เรื่องนี้โรงเรียนไม่ได้สอน : โรงเรียน vs มหาวิทยาลัย ชีวิตเปลี่ยนยังไงบ้าง?

จากรั้วโรงเรียน สู่รั้วมหาวิทยาลัย มีการเปลี่ยนแปลงยังไงบ้าง?

ช่วงนี้น้องๆ ม. 6 หลายๆ คนก็กำลังจะก้าวข้ามจากรั้วโรงเรียน ไปสู่รั้วมหาวิทยาลัย ซึ่งถือว่าเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่สุดจุดหนึ่งในชีวิต ไปดูกันว่า โรงเรียน และ มหาวิทยาลัย มีอะไรแตกต่างกันบ้าง? รู้ก่อน ปรับตัวไว จะได้ใช้ชีวิตนักศึกษาอย่างมีความสุข 

ตารางเรียน

โรงเรียน 

ตั้งแต่ อนุบาล จนถึง มัธยม เด็กไทยจะมีคุณครูจัดตารางสอนให้โดยอัตโนมัติ พอถึงวันรายงานตัว วันจ่ายค่าเทอม หรือเปิดเทอมวันแรก ครูประจำชั้นก็จะแจกตารางสอนมาให้ นักเรียนก็แค่จัดกระเป๋ามาให้ตรงตามวันและวิชาที่เรียนเท่านั้นพอ

มหาวิทยาลัย

นักศึกษาแต่ละคนสามารถเลือกได้ว่าอยากเรียนวิชาอะไร โดยทางมหาวิทยาลัยจะกำหนดไว้ให้ว่ามีวิชาบังคับ วิชาบังคับเลือก วิชาเลือกเสรี อะไรบ้าง และต้องลงเทอมละกี่หน่วยกิต โดยนักศึกษาจะต้องลงทะเบียนเองผ่านเว็บไซต์ของมหา’ลัย และวันลงทะเบียนก็คือสงครามย่อมๆ ที่นักศึกษาจะต้องแย่งกันลงวิชาที่อยากเรียนให้ทัน ไม่งั้นที่นั่งอาจจะเต็มไปก่อน 

ชั่วโมงเรียน

โรงเรียน

ชีวิตเด็กนักเรียนไทยต้องรีบไปโรงเรียนแต่เช้าให้ทันเข้าแถวเคารพธงชาติ และเริ่มเรียนตั้งแต่คาบแรกราวๆ 07.40 - 08.00 น. ลากยาวไปจนถึง 15.00 - 17.00 น. เรียนวันละ 6 - 8 วิชา วิชาละ 1 - 2 ชั่วโมง

มหาวิทยาลัย

เนื่องจากนักศึกษาสามารถเลือกลงทะเบียนเรียนเองได้ จึงไม่จำเป็นต้องลงเรียนเต็มทุกวันจันทร์ - ศุกร์ บางวันอาจจะมีเรียน หรือไม่มีเรียนเลยก็ได้ และส่วนใหญ่จะลงเรียนวันละ 1 - 4 วิชา แค่นี้ก็เหนื่อยแล้วค่ะ เพราะแต่ละวิชาใช้เวลาถึง 2 - 3 ชั่วโมงเลยทีเดียว

การเรียนการสอน

โรงเรียน

โรงเรียนไทยส่วนใหญ่คุณครูจะสอนแบบท่องจำ และทำความเข้าใจ เนื้อหาส่วนใหญ่อยู่ในหนังสือเรียน และในห้องเรียน

มหาวิทยาลัย

ความแตกต่างของการเรียนการสอนระดับมหาวิทยาลัย คือ เน้นเรียนแบบคิดวิเคราะห์ ค้นคว้า และอภิปราย บางครั้งนักศึกษาจะเป็นฝ่ายมารับความรู้อย่างเดียวยังไม่พอ ต้องมีการเตรียมตัวอ่านบทเรียนมาล่วงหน้า เพื่อมาแลกเปลี่ยนกับอาจารย์และเพื่อนๆ ในคลาสเรียน

การสอบ

โรงเรียน

ข้อสอบที่นักเรียนไทยคุ้นเคยก็จะเป็นข้อสอบแบบปรนัย หรือ ข้อสอบที่มีตัวเลือก ก. ข. ค. ง. ถึงเราไม่มั่นใจก็ยังเสี่ยงดวงเดาได้ ในบางวิชาก็อาจจะมีสอบอัตนัย (สอบข้อเขียน) หรือสอบปฏิบัติบ้าง

มหาวิทยาลัย

ใครเขียนไม่เก่ง ต้องฝึกเขียนเอาไว้เลยค่ะ เพราะข้อสอบส่วนใหญ่ของระดับมหา’ลัย จะเป็นอัตนัย (ข้อเขียน) บางทีเขียนคำตอบกันเป็นเล่มๆ นอกจากนี้ยังมีการสอบหลายรูปแบบ เช่น สอบปฏิบัติ, ปรนัย (ช้อยส์), open book (เปิดหนังสือดูได้), take home (รับโจทย์ไปทำที่บ้าน), oral exam (สอบปากเปล่า) บอกเลยว่ายากทุกรูปแบบ

ผลการเรียน

โรงเรียน

ผลการเรียนของโรงเรียนไทย ก็จะได้เป็นเกรด 0-4 ซึ่งถ้ามีข้อผิดพลาด เกิดสอบตก ติด 0 , ร , มส , มผ ก็ยังมีโอกาสสอบซ่อมได้

มหาวิทยาลัย

ในระดับมหาวิทยาลัยนักศึกษาจะต้องมีความรับผิดชอบการเรียนมากๆ เพราะไม่ค่อยมีโอกาสได้แก้ตัว ถ้าเกิดว่าลงเรียนไปกลางทางแล้วรู้สึกว่าไม่ไหว อาจจะต้องไปขอถอนวิชาเรียน หรือ ติด W (Withdraw) หรือถ้าจบเทอมแล้วสอบตก เกรดไม่ถึงอาจจะต้อง ติด F (Fail) แล้วลงเรียนใหม่ ไม่งั้นเรียนไม่จบ!

การแต่งกาย

โรงเรียน

โรงเรียนส่วนใหญ่จะมีกฏระเบียบที่เข้มงวด ต้องแต่งกายเครื่องแบบชุดนักเรียน และมีข้อบังคับเรื่องทรงผม

มหาวิทยาลัย

มีอิสระทางด้านการแต่งตัวมากขึ้น ส่วนใหญ่ไม่มีข้อบังคับเรื่องทรงผม สามารถแต่งหน้าได้ แต่ในบางคณะ บางมหาวิทยาลัยอาจจะต้องใส่ชุดนักศึกษา แต่บางที่ก็ใส่ชุดไปรเวทได้ อาจจะบังคับชุดนักศึกษาในวันสอบ หรือวันสำคัญเท่านั้น 

ความรับผิดชอบ

โรงเรียน

แน่นอนว่าทุกคนต้องมีความรับผิดชอบเป็นของตัวเอง แต่ในโรงเรียนอาจารย์จะสอน และดูแลนักเรียนอย่างใกล้ชิด มีกฎระเบียบที่เข้มงวด ขาดเรียน ไม่ส่งงาน ไม่ทำการบ้าน ครูก็จะคอยดูแล คอยตามและกระตุ้นให้นักเรียนรีบมาแก้ไขปรับปรุง

มหาวิทยาลัย

ทุกอย่างในมหาวิทยาลัยนักศึกษาต้องรับผิดชอบตัวเอง โดยเฉพาะการเรียน การเข้าเรียน เช็กชื่อ ส่งงาน การสอบ ใครที่พลาดไป ส่วนใหญ่อาจารย์จะไม่มีการมาตาม ถ้าติด F ก็แค่ลงเรียนใหม่เทอมหน้า เพราะฉะนั้นต้องรับผิดชอบตัวเองให้ดี! 

เพื่อน

โรงเรียน

นักเรียนส่วนใหญ่จะผูกพันกับเพื่อนในห้องมาก เป็นเพื่อนสนิทที่ตัวติดกันตลอดเวลา เพราะว่าเรียนด้วยกัน ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน ตั้งแต่เช้ายันเย็นทุกวันจันทร์ - ศุกร์

มหาวิทยาลัย

นักศึกษาแต่ละคนจะต้องลงทะเบียนเรียนเอง ดังนั้นแต่ละคนก็จะเรียนไม่เหมือนกันทุกวิชา และเพื่อนร่วมคลาสก็จะแต่งต่างกันไปตามวิชาที่ลงเรียน บางวิชาอาจจะเรียนเป็นคลาสใหญ่ เพื่อนร่วมห้องเป็น 100+ คน และอาจจะเรียนร่วมกับเพื่อน รุ่นพี่ รุ่นน้อง ต่างคณะ เป็นโอกาสดีที่จะได้ทำความรู้จักคนใหม่ๆ และฝึกการทำงานร่วมกับผู้อื่น

การเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยต้องมีการเปลี่ยนแปลงมากมาย  แต่ไม่ยากเกินความพยายาม  และในรั้วมหาวิทยาลัยยังมีเรื่องสนุกๆ รอให้น้องๆ ทุกคนไปสัมผัสอีกมากมาย  รุ่นพี่คนไหนมีเรื่องอะไรที่อยากแชร์ให้น้องๆ นักเรียนเตรียมตัวไว้แต่เนิ่นๆ คอมเมนต์กันได้เลยยยย

ข้อมูลจากhttps://www.dek-d.com/tcas/59799/
พี่แพม
พี่แพม - Columnist คอลัมนิสต์สายติ่งเกาหลี นอนน้อยเพราะดูซีรีส์ สาระไม่ค่อยมี หน้าตาดีไปวันๆ

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

0 ความคิดเห็น