เล่มนี้ดี! มัดรวม 20 หนังสือน่าอ่าน แนะนำโดย 5 ไอดอล K-POP

เคยมั้ย? เวลาเห็นศิลปินหยิบหนังสือขึ้นมาสักเล่ม 

ก็อยากจะซูมให้สุดเพื่อดูว่าเขาอ่านเล่มไหนนะ!   

สำหรับศิลปินหลายๆ คน การอ่านหนังสือคือโมเมนต์ที่ได้ฮีลใจ เติมพลัง จุดไอเดียสร้างผลงานใหม่ๆ ออกมาช่วยชุบชูใจ ซึ่งหนังสือแต่ละเล่มก็มักมีบางอย่างเชื่อมโยงกับตัวตน หรือสะท้อนมุมมองต่อประเด็นต่างๆ ของผู้อ่านได้อย่างดี

วันนี้ One Next Class #ชีวิตติดเรียนรู้ เลยจะชวนไปส่องหนังสือของ 5 ศิลปิน K-POP อย่าง เตนล์ NCT/WayV, IU, เยริ Red Velvet, ลิลลี่ NMIXX และหนิงหนิง aespa ว่าแต่ละคนอ่านหรือเคยแนะนำเล่มไหนบ้าง? // ลิสต์ไว้อ่านตอนว่างๆ ตามเมนกัน~ 

เริ่มต้นคนแรกที่ “(พี่)น้องเตนล์ – ชิตพล ลี้ชัยพรกุล” หนุ่มไทยหนึ่งเดียวจากวง NCT/WayV ที่ว่ากันว่าเก่งรอบด้านสุดๆ แถมยังพูดได้ถึง  5 ภาษาทั้งไทย อังกฤษ เกาหลี จีน และญี่ปุ่น (เรียนรู้เทคนิคเรียนภาษาสไตล์เตนล์ที่นี่!) แล้ว FC ก็จะรู้กันดีว่าเตนล์รักการอ่านมากกก จนเกิดแฮชแท็ก #เตนล์อ่าน เอาไว้ตามรอยหนังสือที่เขาหยิบขึ้นมาอ่านอยู่เรื่อยๆ

และการอ่านก็คือหนึ่งในเหตุผลที่เขาเรียนภาษาได้ไวและคล่อง ทั้งจากการอ่านที่ช่วยทั้งเพิ่มคลังคำศัพท์ ทำให้คุ้นกับโทนภาษา และเปิดมุมมองใหม่ๆ จากแนวคิดในหนังสือที่ได้อ่านนั่นเองค่ะ // ฉะนั้นนนน ถ้าพี่น้องเตนล์แนะนำว่าเล่มนี้ดี 10vely ตามไปจดไว้ในลิสต์ด่วนๆ เลยยย 

1. Good Material 

• ผู้เขียน: Alderton, Dolly
• ภาษาอังกฤษ #ไม่มีแปลไทย 

เรื่องราวของ “แอนดี้” (Andy) นักแสดงตลกวัยสามสิบกว่า ที่เจอความรักหักมุมเข้าให้ เพราะอยู่ดีๆ แฟนเขาของเขาอย่าง “เจน” (Jen) กลับมาบอกเลิกแบบสายฟ้าแลบ ทิ้งไว้แต่ความไม่ชัดเจนว่าสรุปแล้วทำไมรักนี้ถึงพังลง แล้วต้องทุ่มเทแค่ไหนถึงจะรักษาความสัมพันธ์หนึ่งไว้ได้!

นิยายรักเรื่องนี้จะพาเรามองความสัมพันธ์ผ่านสายตาชายหนุ่มที่ชีวิตและความฝันยังไม่เข้าที่ แต่ความรักกลับรีบโบกมือลาไปก่อน ทั้งฮาทั้งแทงใจ และสะท้อนชีวิตผู้ใหญ่ที่ไม่ได้สมบูรณ์แบบไปซะทุกอย่าง จนอาจทำให้ผู้อ่านอยากทบทวนตัวเองไปพร้อมๆ กับแอนดี้เลยล่ะ (ครึ่งหลังมีเฉลยมุมของ Jen ด้วยนะคะ)

2. เพียงชั่วเวลากาแฟยังอุ่น (Before the Coffee Gets Cold)

• ผู้เขียน: Toshikazu Kawaguchi
• แปลไทย: ฉัตรขวัญ อดิศัย (แพรวสำนักพิมพ์)

ถ้ามีเก้าอี้ฟังก์ชันพิเศษอยู่ตัวหนึ่ง ที่เมื่อคุณนั่งแล้วจะย้อนเวลากลับไปได้ แต่ไม่ว่าจะอย่างไรอนาคตก็ไม่เปลี่ยน ถึงจะเป็นแบบนั้น ยังอยากจะย้อนเวลาอยู่หรือเปล่า?

นวนิยายแนวอบอุ่นนุ่มลึกและทำน้ำตารื้นได้ตั้งแต่คำโปรย เรื่องนี้จะไม่ได้มาแนวแฟนตาซีหวือหวาหรือ sci-fi ทะลุมิติ แต่เน้นพูดถึงอารมณ์และสายสัมพันธ์ของหญิงสาวผู้มาเยือนร้านกาแฟ 4 คน 4 เรื่องราว ซึ่งพวกเธอก็ต่างมีเรื่องที่อยากย้อนเวลากลับไปพบหรือพูดกับใครสักคนในอดีต

3. ใช้คลื่นพลังบวกดึงดูดพลังสุข (Good vibes, Good life)

• ผู้เขียน: Vex King
• แปลไทย: กิษรา รัตนาภิรัต คุโด (สำนักพิมพ์ อมรินทร์ How-to)

ทุกอย่างในจักรวาลล้วนเกิดจากแรงสั่นสะเทือน และสิ่งที่มีความถี่สั่นสะเทือนใกล้เคียงกัน ย่อมดึงดูดกันได้ อย่าเผลอไผลไปตามสมองที่ติดนิสัยชอบผลักไสโชคและสิ่งดีๆ ด้วยพลังลบ ยิ่งคุณส่งคลื่นพลังบวกออกสู่ภายนอก จักรวาลจะยิ่งสะท้อนคลื่นความสุขกลับมาเท่าทวีคูณ!

เนื้อหาในเล่มจะพูดถึงแนวคิดทรงพลังด้วยภาษาที่จับต้องได้ ว่าด้วยการดูแลตัวเอง การรับมือความคิดด้านลบ การตั้งขอบเขตที่ดีต่อใจ การสร้างนิสัยคิดบวก // ทุกวันนี้คนพูดถึง Manifest กันเยอะมาก ซึ่งก็คือการตั้งใจโฟกัสสิ่งที่ต้องการเพื่อให้เกิดขึ้นจริง เล่มนี้ก็อธิบายคล้ายๆ กัน เหมาะกับคนที่อยากรักตัวเองมากกว่าเดิม ตั้งต้นชีวิตด้วยพลังงานดีๆ จัดระเบียบความคิด และเข้าถึงแนวคิดของทฤษฎีแรงดึงดูดมากขึ้นค่ะ

4. ชีวิตติดปีก ด้วยศิลปะแห่งการช่างแม่ง (The subtle art of not giving a f*ck)

• ผู้เขียน: Mark Manson
• แปลไทย: ยอดเถา ยอดยิ่ง (สำนักพิมพ์บิงโก)

หลายคนใช้เวลาทั้งชีวิตทำตามความคาดหวังของคนอื่น บ้างทิ้งความฝัน เพื่อทำสิ่งที่ใครๆ บอกว่าดี และคิดว่านั้นจะทำให้ชีวิตเต็มไปด้วยความสำเร็จและความสุข 

แต่การแคร์ทุกคน เกี่ยวกับทุกสิ่ง ย่อมแปลว่าคุณต้องเสียสละบางอย่างที่สำคัญในชีวิตไปด้วย หนังสือเล่มนี้จะพาไปรู้จัก "ศิลปะแห่งการช่างแม่ง" ที่อาจช่วยพลิกชีวิต หน้าที่การงาน และความสัมพันธ์ให้ดีขึ้นอย่างเหลือเชื่อ 

....................

ต่อกันที่ “ไอยู” ศิลปินมากความสามารถที่โลดแล่นในวงการบันเทิงมาเนิ่นนาน ไม่ว่าจะในบทบาทนักร้อง นักแสดง หรือนักแต่งเพลง “พี่ลี่” ก็เอาอยู่หมด เรียกได้ว่าตารางงานคือแน่นเอี้ยดแทบตลอดเวลาเลย! 

แต่ถึงจะงานยุ่งขนาดไหน พี่ลี่ก็ยังแบ่งเวลามาอ่านหนังสือได้เสมอ เพราะว่าการอ่านช่วยสร้างไอเดียและแรงบันดาลใจให้สร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ โดยเฉพาะในเรื่องการเขียนเพลง หรือบางครั้งก็นำไปปรับใช้กับบทบาทต่างๆ แถมยังช่วยรีชาร์จความคิดด้วย และถ้าดูจากลิสต์หนังสือส่วนใหญ่ที่พี่ลี่เลือกอ่าน มักเป็นเรื่องที่เน้นความรู้สึก ความลึกซึ้ง ใครอยากหาอะไรที่ทัชใจอ่าน บอกเลยว่า #อ่านตามไอยู แล้วไม่ผิดหวังแน่นอน

5. สดับลมขับขาน (HEAR THE WIND SING)

• ผู้เขียน: Haruki Murakami
• แปลไทย: นพดล เวสสวัสดิ์ (สำนักพิมพ์กำมะหยี่)

ใครเป็นแฟนตัวยงของมุราคามิ หรือเคยได้ยินชื่อแแต่ยังไม่ลองดำดิ่งเข้าไปในโลกที่ลึกลับและมีเสน่ห์จากปลายปากกาของเขา “สดับลมขับขาน” คือผลงานเรื่องแรกและยังเป็นปฐมบทของหนังสือชุด “ไตรภาคแห่งมุสิก” (Trilogy of the Rat)

เรื่องราวจะพาย้อนกลับไปในปี ค.ศ. 1970 ชั่วระยะ 19 วัน ช่วงปิดเทอมของชายหนุ่มวัย 21 ปี ที่ไม่ได้รับการเอ่ยนาม ระหว่างขลุกอยู่ในบาร์คบหากับ “มุสิก” สหายหนุ่มลูกเศรษฐีผู้ขยะแขยงคนรวย เนื้อเรื่องกล่าวพาดพิงผ่านถึงศาสตร์แห่งการเขียน การลุกฮือขึ้นประท้วงของนักศึกษาญี่ปุ่น และแน่นอนว่ามีรายละเอียดของ ความสัมพันธ์และการสูญเสีย การทำอาหาร การกิน การดื่ม และการฟังเพลงฝรั่ง ซึ่งเป็นองค์ประกอบที่เป็นลายเซ็นของวรรณกรรมมุราคามิด้วย

6. แล้วมันจะผ่านพ้นไป (그러라 그래)

• ผู้เขียน: 양희은 (Yang Hee-eun)
• แปลไทย: ญาณิศา จงตั้งสัจธรรม (สำนักพิมพ์มูกุงฮวา)

และนี่คือผลงานที่หลายคนรีวิวว่า อ่านแล้วเหมือนหายใจได้ลึกขึ้นหนึ่งครั้ง!

ผลงานเขียนของ "คิมจีฮุน" ที่เชี่ยวชาญด้านการเขียนแนวปลอบประโลมใจ เนื้อหาสั้นๆ อ่านง่าย แต่เหมือนเอื้อมมือไปแตะใจคนอ่านอย่างอ่อนโยน ตัวหนังสือในเล่มนี้จะค่อยๆ ชวนให้ผู้อ่านปล่อยจอยปล่อยใจ ค่อยๆ ผ่อนแรง ยอมรับว่าบางเรื่องก็ควบคุมไม่ได้ และไม่จำเป็นต้องแบกไว้ทุกเรื่องจนหลังหักก็ได้นะ

ใครกำลังเจอช่วงที่อ่อนล้า สับสน หรือจมดิ่งกับปัญหา แนะนำให้เปิดเล่มนี้มาค่อยๆ อ่านฮีลใจได้ค่ะ

7. ชายร้อยปีผู้ปีนออกทางหน้าต่าง แล้วหายตัวไป (The 100-Year-Old Man Who Climbed Out the Window and Disappeared) 

• ผู้เขียน: Jonas Jonasson
• แปลไทย: นพดล เวสสวัสดิ์ (สำนักพิมพ์กำมะหยี่)

นวนิยายแนวฮาๆ อ่านเพลิน แต่แอบตลกร้าย ส่งตรงจากนักเขียนชาวสวีเดน เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นในวันคล้ายวันเกิดอายุครบ 100 ปี “อัลลัน คาร์ลซอน” เมื่อคุณลุงตัดสินใจปืนออกจากหน้าต่างสถานดูแลผู้ชรา แล้วหายตัวไปแบบงงๆ! 

การหนีครั้งนี้ไม่ใช่การออกไปสูดอากาศเฉยๆ แต่เป็นการผจญภัยบนเส้นทางในอดีต ว่าจริงๆ แล้วเขาเคยเข้าไปพัวพันทั้งกับตัวละครลึกลับ เหตุการณ์ใหญ่โตระดับโลก และหลายสถานการณ์ที่วุ่นวาย จนอ่านแล้วหลุดหัวเราะว่านี่อะไรกันครับเนี่ยยยย 

8. เพื่อนคนเก่ง (My Brilliant Friends)

• ผู้เขียน: Elena Ferrante
• แปลไทย: นันธวรรณ์ ชาญประเสริฐ (สำนักพิมพ์อ่านอิตาลี)

เล่าถึงความสัมพันธ์ที่แสนซับซ้อนแต่งดงามของ “เอลีน่า” และ “ลิลา” เด็กผู้หญิงสองคนที่เติบโตจากชุมชนยากจนชานเมืองเนเปิลส์ในยุคสงครามโลกครั้งที่สอง 

เสน่ห์อยู่ที่เรื่องราวเกี่ยวกับมิตรภาพ ไม่ว่าจะเป็นความรัก ความกดดัน การแข่งขัน ความหวังดี ชื่นชม คิดร้าย และหมั่นไส้สลับไปมาบนเส้นทางการเติบโตของคนทั้งคู่ แถมยังสะท้อนโครงสร้างสังคมที่กดทับชีวิตผู้หญิงยุคนั้นอย่างเฉียบคมด้วยค่ะ

....................

ReVeluv มาทางนี้! พาไปส่องหนังสือน่าอ่านตาม “เยริ” น้องเล็กจากวง Red Velvet หรือนักแสดง “คิม เยริม” กัน แม้ลุคของเธอจะมีความเป็นน้องน้อยของพี่ๆ แต่รู้มั้ยว่า “น้องเยม” นี่แหละ ขึ้นชื่อเรื่องความคิดทันสมัย กล้าพูด กล้าแสดงออก และมุมมองเปิดกว้างสุดๆ 

โดยเฉพาะเรื่องสิทธิ ความเท่าเทียม และมุมมองเกี่ยวกับเพศ น้องเยมมักจะแสดงออกถึงความเคารพในตัวตนของทุกคนอยู่เสมอ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ก็สอดคล้องกับนิสัยรักการอ่านของเธอเลยล่ะ 

9 .โคะโคะโระ (Kokoro)

• ผู้เขียน: Natsume Soseki
• แปลไทย: ศ.ดร. ปรียา อิงคาภิรมย์, กนก (ศฤงคารินทร์) รุ่งกีรติกุล (สำนักพิมพ์ยิปซี)

เริ่มจากนวนิยายคลาสิกระดับตำนานของวรรณกรรมญี่ปุ่น ที่ชวนผู้อ่านออกสำรวจหัวใจมนุษย์อย่างลึกซึ้ง ผ่านเรื่องราวการพานพบระหว่างคนต่างวัยสองคน คือ “คุณลุง” และ “ตัวผู้เล่า” ในช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนผ่านครั้งใหญ่ทั้งทางสังคมและความคิดของญี่ปุ่น // ใช้ถ้อยคำเรียบง่ายแต่จึ้กค่ะ !

Note: ชื่อหนังสือ “โคะโคะโระ”(kokoro, こころ) หมายถึงหัวใจ จิตใจ ตัวตนภายใน หรือความรู้สึกลึกๆ ซึ่งเป็นคำที่คนญี่ปุ่นใช้กันกว้างตั้งแต่เชิงอารมณ์ถึงปรัชญาเลย

10. ยามซากุระร่วงโรย (5 Centimeters per Second)

• ผู้เขียน: Makoto Shinkai
• แปลไทย: ณรรมล ตั้งจิตอารี (สำนักพิมพ์อนิแม็ก)

“ห้าเซนติเมตรต่อวินาทีเป็นความเร็วของกลีบซากุระตอนร่วงยังไงล่ะ” 

นิยายที่ถ่ายทอดความสัมพันธ์ของ “อาการิ” และ “ทากากิ” เด็กชายและเด็กหญิงที่ผูกพันกันตั้งแต่เด็ก แต่ค่อยๆ ถูกระยะทางและเวลาพรากให้ห่างออกจากกันทีละน้อย และแทบขาดการติดต่อกันในที่สุด

เรื่องนี้ทั้งอบอุ่น ละมุน เงียบเหงา และเจ็บแปลบแบบที่เป็นเอกลักษณ์ของผู้เขียนอย่าง “ชินไค” เหมาะมากสำหรับคนที่อยากฮีลใจด้วยภาษาสวยๆ พร้อมกับซึมซับบรรยากาศความเป็นญี่ปุ่นค่ะ

11. คำสารภาพ (Confessions) 

• ผู้เขียน: Kanae Minato
• แปลไทย: กนกวรรณ เกตุชัยมาศ (สำนักพิมพ์ Prism)

นวนิยายแนวจิตวิทยาสืบสวน เปิดด้วยเหตุสะเทือนใจที่เกิดกับ  “โมริกุจิ ยูโกะ” ครูผู้เป็นแม่ของลูกสาวที่จากไปเพราะเหตุฆาตกรรม เธอออกมาพูด “คำสารภาพ” ต่อหน้าห้องเรียน 

จากนั้นเรื่องราวจะค่อยๆ เปิดปมผ่านมุมมองของตัวละครแต่ละคนทีละชั้น เสน่ห์ของเล่มนี้คือยิ่งอ่านยิ่งรู้สึกกดดัน เพราะแต่ละตัวละครต่างมีเหตุผล ความเจ็บปวด และเงื่อนไขในใจที่นำไปสู่การกระทำต่างๆ การเล่าแบบสลับมุมมองทำให้ผู้อ่านต้องตั้งคำถามตลอดว่า อะไรกันคือความจริง และสุดท้ายแล้วใครกันแน่ที่ผิด!

12. The Girl You Left Behind

• ผู้เขียน: Jojo Moyes
• ภาษาอังกฤษ #ไม่มีแปลไทย 

นวนิยายที่เชื่อมอดีตและปัจจุบันอย่างงดงาม ฝั่งหนึ่งคือ “โซฟี” หญิงสาวในฝรั่งเศสยุคที่ประเทศถูกยึดครองโดยทหารเยอรมันในช่วงสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง เธอต่อสู้เพื่อปกป้องภาพวาดที่สามีสร้างไว้ให้ก่อนจะถูกส่งไปร่วมรบ และอีกหลายสิบปีต่อมา ภาพเดียวกันนี้กลับปรากฏในมือของ “ลิฟ” หญิงสาวในลอนดอนที่ต้องการค้นหาความจริงว่า ภาพวาดใบนี้ผ่านชะตาแบบไหนมากันแน่?

การตามรอยภาพวาดทำให้เรื่องราวสองยุคค่อยๆ เชื่อมถึงกัน และเผยประเด็นสำคัญมากมาย ทั้งความรัก ความสูญเสีย การเสียสละ ผลกระทบของสงคราม และการยืนหยัดของผู้หญิงสองคนที่ถูกกาลเวลาพรากจากกันมากกว่าศตวรรษค่ะ

....................

You'll always be my blue valentine.~ ฟากตึกฟ้าขอส่ง “ลิลลี่” จากวง NMIXX เข้าร่วมประกวด! ถือเป็นอีกหนึ่งไอดอลที่นอกจากจะเต็มที่กับงานบันเทิงแล้ว ยังจริงจังกับการพัฒนาตัวเองสุดๆ โดยเธอเคยพูดถึงเป้าหมายการอ่านหนังสือขณะไลฟ์สดกับแฟนๆ ว่าอยากอ่านหนังสือให้ถึง 60 เล่มภายใน 1 ปีเลยทีเดียว! 

นอกจากนี้ ลิลลี่มักจะมาแชร์หนังสือใหม่ๆ หรือแนะนำหนังสือน่าอ่านกับ NSWER บ่อยๆ ด้วย โดยหนังสือที่เธอเลือกก็มีหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นนวนิยายแฟนตาซี สะท้อนสังคม ซึ่งอ่านแล้วช่วยตกผลึกแนวคิดดีๆ และฮีลใจสุดๆ 

13. ชมรมไขคดีฆาตกรรมวันพฤหัสฯ (The Thursday Murder Club)

• ผู้เขียน: Richard Osman
• แปลไทย: วรรธนา วงษ์ฉัตร (สำนักพิมพ์ Biblio)

นวนิยายแนวสืบสวนแต่อบอุ่นด้วยมิตรภาพ เล่าถึงแก๊งเพื่อนวัยเกษียณ 4 คนในหมู่บ้านพักคนชรา ซึ่งรวมตัวกันภายใต้ชมรม “Thursday Murder Club” แล้วนัดกันทุกวันพฤหัสบดีเพื่อมาเปิดแฟ้มคดีเก่าที่ยังไม่คลี่คลาย กระทั่งวันนึงดันดันมีคดีฆาตกรรมเกิดขึ้นจริงๆ ในละแวกที่เขาอยู่น่ะสิ! ชาวชมรมเธิร์สเดย์เมอร์เดอร์คลับจึงไม่รอช้าที่จะกระโดดเข้ามาร่วมวงสืบคดีร้อนฉ่า ราวกับเป็นงานกลุ่มครั้งแรกของพวกเขา

ใครยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเลือกอ่านแนวมิตรภาพอบอุ่น หรือไขคดีฆาตกรรม เล่มนี้เสิร์ฟครบทุกทางค่ะ 

14. จอมโจรขโมยหนังสือ (The Book Thief) 

• ผู้เขียน: Markus Zusak
• แปลไทย: พรรณี ชูจิรวงศ์ (แพรวสำนักพิมพ์)

สุดยอดวรรณกรรมที่จะเราย้อนไปเหตุการณ์ในเยอรมนียุคนาซี (สงครามโลกครั้งที่สอง) ผ่านสายตาของ “ยมทูต” ผู้บรรยายชีวิตของเด็กสาวชื่อ “ลีเซล เมมิงเกอร์” เด็กหญิงที่ถูกส่งตัวไปอยู่กับครอบครัวอุปถัมน์ และเติบโตท่ามกลางความสูญเสียที่หนักหนาเกินวัย

เสน่ห์ของเรื่องนี้คือความผูกพันระหว่างลีเซลและ “หนังสือที่เธอขโมยมาอ่าน” ทีละเล่ม ซึ่งกลายป็นพื้นที่ปลอดภัย ที่พึ่งทางใจ ความหวัง และเชื่อมโยงเธอกับคนรอบข้าง เรียกว่าทั้งเศร้าแต่เล่าอย่างงดงามเลยล่ะค่ะ 

15. หยุดหัวใจไว้ที่นาย (Heartstopper)

• ผู้เขียน: Alice Oseman
• แปลไทย: วลัยลักษณ์ จิตตะยโสธร (สำนักพิมพ์ Nanmeebooks)

ต่อด้วยนิยายอบอุ่นหัวใจ เล่าเรื่องราวความสัมพันธ์ระหว่าง “ชาร์ลี” เด็กหนุ่มช่างคิด และ “นิก” หนุ่มนักกีฬารักบี้ผู้ใจดี ทั้งสองรู้จักกันจากในห้องเรียนและพัฒนาความสัมพันธ์จนสนิมสนมและลึกซึ้งขึ้นเรื่อยๆ จุดเด่นคือความนุ่มละมุน อ่านง่าย ถ่ายทอดความรู้สึกของวัยรุ่นแบบเรียลๆ และนำเสนอเรื่องราวของกลุ่ม LGBTQ+ ที่เปิดกว้างมากขึ้นในยุคปัจจุบัน 

16. The Invisible Life of Addie LaRue

• ผู้เขียน: V.E. Schwab
• ภาษาอังกฤษ #ไม่มีแปลไทย 

นวนิยายแฟนตาซี-ดราม่า เล่าชีวิตของ “Addie LaRue” หญิงสาวในศตวรรษที่ 18 ที่พยายามใช้ชีวิตในแบบที่ตัวเองต้องการ นั่นก็คือการเป็นอมตะและสร้างผลงานที่ทุกคนต้องจดจำ แต่เธอกลับโดนต้องคำสาปที่มีข้อแลกเปลี่ยนจากมัจจุราช คือ “ไม่มีใครสามารถจำเธอได้” จนเวลาผ่านไป 300 ปี เธอกลับพบชายหนุ่มคนหนึ่งที่ดันไม่ลืมเธอค่ะ!

ถ้าใครชอบงานเขียนเชิงปรัชญาเกี่ยวกับตัวตน เวลา ความทรงจำ และสิ่งที่ทำให้ชีวิตของเรามีความหมาย เล่มนี้จัดให้อย่างละมุนเลย

....................

ปิดท้ายด้วยสมาชิกวงเกิร์ลกรุปตัวแม่แห่งยุคจากตึกชมพูอย่าง “หนิงหนิง” วง aespa ที่หลายๆ คนอาจมีภาพจำของเธอเป็นตัวลูกเริ่ดๆ ร้องเต้นแบบสับ แต่จริงๆ แล้ว “น้องหนิง” ของเรานั้นเป็นอีกคนที่อ่านหนังสือเยอะเหมือนกันนะ

แม้ว่าตารางงานของ aespa จะแน่นขนาดไหน หนิงหนิงก็แบ่งเวลาสำหรับหาหนังสืออ่าน แถมยังมาแชร์ให้ MY ตามไปอ่านต่อด้วย โดยแต่ละเรื่องที่เธอแนะนำ ก็เป็นเรื่องที่อ่านแล้วช่วยให้เราดำดิ่งในโลกอีกใบได้ดี ใครอยากกายพักใจจากโลกความเป็นจริงสักพัก ลองแวะไปเช็กอินกับลิสต์หนังสือน่าอ่านจากน้องหนิงกัน~ 

17. ปาฏิหาริย์ร้านชำของคุณนามิยะ (The Miracles of The Namiya General Store)

• ผู้เขียน: Keigo Higashino
• แปลไทย: กนกวรรณ เกตุชัยมาศ (น้ำพุสำนักพิมพ์)

เนื้อเรื่องเล่าถึง "ร้านชำปาฏิหารย์" ที่เจ้าของร้านคอยช่วยเหลือผู้คนในอดีต ด้วยการให้คำปรึกษาปัญหาชีวิตผ่านจดหมายซึ่งส่งผ่านมิติแห่งกาลเวลา ทว่าตอนนี้ “คุณนามิยะ” เจ้าของร้านได้จากโลกนี้ไปหลายสิบปีแล้ว ทิ้งไว้เพียงร้านชำร้างและความลับที่ปกปิดไว้ 

จนกระทั่งวันหนึ่งกลับมีแก๊งวัยรุ่นหัวขโมย 3 คน ที่หนีมาซ่อนตัวในร้านร้าง และบังเอิญเจอจดหมายอีกฉบับที่กำลังรอคำตอบ! ทั้งสามเลยเข้าไปพัวพันกับเรื่องราวในอดีตที่ค่อยๆ คลี่ออกอย่างงดงาม 

18. ชีวิตที่ฟื้นคืน (Resurrection)

• ผู้เขียน: Leo Tolstoy
• แปลไทย: สดใส (สำนักพิมพ์ทับหนังสือ) 

วรรณกรรมสุดคลาสสิกที่สะท้อนสังคมรัสเซียปลายศตวรรษที่ 19 ผ่านเรื่องราวการเดินทางไถ่บาปของเจ้าชายเนคห์ลยูดอฟ เมื่อเขาตระหนักว่าตัวเองเคยทำร้ายหญิงสาวคนหนึ่งเมื่อหลายปีก่อน จึงพยายามช่วยเหลือเธอในกระบวนการยุติธรรมที่ไม่ยุติธรรมสมชื่อ พร้อมวิพากษ์สภาพสังคม การเมือง ศาสนา และช่องว่างระหว่างชนชั้นในยุคนั้นอย่างตรงไปตรงมาค่ะ

19. สูญสิ้นความเป็นคน (No Longer Human)

• ผู้เขียน: Osamu Dazai
• แปลไทย: พรพิรุณ กิจสมเจตน์ 

นวนิยายญี่ปุ่นที่เปิดเรื่องด้วย “ภาพถ่ายสามใบ” ก่อนจะพาเข้าสู่บันทึกชีวิตของชายหนุ่มชื่อ “โยโซ” ผู้พยายามเอาตัวรอดในโลกที่เขาไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองเป็นส่วนหนึ่ง ในเรื่องเต็มไปด้วยการเสียดสี เย้ยหยัน จิกกัด แต่เมื่ออ่านไปแล้วจะค่อยๆ ตระหนักได้ถึงความเป็นมนุษย์ เข้าใจตัวละครมากกว่าแนวดราม่าหนักหน่วง

20. สาวทรงเสน่ห์ (Pride and Prejudice)

• ผู้เขียน: Jane Austen
• แปลไทย: จูเลียต (สำนักพิมพ์แสงดาว)

วรรณกรรมอมตะที่เล่าเรื่องความรักของ “เอลิซาเบธ เบนเน็ต” หญิงสาวที่หัวไว กล้าคิด กล้าตัดสินใจ และ “มิสเตอร์ดาร์ซี” ชายหนุ่มที่ภายนอกเย็นชาและซับซ้อน  ถ้าใครชอบแนวปะทะคารมคมคายแบบอ่านแล้วตบเข่าฉาด พร้อมกับเห็นประเด็นข้อจำกัดทางชนชั้นของผู้หญิงอังกฤษสมัยก่อน พลาดเล่มนี้ไม่ได้นะคะ~

________________________________