สวัสดีครับ.. เรื่องลี้ลับในสถาบันมาแล้วครับ มาพร้อมกับฝนซะด้วย ได้บรรยากาศน่ากลัวไปอีกแบบ บรื้อๆๆ ครั้งก่อน พี่ลาเต้ ได้สัญญาไว้ว่าเรื่องลี้ลับฯ สัปดาห์นี้จะเป็นภาคต่อของเรื่อง “เสด็จพ่อ” ที่จะพูดถึงพระราชานุสาวรีย์รัชกาลที่ 6 ที่นักเรียนกว่าครึ่งโรงเรียนบอกมาเป็นเสียงเดียวกันว่า “ท่ายืนของพระองค์ท่าน บางวันได้เปลี่ยนไป” แต่ด้วยความขัดข้องบางประการ พี่ลาเต้ ขอเลื่อนออกไปก่อนนะครับ

 

           ส่วนเรื่องที่จะมาแทนวันนี้ รับรองเตรียมพระมาห้อยคอได้เลย เพราะครั้งแรกที่ได้อ่านแล้วนึกภาพตามยังติดตาไม่หาย !! โดยเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงในโรงเรียนชื่อดังในจังหวัดชลบุรี โดยผู้ที่จะมาเล่าคือ น้องนภสร แฟนคลับเรื่องลี้ลับในสถาบันที่ส่งเรื่องเข้ามาครับ จะน่ากลัวขนาดไหน ไปอ่านกันเลยครับ กุ๊ก กุ๊ก กู๋

 

           สวัสดีค่ะ พี่ลาเต้ และเพื่อนๆ ชาวคอลัมน์เรื่องลี้ลับในสถาบันทุกคน วันนี้เราก็มีเรื่องลึกลับในโรงเรียนเรามาเล่าให้ฟัง โรงเรียนของเราเป็นโรงเรียนหญิงล้วนในจังหวัดชลบุรี คิดว่าหลายๆ คนคงรู้จัก โดยเรื่องที่เราจะเล่าก็เป็นเรื่องที่มีน้องมาเล่าให้ฟังบ้าง อาจารย์เล่าให้ฟังบ้าง ก็ต้องพิสูจน์กันต่อไป..

 

 

           เรื่องมีอยู่ว่า มีอยู่ช่วงหนึ่งที่นักเรียนวงโยธวาทิตของเรา ต้องมาเข้าค่ายเพื่อไปแข่งระดับโลกที่ประเทศอิตาลี ต้องอยู่ซ้อมกันจนดึก เมื่อซ้อมเสร็จก็แยกย้ายกันไปอาบน้ำ ส่วนใหญ่แล้วจะใช้ห้องน้ำที่โรงยิมเพราะอยู่ใกล้สนามซ้อม

 

           ขณะนั้นมีรุ่นน้องผู้หญิงคนหนึ่งที่อาบน้ำเสร็จก่อน ก็ออกมานอนอ่านหนังสือที่พื้นของโรงยิม ซึ่งตอนนั้นไม่มีใครอยู่ ในขณะที่นอนอ่านหนังสืออยู่นั้น ก็รู้สึกเคลิ้มๆ จึงเอาหนังสือปิดหน้ากะว่าจะหลับซักงีบ แต่นอนไปได้สักพักก็เหมือนว่าอากาศเย็นขึ้นอย่างผิดปกติ

 

          ด้วยอะไรดลใจไม่ทราบ เธอจึงเอาหนังสือที่ปิดหน้าออก และในตอนนั้นเองที่สายตาของเธอมองขึ้นไปบนเพดานโรงยิม แล้วก็ต้องตกใจแทบสิ้นสติ เมื่อเธอเห็นผู้หญิงผมยาวมากๆ กำลังนั่งห้อยขาอยู่บนคานเหล็ก และกำลังจ้องลงมาที่เธอ !!

 

          เท่านั้นแหละ !! รุ่นน้องนั้นก็รีบลุกขึ้น และวิ่งเข้าห้องไปโดยไม่หันกลับมามองอีกเลย แต่ที่น่าแปลกคือ โรงยิมหลังนี้เป็นอาคารที่เพิ่งสร้างเสร็จใหม่ๆ ไม่น่าจะมีอะไร แต่กลับมีเรื่องลึกลับเกิดขึ้นมากมาย โดยเฉพาะเรื่องราวของผู้หญิงผมยาวที่มักจะนั่งบนคานให้ทุกคนได้เห็นอยู่บ่อยๆ !!!

 

          ลาเต้ลิขิต : โรงเรียนไหนมีเรื่องผี ส่งมาหา พี่ลาเต้ ได้เลยทาง latae@dek-d.com ครับ

 

 

พี่ลาเต้ ขอขอบคุณรูปภาพประกอบจากภาพยนตร์เด็กหอ

พี่ลาเต้
พี่ลาเต้ - Columnist นักข่าวสายการศึกษา เกาะติดทุกข่าวแทนน้องๆ ตัวถีบ ตัวดันให้ ม.6 สอบติด

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

Love Actually Member 8 ส.ค. 53 05:03 น. 52

ตอบค่ะตอบ เห็นทุกคนเรียกร้องเรื่องผีที่หอพักเหลือเกิน

อันเนื่องมาจาก คห.31 นะคะ ที่ได้เล่าไปแล้วว่า ได้นอนอยู่กับผีหลายตัวเป็นเวลาถึงสี่ปีเต็ม ๆ

แล้วก็เหมือนที่ คห. 51 บอกนั่นแหละค่ะ ว่าเขาเป็นเพียงวิญญาณที่คอยมาปกป้องดูแลเท่านั้น ไม่ได้คิดร้ายอะไรด้วยเลยสักนิด

เรื่องก็คือ หลังจากจบม.6 จาก Jingle Bell Convent แล้ว จี้ก็ไปต่อที่ม.นานาชาติที่มวกเหล็ก (ไปหากันเอาเองนะคะ)

ซึ่งที่มวกเหล็กเนี่ย เขาเล่ากันว่า ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 นั้น มวกเหล็กเป็นจุดที่โดนบอมบ์ และมีคนตายเยอะมาก

และเขาว่ากันว่า มหาลัยของจี้เนี่ย ได้ไปสร้างทับจุดที่โดนบอมบ์พอดิบพอดี

และจุดที่มีคนตายเยอะที่สุดนั้น คือจุดที่ได้สร้างเป็นหอพักของนักศึกษาค่ะ

อันนี้ก็ไม่ทราบได้นะคะ ว่าทางผู้ใหญ่เขารู้หรือเปล่า ว่าเขาได้สร้างหอพักทับสุสานขนาดใหญ่เลยทีเดียว

เหตุการณ์แรก เกิดขึ้นตอนสมัยจี้เป็น freshman ช่วงเรียน inter-semester (summer) ค่ะ

ตอนแรกจี้ได้ห้องที่ชั้นสอง ได้อยู่กับเพื่อนปีเดียวกัน คณะเดียวกัน

แรก ๆ ที่ไปอยู่ จี้ก็ยังไม่ได้เจออะไร แต่สักสามสี่อาทิตย์ให้หลัง จี้รู้สึกบางสิ่งที่มันแปลก ๆ

ตอนกลางดึกทุกคืน จี้มีความรู้สึกว่า มีคนมาเดินวนรอบเตียงที่จี้นอนอยู่ เดินไป ก็มองจี้ไปด้วย

มองจนถึงขนาดที่ว่า จี้หลับ ๆ อยู่ยังต้องสะดุ้งตื่นขึ้นมา เพราะทนต่อสายตาที่เขามองไม่ไหว

สัมผัสแรกที่จี้ลืมตาขึ้นมามองไปรอบ ๆ ห้องนั้น จี้รู้ได้ทันทีเลยว่า คน ๆ นั้น เป็นผู้ชาย

แต่จี้ก็ไม่สนใจ และหลับตานอนต่อ เพราะมีเรียนเช้า ทันทีที่หลับตาลง

จี้รู้สึกได้ทันทีเลยว่า เขาเปลี่ยนจากเดินมานั่งที่เก้าอี้ข้างเตียงบริเวณหัวนอนจี้พอดี และเก้าอี้ตัวนั้น จี้ได้วางมือถือที่ตั้งปลุกเอาไว้

เพราะฉะนั้น เขาก็ต้องนั่งทับมือถือจี้ใช่มั้ยคะ ในความคิดตอนนั้น ยอมรับว่าเคืองเขาอยู่เหมือนกัน

และค่อนขอดในใจว่า จะนั่งน่ะ หาที่ที่มันดี ๆ หน่อยไม่ได้หรือไง ทำไมต้องมานั่งทับข้างของของคนอื่นด้วย (วะ)

บ่ายวันต่อมา จี้ได้โทร.ไปหาม๊า เพราะ weekend นั้น ป๊าม๊าจะมาหาที่มหาลัย จี้ก็เลยบอกให้ม๊าเอาหนังสือสวดมนตร์มาให้ด้วย

จากนั้น จี้ก็สวดมนตร์ก่อนนอนตลอด สวดทุกอย่างเลย ชินบัญชร อิติปิโส พาหุง แผ่เมตตา ฯลฯ สารพัดจะสวด

แล้วเขาก็ไม่ได้มาเดินรอบเตียงอีก แต่จี้ก็รู้สึกได้ว่า เขายังอยู่ในห้องนั้นกับจี้และเพื่อนมาตลอด

roommate จี้ก็สงสัย ว่าจี้สวดมนตร์ทำไม เพราะที่นี่เป็นสถาบันของคริสต์ เขาไม่ให้สวด

จี้ก็เลยเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับจี้ให้เขาฟัง เขาก็เชื่อครึ่ง ไม่เชื่อครึ่ง ตอนหลังเขามาเจอกับตัว เขาก็เลยเชื่อจี้

มีอยู่คืนหนึ่ง roommate จี้ได้ยินเสียงคนคุยกันจุ๊กจิ๊ก ๆ ที่ข้างหูทั้งคืน เขาก็ได้แต่บ่นในใจว่า คนจะนอน มาคุยอะไรกันอยู่ได้

แต่เสียงคุยนั้น ก็เหมือนจะดังขึ้นอีก แต่ roommate จี้ก็ไม่ได้สนใจ และข่มตาข่มใจหลับต่อจนเช้า

เหตุการณ์ที่สอง เกิดตอนเป็น freshman เหมือนกัน แต่ตอนนี้จี้ได้ย้ายมาอยู่ชั้นสามกับ senior คนหนึ่ง

weekend นั้น จี้อยู่ห้องคนเดียว roommate และ suite mate กลับบ้านกันทั้งหมด

(หอพักของจี้เป็นแบบ ห้องติดกัน ใช้ห้องน้ำร่วมกันค่ะ ซึ่งห้องเพื่อนบ้านนั้น จะเรียกว่า suite mate)

คืนนั้น ดึก ๆ หน่อย จี้นั่งอ่านหนังสืออยู่บนเตียง อยู่ดี ๆ ก็มีความรู้สึกว่า มีคนกำลังมองจี้อยู่

แล้วตอนนั้นก็ไม่รู้อะไรดลใจให้จี้เงยหน้ามองไปทางประตูห้องน้ำที่เปิดทิ้งเอาไว้

แล้วจี้ก็ได้เห็นคุณยายคนหนึ่ง ผมขาว ใส่เสื้อขาว ชะโงกหน้าออกมามองจี้จากในห้องน้ำ จากนั้นท่านก็ไป

ตอนนั้น จี้ตกใจนิดหน่อย เพราะไม่คิดว่าจะมาเจอ แต่ก็ได้บอกท่านไปว่า ต่างคนต่างอยู่นะ ถ้าทำอะไรให้ไม่พอใจ มาบอกกันได้ จะได้แก้ไข

หลังจากคืนนั้น จี้ก็ไม่ได้เจออีกเลย จับความรู้สึกได้เพียงแต่ ห้องนี้ไม่ได้กันอยู่แค่สองคน ยังมีคนที่มองไม่เห็นอีก

พอขึ้นปีสอง เทอมหนึ่ง จี้ต้องย้ายห้องอีกแล้ว เพราะไม่มี roommate ก็เลยต้องย้ายมาอยู่กับพี่อีกคนหนึ่ง ชั้นเดียวกัน

แต่ก็ได้บอกกับอาจารย์ประจำหอว่า เก็บห้องเดิมเอาไว้ให้จี้ด้วย เพราะเทอมสองจี้จะย้ายกลับ

ตอนนั้น จี้ไม่รู้ว่า อะไรดลใจให้จี้พูดแบบนั้น แต่ความรู้สึกมันฟ้องว่า มันต้องมีเรื่องแน่ ๆ แล้วมันก็มีจริง ๆ

หลังจากที่จี้ย้ายมาอยู่กับพี่อีกคนได้ไม่นาน ก็ได้มีเพื่อนหญิงต่างชาติคนหนึ่ง เป็นเพื่อนกับ roommate จี้ เขามาขอนอนที่หอทุกคืนวันอังคาร

เพราะเขาต้องอยู่ที่บ้านคนเดียว เนื่องจากสามีที่เป็นอาจารย์ไปรับจ๊อบสอนที่ม.ในกรุงเทพฯด้วย (ไม่แน่ใจว่า ABAC หรือเปล่า)

(ที่มหาลัยจี้มีบ้านพักสำหรับนักศึกษาที่แต่งงานด้วย ถ้าแต่งแล้วท้อง คุณมาเรียนได้ แต่ถ้าท้องก่อนแต่ง เชิญดรอปแล้วค่อยกลับมาเรียน)

แล้วเผอิญว่า เขาก็ได้มานอนที่ห้องเดิมของจี้ เนื่องจากว่า มันเป็นห้องเดียวที่ว่างอยู่

คืนหนึ่งตอนตีสาม จี้ยังไม่หลับ นั่งทำการบ้านอยู่ แล้วอยู่ดี ๆ เสียงเคาะประตูห้องก็ดังขึ้น จี้ตกใจแต่ไม่กล้าเปิด เพราะคิดว่าอาจไม่ใช่คน

เสียงเคาะเงียบไป แล้วก็ดังอีกครั้ง ก็เลยตัดสินใจเปิด เพราะความรู้สึกตอนนั้น มันบอกว่า เป็นคนไม่ใช่อย่างอื่น

พอจี้เปิดประตู ผู้หญิงคนนั้นก็วิ่งเข้ามาในห้องแล้วก็ไปปลุก roommate จี้ที่หลับอยู่ แล้วก็ละล่ำละลักพูดอะไรออกมาไม่รู้

จับใจความได้คร่าว ๆ ว่า คุณเธอฝันร้าย มาขอนอนด้วย ตอนนั้นจี้คิดในใจว่า เอาแล้วไง ตูว่าแล้ว มันเกิดเรื่องจริง ๆ ด้วย

หลังจากคืนนั้น คุณเธอก็ไม่เคยขอมานอนที่หออีกเลย เพราะกลัวมากจริง ๆ

ปลาย ๆ เทอมหนึ่งก่อนสอบ final สองอาทิตย์ จี้ก็ได้ย้ายกลับไปอยู่ห้องเดิม แต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น

แต่จี้ก็ได้พูดลอย ๆ ไปว่า ไปทำกับเขาแบบนั้นทำไม ไม่ดีรู้มั้ย แทนที่จะได้ไปเกิดเร็วขึ้นก็กลับช้าลงไปอีก

พอขึ้นเทอมสอง จี้ขออยู่คนเดียวเลยทีนี้ ปฏิเสธทุกคนที่ขอมาเป็น roommate เพราะจี้ไม่อยากให้คนอื่นมาเจอแบบคุณเธอคนนั้นอีก

ซึ่งเทอมสองนี้ก็ไม่มีอะไรมาก นอกจากตอนกลางคืน เวลาที่จี้นั่งทำการบ้านอยู่ จี้จะรู้สึกว่ามีคนมานั่งอยู่ข้างหลัง เป็นผู้หญิงสาว ๆ หน่อย

จี้ก็แบบว่า อยากนั่งก็นั่งไป อยากทำอะไรก็ทำไป แต่ตูไม่สนใจอ่ะ มีอะไรมั้ย

หลังจากนั้นก็เลยมาในรูปแบบใหม่ คราวนี้ไม่นั่งแล้ว เปลี่ยนเป็นนอนแทน แล้วก็ชอบพลิกตัวไปมาให้เตียงมันดังเอี๊ยดอ๊าดแล่น

จี้ก็แบบ เชิญค่ะ คุณอยากทำอะไรก็ทำไป แต่พอถึงเวลาที่ฉันจะนอน กรุณาลุกด้วย แต่ถ้าจะนอนด้วยกัน ก็เขยิบไปอีกเตียงหนึ่งนะคะ

มีอยู่คืนหนึ่ง เพื่อนจี้มาขอนอนด้วย เพราะเขาขอยืม laptop ของจี้ดูหนัง AV

พอลูกพี่ลูกน้องจี้รู้ ก็มานอนด้วย เพราะอยากดู (อยู่คนละห้อง แต่ชั้นเดียวกัน)

คืนนั้น จี้กับลูกพี่ลูกน้องนอนกันสบายมาก ไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่เพื่อนจี้กลับนอนไม่เป็นสุข เขารู้สึกว่ามีคนมาจ้องมองเขาทั้งคืน

จี้ก็เล่าให้เขาฟังนะ ว่าห้องจี้มีอะไร แต่เพื่อนจี้ก็ไม่ได้กลัว เขาเป็นคริสต์ เขาเชื่อว่าพระเจ้าจะคุ้มครองเขา

ขึ้นปีสามช่วง inter-semester อาจารย์หอพักมาบอกเลยว่า จี้ต้องมี roommate แล้วนะ เพราะปีนี้เขารับเด็กมากกว่าทุกปี ห้องไม่พอ

เพราะปีสี่ก็ยังไม่ออก แต่ก็มีเด็กใหม่จากโรงเรียนในเครือที่เชียงใหม่ทยอยเข้ามาแล้ว จี้ก็เลยต้องรับไว้อย่างเลี่ยงไม่ได้

จี้ได้ roommate เป็นเด็กปีหนึ่งสองคน ซึ่งเป็นอะไรที่จี้ไม่ค่อยพอใจมากกกกกกกกกกกกกกกกกก

เนื่องจาก เวลาที่น้องเขาทำอะไรไม่ดี เขาที่มองไม่เห็นแต่รู้ว่ามีก็จะมาหาจี้ตลอด

จี้ก็เซ็งสิ นาน ๆ เจอทีไม่ว่า แต่มาบ่อย ๆ ตูไม่ชอบ (ไม่ว่าจะจับความรู้สึกได้ว่า เขามาแล้วนะ หรือมาให้เห็นเป็นตัวเป็นตน ก็ไม่ชอบทั้งนั้น)

จี้ก็เลยทำทุกอย่างแบบเนียน ๆ เพื่อไล่น้องเขาไปอยู่ห้องอื่น และจี้ก็บอกคน ๆ นั้นด้วยว่า ถ้าไม่อยากให้มีปัญหา ก็ต้องช่วยกัน

อ้อ ลืมบอกไปค่ะ ว่าตอนนี้ จำนวนสมาชิกผีในห้องได้เพิ่มขึ้นมาอีกแล้ว เหมือนจะเพิ่มขึ้นปีละคนด้วย ตอนปีสามนี่มีสามคนแล้วค่ะ

แล้วคืนหนึ่ง มีเหตุการณ์หนึ่งเกิดขึ้นกับจี้ เหตุการณ์นี้แทบทำให้จี้หัวใจวายตายกันเลยทีเดียว

คืนนั้นจี้ต้องอยู่ดึก เพื่อเตรียมงานรับน้อง ในระหว่างที่ทำอุปกรณ์และรอให้กาวแห้งอยู่นั้น จี้ก็เลยถือโอกาสเลื้อยขึ้นไปบนเตียงเพื่อขอสักงีบ

สภาพห้องตอนนั้น ในบริเวณรอบ ๆ เตียงของจี้ รกรุงรังสุด ๆ แต่จี้ไม่สนใจ ตูง่วง ตูจะนอน ตื่นเมื่อไหร่ค่อยเก็บแล้วกัน

จี้หลับไปได้ราว ๆ ครึ่งชั่วโมงหรืออาจจะมากกว่านั้น แต่สักพักก็ต้องตื่น เพราะรู้สึกว่ามีคนมายืนจ้องมองอยู่ปลายเตียง

คราวนี้เป็นผู้ชายค่ะ อายุน่าจะราว ๆ ยี่สิบปลาย ๆ จนถึงสามสิบห้า ตอนที่จี้ปรือตาขึ้นมาเห็นเขา จี้ก็นึกในใจว่า มาใหม่อีกแล้วเหรอ

แล้วจี้ก็ไม่สนใจ นอนต่อ ทีนี้พี่แกเล่นแรงเลยค่ะ จากยืนอยู่ปลายเตียงดี ๆ คราวนี้พุ่งมานอนลอยขนานกับจี้เลย หน้าอยู่ห่างกันหนึ่งฝ่ามือได้

จี้ตกใจสุด ๆ หัวใจเกือบวาย แล้วก็ตาลีตาเหลือกลุกขึ้นมาเก็บของให้เรียบร้อย ในระหว่างที่เก็บของนั้น ปากก็ด่าเขาไปด้วย

จี้ด่าเขาประมาณว่า เล่นแบบนี้ได้ไง (วะ) ถ้าหัวใจวายตายขึ้นมา ใครจะรับผิดชอบ แล้วคราวนี้ล่ะ ไม่มีคนทำบุญไปให้แล้วจะรู้สึก

ถ้าไม่ชอบที่ทิ้งของเกะกะ ก็มาบอกกันดี ๆ ก็ได้ ไม่เห็นจะต้องทำแบบนี้เลย ให้ตายสิ (วะ) จี้ก็ด่าไป เก็บของไปจนเสร็จ แล้วก็ไปนอน

หลังจากที่จี้ทำการไล่น้องเขาไปได้ จี้ก็อยู่คนเดียวมาตลอด และก็เป็นอะไรที่เจอตลอดด้วยเหมือนกัน

เขาจะมานั่งข้างหลังเวลานั่งทำการบ้านล่ะ นอนพลิกตัวให้เตียงลั่นบ้างล่ะ เป็นแบบนี้ตลอด และเจอแทบทุกคืน

แล้วที่เด็ดอีกอย่างก็คือ โผล่มาจะ ๆ ตรงหน้าอีกแล้ว คราวนี้เป็นผู้หญิงค่ะ (คนนี้เป็นคนที่สี่แล้วค่ะ)

คืนนั้น จี้นั่งทำการบ้าน เล่นเกม อ่านนิยายในเด็กดีตามปกติ แต่ที่ไม่ปกติก็คือ ระเบียงหลังห้องค่ะ

เพราะจี้ได้ปล่อยให้มันสกปรกมาหลายวันแล้ว มีทั้งใบไม้แห้งที่ลมพัดมา ขี้นก ขนนก ปีกแมงเม่า สารพัดสารเพ

แต่จี้ก็ยังไม่ได้เก็บล้างทำความสะอาด เพราะตั้งใจไว้ว่า ถ้าซักผ้าเมื่อไหร่แล้วจะทำ

แล้วทีนี้มันคงไปกระตุกต่อมความรักสะอาดของคุณผีเข้ามั้งคะ คุณเธอก็เลยมาให้เห็น เพื่อมาบอกว่า ทำความสะอาดซะทีสิ ทำนองนั้น

จี้นั่งเล่นเกม อ่านนิยายไปเรื่อย ไม่ได้สนใจอะไร คนข้างหลัง (ผี) เขาก็นอนเล่นพลิกตัวไปเรื่อย แต่สักพักก็รู้สึกว่า มีสมาชิกเพิ่มขึ้นค่ะ

จี้ก็เลยเงยหน้าขึ้นจากจอ laptop แล้วก็ต้องสะดุ้งโหยง เพราะเงยหน้าขึ้นมาแล้วสบตากับสมาชิกใหม่ทันที เธอยืนอยู่ที่ระเบียงห้อง

จี้ก็เลยพูดลอย ๆ ไปว่า เออ ๆ รู้แล้ว ว่ามาเพราะอะไร พรุ่งนี้จะเก็บให้นะ พูดจบ เขาก็หายไปค่ะ

วันต่อมาจี้ก็ทำความสะอาดระเบียงห้องตามสัญญา พอเสร็จแล้วก็บอกเขาว่า สะอาดแล้ว ถูกใจหรือยังล่ะ

หลังจากวันนั้นมา พอจี้เห็นว่าระเบียงหลังห้องเริ่มสกปรก จี้ก็จะทำความสะอาดทันที ไม่ต้องรอให้เขามาบอกอีก ขี้เกียจเจอแล้วค่ะ


(ขอแบ่งครึ่งนะคะ ตัวหนังสือเยอะเกิน โพสไม่ได้)

0
กำลังโหลด
Love Actually Member 8 ส.ค. 53 05:07 น. 53

(ต่อค่ะ)

พอขึ้นปีสี่ ช่วง inter-semester นั้น จี้ไม่ได้ลงเรียน เพราะไม่มีวิชาเหลือให้ลงแล้ว ก็เลยต้องกลับมานอนเล่นอยู่บ้านสามเดือน

อาจารย์หอพักก็เลยขอให้เด็กปีหนึ่งสองคนเข้าไปพักชั่วคราว เนื่องจากกำลังสร้างหอพักใหม่ เด็กมันเยอะ ห้องไม่พอ

แต่ก่อนที่จะกลับบ้านนั้น จี้ก็ได้บอกคนที่ห้องแล้ว ว่าถ้าน้องเขาทำอะไรไม่ดี ก็อย่าไปทำอะไรเขาล่ะ เขาพักแค่ชั่วคราวเท่านั้น

พอขึ้นเทอมหนึ่ง จี้ก็กลับมาเรียนตามปกติ ห้องก็สะอาด แม้จะน้อยกว่าก่อนจี้กลับบ้านมากก็ตาม แต่ระเบียงหลังห้อง สกปรกค่ะ

แต่ตอนนั้นจี้ทำอะไรไม่ได้ไงคะ เพราะข้าวของของน้องเขายังกองอยู่เต็มห้อง เขายังไม่ได้ย้ายของไปห้องใหม่

จี้ก็ปล่อยเลยตามเลย เอาไว้น้องกลับมาและย้ายของเสร็จเมื่อไหร่ จี้ก็จะได้ทำความสะอาดห้องขนานใหญ่

แค่คืนแรกที่จี้กลับมาหอ ก็เจออีกแล้วค่ะ มาในแบบเดิมเป๊ะกับตอนปีสามเลย เล่นคอมอยู่ พอเงยหน้าขึ้นไปก็สบตาปิ๊ง ๆ ๆ พอดี

ครั้งนี้คนใหม่ คนที่ห้าแล้วค่ะ ผู้หญิงเหมือนเดิม จี้ก็ได้บอกไปว่า รู้แล้วว่ามาเพราะอะไร แต่ก็อย่างที่เห็น จี้ทำอะไรไม่ได้ รอหน่อยแล้วกัน

แต่คราวนี้มันไม่ง่ายน่ะสิคะ เพราะพูดแล้ว อะไรแล้วเขาก็ยังไม่ไป ยังยืนกดดันอยู่ที่ระเบียงห้องเหมือนเดิม จี้ก็ อะไรวะ ไม่เข้าใจกันบ้างเลย

ก็เลยยื่นคำขาดให้เขาไปว่า โอเค พรุ่งนี้จะทำให้ พอใจหรือยัง เท่านี้ล่ะค่ะ แม่นางถึงได้จรลีไปได้

หลังจากที่จี้ลงทะเบียนเสร็จเรียบร้อย จี้ก็กลับมาทำให้เขาค่ะ จะได้สิ้นเรื่องสิ้นราวกันไป

ปีสี่เทอมหนึ่งนี้ จี้ก็ต้องมี roommate อีกแล้ว ทั้ง ๆ ที่ไม่เต็มใจเลยสักนิด เนื่องจาก suite mate นั้น เป็นเพื่อนกับน้อง roommate ค่ะ

น้องเขาก็เลยขอมาอยู่ด้วย เพราะอยากอยู่ใกล้ ๆ เพื่อน จี้ก็ได้แต่ เอาวะ นึกว่าเห็นแก่เด็กตาดำ ๆ ก็เลยให้น้องเขาอยู่

น้องเขาอยู่ได้ไม่นาน ก็ย้ายไปห้องข้าง ๆ ค่ะ เพราะอีกคนย้ายออก เนื่องจากทะเลาะกัน

แต่ดีหน่อยที่สมาชิกที่มองไม่เห็นไม่ค่อยมาหาในช่วงที่ roommate จี้ยังอยู่ แต่พอน้องเขาไปแล้ว ยังกับงานรวมญาติเลยค่ะ

กี่คนต่อคน มาให้ครบหมด ยกเว้นคุณยายที่เจอตอนปีหนึ่งค่ะ ไม่รู้ไปไหนแล้ว อาจจะไปเกิดแล้วก็ได้

ช่วงนี้ก็เหมือนเดิมค่ะ มากันแบบเดิม จี้ก็ปล่อย ๆ ให้เขาสนุกกันให้เต็มที่

พอขึ้นเทอมสอง ช่วงปิดวันสงกรานต์ จี้ไม่ได้กลับบ้านที่กรุงเทพฯ ค่ะ เพราะอะไร รู้กันดีนะคะ

(มหาลัยจี้ใช้ระบบเปิดปิดเหมือนของต่างประเทศค่ะ เพิ่งมาเปลี่ยนเป็นระบบเปิดปิดแบบของไทยปีนี้นี่เอง)

จี้ก็เลยต้องอยู่โยงเฝ้าหอ และต้องทำโปรเจคจบด้วย ก็เลยถือช่วงนี้แหละ คนไม่อยู่ เนตแรง ใช้ให้เป็นประโยชน์ในการทำงาน

เย็นวันอาทิตย์ 11 เมษา เพื่อนชวนไปกินหมูกระทะ ซึ่งเป็นการเลี้ยงวันเกิดให้จี้กับเพื่อนอีกคนหนึ่งซึ่งเกิดใกล้ ๆ กันด้วย

จี้ออกจากห้องไปแล้ว แต่ก็ต้องกลับขึ้นมาใหม่เพื่อมาเก็บของ เพราะเพื่อนคนที่ชวนนั้น เขาให้ไปนอนค้างที่บ้านเขาด้วย

ตอนที่ขึ้นมาและเปิดไฟห้อง สะดุ้งสุดตัวเลยค่ะ ที่ระเบียงมีผู้หญิงคนหนึ่งนั่งหันข้างให้อยู่ (มาใหม่อีกแล้วค่ะ คนที่หกแล้ว)

เธอนั่งกอดเข่า และซบหน้าลงกับหัวเข่า ท่านั่งของเธอนั้น เหมือนกอลลัมในเรื่อง Lord of the rings เปี๊ยบเลย ผอม ๆ เหมือนกันด้วย

พอตั้งสติได้ จี้ก็เฮ้อ มาอีกแล้วเหรอ ขอต้อนรับสมาชิกใหม่ แล้วเธอก็หายไป

จี้อยู่กับเพื่อน ๆ ที่มองไม่เห็นตัวจนกระทั่งจี้จบเมื่อ 16 พฤษภาที่ผ่านมา

แต่ทุกวันนี้ก็ยังนึกเสียใจอยู่ที่วันสุดท้ายที่อยู่ด้วยกันที่ไม่ได้ทำดีกับเขา แต่เขาดีกับจี้มาตลอด

วันอาทิตย์ที่จี้ย้ายออก จี้ไม่ได้เก็บกวาดทำความสะอาดห้องให้เรียบร้อย ปล่อยให้มันสกปรกจนถึงวินาทีสุดท้ายที่จี้ก้าวขาออกจากห้อง

ตอนที่จี้ออกจากห้อง จี้ก็ได้ขอบคุณเขาที่ได้ช่วยดูแลจี้มาตลอดสี่ปี และก็ขอโทษ ที่จี้ไม่ได้ทำความสะอาดห้องให้

จี้ไม่รู้ว่าเขาจะคิดยังไง ที่จี้ทำกับเขาแบบนั้น อาจจะโกรธ ไม่พอใจ ฯลฯ จี้ก็ได้

แต่ตอนนี้จี้ก็ยังระลึกถึง คิดถึง เป็นห่วงพวกเขา และตั้งใจทำบุญให้เขาตลอด

ที่จี้ยังเป็นห่วงและคิดถึงพวกเขานั้น เพราะจี้ไม่รู้ว่าน้อง ๆ ที่เข้ามาใหม่และอยู่ห้องเดิมของจี้จะทำดีกับพวกเขามาแค่ไหน

และถ้าน้อง ๆ ทำอะไรให้เขาไม่พอใจ จี้ก็ไม่รู้ ว่าเขาจะจัดการยังไงกับน้อง ๆ จะใช้วิธีเดียวแบบที่ทำกับจี้ หรือวิธีอื่น

หรือว่าทำแล้ว แต่น้อง ๆ ไม่ได้รับรู้และสัมผัสถึงพวกเขาเลยก็ได้


ปล. จี้ไม่แน่ใจว่า สมาชิกในห้องของจี้นั้น มีหกคนอย่างที่จี้ได้บอกเอาไว้หรือเปล่า

เพราะความรู้สึกของจี้ที่สัมผัสได้ มันบอกว่า พวกเขามีมากกว่าหก แต่ที่จี้เจอจัง ๆ น่ะ มีหกคนค่ะ


0
กำลังโหลด

110 ความคิดเห็น

กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
ChommiiezZ Member 6 ส.ค. 53 18:43 น. 11
หลอนโฮรกฮราก  =O=;;
ชอบไปนั่งมองคานโรงยิมที่ รร. บ่อยๆ ด้วย บรื้อ~!!
แต่ยังดีแฮะที่ไม่ใช่ รร. ของเรา  TwT
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
Shiaeri_พลอย Member 6 ส.ค. 53 19:23 น. 15
เจ้าที่ตรงนั้นหรือเปล่าคะนั่น
อ่านไปเสียงหลังไป
พออ่านตอน
"ตอน นั้นเองที่สายตาของเธอมองขึ้นไปบนเพดานโรงยิม แล้วก็ต้องตกใจแทบสิ้นสติ เมื่อเธอเห็นผู้หญิงผมยาวมากๆ กำลังนั่งห้อยขาอยู่บนคานเหล็ก และกำลังจ้องลงมาที่เธอ !!"
เรารีบมองเพดานกัด้านหลังเลยค่ะ
อูยยย หลอนน!


0
กำลังโหลด
D@rk_Archon Member 6 ส.ค. 53 19:26 น. 16
ได้ยินว่าตอนซ้อมของวงโยฯ มีคนไปดื่มน้ำที่อาคารใกล้ๆยิม แล้วเงยหน้าไปเห็นเหมือนกันนี่....(แต่อาคารใกล้ๆนั้นมันก็เก่าแล้วล่ะ จะมีก็ไม่แปลก แถมเดิมทีชั้น 3 ก็เคยเป็นห้องดนตรีไทยด้วย) ปล.อาคารเรียนใหม่(เมื่อ 5-6 ปีที่แล้ว<<อาคารที่มีลิฟต์นั่นแหละ = =) เดิมทีที่ตรงนั้นเป็นแปลงเพาะเห็ด ถ้าสร้างอาคารเรียนใหม่ลงไปก็ไม่น่าจะมีอะไรแหงๆอยู่แล้ว แต่ตอนเพิ่งเปิดให้ใช้มีคนถ่ายรูปแล้วมีมือปริศนาโผล่มาด้วยนะคะ
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด