ล้ำไปอีก! เทคโนโลยีใหม่จากสวีเดน เข้าสู่สังคมไร้เงินสดของแท้ ด้วยวิธีการฝัง “ไมโครชิพ” ที่หลังมือ!


         ช่วง 2-3 ปีที่ผ่าน มาจะพบว่า ในประเทศไทยเรามีเทคโนโลยีใหม่ๆ เช่น แอพฯธนาคาร(Mobile Banking) หรือ เทคโนโลยีในสมาร์ทโฟน มาช่วยให้การทำธุรกรรมทางการเงินเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น เพื่อเข้าสู่การเป็น Cashless Society หรือสังคมไร้เงินสด นั่นเองค่ะ

         แต่จริงๆ แล้ว การเป็นสังคมไร้เงินสดได้เริ่มมานานมากแล้ว ไม่ว่าจะเป็น ฝรั่งเศส สหราชอาณาจักรฯ เบลเยียม แคนาดา แต่ประเทศที่ก้าวสู่การเป็น Cashless Society ที่ชัดเจนที่สุดคือ สวีเดน ความล้ำล่าสุดของสวีเดนคือ การฝัง
“ไมโครชิพ” ที่หลังมือ เพื่อใช้แทนบัตรต่างๆ ใช่ค่ะ!! ฝังไปที่หลังมือ

         ปัจจุบันประเทศสวีเดนเป็นประเทศที่มีการหมุนเงินสดในระบบเพียงแค่ 3% เท่านั้น ที่เหลือจะเป็นการโยกย้ายตัวเลขผ่านระบบออนไลน์ทั้งหมด ใช้ Mobile Banking และบัตรเดบิต ไม่ว่าจะเป็นการขึ้นรถ จ่ายเงินซื้อของ ร้านใหญ่ ร้านข้างทาง ก็ใช้แบบนี้หมด หรือแม้กระทั่งการบริจาคเงินในโบสถ์การผ่านบัตรเดบิตด้วย และเชื่อมั้ยว่า ร้านค้าสามารถปฏิเสธการรับเงินสดได้อย่างถูกกฎหมายด้วยจ้า

 

         กลับมาที่ความล้ำล่าสุดของสวีเดน การฝัง “ไมโครชิพ” เข้าสู่ร่างกาย พอบอกว่าฝังมันดูโหดร้ายเนาะ ไมโครชิพตัวนี้มีขนาดเล็กมากเท่าเมล็ดข้าวสาร 1 เมล็ด วิธีการฝังจะเป็นการฉีดเข้าไปด้วยเข็มใหญ่ ถ้าใครเคยบริจาคเลือดคงจะนึกภาพออก ไซซ์เข็มจะประมาณนั้นหรือใหญ่กว่านิดหน่อยค่ะ

         เจ้าไมโครชิพนี้ไม่ได้เป็นแค่บัตรเดบิตอย่างเดียว ยังเป็นบัตรอื่นๆ อีก เช่น บัตรประชาชน บัตรพนักงาน บัตรรถไฟ บัตรจ่ายเงิน กุญแจบ้าน คือตัวเดียวครบเลยค่ะ ทำทุกอย่าง วิธีการใช้ก็คือ ยื่นมือไปสแกนที่ตัวรับสัญญาณ และใส่รหัสผ่าน เท่านี้ก็เรียบร้อยแล้ว

 

Clip

Swedish office implants microchips in employees' hands


         ตอนนี้มีชาวสวีดิชกว่า 3,000 คนที่ลองใช้ไมโครชิพด้วยนี้แล้ว และคาดว่าจะมีคนใช้มากขึ้นในอนาคต แต่ก็มีบางส่วนที่ต่อต้าน บ้างก็กลัวอันตรายจากไมโครชิพ บ้างก็กลัวโดนแฮคหรือเจาะระบบง่ายเกินไป ซึ่งการฝังไมโครชิพไม่ได้บังคับ การเป็นสังคมไร้เงินสดผ่าน Mobile Banking และบัตรเดบิตในประเทศสวีเดน ยังคงดำเนินต่อไป

         ส่วนในประเทศไทยเรา ตอนนี้ก็นิยมใช้ Mobile Banking กันมากขึ้น นอกจากจะไม่เสียค่าธรรมเนียมแล้ว ยังสามารถทำธุรกรรมได้ 24 ชั่วโมงด้วย สมมติตอนห้าทุ่มเกิดเครียดขึ้นมา ก็สั่งซื้อของออนไลน์จ่ายเงินได้ ข้อดีคือสะดวกมาก ข้อเสียคือ เงินไปไวเหลือเกิน ฮ่าๆ


 
พี่แป้ง
พี่แป้ง - Columnist นักข่าวสายรับตรง พร้อมเสิร์ฟข่าวสอบเข้าทุกมหา'ลัย เติมพลังได้จากชาเย็นหวานน้อย

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

กำลังโหลด

3 ความคิดเห็น

กำลังโหลด
ทุกอย่างมีช่องโหว่ 15 พ.ย. 61 17:55 น. 2

แบบนี้โจรก็บอกหวานหมูนะครับ ถ้าใครเป็นเศรษฐี มีเงินเป็นถุงถังเดินดุ่มๆวันดีคืนดีมีโจรหัวใสเอาเครื่องแสกนไมโครชิพมาโม(ถ้าเครื่องแสกนมันเล็กพอใส่กระเป๋าได้นะ) จับข้อมือชาวบ้านละแสกนวิ่งราวข้อมูล เงินสดทีละ500 300โครนวิ่งราววันละ10-20คนนี่มันก็อาจเกิดขึ้นได้ไหมครับ? บางทีตัวเราเองนี่แหละคือช่องโหว่ซะเองนะ

2
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด