Hello! สวัสดีน้องๆ ชาว Dek-D ทุกคนค่า~ หลายคนน่าจะรู้กันดีว่า ‘สหรัฐอเมริกา’ เป็นประเทศที่ทรงอิทธิพลของโลก ทั้งด้านเศรษฐกิจ วัฒนธรรม ความหลากหลาย รวมถึงระบบการศึกษาที่ได้รับการยอมรับระดับสากล ทำให้การไปเรียนต่ออเมริกายังคงเป็นความฝันลำดับต้นๆ ของเด็กไทยมาทุกยุคทุกสมัยเลยค่ะ
และสำหรับใครที่เล็งอยากไปเรียนต่อที่นี่ พี่ลูกหมูก็มีข่าวดีสุดปังมาบอกต่อ! เพราะตอนนี้ ‘American University’ มหาวิทยาลัยชั้นนำใจกลางกรุง Washington D.C. เมืองหลวงของประเทศ กำลังเปิดรับสมัครนักศึกษาต่างชาติระดับปริญญาตรี สำหรับปี 2026 แล้ว แถมยังมีทุนแบบจัดเต็มพร้อมช่วยเซฟค่าใช้จ่ายด้วย! // อยากคว้าทุนไปเรียนฟรีที่อเมริกา ต้องทำยังไงบ้าง? เลื่อนลงไปเช็กรายละเอียดพร้อมๆ กันเลยค่า~
เปิดรั้ว American University
- ‘American University’ (AU) เป็นมหาวิทยาลัยเอกชนชั้นนำในสหรัฐอเมริกา ก่อตั้งเมื่อปี 1893 อยู่ที่กรุง Washington, D.C. เมืองหลวงของประเทศ
- โดดเด่นด้าน ‘International Relations’ ซึ่งติด Top ในประเทศและระดับโลก (อ้างอิงจากข้อมูลจากมหาวิทยาลัย)
- อีกหนึ่งคณะที่โดดเด่นไม่แพ้กันก็คือ ‘Journalism & Communication School of Communication (SOC)’ ที่โด่งดังและมีอุปกรณ์ทันสมัย // นักศึกษาที่นี่ได้ฝึกงานกับ CNN, NBC, National Geographic, The Washington Post, ฯลฯ อีกทั้งเป็นสายสื่อที่มีคอกเน็กชันแน่น เพิ่มโอกาสในการหางานทำหลังเรียนจบแถมอยู่ในเมืองที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็น News Capital ของประเทศเลย (อ้างอิงจากข้อมูลจากมหาวิทยาลัย)
- โมเดลการเรียนที่นี่ค่อนข้างยืดหยุ่นมาก เหมาะกับคนที่อยากเรียนแบบ Multidisciplinary เพราะมีทั้ง Double Major / Minor การเปลี่ยนสาขา หรือเพิ่ม Minor ซึ่งทำได้ไม่ยากเลยค่ะ
- รายงานด้านอัตราการมีงานทำหลังเรียนจบของนักศึกษา ป.ตรี พบว่า กว่า 91% มีงานทำและเรียนต่อระดับบัณฑิตศึกษาภายใน 6 เดือนหลังสำเร็จการศึกษา มีชื่อเสียงดีในวงการรัฐบาลและองค์กรระหว่างประเทศเวลาหางานในสาย IR, Public Affairs, Journalism, Policy // ชื่อ AU ถือว่าเป็น Brand ที่รู้จักอย่างดีใน D.C. และนายจ้างชอบเด็กจากที่นี่เพราะมีประสบการณ์จริงเยอะค่ะ
คณะที่เปิดสอน
สำหรับระดับปริญญาตรี เปิดสอนคณะต่างๆ ดังนี้
- College of Arts & Sciences (วิทยาลัยศิลปะและวิทยาศาสตร์)
- Kogod School of Business (คณะบริหารธุรกิจ)
- School of Communication (คณะนิเทศศาสตร์)
- School of Education (คณะศึกษาศาสตร์)
- School of International Service (คณะการบริการระหว่างประเทศ/ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ)
- Professional Studies and Executive Education (หลักสูตรวิชาชีพและการศึกษาสำหรับผู้บริหาร)
- School of Public Affairs (คณะกิจการสาธารณะ/นโยบายสาธารณะ)
- Washington College of Law (คณะนิติศาสตร์)
ค่าเล่าเรียน
สำหรับหลักสูตรปริญญาตรี ค่าเล่าเรียนจะขึ้นอยู่กับจำนวนหน่วยกิตที่ต้องเรียน โดยเริ่มต้นที่ $30,135 - $32,142 ต่อปี (ประมาณ 957,524 - 1,021,295 บาท)
Note:
- ค่าใช้จ่ายนี้ไม่รวมค่าที่พัก ค่าหนังสือเรียน ค่าครองชีพ และค่าใช้จ่ายอื่นๆ
- อ้างอิงจาก $1 = 31.77 ณ วันที่ 11 ธันวาคม 2568
ส่องทุนการศึกษาจาก AU
1. AU Emerging Global Leader Scholarship (AU EGLS)
ทุนเต็มจำนวน ครอบคลุมทั้งค่าเล่าเรียน ค่าที่พัก และค่าอาหาร โดยมีโควตาทั้งหมด 2 ทุน
2. AU EGL partial scholarships
เป็นทุนสนับสนุนบางส่วน โดยมีมูลค่าสูงสุด $40,000 ต่อปี (ประมาณ 1,270,980 บาท) มีโควตาทั้งหมด 8 ทุน // ผู้สมัครจะได้รับการพิจารณาทุนเต็มจำนวนก่อน
ศึกษารายละเอียดทุนเพิ่มเติม3. Merit-Based Scholarship
ทุนนี้มีมูลค่าตั้งแต่ประมาณ $6,000–$22,000 ต่อปี หรือ ประมาณ 190,647 - 699,039 บาท (ขึ้นอยู่กับคุณสมบัติของผู้สมัคร) ซึ่งผู้สมัครจะได้รับพิจารณาอัตโนมัติพร้อมการสมัครเรียน (ไม่ต้องส่งใบสมัครแยก) แบ่งประเภททุนดังนี้
- AU Presidential Scholarship
- AU Deans’ Scholarship
- AU Leadership Scholarship
คุณสมบัติผู้สมัคร
- เป็นนักศึกษาต่างชาติ
- มีวุฒิการศึกษาระดับม.ปลาย
- สำหรับผู้สมัครทุน AU GEL ต้องมีความเป็นผู้นำ เคยทำงานจิตอาสาในชุมชน และมีความมุ่งมั่นในการพัฒนาประเทศบ้านเกิดของตัวเอง
- มีผลวัดระดับภาษาอังกฤษตามเกณฑ์ที่กำหนด อย่างใดอย่างหนึ่ง ดังนี้
- TOEFL iBT ขั้นต่ำ 85 คะแนน หรือ
- IELTS ขั้นต่ำ band 6.5 หรือ
- PTE ขั้นต่ำ 60 คะแนน หรือ
- Duolingo ขั้นต่ำ 120 คะแนน หรือ
- Cambridge Assessment English Score ขั้นต่ำ 175 คะแนน
ขั้นตอนการสมัครเรียน & สมัครทุน
- สมัครเรียนผ่านระบบออนไลน์ คลิกที่นี่
- สร้างบัญชีผู้สมัคร และกรอกข้อมูลในระบบให้ครบถ้วน
- สำหรับผู้สมัครทุน AU EGL ต้องกรอกใบสมัครทุน และส่งเรียงความ (Essay) ในระบบ
- อัปโหลดหนังสือรับรองจากธนาคาร (Bank Letter) และแบบฟอร์ม AU DFF ที่ลงลายเซ็น โดยมียอดเงินขั้นต่ำ $4,000 หรือ ประมาณ 127,098 บาท
- ส่งผลวัดระดับภาษาอังกฤษอย่างเป็นทางการไปทางไปรษณีย์ ก่อนวันที่ 15 มกราคม 2026 // ต้องให้ทางศูนย์สอบเป็นผู้ส่งผลคะแนนให้ ผู้สมัครไม่สามารถส่งด้วยตัวเองได้
- ผู้ที่ผ่านการคัดเลือกในแต่ละรอบจะต้องสัมภาษณ์กับทางมหาวิทยาลัยผ่าน Zoom และอาจถูกขอให้ส่งเอกสารเพิ่มเติม (แล้วแต่กรณี)
Note: ค่าสมัคร $75 (ประมาณ 2,383 บาท) ซึ่งผู้ที่ได้รับทุน อาจจะได้เงินส่วนนี้คืนภายหลัง
เอกสารประกอบการสมัครเบื้องต้น
- แบบฟอร์ม AU DFF
- หนังสือรับรองจากธนาคาร
- ผลการเรียน (Official Academic Record)*
- จดหมายแนะนำ (Letter of Recommendation) จำนวน 2 ฉบับ*
- ผลวัดระดับภาษาอังกฤษ*
Note:
- *เอกสารข้อ 3 และ 4 ต้องอัปโหลดผ่านระบบออนไลน์ โดยครู/ผู้ให้คำปรึกษาของโรงเรียน หรือ ให้โรงเรียนส่งผ่านทางไปรษณีย์ไปยังที่อยู่ด้านล่าง
- *ผลวัดระดับภาษาอังกฤษ ต้องให้ทางศูนย์สอบเป็นผู้ส่งผลคะแนนให้ ผู้สมัครไม่สามารถส่งด้วยตัวเองได้ โดยต้องส่งอย่างเป็นทางการไปทางไปรษณีย์ ก่อนวันที่ 15 มกราคม 2026
ที่อยู่มหาวิทยาลัยสำหรับส่งเอกสาร
Undergraduate Admissions, Office of Enrollment
4801 Massachusetts Ave., NW STE-218
Washington, DC 20016-8001
USA
Tel: +1-202-885-6000
หมดเขตรับสมัคร
15 มกราคม 2026
ช่องทางติดต่อสอบถามเพิ่มเติม
- โทร: (202) 885-1000
- อีเมล: intadm@american.edu
................
สำหรับใครที่มองหาโอกาสโกอินเตอร์ ตอนนี้มีหลายทุนกำลังเปิดรับสมัคร
ตามไปเช็กกันต่อได้เลยที่ "โปรแกรมค้นหาทุนเรียนต่อนอก by Dek-D"
ติดตามทุนต่อนอกง่ายๆ กับ Dek-D
- Website: www.dek-d.com/studyabroad
- X: @tornokandcourse
- IG: @tornokandcourse
- Facebook: Study Abroad เรียนต่อนอก by Dek-D
- Facebook: Study Guide ไปเรียนต่อนอกกันเถอะ
- TikTok: @tornokandcourse
0 ความคิดเห็น