‘พี่รินทร์’ จบการโรงแรมที่สวิสฯ & ติดทุนรัฐบาลออสฯ ไปต่อโทสายสถาปัตย์ UNSW ดีต่อใจแถมได้ปริญญาแบบดับเบิล!

สวัสดีค่าชาว Dek-D เชื่อว่าบัณฑิตจบใหม่หรือวัยทำงานที่อยากเรียนต่อออสเตรเลีย น่าจะเห็นข่าวเปิดรับสมัครของทุน Australia Awards – Mekong-Australia Partnership (MAP) ปีล่าสุดกันแล้วแน่ๆ ทุนนี้เป็นกลุ่มที่นักศึกษาจากประเทศกลุ่มลุ่มแม่น้ำโขงสามารถสมัครได้ สนับสนุนค่าเรียนตลอด 2 ปีแถมช่วยค่าใช้จ่ายส่วนอื่นๆ โดยไม่มีข้อผูกพันด้วยนะคะ ถ้าใครมีแพสชันอยากพัฒนาสังคมด้านต่างๆ ก็เรียกว่าเป็นแพสชันที่ตอบโจทย์วัตถุประสงค์ของทุนเลยค่ะ

และวันก่อนเรามีโอกาสได้พูดคุยกับ “พี่รินทร์” คนไทยที่ได้ทุนรัฐบาลออสเตรเลีย Mekong รุ่นแรก ซึ่งปัจจุบันเธอจบการศึกษา ป.โท Double Degree จากคณะ Arts, Design & Architecture มหาวิทยาลัยนิวเซาท์เวลส์ หรือ University of New South Wales (UNSW) บอกเลยว่าเป็นการตัดสินใจที่ถูกสุดๆ ทั้งสาขาเรียน มหาวิทยาลัย และเมืองที่ตั้ง จะปังในแง่มุมไหนไปเริ่มพาร์ตแรกกัน!

โอกาสปรึกษาฟรีกับ 24 รุ่นพี่ทุนดีกรีสุดปัง
พบกัน 26-27 เม.ย. 68 ที่ไบเทคบางนา

อ่านจบลิสต์ข้อสงสัยไว้ แล้วเตรียมมาพูดคุยปรึกษาแบบ 1:1 กับ "พี่รินทร์" ตัวจริงที่งาน Dek-D's Study Abroad Fair  นะคะ บอกเลยว่ารอบนี้เราได้รับเกียรติจาก 24 รุ่นพี่เด็กนอกหลายทุน หลายประเทศ ได้แก่ ทุนรัฐบาลไทย, จีน, เกาหลีใต้, สิงคโปร์, ไต้หวัน, ญี่ปุ่น, ออสเตรเลีย, อิตาลี,  ฮังการี, สวีเดน, Franco-Thai, Fulbright TGS, Chevening, Erasmus+, ทุนตรงจากมหาวิทยาลัยและบริษัทเอกชน (แถมมีบูทจาก DAAD ของรัฐบาลเยอรมนีด้วย) ขนทัพมาพร้อมไฮไลต์อีกแน่นงาน

 

Note: พบพี่รินทร์ได้ในวันอาทิตย์ ตั้งแต่ 09.00-13.00 น.

 

. . . . . .

จบการโรงแรมที่สวิส
ก่อนโลกพบวิกฤต COVID-19

สวัสดีค่า ชื่อพี่รินทร์นะคะ จบ ป.ตรีสาขา Business Administration in Hospitality Management จาก  Glion Institute of Higher Education สวิตเซอร์แลนด์ค่ะ ตอนนั้นไปด้วยทุนรัฐบาลไทย ‘One District One Scholarships’ (ODOS) (ปัจจุบันไม่มีทุนนี้แล้ว) 

หลังจบก็ทำงานเป็น Management Trainee ที่ประเทศดูไบ ได้ลองหลายส่วนทั่วทั้งโรงแรมเลยค่ะ แต่ที่ชอบสุดคือ Sales & Event และกลับไทยมาทำงานสาย Development Hotel 

จนถึงช่วงวิกฤตการณ์โควิด-19 จนถึงปี 2023-2024 ธุรกิจโรงแรมชะลอตัวลง แล้วรินทร์ก็รู้สึกยังอยากพัฒนาตัวเอง เลยหาข้อมูลว่ามีทุนไหนน่าสนใจบ้าง จนมาเจอกับ Australia Awards ที่เพิ่งเปิดรับรุ่น 3 และเราก็เป็นรุ่นแรกของกลุ่ม MAP  ที่คนจากกลุ่มประเทศลุ่มแม่น้ำโขงสมัครได้  (ไทยคือหนึ่งในสมาชิกค่ะ)

ส่วนสาขาเรียน รินทร์ดูเกี่ยวกับการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ แล้วทุนนี้มอบเต็มจำนวน 2 ปี (ถ้าเกินจากนี้ต้องจ่ายส่วนต่างเอง) สรุปคือเลือกเรียนที่ University of New South Wales 

สรุปความปัง ทำไมช้อยส์นี้ถึงลงตัว?

  • UNSW มีให้เลือกเรียน Double Degree เป็น Property Development และ Construction Project Management ควบคู่กัน ถ้ามีประสบการณ์ทำงานมาก่อนจะทำเรื่องขอ waive วิทยานิพนธ์และวิชาเลือกบางตัวได้ ทำให้จบได้ในระยะเวลา 2 ปีตามที่เราต้องการ
  • UNSW ดังด้านการออกแบบสิ่งก่อสร้าง (Building Design) และให้ความสำคัญกับ Green Energy และ Sustainability นำพลังงานธรรมชาติมาใช้ในอาคาร สมมติต้องการบำรุงรักษาก็จะไม่ทุบสร้างใหม่ แต่พยายามออกแบบโดยคงโครงสร้างเดิมไว้ แล้วปรับให้เหมาะกับการใช้งานอย่างยั่งยืน
  • UNSW ให้ความสำคัญกับ Well-being ของนักศึกษามากก ดูแลทั้งสุขภาพกาย สุขภาพจิต มีกิจกรรม กีฬา การพัฒนาตัวเองหลายๆ ด้าน
  • รินทร์ชอบทะเล ชอบทำกิจกรรมเกี่ยวกับน้ำ ซึ่งถ้าอยู่ที่ New South Wales เราสามารถเดินหรือนั่งบัสประมาณครึ่งชั่วโมงก็ถึงทะเลแล้ว ตื่นเช้าไปบีชดูพระอาทิตย์ขึ้นชิลๆ ได้เลย~~

ตอนนั้นรินทร์ยื่นคะแนน IELTS 7.5 เคยได้เงินทุนจัดกิจกรรมเพื่อสังคม (เช่น แคมป์ผู้สูงอายุ) แล้วหลักๆ คิดว่าการจบ ป.ตรี ที่สวิสฯ + เคยทำงานที่ต่างประเทศ​ สามารถการันตีได้ระดับนึงว่าเรามีสกิลการปรับตัว (Adaptability) และถ้าได้ทุนไปเรียนหลักสูตรที่สอนเป็นภาษาอังกฤษ จะมีศักยภาพเรียนจนจบได้

รินทร์ก็ยกประสบการณ์ต่างๆ นี้มาเล่าลงในเรียงความ Statement of Purpose (SoP) ที่สมัครทุนค่ะ บางคนอาจพลาดเพราะโฟกัสการโชว์ของ แต่จริงๆ ต้องอ่านคำถามให้เข้าใจและทำความรู้จักทุน แสดงให้เห็นว่าเป้าหมายของเราสอดคล้องกับจุดประสงค์ของทุน เราเคยทำอะไรมาก่อน แสดงให้เห็นภาวะผู้นำของเรายังไงบ้าง

Photo by bruce ma on Unsplash
Photo by bruce ma on Unsplash
https://www.facebook.com/unsw
https://www.facebook.com/unsw 
Photo by Soheb Zaidi on Unsplash
Photo by Soheb Zaidi on Unsplash

. . . . . .

ทุน Australia Awards
ไม่ใช่แค่เรียนฟรี แต่ดูแลดีมาก

พอได้ทุนรัฐบาลแล้วจะมาพร้อมความภูมิใจค่ะ สิ่งที่เห็นได้ชัดคือมีสวัสดิการที่ Support นักศึกษาจริงจัง เช่น ปกติถ้าเรียนที่ Sydney ค่าขนส่งสาธารณะจะราคาสูง แต่ถ้าเป็นเด็กทุนจะจ่ายน้อยลง ประหยัดไปพอสมควร

และรินทร์ได้รับทุนในกลุ่ม Mekong Partnership Program ซึ่งมี Leadership Camp สำหรับผู้ที่ได้รับทุนในกลุ่มนี้โดยเฉพาะ ที่นี่ทุกคนจะได้ร่วมกิจกรรม ทำ Assessment ด้านบุคลิกภาพ (Personality Type Assessment) ซึ่งช่วยให้เราเข้าใจตัวเองและการทำงานร่วมกับผู้อื่นมากขึ้น ประทับใจมากตรงที่ได้เจอเพื่อนๆ จากประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งไม่แน่ว่าอาจได้ร่วมงานกันในอนาคต // พอไปเจอเพื่อนร่วมทุน รินทร์เห็นจุดร่วมว่าทุกคนต่างมีแพสชันและอยากพัฒนาประเทศในด้านที่ตัวเองสนใจ ส่วนใหญ่เคยมีประสบการณ์ทำงานมาก่อน แล้วมาเรียนเพื่อเสริมมุมมองใหม่ๆ ค่ะ

. . . . . .

รีวิวเรียนสองปริญญา
เผชิญความท้าทายที่เป็นเรื่องใหม่

ด้วยความที่จบ ป.ตรี แล้วทำงานมา 6 ปี พอต้องกลับมาเริ่มเขียน essay อ่าน textbook ทำ research ก็ต้องปรับจูน แต่โดยรวมไม่หนักเกินไปค่ะ อาจเพราะ ใน 1 ปีการศึกษาเรียน 3 เทอม (ส่วนใหญ่ที่อื่นแบ่งแค่ 2 เทอม) ลงเทอมละ 3-4 วิชา แล้ววิชานึงก็เรียนแค่ 1-2 วันต่อสัปดาห์เท่านั้น

วิชาเรียนก็เป็นภาคค่ำทั้งหมดเพราะเปิดโอกาสให้วัยทำงานสามารถมาเรียนหลังเลิกงานได้ ส่วนใหญ่เพื่อนๆ ในคลาสมีประสบการณ์ทำงานสายนี้แล้วอยากมาต่อยอดค่ะ เช่น บางคนทำฝั่ง Construction แล้วอยากมาทำความเข้าใจอีกด้านของอสังหาริมทรัพย์ (Real Estate) อย่างเรื่องตัวเลขและการวิเคราะห์โครงการ 

หรืออย่างรินทร์เอง ตั้งแต่เรียนจบ ป.ตรี แล้วออกมาทำงานเครือโรงแรม งานของรินทร์คือการดูตัวเลขเป็นหลัก ความน่าสนใจคือเรื่องตัวเลขและคณิตศาสตร์ในการพัฒนาอสังหาฯ คือการคำนวณที่เมกเซนส์ค่ะ สมมติเรามีที่ดินสักแปลง เราต้องคิดว่าถ้าจะพัฒนาอะไรขึ้นมา จะคุ้มทุนไหม เราต้องดู Land Cost, Development Cost แล้วทำ Forecast ว่าถ้าปล่อยเช่า ต้องใช้เวลากี่ปีถึงจะคืนทุน

นอกจากนี้ยังต้องวิเคราะห์ตลาด เช่น ห้องพักแบบนี้ปล่อยเช่าได้ราคาเท่าไหร่? มีอัตราการเข้าพักกี่เปอร์เซ็นต์? เต็มตลอดไหม? ค่าใช้จ่ายในการบริหารอาคารเป็นยังไง? รวมถึงแหล่งเงินทุน เช่น เราจะใช้เงินสด 100% หรือกู้แบงก์? ดอกเบี้ยเท่าไหร่? ทั้งหมดนี้คือหลักการทั่วไปที่ใช้คิด

อย่างไรก็ตามงานการพัฒนาอสังหาฯ​ ไม่ได้มีแค่เรื่องตัวเลข รินทร์ได้ทำงานกับเพื่อนที่ดูเรื่องโครงสร้าง (Construction) ทำให้เราอยากเข้าใจมุมนี้ขึ้น ก็เลยเลือกโปรแกรม Property Development ที่ตั้งใจว่าจะมาต่อยอดการเรียนกับการทำงานก่อนหน้านี้ ควบคู่กับสาขา Construction Project Management ซึ่งเป็นเรื่องที่ใหม่สำหรับเราพอสมควร (ตอนนั้นเพื่อนร่วมคลาสคอยช่วยอธิบายให้เข้าใจ เพราะพวกเขาเป็นวิศวกรก่อสร้างมาก่อน)

ปกติถ้าเรียนปริญญาเดียวต้องเก็บ 72 หน่วยกิต แต่ถ้าเลือก Dual Degree จะลดหลั่นลงมาหน่อยเป็น 108 หน่วยกิต แล้วรินทร์มีประสบการณ์ทำงานที่ waive วิชาเลือกบางตัวกับธีสิสได้ แนะนำให้เช็กข้อมูลบนเว็บไซต์ https://www.unsw.edu.au/study/postgraduate/master-of-construction-project-management-property-and-development  เผื่อมีการเปลี่ยนแปลงค่ะ 

โครงสร้างหลักสูตร Double Degree

การเรียน 2 สาขานี้ต่างกันยังไงบ้าง?

สาขา Property Development จะได้เรียนการวางแผนพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ วิธีคิดในการพัฒนาโครงการ ตั้งแต่การเลือกประเภทอสังหาริมทรัพย์ (Property Type), การวิเคราะห์แผนงาน (Project Planning) ไปจนถึงการดูที่ดินว่ามีศักยภาพแค่ไหน 

แล้วก็ครอบคลุมไปถึงเรื่องกฎหมายอสังหาริมทรัพย์ (Property Law) และสัญญาจ้างงาน (Contracting) เพราะแต่ละโครงการจะมีการจ้าง Subcontractor ที่มารับงานในแต่ละส่วน เช่น งานโครงสร้าง งานระบบไฟฟ้า งานตกแต่ง แล้วต้องทำสัญญาแยกกันเพื่อให้ทำงานเป็นระบบและชัดเจนขึ้น บางเรื่องเราก็รับรู้มาจากตอนทำงาน แต่ได้มาเรียนมุมมองคนออสซี่ ซึ่งน่าสนใจมากๆ และไม่ยากเกินไปค่ะ

ในขณะที่สาขา Construction Project Management จะเป็นการเรียนรู้เชิงเทคนิคเกี่ยวกับวางแผนการก่อสร้างโดยใช้ซอฟต์แวร์เข้ามาช่วย การมองภาพรวมว่าจะวางแผนโครงการก่อสร้างอย่างไรให้มีประสิทธิภาพ เช่น ‘Microsoft Project’ ซึ่งช่วยจัดตารางงานของทีมในไซต์ก่อสร้าง รวมถึงการประเมินความเสี่ยงด้วย หรืออีกซอฟต์แวร์สำคัญคือ ‘Revit’ ปัจจุบันในไทยก็เริ่มใช้กันมากขึ้นแล้วค่ะ

ถ้าย้อนกลับไปสมัยก่อนจะใช้การวาดมือ แต่ต่อมาพัฒนาจาก 2D เป็น 3D เพื่อช่วยลดข้อผิดพลาดตอนก่อสร้าง เพราะถ้า error ขึ้นมาจะแก้ไขยากและค่าใช้จ่ายสูงด้วยค่ะ

https://www.facebook.com/unsw
https://www.facebook.com/unsw 

อาจารย์มีทั้งสายวิชาการเข้มๆ
และผู้เชี่ยวชาญจากอุตสาหกรรม

รินทร์ว่าอาจารย์ที่ UNSW เค้าเก่งและเปิดกว้างมากๆ ไม่ใช่แค่สอนเลกเชอร์ไปตามหลักสูตรแต่เน้นให้เข้าใจจริงๆ ถ้าสงสัยยกมือถามได้ หลักๆ อาจารย์จะมี 2 กลุ่มคือ อาจารย์ที่เป็นสายวิชาการ  (Academic Experts) จบด้านการสอนมาโดยตรง ทำให้มีวิธีอธิบายให้เราเข้าใจง่าย และอีกกลุ่มคือผู้ที่เป็นมืออาชีพจากอุตสาหกรรม (Industry Professionals) ตอนเรียนเขาจะยกกรณีศึกษาจากประสบการณ์ตรงมาเล่า แล้วเรายังได้ฟังจากมุมเพื่อนร่วมคลาสอีกค่ะ ช่วยให้เห็นภาพมากๆ

สำหรับบางวิชา ถ้ามี Textbook หรือเนื้อหาที่สามารถศึกษาเองล่วงหน้าได้ เราอาจจะไปอ่านมาก่อนแล้วไฮไลต์ประเด็นที่สนใจแล้วมาถามในคลาส แนะนำว่าถ้าเกิดเราทำ Assignments แล้วเวลาเหลือ ก็อาจจะคุยกับอาจารย์ได้ว่าอยากให้ทำอะไรเพิ่มเติมไหม เราจะได้ไปสืบค้นลึกขึ้นและอาจช่วยให้คะแนนเราดีขึ้นได้

. . . . . .

นี่แหละ UNSW Experiences
ได้เรียนพร้อมใช้ชีวิตในด้านอื่นด้วย

UNSW มีเป็น 100+ ชมรม เริ่มมาวันปฐมนิเทศเขาก็จะมาตั้งบูทแนะนำให้เราเลือกสมัครได้เลย

ตอนนั้นรินทร์ไปเข้าชมรม ‘Scuba Diving’ ของ UNSW หนึ่งในชมรมที่ดังและจริงจังมากกกของมหา’ลัย รวมตัวนักดำน้ำที่มี License อยู่แล้ว สมาชิกมีตั้งแต่นักศึกษา อาจารย์ที่สอน และพนักงานในมหา’ลัย เพราะสามารถเช่าอุปกรณ์ได้ในเรทที่ถูกลงค่ะ

พอรินทร์เป็นนักศึกษามาได้สักระยะ ก็ร่วมกับเพื่อนตั้งชมรมขึ้นมาค่ะ นั่นก็คือ ‘Australia Awards Society’ สำหรับนักเรียนทุนนี้ที่เรียนใน UNSW เปิดโอกาสให้นักเรียนทุนมาแบ่งปันประสบการณ์ เช่น การปรับตัวเมื่อมาถึงออสเตรเลียครั้งแรก ปัญหาที่พบเจอ การหาที่พัก และอื่นๆ คอยช่วยเหลือและสร้างคอนเน็กชันกัน

Tips: สำหรับคนที่ไม่มั่นใจว่าจะหาเพื่อนได้ไหม หรือกลัวติดเรื่องภาษา แนะนำให้อยู่หอในมหา’ลัยค่ะ เพราะทุกคนมาจากต่างที่แล้วอยากทำความรู้จัก มีการชวนการไปแฮงก์เอาต์หรือทำกิจกรรม

แล้วอีกชมรมที่รินทร์ไปเข้าร่วมด้วย แล้วรู้สึกสะท้อนถึงความใส่ใจมากๆ ก็คือ ‘She Can’ เป็นชมรมที่ co กับมหาวิทยาลัยค่ะ เน้นส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศ เพราะผู้หญิงบางคนจะกังวลเวลาต้องไป Gym ออกกำลังกาย แต่ไม่มั่นใจว่าตัวเองใช้เครื่องเล่นหรือออกแรงถูกท่าไหม ซึ่งชมรมนี้ก็จะช่วยให้ผู้หญิงกล้าเริ่มต้นและเล่นได้อย่างมั่นใจโดยไม่ต้องกังวลสายตาคนอื่น

กิจกรรมก็จะมีตั้งแต่ พิลาทิส ปีนผา โยคะ มวย ฟุตบอล คลาสป้องกันตัว การออกกำลังกายในฟิตเนส ฯลฯ อย่างที่รินทร์ไปก็มีคลาสพิลาทิสและโยคะ ช่วยเพิ่มความแข็งแรงและความยืดหยุ่นของร่างกาย มีพาไปเรียนเซิร์ฟ เปิดโอกาสให้ลองกีฬาทางน้ำ และมีผู้เชี่ยวชาญด้านกายภาพบำบัดที่คอยให้คำแนะนำเรื่องท่าทางที่ถูกต้อง ป้องกันอาการบาดเจ็บด้วยค่ะ

ชมรม She Can

และเรื่องการเตรียมพร้อมสู่การทำงาน ที่นี่จะมี ‘Employment Seminar’ ซึ่งเป็นอีเวนต์ที่เปิดโอกาสให้นักศึกษาได้เจอกับตัวแทนจากบริษัทชั้นนำในอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น สายสถาปัตยกรรม, สายก่อสร้าง, สายวิศวกรรม และสายงานอื่นๆ เขาจะเปิดให้ลงทะเบียนล่วงหน้าค่ะ ในงานมีทั้งตัวแทนบริษัทมาให้ข้อมูลเกี่ยวกับโอกาสฝึกงาน การทำงานจริง รวมถึงเทรนด์ของแต่ละสายอาชพ เป็นโอกาสให้ได้สร้างคอนเน็กชันด้วย

แล้วในเทอมสุดท้าย รินทร์เข้าร่วมโปรแกรม New Wave ของมหาวิทยาลัย UNSW ที่เน้นเสริมสร้างทักษะการเป็นผู้ประกอบการ (Entrepreneurial Skills) สำหรับผู้หญิง โปรแกรมนี้จัดปีละ 3 รุ่น เปิดโอกาสให้ศิษย์เก่า นักศึกษาปัจจุบัน หรือพนักงานของ UNSW ที่มีไอเดียได้ลองมาแชร์และแข่งขันเพื่อดึงดูดนักลงทุน โดยมีแพลตฟอร์มที่มีแชร์โอกาสด้านอาชีพการงานอยู่ตลอด บางทีคนที่จัดตั้งบริษัทก็หาเพื่อนร่วมทีมมา join กันจากในนี้ได้

ใน New Wave ยังมีโค้ช/เมนเทอร์ ให้เราจองตารางนัดพูดคุยกับขอคำแนะนำเกี่ยวกับปัญหาที่พบในการพัฒนาไอเดียธุรกิจได้นะคะ แต่ละคนจะเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน เช่น การแข่งขันทางธุรกิจ (competitive strategy), การตลาด (marketing) และมุมมองเชิงธุรกิจ (business angles) ฯลฯ ถ้าใครอยากทำธุรกิจถือ มหาวิทยาลัย UNSW เรียกว่าเตรียมให้พร้อมพอสมควรเลย

. . . . . .

จะบอกว่าเป็นโชคชะตาก็ไม่ผิด!

เพราะอย่างที่เล่าไป University of New South Wales  ไม่ใช่ช้อยส์แรกของรินทร์เลยค่ะ แต่พอมาเรียนจริงคือลงตัวหมดทั้งหลักสูตร เมือง บรรยากาศ ขนาดไปเที่ยวมาหลายที่ รัฐ New South Wales ก็ยังเป็นที่หนึ่งในใจค่ะ

ใครอยากเรียนต่อออสเตรเลีย และทุนรัฐบาลออสเตรเลีย Australia Awards Scholarships ลองเข้าไปศึกษารายละเอียดก่อนว่าเราสมัครได้ไหม? ครอบคลุมสาขาไหนบ้าง? มีขั้นตอนอย่างไร? ในบทความ https://www.dek-d.com/studyabroad/66014  มีสรุปครบ หรือตามไปศึกษาไว้เตรียมพร้อมในโอกาสหน้าได้นะคะ :)

. . . . . .

[ You are all Invited. ]
โอกาสปรึกษาฟรีกับ 24 รุ่นพี่ทุนดีกรีสุดปัง
พบกัน 26-27 เม.ย. 68 ที่ไบเทคบางนา

เคลียร์คิวให้พร้อม เพราะ Dek-D's Study Abroad Fair  จะคัมแบ็กแบบเล่นใหญ่!  พาว่าที่เด็กนอกเริ่มก้าวแรกเตรียมพร้อมออกเดินทาง เพื่อพิชิตฝันเรียนต่อต่างประเทศให้เป็นจริง

  • ปรึกษาฟรี 1:1 กับ 24 รุ่นพี่นักเรียนทุน ป.ตรี/โท/เอก อย่าพลาดโอกาสนี้! เพราะรอบนี้เราได้รับเกียรติจากทั้งศิษย์เก่าทุนรัฐบาลไทย, จีน, เกาหลีใต้, สิงคโปร์, ไต้หวัน, ญี่ปุ่น, ออสเตรเลีย, อิตาลี,  ฮังการี, สวีเดน, Franco-Thai, Fulbright TGS, Chevening, Erasmus+ รวมถึงทุนจากมหาวิทยาลัยและบริษัทเอกชน (แถมมีบูทจาก DAAD ของรัฐบาลเยอรมนีด้วย) เปิดบูทให้ทุกคนสามารถ Walk-in เพื่อพูดคุย ปรึกษา หรือรีวิว SoP แบบตัวต่อตัวได้
  • แจกฟรี Planner วางแผนเรียนต่อนอกสำหรับมือใหม่
  • IELTS Mock Test  - ทดลองสอบ IELTS ฟรีโดย British Council IELTS (Walk-in only)
  • Alumni’s Talk: #ทอล์กเด็กนอก รายการพูดคุย-สัมภาษณ์รุ่นพี่นักเรียนทุนจากหลากประเทศ & แชร์ประสบการณ์เรียนต่อ การใช้ชีวิต จัดเต็ม 24 หัวข้อสุด Exclusive
  • จัดพร้อม Dek-D’s TCAS Fair 2025 งานเรียนต่อมหาวิทยาลัยในไทยที่ใหญ่ที่สุด มางานเดียวคุ้ม ได้เลือกทั้งไทยและต่างประเทศ
มาเถอะ อยากเจอ! ดูรายละเอียดที่นี่
พี่กุ๊กไก่
พี่กุ๊กไก่ - Columnist มนุษย์เบ้าหน้าจีน หวีดนักร้องไทย คลั่งไคล้ซีรี่ส์เกาหลี คลุกคลีกับอาหารญี่ปุ่น

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

0 ความคิดเห็น