เปิดถนนสายศิลปะในถนนเด็กเดิน ตอน มันเล็กมาก

 

 

     ผ่านไปแล้วสำหรับกิจกรรมดีๆ สำหรับเด็กและเยาวชน กิจกรรมถนนเด็กเดินนางเลิ้ง ตอน "มัน เล็ก มาก" ซึ่งถือว่าเป็นกิจกรรมครั้งแรกที่เยาวชนในพื้นที่ชุมชนนางเลิ้งได้ลุกขึ้นเป็นตัวตั้งตัวตีและมีส่วนร่วมในการสืบสานศิลปวัฒนธรรมพื้นถิ่นอันเก่าแก่เอาไว้อีกทั้งยังเกิดการแลกเปลี่ยนกันระหว่างชุมชนขึ้นด้วยกระบวนการดึงเอาศิลปวัฒนธรรมมาใส่ความคิดสร้างสรรค์ใส่ประเด็นเนื้อหาสาระที่จะสร้างการมีส่วนร่วมและสร้างการพัฒนาให้เกิดขึ้นกับเยาวชนและชุมชนโดยการดึงคน 3 วัยในชุมชนมาทำงานร่วมกัน 

 

     งานนี้มีกลุ่มเด็กและเยาวชนชุมชนนางเลิ้งภายใต้ชื่อกลุ่ม "อีเลิ้ง" และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกันจัดงานขึ้นที่ถนนพะเนียงหลังวัดสุนทรธรรมทาน (วัดแคนางเลิ้ง) "น้ำมนต์" หรือ ..นวรัตน์ แววพลอยงาม เป็นหนึ่งในเยาวชนชุมชนนางเลิ้ง ผู้คลุกคลีกับงานพัฒนาชุมชนบ้านเกิดและมีส่วนปลุกปั้นให้ย่านนางเลิ้งกลายเป็นชุมชนน่าอยู่ของกรุงเทพฯ เล่าว่า กิจกรรมถนนเด็กเดินนางเลิ้ง ตอน “มัน เล็ก มาก” เกิดจากกลุ่มคนเล็กๆ ที่เป็นเด็กในสลัมแล้วได้เข้าทำงานร่วมกันบนพื้นที่เล็กๆ ซึ่งกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ของพื้นที่รายล้อมไปด้วยปัญหาสังคม อาทิ ปัญหายาเสพติด การพนัน การติดเหล้า-บุหรี่ ความก้าวร้าว การมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร และโรคเอดส์ การทำงานบนพื้นฐานของปัญหาจึงเป็นโจทย์ใหญ่ที่ทำให้การนำเอา “ศิลปวัฒนธรรมที่มีในชุมชน มากล่อมเกลาให้คนในชุมชนมีค่าขึ้น” ถนนเด็กเดินนางเลิ้งจึงเกิดเป็นถนนสายศิลปะที่พูดถึงเรื่องดีๆ ของวัฒนธรรมพื้นถิ่นอย่างบ้านเต้นรำสามัคคีลีลาศ ละครชาตรี บ้านลำตัด บ้านกลองยาว บ้านศิลปะ หลวงปู่ธูปสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำวัดแคนางเลิ้ง ซึ่งเป็นศูนย์รวมจิตใจของคนในชุมชน การทำหัวโขน การตัดชุดละคร การทำหัวโต (เป็นการทำเพื่อใช้ในงานบวชขณะแห่นาค) พวงมโหตร การทอผ้า รวมไปถึงอาหารและขนมหวานรสเลิศ

 

 

     น้ำมนต์พูดถึงการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ว่า “กิจกรรมในครั้งนี้เป็นกิจกรรมที่การเปิดโอกาสให้เยาวชนได้แสดงพลัง ได้เปิดความคิดสร้างสรรค์และสร้างภูมิคุ้มกันจากภัยที่มีอยู่หลากหลายในสังคม ซึ่งสิ่งที่น่าจับตามองนอกจากการเขียนสาส์นถึงเทวดา (Message to the skys) เพื่อบอกความในใจของเยาวชนที่มีต่อสังคมแล้วยังมีการแสดงละครชาตรี , การแสดงละครใบ้ , ภาพยนตร์สารคดีโดยเยาวชนชุมชนนางเลิ้ง เรื่อง “ไอ้ก็อตตายแน่” เรื่องกล้วยแขก และเรื่อง slum kids อีกทั้งยังมีการหนุนเสริมกิจกรรมอีกมากมายจากโครงการสื่อพื้นบ้านเพื่อสุขภาวะเยาวชน โครงการดนตรีสร้างสุข โครงการละครสำหรับเยาวชน ซึ่งเป็นโครงการในกลุ่มงานสื่อศิลปวัฒนธรรมเชิงบูรณาการ สสส. ที่มาเติมเต็มให้ถนนสายศิลปะสายนี้ให้กลายเป็นพื้นที่สาธารณะมากกว่าแค่การสัญจรหรือจอดรถเท่านั้น และในอนาคตตั้งใจจะจัดงานลักษณะนี้อีกปีละ 4 ครั้ง โดยครั้งต่อไปจะมีประมาณช่วงปลายเดือนเมษายน-พฤษภาคม ตามด้วยเดือนกันยายน-เดือนตุลาคม และเดือนธันวาคม”

     เด็กชายปราโมทย์ ภิรมย์ ก็เป็นเยาวชนอีกหนึ่งคนที่ได้เข้าร่วมกิจกรรมครั้งนี้ โดยเขาได้รับหน้าที่เป็นมัคคุเทศก์น้อยทำหน้าที่แนะนำกิจกรรมต่างๆ ภายในงาน ปราโมทย์พูดถึงความรู้สึกเกี่ยวกับกิจกรรมในครั้งนี้ว่า ถึงแม้ว่าชุมชนที่เขาอยู่อาศัยจะเป็นชุมชนแออัด มีสภาพทรุดโทรมก็ตาม แต่สิ่งที่ซ่อนตัวอยู่ในชุมชนแห่งนี้ก็คือ ความรัก สามัคคี สนิทสนมกลมเกลียวกันของคนในชุมชน ซึ่งวิถีชีวิตแบบนี้อาจจะหาได้ยากแล้วในสังคมปัจจุบัน ซึ่งนี่คือความโชคดีที่ตนได้รับโดยไม่นึกน้อยเนื้อต่ำใจเลยที่เกิดในสลัม แต่ทว่าในทางกลับกันชุมชนแห่งนี้เป็นเหมือนสวรรค์ในเมืองใหญ่สำหรับตนเลยก็ว่าได้ 

ก็เป็นเยาวชนอีกหนึ่งคนที่ได้เข้าร่วมกิจกรรมครั้งนี้ โดยเขาได้รับหน้าที่เป็นมัคคุเทศก์น้อยทำหน้าที่แนะนำกิจกรรมต่างๆ ภายในงาน ปราโมทย์พูดถึงความรู้สึกเกี่ยวกับกิจกรรมในครั้งนี้ว่า ซึ่งนี่คือความโชคดีที่ตนได้รับโดยไม่นึกน้อยเนื้อต่ำใจเลยที่เกิดในสลัม แต่ทว่าในทางกลับกันชุมชนแห่งนี้เป็นเหมือนสวรรค์ในเมืองใหญ่สำหรับตนเลยก็ว่าได้

     ส่วนในด้านของกลุ่มผู้ใหญ่ใจดีที่จัดงงานในครั้งนี้ นายดนัย หวังบุญชัย ผู้จัดการแผนงานทุนอุปถัมภ์เชิงรุกเพื่อสื่อศิลปวัฒนธรรมและกิจกรรมสร้างสรรค์ สสส. ได้พูดถึงกิจกรรมที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ว่า สำหรับในแต่ละชุมชนมีบริบท สภาพปัญหา และอัตลักษณ์ในเรื่องของศิลปวัฒนธรรมที่แตกต่างกันออกไป กิจกรรมครั้งนี้ถือเป็นการเปิดโอกาสให้เด็กได้แสดงพลัง ได้เปิดความคิดสร้างสรรค์และสร้างภูมิคุ้มกัน เยาวชนอยากทำอะไรดีๆ ให้แก่ชุมชน สร้างการรู้เท่าทันและทำให้เด็กมีพัฒนาการ เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ใฝ่มุ่งอนาคตมุ่งเห็นความสำเร็จ และสร้างการยอมรับให้ประจักษ์แก่สังคมอย่างภาคภูมิ

 

     ถือว่าเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมดีๆ ที่ช่วยส่งเสริมให้เยาวชนไทยในปัจจุบันได้มองเห็นถึงความสำคัญของวัฒนธรรมและเรียนรู้ที่จะให้ความสำคัญกับชุมชนที่ตนเองอาศัยอยู่ แน่นอนว่าถ้ากิจกรรมดีๆ อย่างนี้เกิดขึ้นในหลายๆ ชุมชนก็น่าจะเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่จะช่วยสร้างเสริมสังคมและชุมชนให้ดียิ่งขึ้น น้องๆ ก็อย่าพลาดกิจกรรมดีๆ แบบนี้นะคะ

 

 
Dek-D Team ทีมคอลัมนิสต์ Dek-D

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

8 ความคิดเห็น

กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด