รักน้ำ รักทะเล เซทางนี้! รวม 5 มหา’ลัยสุดปัง โด่งดังสาย Marine & Ocean (+แนะนำเส้นทางอาชีพ)

สวัสดีน้องๆ ชาว Dek-D ทุกคนค่า รอบก่อนพี่แอลได้มาแจกพิกัดมหาวิทยาลัยสายกีฬา และสายสถาปัตย์กันไปแล้ว รอบนี้มาที่สายวิทย์กันบ้าง แต่ๆๆ สายวิทย์นี้เขาไม่ธรรมดาค่ะ เพราะเขาเป็นวิทยาศาสตร์ที่เรียนเกี่ยวกับทางทะเล เห็นแบบนี้ก็เริ่มสงสัยกันแล้วใช่ไหมล่ะคะว่าสายนี้เขาเรียนวิชาอะไรกัน จบมาทำอะไรได้บ้าง วันนี้พี่แอลเลยได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับสาขาที่คนรักทะเลจะต้องถูกใจกัน เช่น ‘Marine Science (วิทยาศาสตร์ทางทะเล)’ ‘Marine Biology (ชีววิทยาทางทะเล)’และ ‘Oceanography (สมุทรศาสตร์)’ รวมถึงมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงด้านนี้โดยเฉพาะมาให้น้องๆ ได้รู้จักกันค่ะ ถ้าพร้อมแล้วเรามาดูรายละเอียดเกี่ยวกับสายนี้และความปังของแต่ละมหา’ลัยกันเลยค่า Let’s go~

‘Marine Science’ ‘Marine Biology’ ‘Oceanography’
เรียนเกี่ยวกับอะไร? แตกต่างกันอย่างไร?

ก่อนอื่นเลยเราแวะมาทำความรู้จักกับ ‘Marine Science’ หรือวิทยาศาสตร์ทางทะเลกันก่อน Marine Science ก็คือศาสตร์ที่เรียนครอบคลุมทุกอย่างเกี่ยวกับทะเล ทั้งชีววิทยาทางทะเล (สัตว์และพืชในทะเล), เคมีทางทะเล (องค์ประกอบของน้ำทะเล) และ ฟิสิกส์ทางทะเล (คลื่น กระแสน้ำ) 

ส่วน ‘Marine Biology’ หรือชีววิทยาทางทะเลนั้นเป็นอีกหนึ่งสาขาย่อยที่เน้นเรียนเกี่ยวกับ สิ่งมีชีวิตในทะเลโดยเฉพาะ เช่น สัตว์ทะเล พืชทะเล ระบบนิเวศ และการอนุรักษ์สิ่งมีชีวิตใต้ทะเล

และ ‘Oceanography’ ที่เห็นแค่ชื่อก็รู้แล้วว่าเรียนเกี่ยวกับมหาสมุทรแน่นอน โดยจะเรียนตั้งแต่ด้านกายภาพ เคมี และธรณีวิทยาของมหาสมุทร เช่น การเคลื่อนที่ของกระแสน้ำ อุณหภูมิ ความเค็มของน้ำทะเล และการเปลี่ยนแปลงทางธรณีวิทยาใต้น้ำ นอกจากนี้สาขาสมุทรศาสตร์ก็ยังสามารถแบ่งออกเป็นสาขาย่อยๆ ได้อีก เช่น Physical Oceanography, Biological Oceanography และ Geological Oceanography เป็นต้น

..............

เรียนจบแล้วทำอาชีพอะไรได้บ้าง?

เห็นเรียนเฉพาะทางแบบนี้แต่บอกเลยว่ามีสายงานให้เลือกไม่น้อยเลย ยกตัวอย่างเช่น

• นักชีววิทยาทางทะเล (Marine Biologist) – ศึกษาสัตว์ทะเล พฤติกรรม และระบบนิเวศทางทะเล ซึ่งมักจะทำงานในสถาบันวิจัย หน่วยงานรัฐบาล หรือองค์กรด้านสิ่งแวดล้อม
   
• นักอนุรักษ์ทะเล (Marine Conservationist) – ทำงานในด้านการปกป้องและรักษาชีวิตทางทะเล ถิ่นที่อยู่อาศัย และระบบนิเวศ
   
• นักมหาสมุทรวิทยา (Oceanographer) – ศึกษาคุณสมบัติทางกายภาพ เคมี หรือชีววิทยาของทะเล โดยมักทำงานในการวิจัยหรือกับหน่วยงานด้านสิ่งแวดล้อม
   
• นักนิเวศวิทยาทางน้ำ (Aquatic Ecologist) – ศึกษาระบบนิเวศทั้งในน้ำจืดและน้ำเค็ม เพื่อทำความเข้าใจผลกระทบจากสิ่งแวดล้อมและการปฏิสัมพันธ์ระหว่างสายพันธุ์
   
• วิศวกรทางทะเล (Marine Engineer) – ออกแบบและบำรุงรักษาอุปกรณ์หรือโครงสร้างที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมทางทะเล เช่น เรือ หุ่นยนต์ใต้น้ำ หรือแพลตฟอร์มในทะเล
   
• นักวิทยาศาสตร์ด้านการประมง (Fisheries Scientist) – จัดการประชากรปลาและระบบนิเวศทางทะเล โดยมักทำงานร่วมกับรัฐบาลหรือองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรเพื่อให้การประมงยั่งยืน
   
• ที่ปรึกษาด้านสิ่งแวดล้อม (Environmental Consultant) – ให้คำแนะนำแก่บริษัทหรือรัฐบาลเกี่ยวกับปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมทางทะเล เช่น มลพิษ การฟื้นฟูที่อยู่อาศัย และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
   
• ผู้สอนวิทยาศาสตร์ทางทะเล (Marine Educator) – สอนวิทยาศาสตร์ทางทะเลในโรงเรียน มหาวิทยาลัย หรือ พิพิธภัณฑ์
   
• ผู้ดูแลพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ (Aquarium Curator) – จัดการชีวิตทางทะเลในพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำหรือสวนสัตว์น้ำ โดยเน้นทั้งการศึกษาและการวิจัย

‘University of Washington’

มาเริ่มกันที่ ‘University of Washington’ หรือ ‘UW’ มหาวิทยาลัยชื่อดังจากฝั่งอเมริกาที่มีความเชี่ยวชาญด้านนวัตกรรมและการวิจัย โดยติดท็อปอันดับที่ 25 ของโลกจากการจัดอันดับของ Times Higher Education (THE) World University Rankings (2024) ยิ่งไปกว่านั้นที่ UW ยังมีนักวิจัยที่ได้รับรางวัลโนเบลในด้านการแพทย์ ฟิสิกส์ เคมี ถึง 8 คนเลยทีเดียว

และอีกหนึ่งความที่งามของ UW ที่เราไม่พูดถึงไม่ได้เลยคือเขามี ‘School of Oceanography’ ซึ่งเป็นสถาบันแรกที่รองรับหลักสูตรปริญญาตรีในสาขาสมุทรศาสตร์ และยังมีความร่วมมือกับองค์กรระดับโลก ‘National Oceanic and Atmospheric Administration (NOAA)’ ซึ่งเป็นการเปิดโอกาสให้นักเรียนของที่นี่ได้มีส่วนร่วมในการศึกษาโครงการวิจัยระดับนานาชาติมากมายเลยค่ะ

พาส่องหลักสูตรน่าสนใจ

..............

‘University of California, San Diego (UCSD)’

อีกหนึ่งมหาวิทยาลัยระดับท็อปของอเมริกา ‘University of California, San Diego’ ที่ตั้งอยู่ใจกลางซานดิเอโก เมืองเมืองริมทะเลที่ขึ้นชื่อเรื่องชายหาดสวยงาม ไม่ว่าจะเป็น La Jolla Cove, Coronado Beach, และ Mission Beach //โลเคชันปังไม่ไหวว

นอกจากนี้ UCSD ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นศูนย์กลางของการศึกษาด้านมหาสมุทรศาสตร์ระดับนานาชาติ โดยมี ‘Scripps Institution of Oceanography (SIO)’ ซึ่งเป็นหนึ่งในสถาบันวิจัยทางทะเลที่ใหญ่และเก่าแก่ที่สุดของโลก หลายคนอาจไม่เคยรู้มาก่อนว่าที่นี่เขามีบทบาทสำคัญกับโลกของเรามากๆ เลยค่ะ ทั้งเป็นแหล่งข้อมูลสำคัญทางการศึกษาทะเลของโลก และยังเป็นสถาบันวิจัยแห่งแรกที่ค้นพบและเตือนภัยเกี่ยวกับการเพิ่มขึ้นของคาร์บอนไดออกไซด์ในชั้นบรรยากาศและสภาวะโลกร้อนอีกด้วย

และแน่นอนว่าที่ SIO เองก็ได้มีความร่วมมือกับองค์กรวิจัยชั้นนำระดับโลกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น National Oceanic and Atmospheric Administration (NOAA), National Aeronautics and Space Administration (NASA) และ National Science Foundation (NSF)

พาส่องหลักสูตรน่าสนใจ

SIO Department

Undergraduate Program (ปริญญาตรี)

Graduate Programs (ปริญญาโท/เอก)

ในระดับปริญญาโทและเอกจะแบ่งออกเป็น 3 โปรแกรมหลักดังนี้

..............

‘University of Miami’

มาต่อกับอีกหนึ่งมหาวิทยาลัยเอกชนชื่อดังฝั่งอเมริกากันค่ะ บอกเลยว่า ‘University of Miami’ เขาเป็นเลิศด้านการวิจัยสุดๆ โดยมีผู้เชี่ยวชาญกว่า 200 คนดูแล ‘Office of the Vice Provost for Research & Scholarship’ ซึ่งเป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบด้านการวิจัยและทุนการศึกษาในมหาวิทยาลัยแห่งนี้

ในด้านวิทยาศาสตร์ทางทะเลเขาก็มี 'Rosenstiel School of Marine and Atmospheric Science (RSMAS)' ซึ่งเป็นหนึ่งในสถาบันวิจัยทางทะเลที่ขึ้นชื่อว่าดีที่สุดในโลก โดยมีนักวิจัยฉลามชั้นนำอย่าง Neil Hammerschlag เคยได้รับเชิญให้เป็นผู้เชี่ยวชาญในรายการ 'Shark Attack Files' ซึ่งออกอากาศทาง National Geographic ที่เป็นช่องสารคดีระดับโลกด้วยนะคะ!

แถมที่นี่เขายังมีทุนการศึกษา ‘Stamps Scholarship’ ที่ครอบคลุมทั้งค่าเล่าเรียน ค่าที่พัก ค่าอาหาร ค่าหนังสือ และค่าใช้จ่ายอื่นๆ รวมถึงการทำวิจัย (กระซิบว่าถ้ามีผลการเรียนที่โดดเด่นก็อาจได้รับทุนเต็มจำนวนอีกค่า)

พาส่องหลักสูตรน่าสนใจ

Undergraduate Programs (ปริญญาตรี)

Graduate Programs (ปริญญาโท/เอก)

..............

James Cook University (JCU)

มาที่ฝั่งออสเตรเลียกันบ้างกับ ‘James Cook University’ หรือ JCU เป็นมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงในด้านวิทยาศาสตร์ทางทะเลและสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะ Marine Biology และ Oceanography โดยที่ JCU อีกทั้งยังมีบทบาทสำคัญในการอนุรักษ์และวิจัยแนวปะการัง Great Barrier Reef ซึ่งเป็นมรดกโลก

นอกจากนี้ JCU ยังมีความร่วมมือกับศูนย์วิจัยชั้นนำอย่าง ARC Centre of Excellence for Coral Reef Studies ซึ่งเป็นศูนย์วิจัยระดับนานาชาติที่มุ่งเน้นการศึกษาแนวปะการัง รวมถึง Great Barrier Reef Marine Park Authority (GBRMPA) และ Australian Institute of Marine Science (AIMS) เพื่อศึกษาและปกป้องสิ่งแวดล้อมทางทะเลอีกด้วย

พาส่องหลักสูตรน่าสนใจ

Undergraduate Programs (ปริญญาตรี)

Postgraduate Programs (ปริญญาโท)

..............

The University of Queensland (UQ)

ปิดท้ายด้วย ‘The University of Queensland’ หรือ UQ  มหาวิทยาลัยชั้นนำจากฝั่งออสเตรเลียกับ  ตั้งอยู่ใจกลางบริสเบน​ ครองอันดับที่ 43 จาก QS World University Rankings 2024 และยังเป็นส่วนหนึ่งของ Group of Eight Universities ในออสเตรเลียอีกด้วย

ในด้านวิทยาศาสตร์ทางทะเลบอกเลยว่า UQ เขาก็เริดไม่แพ้ใคร เพราะมีทั้ง ‘Centre for Marine Science’ ซึ่งเป็นหนึ่งในศูนย์วิจัยทางทะเลชั้นนำของโลก และ มีสถานีวิจัยที่เกาะเฮรอน (Heron Island) และเกาะนอร์ธสแตรดโบรค (North Stradbroke) ซึ่งตั้งอยู่บนแนวปะการังเกรตแบร์ริเออร์รีฟ ซึ่งเปิดโอกาสให้นักเรียนและนักวิจัยของ UQ สามารถทำการวิจัยและเรียนรู้ภาคสนามได้อย่างเต็มที่

พาส่องหลักสูตรน่าสนใจ

Undergraduate Programs (ปริญญาตรี)

Postgraduate Programs (ปริญญาโท)

………………

ก็จบไปเป็นที่เรียบร้อยกับสาขาวิทยาศาสตร์ทางทะเล ทั้งแปลกใหม่และน่าสนใจมากๆ เลยใช่ไหมล่ะคะ สำหรับใครที่อ่านบทความนี้แล้วเริ่มสนใจอยากเรียนขึ้นมาล่ะก็เริ่มเตรียมตัว & วางแผนกันได้เล้ยย และคราวหน้า Dek-D Study Abroad จะมีมหาวิทยาลัยจากประเทศไหนมาแนะนำอีกก็อย่าลืมติดตามกันด้วยน้า~