こんにちは~ ข่าวดีมาแล้ววว สำหรับคนที่สนใจอยากไปเรียนต่อที่ญี่ปุ่น! พี่ลูกหมูเชื่อว่า #ทีมญี่ปุ่น หลายคนกำลังตั้งตารอคอยค่ะ สำหรับ ‘ทุนรัฐบาลญี่ปุ่น’ หรือที่หลายคนเรียกว่า ‘ทุนมง’ ซึ่งความปังคือเรียนฟรีตลอดหลักสูตร ครอบคลุมหลายสาขา และไม่ต้องใช้คืนหลังเรียนจบด้วย!
วันนี้เราก็ได้สรุปรายละเอียดของระดับ ป.โท/เอก (ประเภทนักศึกษาวิจัย (Research Students)) ประจำปี 2569 ให้แล้ว รายละเอียดของปีนี้จะเป็นยังไง เลื่อนไปเช็กด้านล่างกันได้เลยค่า~
Japanese Government (MEXT) Scholarship หรือที่รู้จักกันในชื่อ “ทุนมง” เป็นทุนที่รัฐบาลญี่ปุ่นมอบให้นักเรียน-นักศึกษาชาวไทย ไปศึกษาต่อ ณ สถานศึกษาในประเทศญี่ปุ่น โดยเป็นทุนเต็มจำนวนและไม่ต้องใช้ทุนคืนหลังเรียนจบ โดยจะเปิดรับสมัครทั้งหมด 4 ประเภททุน ได้แก่
- ทุนนักศึกษาปริญญาตรี (Undergraduate Students)
- ทุนนักศึกษาวิจัย (Research Students) ระดับ ป.โท/เอก
- ทุนนักศึกษาวิทยาลัยเทคโนโลยี (College of Technology (KOSEN) Students)
- ทุนนักศึกษาวิทยาลัยฝึกอบรมวิชาชีพ (Specialized Training College Students)
**บทความนี้จะให้ข้อมูลทุนระดับ ป.โท/เอก (Research Students) เป็นหลัก**
มูลค่าทุน & สิทธิประโยชน์
- ค่าธรรมเนียมสมัครเรียน และ ค่าเล่าเรียนเต็มจำนวน
- ค่าครองชีพ
สำหรับป.โท เดือนละ 144,000 เยน หรือ ประมาณ 33,963 บาท
สำหรับป.เอก เดือนละ 145,000 เยน หรือ ประมาณ 34,199 บาท
(อ้างอิงจาก 1 เยน = 0.24 บาท ณ วันที่ 23 เมษายน 2568) - ตั๋วเครื่องบินไป-กลับ
ระยะเวลารับทุน
- เทอม April: จะได้รับทุนระหว่างเดือนเมษายน 2026 - มีนาคม 2028
- เทอม October: จะได้รับทุนระหว่างเดือนกันยายน/ตุลาคม 2026 - มีนาคม 2028
- กรณีที่ผู้รับทุนได้เข้าศึกษาต่อระดับ ป.โท หรือ ป.เอก ทางโครงการจะขยายระยะเวลารับทุนให้จนจบหลักสูตร
สมัครสาขาอะไรได้บ้างนะ?
ควรสมัครในสาขาวิชาเอกที่เคยเรียนมาหรือสาขาวิชาที่เกี่ยวข้อง และต้องเป็นสาขาที่ผู้สมัครสามารถศึกษาและทำวิจัยในระดับบัณฑิตศึกษาในมหาวิทยาลัยของญี่ปุ่นได้
สาขาที่เปิดรับสมัคร
| Social Sciences and Humanities | R1A | (A) Law/Politics (B) Language/Literature (C) History (D) Philosophy/Aesthetics (E) Education (F) Art/Design (G) สาขาอื่นๆ |
| R1B | (A) Economics (B) Business Administration/Commerce (C) สาขาอื่นๆ | |
| Natural Sciences | R2 | (A) Science (B) Engineering (C) Architecture (D) Agriculture (E) Medicine (F) Dentistry (G) Pharmacy (H) สาขาอื่นๆ |
คุณสมบัติผู้สมัคร
- ถือสัญชาติไทย
- เกิดหลังวันที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2534 เป็นต้นไป
- มีคุณสมบัติตรงตามข้อใดข้อหนึ่งต่อไปนี้
- เป็นผู้ที่กำลังศึกษา หรือสำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาตรี และมีเกรดเฉลี่ยสะสม (GPA) 3.25 ขึ้นไป หรือ
- เป็นผู้ที่กำลังศึกษา หรือสำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาตรี มี GPA 3.00 ขึ้นไป และจะต้องมีคุณสมบัติเพิ่มเติมตรงตามข้อใดข้อหนึ่ง ดังนี้:
- ผ่านการสอบวัดระดับภาษาญี่ปุ่น (JLPT) ระดับ N1 หรือ N2
- ได้คะแนนวิชาภาษาญี่ปุ่นในการสอบเข้าเรียนต่อมหาวิทยาลัยญี่ปุ่นสำหรับนักศึกษาต่างชาติ (EJU) ไม่น้อยกว่า 200 คะแนน (ไม่รวมพาร์ตการเขียน)
- มีผลสอบวัดระดับความสามารถภาษาอังกฤษในระดับที่เทียบเท่า CEFR ระดับ B2 หรือสูงกว่า (เช่น TOEFL iBT 72, IELTS 5.5, TOEIC 785 หรือสูงกว่า)
- สำเร็จการศึกษาหรือคาดว่าจะสำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาตรีหรือโท จากสถาบันที่ใช้ ภาษาญี่ปุ่นหรือภาษาอังกฤษ เป็นภาษาการเรียนการสอน
และผู้สำเร็จการศึกษาจากสถาบันนั้นมีคุณสมบัติสมัครเข้าศึกษาต่อระดับบัณฑิตศึกษาของญี่ปุ่นได้
หรือ
- เป็นผู้ที่กำลังศึกษา หรือสำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาโท และมี GPA ในระดับปริญญาโท 3.50 ขึ้นไป พร้อมทั้ง มี GPA ในระดับปริญญาตรี 3.00 ขึ้นไป
เอกสารประกอบการสมัคร
- บัตรเข้าห้องสอบ (Admission Form) // ส่งทั้ง 2 ส่วน คลิก
- ใบสมัครทุน (Application Form) คลิก
- แผนการศึกษาและวิจัย (Field of Study and Research Plan) คลิก
- Placement Preference Application Form คลิก
- ใบแสดงผลการเรียน (Academic Transcript)
- ใบแสดงวุฒิการศึกษา หรือ หนังสือรับรองการเข้าเรียน (กรณีกำลังเรียนอยู่)
- บทคัดย่อวิทยานิพนธ์ (ถ้ามี)
- ผลสอบวัดระดับภาษาอังกฤษหรือญี่ปุ่น (ถ้ามี) เช่น JLPT, TOEFL, IELTS เป็นต้น
Note:
- หากเอกสารไม่ใช่ฉบับภาษาอังกฤษหรือภาษาญี่ปุ่น จะต้องนำไปแปลก่อน แล้วยื่นส่งทั้งฉบับจริงและฉบับแปล
- ในการยื่นเอกสารสมัครในขั้นตอนแรก ผู้สมัครยังไม่ต้องส่งจดหมายรับรอง (Recommendation Letter) และใบรับรองแพทย์ (Medical Certificate) แต่จะต้องส่งเมื่อผ่านการคัดเลือกรอบแรก
- ผู้สมัครจะไม่ได้รับเอกสารคืน
- ผู้สมัครต้องติดรูปถ่ายลงในใบสมัคร (Application Form) และใบสมัครเข้าศึกษา (Admission Form) โดยสามารถใช้รูปถ่ายดิจิทัลแปะลงและพิมพ์ออกมาได้
- ผู้สมัครต้องเลือกสนามสอบหนึ่งแห่งจากตัวเลือกต่อไปนี้ และ วงกลมชื่อสนามสอบ ในใบสมัครเข้าศึกษา (Admission Form):
- กรุงเทพฯ (Bangkok)
- เชียงใหม่ (Chiang Mai)
- ขอนแก่น (Khon Kaen)
- สงขลา (Songkhla)
วิธีการสมัคร
ส่งเอกสารทั้งหมดทางไปรษณีย์ไปยังสถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย หรือ สถานกงสุลใหญ่ญี่ปุ่น ณ นครเชียงใหม่ ภายในวันพุธที่ 4 มิถุนายน 2568 (*ไม่รับเอกสารที่นำไปส่งด้วยตนเองหรือผ่านแมสเซนเจอร์)
ที่อยู่จัดส่งเอกสาร
ผู้ที่ต้องการเข้าสอบที่กรุงเทพฯ ขอนแก่น และสงขลา ให้ส่งเอกสารมาตามที่อยู่ต่อไปนี้
MEXT Scholarship Section
Japan Information Service
Embassy of Japan
177 Witthayu Road,
Lumpini, Patumwan,
Bangkok 10330
ผู้ที่ต้องการเข้าสอบที่เชียงใหม่ ให้ส่งเอกสารมาตามที่อยู่ต่อไปนี้
MEXT Scholarship Section
Consulate-General of Japan in Chiang Mai
Unit 104-107 Airport Business Park,
90 Mahidol Road,
T. Haiya, A. Muang,
Chiang Mai 50100
กำหนดการ
| ส่งเอกสารสมัครทุน | เอกสารต้องถึงปลายทางภายใน 4 มิถุนายน 2568 |
| ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์สอบข้อเขียนและสถานที่สอบ | 20 มิถุนายน 2568 |
| สอบข้อเขียน | 29 มิถุนายน 2568 |
| ประกาศผลรอบข้อเขียน | 22 กรกฎาคม 2568 |
| สอบสัมภาษณ์ (สาขา Social Sciences and Humanities; R1A และ R1B) | 4 - 5 สิงหาคม 2568 |
| สอบสัมภาษณ์ (สาขา Natural Sciences; R2) | 6 - 7 สิงหาคม 2568 |
| ประกาศผลรอบสัมภาษณ์ | 13 สิงหาคม 2568 |
Note:
- กำหนดการข้างต้นอาจเปลี่ยนแปลงภายหลังได้
- หากเอกสารไม่ครบถ้วน หรือ ส่งมาล่าช้ากว่ากำหนด จะไม่ได้รับการพิจารณา
- ศึกษาตัวอย่างข้อสอบเก่า คลิก
เช็กลิสต์การคัดเลือก
- กระบวนการคัดเลือกผู้รับทุนแบ่งเป็น 2 รอบหลักๆ คือ การคัดเลือกรอบแรก (First Screening) และ การคัดเลือกรอบสุดท้าย (Second Screening)
- การคัดเลือกรอบแรก (First Screening) โดยสถานทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย (พิจารณาจากเอกสารการสมัคร, การสอบข้อเขียนวัดระดับความสามารถทางภาษา, การสอบสัมภาษณ์)
- วิชาที่ใช้ในการสอบข้อเขียนวัดระดับภาษาคือ ภาษาญี่ปุ่นและภาษาอังกฤษ
ผู้สมัครทุกคนต้องสอบทั้งสองวิชา - การสัมภาษณ์ ต้องแสดงให้เห็นว่า
- ผู้สมัครมีจุดมุ่งหมายที่ชัดเจน เกี่ยวกับการไปศึกษาที่ญี่ปุ่น
- ได้ทำการค้นคว้าข้อมูลเกี่ยวกับมหาวิทยาลัยในญี่ปุ่นมาแล้ว
- มีความสามารถทางภาษาญี่ปุ่นหรืออังกฤษเพียงพอ ที่จะสามารถสื่อสารกับอาจารย์ที่ปรึกษาในญี่ปุ่นได้
- หากเลือกเรียนในสาขาที่ต้องใช้ความสามารถทางภาษาญี่ปุ่นในระดับสูง การสัมภาษณ์จะต้องแสดงให้เห็นว่าผู้สมัครมีความสามารถภาษาญี่ปุ่นในระดับที่เพียงพอที่จะศึกษาต่อได้ - การคัดเลือกรอบสุดท้าย (Second Screening) โดยทางสถานทูตญี่ปุ่นจะเสนอชื่อผู้ผ่านรอบสัมภาษณ์ให้ MEXT พิจารณา
การคัดเลือกรอบแรกที่ประเทศไทย
(สอบข้อเขียน & สอบสัมภาษณ์)
- สอบข้อเขียน (หลังผ่านการคัดเลือกรอบเอกสาร) ณ สนามสอบกรุงเทพฯ เชียงใหม่ ขอนแก่น และสงขลา โดยวิชาที่สอบจะขึ้นอยู่กับสาขาวิชาที่สมัครขอรับทุนค่ะ
- กลุ่ม R1A: สอบวิชาภาษาญี่ปุ่น และภาษาอังกฤษ
- กลุ่ม R1B: สอบวิชาภาษาญี่ปุ่น, ภาษาอังกฤษ และคณิตศาสตร์
- กลุ่ม R2: สอบวิชาภาษาญี่ปุ่น, ภาษาอังกฤษ, คณิตศาสตร์ และ ฟิสิกส์/ชีววิทยา/เคมี (เลือกสอบวิชาใดวิชาหนึ่ง)
- สอบสัมภาษณ์ เป็นภาษาอังกฤษ และ/หรือ ภาษาญี่ปุ่น (เฉพาะผู้ผ่านข้อเขียน)
[ดาวน์โหลดเอกสารเพิ่มเติม]
ช่องทางติดต่อสอบถาม
สำหรับผู้ที่ลงสอบข้อเขียนที่ กทม. ขอนแก่น และสงขลา
ติดต่อ Japan Information Service, Embassy of Japan
- Tel: 02-207-8504, 02-696-3004
- Email: japanese-scholarship@bg.mofa.go.jp
- เวลาทำการ: 9.00-12.00 / 13.30 - 16.30 น. (จันทร์ - ศุกร์)
- เว็บไซต์: https://www.th.emb-japan.go.jp/itprtop_th/index.html
สำหรับผู้ที่ลงสอบข้อเขียนที่เชียงใหม่
ติดต่อ Consulate-General of Japan in Chiang Mai
- Tel: 052-012-500 ext. 190
- Email: culture@tm.mofa.go.jp
- เวลาทำการ: 8.30-12.00 / 13.00-16.30 น. (จันทร์ - ศุกร์)
- เว็บไซต์: https://www.chiangmai.th.emb-japan.go.jp/itprtop_th/index.html
..............
สำหรับใครที่มองหาโอกาสโกอินเตอร์ ตอนนี้มีหลายทุนกำลังเปิดรับสมัคร
ตามไปเช็กกันต่อได้เลยที่ "โปรแกรมค้นหาทุนเรียนต่อนอก by Dek-D"
ติดตามทุนต่อนอกง่ายๆ กับ Dek-D
- Website: www.dek-d.com/studyabroad
- X: @tornokandcourse
- IG: @tornokandcourse
- Facebook: Study Abroad เรียนต่อนอก by Dek-D
- Facebook: Study Guide ไปเรียนต่อนอกกันเถอะ
- TikTok: @tornokandcourse
แหล่งที่มาข้อมูล
https://www.th.emb-japan.go.jp/itpr_th/research.html?fbclid=IwAR0dqNsdeMU5AtLSTUyMthAdoDwraUiKHrMTkn03YcVGneeKd6T-BfCws1I_aem_ARK0RMtWgy0sObrKQ4wt88tJJYvj7GYSmqoauO_AQOfg0_XPiQM0MAYQ6cqtpHNmEztuJFN67oHJS1po_-V5rP4E
0 ความคิดเห็น