แจก 2 สูตรจัดอันดับ Admission TCAS68 เน้นปลอดภัย ไม่หลุด 10 อันดับ

สวัสดีค่ะ 6 พ.ค.นี้ น้องๆ จะต้องเลือกคณะจัดอันดับแล้ว หลังจากที่ได้ค้นหาตัวเองและพยายามทำคะแนนกันมาอย่างเหน็ดเหนื่อยตลอดปี ซึ่งขั้นตอนของการจัดอันดับนี้ น้องๆ หลายคนจะกลัวว่าจะสอบไม่ติด เพราะแนวโน้มปีนี้คะแนนเฟ้อ  แต่ไม่ต้องกังวลค่ะ วันนี้พี่มิ้นท์มีเทคนิคการจัดอันดับ 2 สูตรมาฝาก ใช้ได้กับทุกประเภทคณะ คะแนนเยอะ คะแนนน้อย ก็ใช้ได้ค่ะ ไปดูกันเลย

แนะนำ 2 สูตรจัดอันดับแอดมิชชั่น เน้นปลอดภัย ไม่หลุด 10 อันดับ
แนะนำ 2 สูตรจัดอันดับแอดมิชชั่น เน้นปลอดภัย ไม่หลุด 10 อันดับ

แจก 2 สูตรจัดอันดับ Admission TCAS68 เน้นปลอดภัย ไม่หลุด 10 อันดับ

ก่อนจัดอันดับแอดมิชชั่น ให้น้องๆ เช็กคณะให้เรียบร้อยค่ะ

  1. ผ่านเกณฑ์ขั้นต่ำ และไม่ติดเรื่องคุณสมบัติไม่ผ่านเกณฑ์
  2. มีคณะหลักและมีคณะสำรอง แนะนำให้เตรียมไว้ประมาณ 10-15 คณะ แต่ควรเป็นคณะที่อยากเรียนเท่านั้น มากน้อยไม่มีปัญหา แต่ถ้าไม่อยากเรียนเลย ไม่ควรเลือกมา
  3. ตรวจสอบข้อมูลคณะอย่างละเอียด ว่ามีเงื่อนไขเรื่องอันดับหรือไม่ เพราะบางที่ กำหนดไว้ว่าห้ามวางไว้ต่ำกว่าอันดับ  5 เป็นต้น
  4. รู้จักคะแนนต่ำสุด และสามารถเช็กคะแนนต่ำสุดเทียบกับคะแนนของตัวเองได้
  5. ปีนี้กระทรวง อว. สนับสนุนค่าสมัครให้ 600 บาท เทียบเท่ากับการเลือกคณะฟรี 7 อันดับ หากต้องการสมัครครบ 10 อันดับ จะต้องจ่ายเงินเพิ่ม 300 บาท

สูตรการจัดอันดับ แบบที่ 1

ค่อยเป็นค่อยไป เน้นคะแนนเซฟ  
เหมาะกับคนที่คะแนนกลางๆ หรือคะแนนไม่สูงมาก เน้นปลอดภัย

สูตรนี้เป็นการจัดอันดับแบบ Basic ใช้ได้กับคณะทุกประเภท โดยเป็นการหาจุดกึ่งกลางระหว่างคณะที่ชอบกับคะแนนที่เหมาะสม เพราะเราจะยึดตามความปลอดภัยของคะแนนเป็นหลัก แต่ก็ยังเป็นคณะที่ชอบด้วย

โดยจะแบ่งประเภทคณะเป็น 4 Zone

Zone  1 คือ พื้นที่คณะในฝัน อาจแบ่งไว้ 1-2 หรือ 1-3 อันดับ  สามารถเป็นคณะที่คะแนนของเราต่ำกว่าคะแนนต่ำสุดของปีที่แล้ว หรือต่ำกว่าคะแนนคาดการณ์ในโปรแกรมคำนวณคะแนน App เด็กดี TCAS ได้ เพราะเหนื่อยกันมาทั้งปี อยากเรียนอะไรก็ขอให้ได้เลือกตามความฝันกันซักหน่อย

Zone 2  คือ พื้นที่น่าลุ้น แนะนำว่าเป็นอันดับ 3-5 หรือ 4-5  ยังเป็นคณะในฝันอยู่  แต่เมื่อดูคะแนนแล้ว ควรใกล้เคียงกับคะแนนต่ำสุดปีที่แล้ว ถ้าจะให้ดี ควรใกล้เคียงกับคะแนนคาดการณ์ปีนี้ด้วยค่ะ หากยังเป็นคะแนนติดลบอยู่ ไม่ควรติดลบมากเกินไป ไม่ควรลบมากกว่า 3 คะแนน

Zone 3 คือ พื้นที่อุ่นใจ ในอันดับถัดมา 6-7 น้องๆ ควรเลือกคณะที่เราได้คะแนนสูงกว่าคะแนนต่ำสุดปีที่แล้ว 5-10% แต่ถ้ามากกว่าคะแนนคาดการณ์ได้ก็จะยิ่งดีค่ะ ไม่แนะนำให้เป็นคณะที่ติดลบหรือคะแนนคาบเส้นแล้วค่ะ เพราะจะเสี่ยงเกินไป

Zone 4 คือ พื้นที่ติดชัวร์ 3 อันดับสุดท้าย ควรเป็นคณะที่เราได้คะแนนสูงกว่าปีก่อนๆ มากกว่า 10% ขึ้นไป หากเกณฑ์ที่ใช้เป็นคะแนนเฟ้อ บวก 15% ขึ้นไปได้เลยยิ่งดีค่ะ นอกจากนี้ยังมีสิ่งที่สังเกตเพิ่มเติม คือ ไม่ควรเลือกคณะเปิดใหม่ ไม่ควรเลือกคณะใช้เกรด 100% (ยกเว้นว่าได้เกรด 3.80 ขึ้นไป)  รวมถึงไม่ควรเลือกคณะที่ยอดรับน้อยลงเยอะเกินไป (ยกเว้นว่า คะแนนเราบวกจนทะลุคะแนนสูงสุดปีก่อน แบบนี้ไม่น่าจะมีผลค่ะ)

ขอย้ำว่าในทุกๆ Zone ขอให้น้องๆ เลือกคณะที่อยากเรียนจริงๆ นะคะ เพียงแต่ถ้าคะแนนมันไม่ถึงหรือมันน้อยไปจริงๆ ก็ลองหาหลักสูตรใกล้เคียง หรือ เปลี่ยนมหาวิทยาลัย ก็อาจจะทำให้น้องๆ มีคณะที่นำมาใส่อันดับได้อย่างปลอดภัยค่ะ

สูตรการจัดอันดับแบบที่ 2

ทำตามความฝัน  เน้นคณะที่อยากเรียน
ถึงไหนถึงกัน เพราะมีคณะไม่หลุดชัวร์

สูตรนี้เหมาะกับคนที่มีคณะที่ปลอดภัยอยู่ในมือแน่ๆ แล้ว อย่างน้อย 3-4 อันดับ  แต่คณะที่อยากเรียนนั้น อาจจะคะแนนสูงบ้างต่ำบ้าง สูตรนี้จึงไม่ซีเรียสเรื่องการจัดเรียง 10 อันดับตามคะแนน แต่ให้เลือกเรียนตามคณะที่อยากเรียนได้เลย เพราะสุดท้ายก็มั่นใจติด 1 ใน 10 อันดับนี้แน่นอน

ยกตัวอย่างคะแนน+วิธีเรียงในสูตรนี้ เช่น

  • อันดับ 1 อยากเรียนเป็นอันดับ 1 (คะแนน +2)
  • อันดับ 2 อยากเรียนมาเป็นอันดับ 2 (คะแนน -6)
  • อันดับ 3  อยากเรียนมากรองลงมา (คะแนน -5)
  • อันดับ 4 อยากเรียนรองลงมา (คะแนน +12)
  • อันดับ 5  อยากเรียนรองลงมา (คะแนน -7)
  • อันดับ 6 อยากเรียนรองลงมา (คะแนน +19)
  • อันดับ 7 อยากเรียนรองลงมา (คะแนน +3)
  • อันดับ 8  อยากเรียนรองลงมา (คะแนน +15)
  • อันดับ 9 อยากเรียนรองลงมา (คะแนน +9)
  • อันดับ 10 อยากเรียนน้อยกว่าคณะอื่นๆ (คะแนน +3)

จากตัวอย่างนี้ บางคนอาจจะรู้สึกว่าเรียงคณะแปลกๆ ทำไมเอาคะแนน  +3 ไปไว้อันดับท้ายๆ  ถ้าหลุดอันดับบนๆ ก็จะเสี่ยงหลุดจากแอดมิชชั่นเลยนะ  ตามหลักการก็ใช่ค่ะ แต่ถ้าไล่ดูอันดับดีๆ จะเห็นว่ามีหลายอันดับมากๆ ที่น่าจะติดตั้งแต่แรกแล้ว เช่น อาจจะติดตั้งแต่อันดับ 4 หรือ 6 หรือ 8 เป็นต้น ดังนั้น กรณีของคนที่มีคะแนนบวกอยู่ในมือเยอะ ก็สามารถเรียงอันดับได้ตามที่ตัวเองอยากเรียนเลย

หากถามว่า แล้ว 2  สูตรนี้ต่างกันตรงไหน ??

  • จุดที่เหมือนกัน คือ มีคณะที่อยู่ในโซนปลอดภัยแล้ว อย่างน้อย 3-4 อันดับ
  • จุดที่ต่างกัน คือ 
    • สูตรแรก จะเหมาะกับคนที่ไม่รู้จะจัดอันดับยังไง มีทั้งคะแนนติดลบ คาบเส้น และบวกเล็กน้อย ก็จะต้องปรับโดยแบ่งครึ่งระหว่างคณะในฝัน กับคณะที่เป็นจริงตามคะแนน
    • สูตรที่สอง จะเหมาะกับคนที่ได้คะแนนค่อนข้างสูง หรือคะแนนทั่วไป แต่เมื่อเทียบกับคณะที่จะเข้าแล้ว เราได้คะแนนบวกจากคะแนนต่ำสุดปีก่อนๆ เยอะ คือ มั่นใจว่ายังไงก็ต้องติดซักคณะนึงใน 10 อันดับนี้แหละ ดังนั้น แบบนี้สามารถเรียงตามคณะที่อยากเรียนได้เลย

การจัดอันดับแอดมิชชั่น เปิดระบบเพียง 7 วันเท่านั้น คือ 6-12 พ.ค.นี้ ขอให้น้องๆ ตั้งใจ มีสติ เพราะไม่ใช่การดูแค่คณะ แต่ต้องดูถึงสาขาที่เราเลือกด้วยว่าถูกต้องมั้ย หากใครยังไฟันธง 10 อันดับไม่ได้ แนะนำให้ลองใช้โปรแกรมคำนวณคะแนนในแอป เด็กดี TCAS จัด 10 อันดับหลายๆ แบบไว้ก่อน แล้วเปรียบเทียบข้อดีข้อเสีย หรือเวอร์ชันที่เราจะมีความสุขที่สุด  และค่อยยื่นสมัครจริงเวอร์ชันนั้นค่ะ 

อ่านเรื่องก่อนหน้า

พี่มิ้นท์
พี่มิ้นท์ - Columnist พี่สาวใจเย็น ผู้เกิดมาในแอดมิชชั่นยุคแรก แต่เข้าใจ TCAS มากกว่า

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

0 ความคิดเห็น