ได้แล้ว! เหรียญทองแรกของไทยในโอลิมปิก

 

 

     ได้เฮกันแล้วกับเหรียญทองแรกของทีมนักกีฬาไทยจากการแข่งขันกีฬายกน้ำหนักในมหกรรมโอลิมปิก 2008 ที่กรุงปักกิ่ง ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำวันอาทิตย์ที่ 10 สิงหาคม 2551 มีการชิงชัยกัน 2 เหรียญทอง จากรุ่นน้ำหนัก 53 กิโลกรัมหญิง และรุ่นน้ำหนัก 56 กิโลกรัมชาย

       
     โดยในรุ่น 53 กิโลกรัมหญิงนั้น ทีมชาติไทยส่ง “น้องเก๋” ประภาวดี เจริญรัตนธารากูล ความหวังเหรียญทองที่ชวดโอกาสไปลุยเอเธนส์เกมส์ เมื่อ 4 ปีก่อนแบบฉิวเฉียดลงแข่งขันด้วย

       
     เริ่มการแข่งขันด้วยท่าสแนทช์ ซึ่ง ประภาวดี เรียกน้ำหนักในครั้งแรกที่ 92 กิโลกรัม และก็ผ่านไปได้แบบสบายๆ ขณะที่ตัวเต็งในรุ่นนี้อย่าง ยูน จินฮี จากเกาหลีใต้ เรียกน้ำหนักครั้งแรกที่ 94 กิโลกรัม ซึ่งก็ผ่านไปแบบไร้ปัญหาเช่นกัน ด้าน นาสตาสเซีย โนวิกาวา ตัวเต็งอีกรายจาก เบลารุส เรียกน้ำหนักครั้งแรกที่ 92 กิโลกรัม และก็ทำสำเร็จ

       
     สำหรับการยกในครั้งที่ 2 สาวไทยเรียกน้ำหนักที่ 95 กิโลกรัม ก่อนออกมายกผ่านไปได้ แต่ ยูน จินฮี คู่แข่งกลับเรียกน้ำหนักครั้งที่ 2 ไปที่ 97 กิโลกรัม ทว่า ยกไม่ผ่าน ส่วน โนวิกาวา เรียกน้ำหนักที่ 95 กิโลกรัม และก็ผ่านมาได้เช่นกัน

       
     ขณะที่การยกครั้งที่ 3 ของ ประภาวดี เรียกน้ำหนักที่ 97 กิโลกรัม แต่กลับยกไม่ผ่าน ส่วน จินฮี นั้นยกครั้งที่ 3 ที่น้ำหนัก 97 กิโลกรัม แต่ก็ยังไม่ผ่านอีกครั้ง ทำให้สาวแดนโสมยกในท่านี้ได้สถิติ 94 กิโลกรัม ด้าน โนวิกาวา ที่เรียกน้ำหนัก 97 กิโลกรัม ก็ยกไม่ผ่านเช่นกัน ทำให้ท่าสแนทช์ “น้องเก๋” ทำได้ 95 กิโลกรัม เท่ากับจอมพลังสาวจากเบลารุส ทว่า น้ำหนักตัวของสาวไทยน้อยกว่า จึงได้เป็นผู้นำในการยกน้ำหนักท่าสแนทช์

       
     กลับมายกกันต่อในท่าคลีนแอนด์เจิร์ก โนวิกาวา เรียกเหล็กที่ 116 กิโลกรัม ทว่ายกไม่ผ่านในครั้งแรก โดยการตัดสินจากผู้ตัดสิน 2 ใน 3 แต่ก็มายกได้ในครั้งที่ 2 ขณะที่ ยูน จินฮี เรียกน้ำหนักครั้งแรกในท่านี้ที่ 116 กิโลกรัมเท่ากัน แต่ยกผ่านไปได้ ส่วนครั้งที่ 2 จินฮี เรียก 118 กิโลกรัม และก็ยกผ่านได้อีก มาถึงการยกในครั้งสุดท้ายสาวแดนโสมเรียกน้ำหนักที่ 119 กิโลกรัม และก็สามารถยกผ่านได้

 

       
     ขณะที่ “น้องเก๋” ออกมายกครั้งแรกที่ 120 กิโลกรัม และก็ผ่านได้แบบไม่น่าเป็นห่วงเลย พร้อมกับคว้าเหรียญทองมาครองได้เมื่อมีน้ำหนักรวมที่ยกได้เหนือกว่าคู่แข่งทุกคน อย่างไรก็ตาม จอมพลังสาวไทยเหลือการยกน้ำหนักอีก 2 ครั้ง โดยครั้งที่ 2 ยกได้ 126 กิโลกรัม พร้อมกับทำลายสถิติโอลิมปิกท่าคลีนแอนด์เจิร์กที่ 121 กิโลกรัมไปแล้ว ส่วนครั้งที่ 3 ยกที่ 130 กิโลกรัม แต่ก็ไม่สำเร็จ

       
     ส่งผลให้ ประภาวดี คว้าเหรียญทองไปครองด้วยน้ำหนักรวม 221 กิโลกรัม (สแนทช์ 95 กิโลกรัม, คลีนแอนด์เจิร์ก 126 กิโลกรัม) ส่วนเหรียญเงินตกเป็นของ ยูน จินฮี จากเกาหลีใต้ ทำน้ำหนักรวม 213 กิโลกรัม (สแนทช์ 94 กิโลกรัม, คลีนแอนด์เจิร์ก 119 กิโลกรัม) ขณะที่เหรียญทองแดงเป็นของ นาสตาสเซีย โนวิกาวา จาก เบลารุส ที่ทำน้ำหนักรวมได้ 213 กิโลกรัม เท่ากับสาวเกาหลี แต่ได้อันดับ 3 เพราะน้ำหนักตัวมากกว่า (สแนทช์ 95 กิโลกรัม, คลีนแอนด์เจิร์ก 118 กิโลกรัม)

 

     เย้ เย้ เย้!!! ขอแสดงความยินดีกับเหรียญทองเหรียญแรกของทีมนักกีฬ่าไทยด้วยนะคะ สุดยอดจริง ๆ เลยค่ะ ... มีเหรียญแรกมาเรียกกำลังใจแล้ว ยังไงพวกเราชาวเด็กดีดอทคอมทุกคนก็อย่าลืมส่งแรงใจไปเชียร์ขุนพลนักกีฬาไทยที่โอลิมปิกปักกิ่งด้วยนะคะ

 

 

พี่เหมี่ยวขอขอบคุณ : ข่าวและภาพประกอบจากผู้จัดการออนไลน์ค่ะ

พี่เหมี่ยว
พี่เหมี่ยว - Columnist คอลัมนิสต์ประจำคอลัมน์ผู้หญิง

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

67 ความคิดเห็น

กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
ต้องสู้ถึงจะฃนะ 10 ส.ค. 51 19:35 น. 15
ไทยแลนด์สู้ๆ ประเทศไทยนำชัย รักไทยๆๆๆๆ

คนไทย ชาติไทย ไม่แพ้ชาติใดในโลกแน่นอนค่ะ

สู้ๆ
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด