อธิบดีกรมสุขภาพจิต นพ.บุญเรือง ไตรเรืองวรวัฒน์ ได้เปิดเผยผลวิเคราะห์สถานการณ์ของสถาบันสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่นในปี 2560 พบเด็กไทยป่วยเป็นโรคติดเกมเพิ่มขึ้นจากปี 2559 ถึง 6 เท่าตัวเลยค่ะ พญ. วิมลรัตน์ วันเพ็ญ รอง ผอ.สถาบันสุขภาพจิตเด็กฯ ยังให้ข้อมูลเพิ่มด้วย “คาดว่ายังมีเด็กไทยที่เข้าข่ายติดเกมแต่ไม่ถึงขั้นป่วยประมาณ 1.6 ล้านคน”
ถ้าพูดถึงเด็กที่มีพฤติกรรมเสี่ยงติดเกม “รายงานการสำรวจสถานการณ์ปัญหาพฤติกรรมเสี่ยงและการติดเกมในนักเรียน” พบว่าน้องๆ มัธยมฯ ในช่วงวัย 13 -18 ปี มีปัญหาพฤติกรรมเสี่ยงมากกว่าน้องๆ วัยประถมฯ ช่วง 7 - 12 ปี
แบบไหนถึงเรียกว่าติดเกม?
“เด็กติดเกม” มีหลักการสังเกตพฤติกรรมง่ายๆ ตามที่สถาบันสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่นราชนครินทร์ให้คำนิยามไว้ ดังนี้
1. มีทริคหาช่องทางเล่นเกมอย่างมาก! ต่อให้ว่างหรือไม่ว่างก็จะต้องได้เล่น บางรายถึงแม้จะทำงานอยู่ก็ขอให้ได้เปิดหน้าจอเล่นเกมคู่กันไป ยิ่งกับวันหยุดเสาร์ - อาทิตย์เล่นเกมทั้งวัน
2. เพิ่มชั่วโมงในการเล่น จากเดิมที่เคยเล่น 1 ชั่วโมงไม่พอ ขอเพิ่มเป็น 2 หรือ 3 หรือมากกว่านั้นจนถึงจุดพอใจ (เคยมีวิจัยสำรวจว่าเล่นเกมติดต่อกัน 9 ชม./วัน เกินระยะปลอดภัย)
3. ไม่เล่นเกมไม่ได้! ใครขัดมีหงุดหงิด เหวี่ยงใส่คนรอบข้าง หรือตรงกันข้ามก็ซึม
4. สูญเสียการเรียน การทำงาน การมีสัมพันธภาพกับคนรอบข้างเพราะเกม (บางทฤษฎีบอกว่าแม้ตื่นหรือนอนฝันก็จะคิดแต่เรื่องเล่นเกม)
เล่นเกม 16 ชม./สัปดาห์ มีโอกาสติดเกมสูง 4 เท่า
ทีมวิจัยของเกาหลีใต้ได้ตรวจสอบกลไกการทำงานของสมอง ที่เรียกว่า PET Scans และพบว่าสมองของคนที่ติดเกมออนไลน์เหมือนกันทุกประการกับสมองของคนที่ติดยาเสพติดด้วยค่ะ เรื่องนี้ไปสอดคล้องกับสิ่งที่ ดร.ประภาพรรณ จูเจริญ ได้อธิบายไว้ในรายการโทรทัศน์มูลนิธิเด็กที่ว่า ขณะที่เราเล่นเกม สารสื่อประสาท “โดปามีน” ซึ่งเป็นสารแห่งความสุขจะหลั่งออกมามากมาย ทำให้เราเกิดความรู้สึกต้องการมากขึ้นอยากจะเลิกแต่ก็ลืมไม่ลง เมื่อหมกมุ่นอยู่กับการเล่นเกมเยอะๆ วันไหนไม่ได้เล่น ก็จะยิ่งต้องการเพิ่มขึ้นทวีคูณจนเกิดเป็นอาการทางสมองเช่นเดียวกับคนที่ติดยาเสพติด คือมีความโหยหาลืมไม่ลงตลอดเวลานั่นเอง
MOBA คือเกมที่เด็กไทยติดหนึบที่สุด!
สถาบันสุขภาพจิตเด็กฯ เก็บสถิติมาแล้วว่าเกมที่ทำให้ติดและมีผลกระทบต่อเด็กคือเกมยิงต่อสู้ การต่อสู้ออนไลน์ เกมประเภทสปอร์ต และเกม MOBA ชนิดที่เป็นสงคราม อย่างสุดท้ายนี้ตรงกับผลสำรวจวิเคราะห์เกมออนไลน์ที่พบว่า “รูปแบบเกมออนไลน์ที่นักเรียนชอบอันดับ 1 คือเกม HON” ซึ่งเป็นแนวเกมประเภท MOBA มีเนื้อหาการต่อสู้แบบทีมเสมือนจริง หรือผจญภัยในแผนที่กำหนดเพื่อเอาชนะคู่ต่อสู้อีกฝ่าย เกมโมบาที่รู้จักกันนอกจาก HON ยังมี DotA RoV LOL
ผลสำรวจของกรมสุขภาพจิตยังพบว่า เกม MOBA มีความสัมพันธ์กับความรุนแรงขึ้นอยู่กับระยะเวลาในการฝังอยู่ในสมองเด็ก และยังมีการศึกษาเพิ่มเติมด้วยว่า เมื่อเสพติดจะเป็นอัตรายต่อสมองส่วนหน้า (Prefontal Contex) ซึ่งทำหน้าที่เกี่ยวกับการคิดวิเคราะห์ ความจำ ความเข้าใจ และการตัดสินใจด้วยเหตุผล เรียกว่าสมองส่วนนี้ของเด็กติดเกมจะทำงานลดลงนั่นเองค่ะ
เล่นเกมให้สนุกแต่ไม่เสพติด!
จริงๆ แล้วรูปแบบเกม MOBA ก็ผ่านการวิจัยมามาแล้วว่า ทำให้ผู้เล่นได้ฝึกใช้สกิลต่างๆ เยอะ โดยเฉพาะเรื่องคิดวางแผนและกลยุทธ์ต่างๆ แต่! อะไรที่มากเกินไปก็ไม่ดี ดังนั้น เล่นเกมอย่างพอดีๆ ดีกว่านะคะ ถ้าน้องๆ คนไหนสงสัยว่าตัวเองกำลังจะกลายเป็นเด็กติดเกมรึเปล่า ก็ลองทำ “แบบทดสอบพฤติกรรมติดเกม (GAST)” ดูได้ค่ะ
ขอบคุณข้อมูลจาก
ข่าวสุขภาพกรมสุขภาพจิต ยอดเด็กติดเกม
รายการโทรทัศน์มูลนิธิเด็ก ตอน สมองของเด็กติดเกม
วิทยานิพนธ์การวิเคราะห์รูปแบบเกมออนไลน์ฯ ของธีรภัค คมนา
บทความวิชาการพฤติกรรมการติดเกม:พฤติกรรมและการป้องกัน ของสภาวดี เจริญวานิช
รายงานการวิจัยสำรวจสถานการณ์ปัญหาพฤติกรรมเสี่ยงและติดเกมในนักเรียน ของสถาบันสุขภาพจิตเด็กฯ
7 ความคิดเห็น
เอาอะไรมาวัดคุณภาพเด็ก เล่นเกม เล่นเฟสบุ๊ค เล่นเกมมอถือ เล่นเกมโทรทัศน์ ประเทศไทยคิดแบบนี้ไงเลยไม่เจริญ ดูสหรัฐครับเค้าทำเกมออกมาเป็นแบบ กีฬาชิงไหวพริบ รางวัลไม่ใช่น้อยๆด้วย 100ล้าน+ การศึกษาไทยเรียนเยอะได้ไรก็เท่าเดิม การศึกษามีแต่สอบๆๆ แดกตัง นักเรียน นักศึกษา แบบนี้ไงไม่ใช่ความคิดของคนรุ่นใหม่ ประไทยเลยไม่เจริญ คิดแบบ ลบๆ วิจัยคือสุ่มตัวอย่าง ลองไปดูเค้าแข่งกี่ฬาอีสปอร์ตดูสิจะรู้ แค่นี้พอเดี๋ยวยาว ประเทศไทย only
ผมติดเกม มายคาฟ
น้องกับหลานเราติดเกมมากค่ะ เด็กประถม จนไม่อ่านหนังสือชวนไปปั่นจักรยานก็ไม่ไป ชวนไปวิ่งก็ไม่ไป ไม่เล่นกีฬา เล่นแต่เกม หนังสือไม่อ่าน ขอบตาดำ วัน ๆ พูดแต่เรื่องเกม พยายามให้เด็กไม่ติดเกมนะคะ แต่พอชวนไปทำอย่างอื่นก็จะไม่อยากไป อยากอยู่กับเกม พอยึดโทรศัพท์ชักดิ้นชักงอเหมือนจะตาย
คนเราหาอะไรทำเพื่อความบันเทิงแล้วจดจ่อกับสิ่งที่เพลิดเพลินเหมือน ๆ กันทั้งนั้นแหละ พอเด็กติดเกมทำตัวมีปัญหาขึ้นมาจะโทษเด็กหรือโทษเกม ? ก่อนตอบขอถามว่าอยากให้เด็กเล่นเกมน้อยลงอยู่กับโลกความเป็นจริงมากขึ้น มีวินัยรู้จักแบ่งเวลาอย่างเหมาะสมเนี่ย พ่อแม่ได้สอนได้ควบคุมดูแลลูกสักแค่ไหนล่ะ ? รู้จักนิสัยใจคอของลูกมีเวลาให้ลูกหรือเปล่าล่ะ ? รำไม่ดีอย่าโทษปี่โทษกลองครับ ลูกเด็กเล็กแดงมีปัญหาน่ะหลัก ๆ เพราะพ่อแม่ไม่ดูแลใกล้ชิด ไม่รู้จักอบรมสั่งสอนให้ดีต่างหากเล่า
ที่เด็กติดเกมมันมีหลายสาเหตุนะคะ ไม่ใช่แค่เพราะว่าเกมน่าเล่นอย่างเดียว
มีอยู่ช่วงนึงที่เราเครียดมากจนเจอเกมที่ถูกใจก็ติดหนึบเลย ต้องเล่นอย่างน้อยวันละ2-3ชม. ไม่งั้นจะรู้สึกแย่เอามากๆ พออาการเครียดดีขึ้นนิดหน่อยบวกกับโทรศัพท์พัง(เพราะเล่นเกมจนหัวร้อน)(แฮ่ๆ รู้สึกผิดมากๆ)ก็เริ่มตระหนักได้ว่า 'เกมมันช่วยให้เราหายเครียดก็จริง แต่อะไรที่มันมากไปก็ไม่ดีเหมือนกัน' และเพราะคิดได้ว่า -แทนที่เราจะเครียดเรื่องอื่นเรากลับหันมาเครียดเรื่องเกมแทน- งั้นหรือนี่ื ตอนนี้ก็เลยเพลาๆลงแล้วก็ต่อไปนี้ก็จะเล่นอย่างมีสติมากขึ้นค่ะ
เด็กมันติดเกมจนมีปัญหาก้าวร้าว
กำลังเลิกติดจริงๆนะ555