สวัสดีค่ะน้อง ๆ (。’’。) ในช่วงนี้หลายคนคงกำลังจะเริ่มเตรียมตัวสำหรับการเข้ามหาวิทยาลัยใน TCAS กันอยู่ใช่ไหมคะ นอกจากเตรียมตัวอ่านหนังสือเก็บเนื้อหาแล้ว น้อง ๆ บางกลุ่มก็คงกำลังเตรียมตัวสำหรับการยื่นรอบที่ 1 หรือรอบ Portfolio ด้วย วันนี้พี่ไหมเลยจะมาแชร์ขั้นตอนการเตรียมตัวยื่นพอร์ตฉบับเด็กซิ่ว เผื่อว่าจะเป็นแนวทางสำหรับน้อง ๆ เด็กซิ่ว ที่มีความสนใจในรอบนี้ได้นำไปปรับใช้กันค่ะ
แต่ก่อนจะพาไปดูแต่ละขั้นตอนในการเตรียมตัวยื่นรอบพอร์ต สำหรับน้อง ๆ เด็กซิ่วที่ยังไม่แน่ใจว่าตัวเองสนใจคณะไหน หรือยังไม่รู้ว่าจะเริ่มเตรียมตัวยังไง ก็สามารถไปติดตามอ่านได้ใน แชร์ประสบการณ์ ‘เด็กซิ่ว’ นับหนึ่งใหม่จนถึงวันที่ติดคณะในฝัน ซึ่งในนี้ก็จะเป็นการแชร์ประสบการณ์ตั้งแต่วิธีค้นหาตัวเอง วิธีการเตรียมตัว ไปจนถึงเส้นทางว่ากว่าจะติดคณะในฝันของพี่เนี่ยมีขั้นตอนอย่างไรบ้าง หวังว่าจะช่วยได้นะคะ
เด็กซิ่วก็ติด TCAS รอบ Portfolio ได้?! แชร์ขั้นตอนการเตรียมตัวยื่นรอบพอร์ตฉบับเด็กซิ่ว
“เด็กซิ่วยื่นรอบพอร์ตได้ไหมนะ?”, “เป็นเด็กซิ่วคงมีโอกาสแค่รอบที่ใช้คะแนนสอบ” อาจเป็นสิ่งที่น้อง ๆ บางคนกำลังเข้าใจผิดอยู่ ในส่วนของรอบ Portfolio นั้น ถึงแม้จะเป็นความจริงที่ว่า มีหลายคณะที่รับเฉพาะเด็ก ม.6 ถึงจะมีโอกาสยื่นในรอบนี้ แต่ก็ยังมีอีกหลายคณะเช่นเดียวกันที่เปิดโอกาสให้พวกเราชาวเด็กซิ่วได้ยื่นสมัครเทียบเท่ากับเด็กคนอื่น ๆ เมื่อรู้แบบนี้แล้วก็ถือว่าเป็นโอกาสทองสำหรับพวกเราที่จะได้ลองยื่นดูนะ น่าสนใจใช่มั้ยล่ะ งั้นมาดูกันเลยดีกว่าว่าขั้นตอนการเตรียมตัวยื่นรอบพอร์ตฉบับเด็กซิ่วจะมีขั้นตอนอะไรบ้าง ไปดูกัน~
ขั้นที่ 1 ตรวจสอบคุณสมบัติ
พี่มักจะเน้นย้ำในส่วนของการตรวจสอบคุณสมบัติอยู่เสมอ เพราะเป็นจุดที่หลายคนมักตกหล่น ทำให้เรานึกเสียใจในภายหลังได้ ก่อนอื่นเลย พี่ไหมคิดว่าพวกเราเด็กซิ่วคงมีคณะที่สนใจกันอยู่แล้ว หรือถ้ายังไม่มีน้อง ๆ ก็ค่อย ๆ ค้นหาคณะที่สนใจก่อน แล้วค่อยมาดูขั้นตอนต่อไป เมื่อน้อง ๆ มีคณะที่สนใจแล้ว ก็อย่ามัวรอช้า ขั้นตอนแรกมีดังนี้
ให้น้อง ๆ สืบค้นว่ามีมหาวิทยาลัยไหนบ้างที่เปิดสอนคณะที่เราชื่นชอบ จากนั้นให้รวบรวมรายชื่อมหาวิทยาลัยที่เราสนใจ และเปิดเช็กดูว่าแต่ละที่เปิดรับในรอบ Portfolio หรือเปล่าจากนั้นนำมาเปรียบเทียบ
- คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัย A ไม่เปิดรับในรอบที่ 1
- คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัย B เปิดรับในรอบที่ 1
- คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัย C เปิดรับในรอบที่ 1
เมื่อเราเช็กแล้วว่ามีการเปิดรับสมัครในรอบที่ 1 สิ่งต่อไปที่เราจะต้องทำ และเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือการตรวจสอบว่าคณะนั้นรับเด็กซิ่วในรอบนี้หรือเปล่า โดยแต่ละมหาวิทยาลัยมักจะใช้กลุ่มคำ ดังนี้ค่ะ
- เป็นผู้สำเร็จการศึกษา หรือกำลังศึกษาอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6
- เป็นผู้สำเร็จการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6
- กำลังศึกษาหรือจบการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย
ซึ่งเราจะสังเกตได้ว่ามีคำว่า สำเร็จการศึกษา, จบการศึกษา หรือคำที่เทียบเคียงกันได้ความหมายนี้ค่ะ โดยพี่จะมีตัวอย่างเกณฑ์ TCAS68 รอบที่ 1 Portfolio ในคณะศิลปศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยมหิดล, มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน และมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มาเป็นตัวอย่างของจริงให้พวกเราได้ลองสังเกตกันค่ะ
คณะศิลปศาสตร์ สาขาวิชาภาษาอังกฤษ มหาวิทยาลัยมหิดล
คณะศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์ สาขาภาษาอังกฤษ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน
คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ สาขาวิชาภาษาอังกฤษ
อย่าลืมตรวจสอบให้ดีล่ะ ถึงแม้ว่าจะคณะเดียวกัน แต่ว่าแต่ละสาขาก็มีคุณสมบัติของผู้สมัครที่ไม่เหมือนกันนะ ยกตัวอย่างคณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ในสาขาวิชาภาษาอังกฤษเปิดรับเด็กซิ่ว แต่สาขาวิชาภาษาไทย ไม่เปิดรับเด็กซิ่วในรอบนี้ น้อง ๆ ต้องตรวจเช็กให้ดีนะคะ
คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ สาขาวิชาภาษาไทย
เมื่อตรวจสอบคุณสมบัติเรียบร้อยแล้วว่าเรามีสิทธิ์ในการยื่นสมัครรอบนี้ เราก็ต้องอ่านในสิ่งที่ทางคณะและมหาวิทยาลัยต้องการด้วยนะคะ ไม่ว่าจะเป็น
- เกรดเฉลี่ย
- ผลงาน และเกียรติบัตร
- ผลสอบภาษาต่างประเทศ (ในบางสาขา) เช่น CU-TEP, TU-GET, TOEIC, TOEFL, IELTS, JLPT, HSK
- สิ่งที่อยากนำเสนอกรรมการ เช่น ความสามารถพิเศษ
สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้คือสิ่งที่เราต้องเช็กว่าเรามีครบตามที่คณะต้องการหรือเปล่า อาจจะมีเกณฑ์ขั้นต่ำอย่างเกรดเฉลี่ย หรือผลสอบภาษาต่างประเทศในบางคณะ นี่ก็เป็นอีกหนึ่งในคุณสมบัติ น้อง ๆ อย่าลืมอ่านประกาศจากมหาวิทลัยร่วมด้วย เนื่องจากในแต่ละที่จะมีเกณฑ์ไม่เหมือนกันนะ
ขั้นที่ 2 เพิ่มเติมผลงาน
น้อง ๆ เด็กซิ่วบางคนอาจเพิ่งจะรู้ใจตัวเองว่าชอบคณะไหน ทำให้ตลอดระยะเวลาที่เรียนมัธยมปลายไม่ได้มีการทำกิจกรรมที่สอดคล้องกับคณะในฝันที่เราเพิ่งจะค้นพบ จึงไม่มีผลงานที่สอดคล้องกับความต้องการของคณะ ช่วงเวลานี้แหละค่ะที่เราสามารถทำผลงานเพิ่มเติมได้ ไม่ว่าจะเป็น
- การสอบวิชาภาษาต่างประเทศ
- การวาดรูป หรือแสดงความสามารถพิเศษ
- การประกวดแข่งขัน
- การเข้าค่ายที่เปิดโอกาสให้น้อง ๆ ได้เข้าร่วม
การเพิ่มเติมผลงานจะทำให้เราได้แสดงศักยภาพที่มีผ่านแฟ้มสะสมผลงานได้ดียิ่งขึ้น แต่ก็ควบคู่กับการอ่านประกาศของทางคณะเพิ่มเติมนะคะ เพราะบางคณะกำหนดกิจกรรมและระดับของกิจกรรมเอาไว้อยู่ค่ะ
ขั้นที่ 3 จัดทำแฟ้มสะสมผลงาน
ก็มาถึงขั้นตอนสุดท้ายแล้วนะคะ ก็คือขั้นตอนการจัดทำแฟ้มสะสมผลงาน รวบรวมสิ่งที่ทางคณะต้องการ และใส่สิ่งที่เราต้องการแสดงให้กรรมการเห็นถึงศักยภาพของเราลงไปนั่นเอง พี่มองว่าการใส่ความเป็นตัวเอง แสดงให้เห็นถึงความต้องการในการเข้าศึกษาต่อ เป็นสิ่งที่ทำให้รับรู้ถึงตัวตนของผู้สมัคร เพราะบางคณะก็มีให้น้อง ๆ ได้เขียนแนะนำตัวลงบนพอร์ต ในส่วนนี้ก็จะทำให้คณะกรรมการรู้จักเรามากขึ้น ควบคู่ไปกับผลงานที่เราใส่ลงไปนั่นเองค่ะ
ในขั้นตอนนี้เราจะต้องตรวจสอบประกาศ เพราะแต่ละคณะก็มีความต้องการที่แตกต่างกันไป ตัวอย่างเช่น
- ลำดับการจัดเรียงหน้า
- ความเกี่ยวข้องของกิจกรรม คือ กิจกรรมสอดคล้องกับคณะ หรือเขียนในประกาศที่คณะกำหนด
- การจำกัดหน้าแฟ้มสะสมผลงาน คือ บางมหาวิทยาลัยจะกำหนดมาว่าไม่เกิน 10 หน้า ไม่รวมหน้าปก-หลัง เป็นต้น
***พี่อยากเน้นย้ำ ให้น้อง ๆ ตรวจสอบประกาศจากทางมหาวิทยาลัยให้ถี่ถ้วน ไม่ว่าจะคุณสมบัติ หรือสิ่งที่คณะ/มหาวิทยาลัยต้องการ อ่านให้ครบทุกตัวอักษรเพื่อไม่ให้ตกหล่น เพื่อเป็นประโยชน์แก่พวกเราทุกคนค่ะ
ขอบคุณข้อมูลจากhttps://tcas.mahidol.ac.th/qualified/portfolio1-1/1325la.pdfhttps://admission.kps.ku.ac.th/kpsadm/doc/prs/%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%9A%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%9A%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%20%E0%B9%81%E0%B8%9F%E0%B9%89%E0%B8%A1%20%E0%B8%A3%E0%B8%AD%E0%B8%9A%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%201%20%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B9%89%E0%B8%87%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%201%202568.pdfhttps://www.tuadmissions.in.th/img/2024101709034134.pdfก็จบไปแล้วสำหรับการแชร์ขั้นตอนการเตรียมตัวยื่นรอบพอร์ตฉบับเด็กซิ่ว ท้ายที่สุดแล้วหากคณะในฝันของน้อง ๆ ไม่รับเด็กซิ่วในรอบนี้ก็อย่าเพิ่งหมดกำลังใจไปนะคะ พี่เชื่อว่าโอกาสยังมีเข้ามาหาน้อง ๆ อยู่เสมอ พี่ไหมเป็นกำลังใจให้พวกเราเด็กซิ่วทุกคนค่ะ(°°)
1 ความคิดเห็น
ต้องดูว่าในระเบียบการระบุประเภทผลงานมั้ย ถ้าไม่ได้ระบุ ผลงานเข้าค่ายก็ยื่นได้ค่ะ แต่ถ้าระบุว่าใช้ผลงานอะไร ควรยื่นให้ตรงค่ะ
ดังนั้นถ้าผลงานน้อย ลองหาโครงการที่ไม่ระบุประเภทผลงาน หรือใช้คะแนนอื่น เช่น เกรด หรือสอบสัมภาษณ์