอย่างเข้มแข็ง ซึ่งเทอมนี้จะได้ไปเห็นโพรเจ็กต์ด้านสิ่งแวดล้อมในชุมชนที่นั่นเน้นเรียนรู้เรื่องบริบทงานสังคมสงเคราะห์ในภาพใหญ่ระดับนานาชาติ การพัฒนาที่ยั่งยืน และการเป็นผู้ประกอบการทางสังคม

วิชาเรียน

  1. Eco-Social Work and Sustainable Development (5 ECTS)
  2. Social Work Practice in a Global Context (5 ECTS)
  3. Social Responsibility and Entrepreneurship (5 ECTS)
  4. Project Planning and Management in Social Work (5 ECTS)
  5. Research Design and Planning (10 ECTS)

สรุปโครงสร้าง & เนื้อหาเทอมนี้

https://www.socialworkadvances.aau.dk/courses-curriculum/Semester+3 

Semester 4: Research projects 

เทอมที่เราจะได้ทำโครงงานวิจัย/วิทยานิพนธ์ ความยาว 25,000 คำ (25 ECTS) เลือกประเทศที่ต้องการได้ค่ะ ส่วนตัวชอบปารีสเพราะเป็นมหา’ลัยในเมืองใหญ่ที่มีโอกาสได้ connect กับคนสายงานเดียวกัน ตอนนั้นเลือกทำหัวข้อการจัดการงานสังคมสงเคราะห์ในประเทศไทยค่ะ

สรุปโครงสร้าง & เนื้อหาเทอมนี้

https://www.socialworkadvances.aau.dk/courses-curriculum/Semester+4 

แต่หลังจากนั้นก็ได้ไปพรีเซนต์ที่งาน Student Research Conference ช่วงสั้นๆ 2 สัปดาห์ที่โปแลนด์ค่ะ

สรุปโครงสร้าง & เนื้อหาเทอมนี้

https://www.socialworkadvances.aau.dk/courses-curriculum/Graduation+Event 

(ถามความเห็นในแง่เด็กสังคม)
อะไรคือสิ่งที่ต่างประเทศมี 
แล้วคิดว่าจะดีถ้าไทยก็มีด้วย?

ขอยกตัวอย่างประเทศที่ชอบที่สุดนะคะ 555 ฝรั่งเศสเป็นประเทศนึงที่ค่าครองชีพสูง แต่มีระบบที่ซัปพอร์ตนักศึกษาดีมากๆ ยิ่งโดยเฉพาะเรามาพร้อมกับทุนที่ให้ค่าเรียนกับค่าครองชีพ ก็แทบไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายในแต่ละวันเลย

  • ค่าเรียนมหาวิทยาลัยรัฐในฝรั่งเศส คิดว่าเป็นมิตรเมื่อเทียบกับคุณภาพการศึกษาค่ะ บางแห่งค่าเล่าเรียนถูกกว่า ป.โท ฝรั่งเศส ถูกกว่ามหาลัยรัฐในไทยค่ะ ในไทยด้วยซ้ำ และนักศึกษาที่มาจาก EU หรือพ่อแม่มีฐานรายได้ต่ำ ระบบยังปรับค่าเล่าเรียนตามรายได้ของครอบครัวอีกด้วย ซึ่งทำให้คนในประเทศและภูมิภาคเข้าถึงการศึกษาได้อย่างเท่าเทียม
  • ค่าที่พัก นักเรียนทุนส่วนใหญ่จะได้สิทธิ์เข้าพักในหอพักของมหา’ลัย ซึ่งถ้าเทียบค่าที่พักต่อเดือนก็ตกไม่ถึงหมื่นบาทต่อเดือน สามารถอยู่ได้อย่างปลอดภัยและมีสิ่งจำเป็นครบครัน เดินทางง่ายและราคาสบายกระเป๋า เป็นส่วนที่รัฐบาลช่วยสนับสนุนค่ะ
  • โรงอาหารมหาวิทยาลัยในฝรั่งเศส รัฐบาลใส่ใจเรื่องโภชนาการของนักศึกษา ทำให้อาหารแต่ละมื้อคุณภาพดีและไม่แพงเลย เฉลี่ยมื้อนึงมี appetizer, main course และ dessert ทั้งหมดเพียง 3 ยูโร (ไม่ถึง 120 บาท) หรือบางกรณีนักศึกษามีรายได้น้อยหรือได้ทุนซัปพอร์ตส่วนนี้ อาจเหลือแค่มิ้อละ 1 ยูโรเท่านั้น
  • ฝรั่งเศสเป็นประเทศที่ให้ความสำคัญกับวัฒนธรรมและศิลปะมาก นักศึกษาจะได้รับอีเมลที่บอกว่ากำลังจะมี Upcoming Events ที่ไหนบ้าง และได้รับตั๋วเข้าชมคอนเสิร์ต ละครเวที หรือมิวเซียมในราคาพิเศษ (บางครั้งอาจเข้าฟรีด้วยซ้ำค่ะ!)

Wrap Up & Cheer Up

ก่อนอื่นเราต้องมั่นใจและเคลียร์กับตัวเองแล้วว่าอยากพัฒนาตัวเองในสายงานนั้นๆ การเตรียมตัวสมัครอาจไม่ได้สั้นเพียงแค่ 1-2 เดือนหรือครึ่งปี สำหรับบางคนนานกว่านั้นเพื่อสร้างโพรไฟล์ให้โดดเด่นขึ้น เพราะเป็นทุนที่เหมาะกับคนที่อยากเป็นผู้เชี่ยวชาญสายงานเฉพาะทาง (Practitioner) โปรแกรมที่มีให้เลือกเจาะลึกมากๆ เช่น ถ้าเป็นจิตวิทยา ก็จะไม่ใช่แค่ทั่วไปค่ะ แต่เจาะลึกถึงจิตวิทยาการให้คำปรึกษาในโลกเทคโนโลยียุคปัจจุบัน

แต่ถ้าเจอโปรแกรมที่เปิดสอนใน Erasmus+ ที่ตรงกับเป้าหมายชีวิตจริงๆ มีความพร้อม และไม่ได้กังวลกับการย้ายประเทศทุกเทอม พี่เป็นคนนึงที่อยากเชียร์ให้สมัครนะคะ ถึงแม้จะไม่ได้ทุนในครั้งแรก แต่มันก็เป็นโอกาสที่ดีในการได้รับ feedback ว่าอะไรยังไม่ถึงเกณฑ์ และนำไปปรับปรุงในครั้งต่อไป ไม่ใช่ประสบการณ์สมัครที่เสียเปล่าแน่นอน

พี่กุ๊กไก่
พี่กุ๊กไก่ - Columnist มนุษย์เบ้าหน้าจีน หวีดนักร้องไทย คลั่งไคล้ซีรี่ส์เกาหลี คลุกคลีกับอาหารญี่ปุ่น

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

0 ความคิดเห็น