‘พี่ต้น’ #เด็กทุนฝรั่งเศส เรียนโทกฎหมายทางทะเลในรั้วน็องต์ (Nantes) ล่องเรือสู่โอกาสที่กว้างไกลดั่งมหาสมุทร

Bonjour! ชาว Dek-D ด้วยความที่ “ฝรั่งเศส” เป็นต้นแบบของหลายประเทศทั่วโลกรวมถึงไทยด้วย ทำให้มีคนในวงการและอาจารย์เก่งๆ หลายท่านจบกฎหมายจากที่นี่ค่ะ ซึ่งล่าสุดเรามีโอกาสพูดคุยกับ “พี่ต้น-พิชญญ์” ศิษย์เก่าทุน Franco-Thai ที่จบ ป.โท หลักสูตรภาษาฝรั่งเศสล้วน ด้านกฎหมายและความปลอดภัยในกิจกรรมทางทะเลและมหาสมุทร (Master in Law and Security of Maritime and Oceanic Activities) จากมหาวิทยาลัยน็องต์ (Nantes Université)  

// Nantes เป็นเมืองท่าที่มีประวัติศาสตร์การเดินเรือยาวนาน และเด็กกฎหมายที่นี่ก็มีโอกาสไปเรียนบางวิชาที่สถาบันสอนเดินเรือจริงๆ เป็นโบนัสอีกนะคะ // จะน่าสนใจขนาดไหน ตามมาล่องเรือทัวร์กันเลย!

เปิดสตอรี่ก่อนบินตรงฝรั่งเศส

จุดเริ่มต้นคือบ้านผมเป็นครอบครัวกฎหมาย พ่อแม่เป็นทนายความ บทสนทนาบนโต๊ะอาหารก็จะมีเรื่องนี้ตลอดเลยครับ เหมือนกับเราได้รับการปลูกฝังให้มองเห็นกฎหมายเป็นเรื่องของความยุติธรรม แล้วพอโตมาก็มีโอกาสตามไปดูคุณพ่อทำงานที่ชั้นศาล รู้สึกเขาเท่ดีครับ แล้วมีคดีนึงที่คุณพ่อสามารถคืนความเป็นธรรมให้กับคนบริสุทธิ์ที่ถูกกล่าวหาได้ ผมรู้สึกตอนนั้นทนายเป็นอาชีพที่เจ๋งมากๆ

ตอน ป.ตรี เรียนต่อคณะนิติศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ เรียนวิชาบังคับแบบรู้รอบด้าน มีทั้งวิชาบังคับและลงวิชาเลือกได้บ้าง ส่วนใหญ่ผมไปลงพวกกฎหมายนิติเวช, กฎหมาย EU, พาณิชย์นาวี, ทนายความและการว่าความ ฯลฯ (อยากแนะนำที่นี่มั้ย?) ผมว่าดีครับ คุณภาพโอเคเลย เข้าถึงอาจารย์ได้ง่าย ตอน ป.โท ผมก็ใช้ความรู้จากการเรียน ป.ตรีไปตอบในห้องเรียนได้ด้วย

และถ้าเกิดใครตั้งเป้าหมายจะเรียนต่อ คณะมี provide ชั้นเรียนภาษานอกหลักสูตรให้ด้วย เช่น ภาษาฝรั่งเศส ภาษาเยอรมัน ภาษาญี่ปุ่น ฯลฯ ซึ่งมีอาจารย์ชาตินั้นๆ มาสอน ส่วนผม พอรู้ว่าคณะมีคอร์สภาษาฝรั่งเศสให้ลงได้ ก็เลยจัดเลย แล้วได้เรียนกับอาจารย์ที่มาจากฝรั่งเศสที่เป็นทั้งอาจารย์ในมหาวิทยาลัยและเป็นทนายที่ practice จริงที่มาจากฝรั่งเศส รู้สึกว่าได้ความรู้เต็มที่เลยครับ

จริงๆ คิดเรียนต่อฝรั่งเศสตั้งแต่ ม.ปลาย แล้ว ช่วงที่เรียน ม.ปลายที่ รร.สวนกุหลาบนนท์ฯ ก็เคยไปแลกเปลี่ยน 1 ปีที่ฝรั่งเศส เลยมีโอกาสได้พัฒนาเรื่องภาษา เลยได้สอบวัดระดับภาษารอไว้เรียนต่อเลยผมว่าข้อดีข้อหนึ่งของภาษานี้คือถ้าเกิดเข้าใจกฎ ไม่ต้องท่อง Phonetic ก็อ่านออกได้เลย

ก่อนแลกเปลี่ยนผมมีไปเรียนภาษาฝรั่งเศสที่สถาบัน Alliance Française Bangkok ได้เรียนกับเจ้าของภาษาโดยตรง เคยทำพาร์ตไทม์แล้วได้คำชมจากลูกค้าฝรั่งเศสว่าสำเนียงดี ผมว่าการได้ฟังเจ้าของภาษามากๆ ทำให้เราคุ้นเคยแล้วไม่เปิดให้สำเนียงที่เพี้ยนเข้ามาทำให้ตัวเองสับสนเพิ่ม 555 อย่างน้อยพูดไปแล้วทำนองถูกครับ

สมัครทุนรัฐบาลฯ Franco-Thai

ทุนนี้ช่วยค่าเรียนทั้งหมด เหลือจ่ายค่าธรรมเนียมนิดหน่อย แล้วยังครอบคลุมตั๋วเครื่องบินไป-กลับ ประกันสุขภาพ *ถ้าอิงจากทุนปี 2025 เด็กทุน ป.โท จะได้ค่าครองชีพเดือนละ 860 ยูโร นอกจากนี้ก็ยังมีสวัสดิการที่ช่วยนักเรียนทุน เช่น ได้สิทธิ์จองหอมหา’ลัยก่อน ทำให้ไม่มีภาระเรื่องค่าเดินทางไปตึกเรียน ทำเรื่องให้ทุนช่วยค่าหอครึ่งนึงได้ แล้วในหอก็มีครัวให้ทำอาหารเองด้วย

ตอนขอทุนต้องใช้เวลาเป็นเดือน เริ่มจากไปสร้างโพรไฟล์บนเว็บ Franco-Thai เราจะต้องมีสำเนาหนังสือตอบรับเข้าเรียนจากมหาลัยไว้ยื่นสมัครด้วย แต่ถ้ายังไม่ถึงช่วงเปิดรับสมัคร/ยังไม่ได้ตอบรับเราเข้าเรียน ก็ต้องแนบหลักฐานที่ติดต่อกับมหาลัยที่เราสนใจเรียนนต่อด้วย

อย่างตอนนั้นผมส่งอีเมลติดต่อไปที่ Centre de Droit Maritime et Océanique ว่าทำไมเราถึงสนใจสาขาและมหาลัยนี้ เตรียมตัวยังไงบ้าง และระบุว่าเราต้องการการซัปพอร์ตเพื่อขอทุน Franco-Thai (มีแนบคะแนนภาษาฝรั่งเศส B2 และ Research Proposal ไปด้วย) ปรากฏว่าทางหลักสูตรที่ผมอยากเรียนตอบกลับมาเร็วมากครับ

สำหรับคนที่ไม่มั่นใจกับภาษาฝรั่งเศส จริงอยู่ครับที่ควรมีสกิลเพื่อให้ชีวิตง่ายขึ้น แต่ช่วงหลังประเทศฝรั่งเศสมีเปิดหลักสูตรภาษาอังกฤษมากขึ้น เช่น กฎหมายระหว่างประเทศ กฎหมายการค้าระหว่างประเทศ กฎหมายสหภาพยุโรป ฯลฯ ค่าเรียนอาจจะสูงกว่าแต่ทุน Franco-Thai ก็ครอบคลุมเหมือนกัน ถ้าสนใจแนะนำให้เช็กรายละเอียดทุนปีที่เราจะสมัครอย่างละเอียดนะครับ

สนใจกฎหมายการค้าทางทะเลมาตั้งแต่เด็ก

เคยเล่นเกมครับ เกมนั้นเป็นธีมโจรสลัด มีเรื่องการค้าขาย ซื้อถูกขายแพง ก็เริ่มสนใจเรื่องนี้

แล้วก็มาชะงักนิดนึงตอนคิดเรื่องเงินและสวัสดิการว่าเอกชนหรือรัฐเวิร์ก แต่พอเป็นสาขาที่ผมเรียน ครอบคลุมทั้งส่วนที่เป็น “กฎหมายพาณิชย์นาวี” (Maritime Law) เช่นเรื่องสัญญา การปฏิบัติกรณีเรือโดนกัน การเฉลี่ยความเสียหายและการประกันภัยทางทะเล ซึ่งเป็นภาคเอกชน และส่วนที่เป็น "กฎหมายทะเล" (Law of the Sea) ที่เกี่ยวกับการใช้งานพื้นที่ทางทะเลตามกฎหมายระหว่างประเทศ ​ซึ่งเป็นภาคมหาชนแล้วครับ เท่ากับหลักสูตรนี้เราจะได้เรียนด้านที่ชอบแล้วก็เพลย์เซฟ ในอนาคตต่อยอดไปได้ทั้งคู่

ช่วงแรกสนใจทาง Université Paris 1 Panthéon-Sorbonne หรือ Université Paris-Panthéon-Assas ซึ่งคณะนิติศาสตร์ทั้งสองมหาลัยนี้โดดเด่นมาก ซึ่งผมเห็นบ่อยจากทำเนียบอาจารย์ในคณะหลายคนที่จบจากฝรั่งเศส จนมาเจออีกชื่อนึงคือ Nantes Université แล้วเปิดสอนหลักสูตรที่น่าสนใจครับ

ที่มาของคำว่า ‘Nantes’ ที่เคยได้ยิน มาจาก 2 รากศัพท์ คำแรกคือมาจากชื่อเผ่า Namnetes ที่มาจากรากศัพท์ภาษา Gaul สื่อถึงแม่น้ำ อีกแหล่งมาจากคำว่า Nauta เป็นคำภาษาละตินที่แปลว่า “กะลาสี” เพราะที่นี่คือเมืองกะลาสี มีอู่ต่อเรือขนาดเล็กและโรงเรียนการเดินเรือพาณิชย์ ในเมืองก็บรรยากาศอบอุ่นและต้อนรับชาวต่างชาติด้วยครับ คำขวัญประจำเมืองคือ Favet Neptunus eunti (เนปจูนอำนวยพรแก่นักเดินทาง) แต่ละคณะของน็องต์จะกระจายอยู่ตามโซนต่างๆ ของเมือง เวลาเดินไปเรียนต้องเดินขึ้นที่สูง หรือนั่งรถรางก็ได้

เจอการเรียนสุดท้าทาย
และหลายวิชาที่คาดไม่ถึง!

ที่ฝรั่งเศส ป.โทจะแบ่งเป็น M1 (ปีแรก) และ M2 (ปีที่สอง) 

ช่วง M1 จะเน้นพื้นฐานกว้างๆ เช่น กฎหมายเอกชนและกฎหมายระหว่างประเทศ แล้วมีพวกวิชาที่สอนรูปแบบเฉพาะของฝรั่งเศส เช่น วิธีเขียนงาน  plan ในการตอบ วิธีเขียนอ้างอิง ฯลฯ มันจะมีแนวทางการเรียบเรียงคำตอบเฉพาะของเขาแหละ ส่วนผมจบ ป.ตรี กฎหมายจากไทยซึ่งมีหลักสูตร 4 ปี ส่วน ป. ตรี ที่ฝรั่งเศสระยะเวลา 3 ปี  ทำให้สามารถขอ waive M1 แล้วไปเรียน M2 ได้เลย เราก็ต้องมาเรียนรู้เนื้อหาส่วนที่ข้ามไป และอาศัยมนุษยสัมพันธ์นิดนึง ช่วงระหว่างเทอมก็จะพยายามไปถึงคลาสเร็วๆ แล้วขอคำแนะนำจากเพื่อนบ้างครับ 

วิชาเรียนหลักๆ มี 2 ส่วน ถ้าเป็นวิชากฎหมาย เรียนที่คณะไ่ม่เกินคลาสละ 30-40 คน และส่วนใหญ่เป็น lecture-based มีทั้งอาจารย์ที่เป็นสายเลกเชอร์ล้วน และอาจารย์โดยเฉพาะรุ่นใหม่ๆ จะเป็นสายชวนดิสคัสว่าคุณรู้ตรงนี้ไหม คิดเห็นยังไงบ้าง อ่านมาหรือยัง ฯลฯ ควรมีพื้นฐานมาก่อนเพื่อให้ตามทัน แล้วอีกส่วนคือวิชาที่ได้ไปเรียนที่ “ENSAM - Ecole Nationale de la Sécurité et de l'Administration de la Mer ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็น École du service public de la mer (ESPMER)” (ปกติเป็นสถานที่ฝึกอบรมเจ้าหน้าที่) มี 2 วิชาคือความปลอดภัยทางทะเลและเทคนิคการเดินเรือครับ

“วิชาความปลอดภัยทางทะเล” เรียนเกี่ยวกับมาตรฐานต่างๆ ของเรือที่ออกเดินทะเลได้อย่างปลอดภัยครับ เช่น มาตรฐานในการต่อเรือและอุปกรณ์ของเรือ มาตรฐานการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมทางทะเล มาตรฐาน ความปลอดภัยในการปฏิบัติการทางเรือ ฯลฯ 

กับ “วิชาเทคนิคการเดินเรือ” วิชานี้เรียนเรื่องการต่อเรือ (วัสดุ วิธีการประกอบ หลักการก่อสร้างและความล้าของตัวเรือ) ประเภทของเรือ (เรือประเภทต่างๆ และโหมดการทำงาน) หรือความปลอดภัยทางทะเล (เนื้อหาหลักเกี่ยวกับความปลอดภัยในทะเลและการจัดระเบียบในการต่อสู้กับภัยพิบัติบนเรือ) ซึ่งท้าทายสำหรับคนจบสายศิลป์ โดยเฉพาะตอนต้องมาดูว่ารายละเอียดว่าโครงสร้างเรือแบบนี้ เหล็กอยู่ในทะเลแล้วบรรทุกน้ำหนักแบบนี้ จะโดนเกลือกัดกร่อนเท่าไหร่ ถ้าไฟไหม้บนเรือจะทำยังไง สารเคมีตัวไหนและสาเหตุอะไรที่ทำให้เรือติดไฟบ้าง แล้วต้องเตรียมพร้อมรับมือแต่ละเหตุการณ์ยังไงบ้าง เวลาเดินเรือจะมีโอกาสเจอพายุได้ทุกเมื่อ 

วิชานี้จะเรียนเพื่อดูว่าเรือทนทานและพร้อมออกทะเลแค่ไหน ซึ่งมีครั้งนึงที่ผมได้เข้า Simulator จำลองการเดินเรือเหมือนอยู่บนสะพานเดินเรือจริงๆ แล้วมีคลื่นซัดมาให้ทดสอบครับ พอผมมีโอกาสลองจับพังงาเรือ (พวงมาลัยเรือ) เรือล่ม! ได้เห็นเส้นขอบฟ้าเป็นแนวตั้งแบบเต็มตาเลยครับ

แล้ววิชานึงที่ไม่คิดว่าจะมีด้วย ก็คือ“วิชาแรงงานทางทะเล” เช่น เรื่องกีฬาทางน้ำ ถ้ามีนักกีฬาจ้างมาเล่น ควรได้สวัสดิการระดับไหน นอกจากนี้ ในช่วงนั้นประเทศไทยติดใบเหลือง IUU อาจารย์วิชาภาษาอังกฤษในด้านทะเลเลยให้ทำข้อมูลนำเสนอหน้าชั้นเป็นกรณีพิเศษ ผลออกมาน่าประทับใจครับ

หรืออย่าง “วิชาสิ่งแวดล้อมทางทะเล” (Maritime Environmental Law) เราจะได้เรียนเรื่องการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรในทะเล เช่น โซนในทะเลหลวงที่ไม่ได้อยู่ในเขตเศรษฐกิจจำเพาะของประเทศไหนเลย แต่มีทรัพยากรที่หลายชาติอยากเข้าไปใช้ จึงต้องมีกฎระเบียบกลางที่กำกับดูแล หนึ่งในนั้นคือกฎหมายการทำประมง แต่ละประเทศกำหนดโควตาและมาตรการควบคุมอยู่ครับ วิชานี้ตอนเรียนสนุกกกก แต่ตอนสอบก็อีกเรื่องนะ 5555

บางวิชาสอบแบบกล่องสุ่ม
เตรียมตัวแบบตุ้มๆ ต่อมๆ 1 ชั่วโมง

มีวิชาที่ใช้จับฉลาก เช่น ในนั้นจะมีกฎหมายความปลอดภัยทางทะเล กฎหมายประกันภัยทางทะเล กฎหมายสิ่งแวดล้อม ฯลฯ เราจะได้สอบหนึ่งในวิชานี้เท่านั้น มีทั้งสอบข้อเขียนข้อใหญ่ที่อาจารย์เป็นคนจับฉลากให้เองแล้วมีผลกับนักศึกษาทั้งรุ่น กับอีกแบบคือสอบปากเปล่าที่ทุกคนจะได้จับเองหน้างาน ได้หัวข้อไหนก็มีเวลาเตรียมตัว 1 ชั่วโมง 

ผมว่าจุดนั้นจะไม่ได้มีปัญหากับภาษาแล้วแหละ แต่ปัญหาคือ เฮ้ย ข้อนี้ต้องตอบไรอ่ะ!!! แล้วก็จัดการกับความประหม่าครับ ถ้าตอนผมเจอเขามีจัดสอบเสมือนจริงให้เราเตรียมตัวก่อน // ตอนนั้นได้หัวข้อนึงแล้วผมผ่านมาด้วยดี แต่พอสอบจริงได้อีกหัวข้อ แล้วดันลืมพูดเคสสำคัญไป คะแนนก็หายไปแบบน่าเจ็บใจเลยครับ

ศึกชิงหัวข้อ Thesis ที่ไม่ธรรมดา

ถ้าเป็นในไทยอาจจะหาหัวข้อแล้วเสนออาจารย์ แต่ที่ฝรั่งเศสอาจารย์แต่ละคนจะหารือกันเรียบร้อย ใส่ลิสต์หัวข้อที่อยากให้นักศึกษาทำมาไว้ในแผ่นเดียว ผ่านไปวีคนึงก็เวียนให้ทุกคนเห็นว่ามีทั้งหมดตามนี้นะ ใครอยากทำหัวข้อไหนก็บอกอาจารย์นะ

ดังนั้นช่วง 2-3 วันแรก เด็กกฎหมายทั้งหลักสูตรจะนัดกินข้าวพร้อมกันกลุ่มใหญ่ ลากโต๊ะมาติดกัน คุยกันว่า “ฉันอยากทำหัวข้อนี้” แล้วก็อธิบายด้วยว่าทำไมเราถึงคู่ควรกับหัวข้อนี้ยังไงบ้าง ดึงมาขิงกันครับ 5555 เช่น ฉันจบด้านนี้มาตอน M1 ควรได้ทำหัวข้อนี้ หรืออย่างผมก็ขิงว่าถ้าเรื่องทะเลในภูมิภาคนี้ ผมเนี่ยเหมาะที่สุดแล้ว มีสกิลภาษา local ไปสืบค้นด้วย ดังนั้นผมควรได้ทำครับ!

เท่าที่สังเกตคือคนฝรั่งเศสนี่พูดเร็วมากกก ไม่ใช่อินเนอร์แบบโมโห แต่อินเนอร์แบบรักษาสิทธิ์ตัวเอง 555 ถ้าใครเจอสถานการณ์นี้ ขอให้หนักแน่นแล้วสู้ ไม่งั้นถ้าต้องหาหัวข้อใหม่จะเหนื่อยมาก การจบอาจจะล่าช้าไปอีกได้

สายงานของกฎหมายด้านนี้
ปรับใช้ได้กว้างเหมือนมหาสมุทร

ตอนอยู่ฝรั่งเศสผมเคยไปเดิน Job Fair แล้วดูพวกงานสายกฎหมาย ทำให้พบว่าถ้าไม่ได้ถือสัญชาติฝรั่งเศสจะท้าทายมาก หรือถ้าอยากเป็นทนายแต่ไม่ใช่พลเมือง EU ยิ่งยากไปใหญ่

• ที่ไทย หากจะทำงานทนายก็สามารถไปสอบตั๋วทนายหลังจบ ป.ตรี// ถ้าจะทำงานสายกฎหมายในไทยจะสำคัญตรงวุฒิ ป.ตรี นิติศาสตร์ครับ แต่งานสายกฎหมายของรัฐและเอกชนบางตำแหน่งไม่ต้องใช้ตั๋วทนาย
   
• ที่ฝรั่งเศส หากจะเป็นทนายต้องสอบตั๋วทนาย (CRFPA) สอบกฎหมายแพ่ง กฎหมายอาญา กฎหมายปกครอง กระบวนการยุติธรรมของฝรั่งเศส + สอบสัมภาษณ์กฎหมายวิชาชีพ (ศึกษาแนวทางได้ที่เว็บไซต์นี้ https://www.cnb.avocat.fr/en/accessing-legal-profession-france)

ถ้าเรียนจบหลักสูตรกฎหมายและความปลอดภัยของกิจกรรมทางทะเลและมหาสมุทร งานที่ต่อยอดได้กว้างเหมือนทะเลเลยครับ ถ้าจะสอบเข้าทำงานกับภาครัฐในไทย หน่วยงานที่มีอำนาจหน้าที่ในด้านนี้ก็จะมีกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย กรมเจ้าท่า กรมประมงการท่าเรือแห่งประเทศไทย  ฯลฯ ถ้าเอกชนก็จะมีพวกการใช้ทรัพยากรทางทะเล ขุดเจาะน้ำมัน ฯลฯ และยังสามารถไปเป็นนักกฎหมายพาณิชย์นาวีได้เหมือนกัน

ส่วนผมกลับมาทำงานแรกที่กระทรวงการต่างประเทศ เป็นนักวิจัยกฎหมายทะเลที่กองกฎหมาย ระหว่างนั้นก็สอบ ก.พ. ไปด้วย พอดีกับที่ “กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ” ของกระทรวงพาณิชย์มีเปิดสอบ ผมก็สมัครแล้วติดครับ ได้รับมอบหมายให้เป็นนักวิชาการพาณิชย์ปฏิบัติการที่สำนักยุโรป ก่อนจะโอนย้ายมาทำ “กองลิขสิทธิ์” ภายใต้กรมทรัพย์สินทางปัญญาจนถึงปัจจุบัน 

ตอนโอนมาอยู่กรมทรัพย์สินย์ทางปัญญา ไม่มีเนื้อหาที่เป็นจุดร่วมกับสิ่งที่เรียนโทมาเลย และเคยเรียนวิชาที่เกี่ยวแค่ตัวเดียวตอน ป.ตรี แต่สิ่งที่ ป.โท สอนคือวิธีคิดและค้นคว้าเพื่อพาตัวเองไปถึงจุดที่เป็น Master ได้ด้วยตัวเองแม้นั่นจะเป็นเรื่องใหม่ก็ตาม ผมค่อยๆ เรียนรู้จนสามารถตอบคำถามที่ประชาชนถามเข้ามา และดูว่าเราจะมีส่วนร่วมปรับปรุงกฎหมายที่มีอยู่ให้ดีขึ้นยังไงบ้าง

แชร์มุมมองการทำงานราชการ

หลายคนอาจเคยได้ยินหรือเจอประสบการณ์ทำงานราชการในมุมลบ แต่ผมเจอภาพที่ต่างไปเลยครับ ที่นี่ระบบทันสมัย สภาพแวดล้อมการทำงานดี เพื่อนร่วมงานดี แล้วเป็นงานที่ทำให้ผมภูมิใจกับสิ่งที่ทำมากๆ เพราะเราใช้ความสามารถที่มีทำประโยชน์ให้กับประเทศ แล้วผู้ที่ได้ประโยชน์ร่วมกันก็คือประชาชนทุกคน

ถ้าวันนั้นผมไม่ตัดสินใจไปเรียนต่อกฎหมายความปลอดภัยทางทะเล ก็นึกไม่ออกว่าจะมาอยู่จุดนี้ได้ไหม ไม่รู้ทุกวันนี้จะเป็นยังไงบ้าง เพราะทุกอย่างต่อยอดมาจากการเรียนตอนนั้นแหละ งานที่ทำในแต่ละที่ก็ส่งผลทำให้ได้เรียนรู้ แล้วก็มีโอกาสได้มาทำงานในจุดที่ทำอยู่ตอนนี้ครับ

ถ้าใครสนใจด้านกฎหมายแล้วอยากรับราชการในไทย ผมว่าค่อนข้าง shine มีโอกาสก้าวหน้าสูง เพราะการทำงานของส่วนราชการจะต้องอิงกับกฎหมาย โดยเฉพาะในหน่วยงานที่ใช้กฎหมายเป็นหลัก เช่น กรมทรัพย์สินฯ ก็มีเพื่อนร่วมงานที่ไม่จบกฎหมายเลือกไปเรียนนิติภาคบัณฑิตเพิ่ม แต่อย่างผมจบกฎหมายมาก็ปรับตัวได้ง่าย

#รีวิวฝรั่งเศส 

• มนุษย์สาย introvert อยู่ได้อย่างสบายใจมากที่นึง เพื่อนๆ โอเคคุยได้ไม่ก้าวก่ายเรื่องส่วนตัว // ถ้าชาวต่างชาติพูดภาษาฝรั่งเศสหรืออย่างน้อยแสดงความพยายามให้เห็น รับรองว่าชีวิตจะง่ายขึ้นมาก เราจะได้พบว่าเขาใจดีขึ้นมาอีกหลายเท่า ผูกมิตรง่าย เพราะเป็นชาติที่มีความภูมิใจในภาษาและวัฒนธรรมของตัวเองสูงครับ
• สะดวกปลอดภัย เดินทางง่าย มีรถรางที่เราซื้อตั๋วเดินทางรายเดือนได้แบบคุ้มมาก
• เป็นประเทศที่ขึ้นชื่อเรื่องอาหารอร่อย แม้แต่โรงอาหารที่มหาวิทยาลัยยังอร่อยและถูกมากๆ จ่ายแค่ 3 ยูโร มาทั้งเซ็ตทั้งอาหารจานหลัก สลัด ขนมหวาน โยเกิร์ต ฯลฯ
• เป็นประเทศที่เน้น Paperwork เวลาจะทำธุระต่างๆ เช่น ทำวีซ่า สมัครเรียน เปิดบัญชี สัญญาเช่าหอ ฯลฯ ต้องมีเอกสารครบและส่วนใหญ่ใช้กระดาษ และอาจต้องติดตามหลายรอบครับ

. . . . . .

[ You are all Invited. ]
โอกาสปรึกษาฟรีกับ 24 รุ่นพี่ทุนดีกรีสุดปัง
พบกัน 26-27 เม.ย. 68 ที่ไบเทคบางนา

เคลียร์คิวให้พร้อม เพราะ Dek-D's Study Abroad Fair  จะคัมแบ็กแบบเล่นใหญ่!  พาว่าที่เด็กนอกเริ่มก้าวแรกเตรียมพร้อมออกเดินทาง เพื่อพิชิตฝันเรียนต่อต่างประเทศให้เป็นจริง

• ปรึกษาฟรี 1:1 กับ 24 รุ่นพี่นักเรียนทุน ป.ตรี/โท/เอก อย่าพลาดโอกาสนี้! เพราะรอบนี้เราได้รับเกียรติจากทั้งศิษย์เก่าทุนรัฐบาลไทย, จีน, เกาหลีใต้, สิงคโปร์, ไต้หวัน, ญี่ปุ่น, ออสเตรเลีย, อิตาลี,  ฮังการี, สวีเดน, Franco-Thai, Fulbright TGS, Chevening, Erasmus+ รวมถึงทุนจากมหาวิทยาลัยและบริษัทเอกชน (แถมมีบูทจาก DAAD ของรัฐบาลเยอรมนีด้วย) เปิดบูทให้ทุกคนสามารถ Walk-in เพื่อพูดคุย ปรึกษา หรือรีวิว SoP แบบตัวต่อตัวได้
• แจกฟรี Planner วางแผนเรียนต่อนอกสำหรับมือใหม่
• IELTS Mock Test  - ทดลองสอบ IELTS ฟรีโดย British Council IELTS (Walk-in only)
• Alumni’s Talk: #ทอล์กเด็กนอก รายการพูดคุย-สัมภาษณ์รุ่นพี่นักเรียนทุนจากหลากประเทศ & แชร์ประสบการณ์เรียนต่อ การใช้ชีวิต จัดเต็ม 24 หัวข้อสุด Exclusive
• จัดพร้อม Dek-D’s TCAS Fair 2025 งานเรียนต่อมหาวิทยาลัยในไทยที่ใหญ่ที่สุด มางานเดียวคุ้ม ได้เลือกทั้งไทยและต่างประเทศ