สวัสดีครับ.. เรื่องลี้ลับในสถาบัน และ พี่ลาเต้ มาแล้วครับ เรามาเจอกันในวันศุกร์สุดสยองกันอีกครั้ง เรื่องผีในโรงเรียนที่ พี่ลาเต้ นำมาฝากกันในวันนี้อ่านไป อ่านนึกว่า “หนังผีนานาชาติ” จะเป็นยังไงไปอ่านจากเรื่องเล่าของ น้อง Preem กันเลยครับ

 

            สวัสดีค่ะ พี่ลาเต้ และเพื่อนๆ ชาวเด็กดีทุกคน เรื่องที่จะเล่าเป็นเรื่องที่เกิดกับเพื่อนสนิทของเราเองค่ะ เพื่อนเราชื่อ “อลิซาเบธ” เป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนจากประเทศอเมริกา และเรื่องราวความสยองขวัญ ได้เริ่มต้นขึ้นในวันที่นักเรียน ม.4 ทุกคนต้องพักแรมเข้าค่ายกลุ่มสัมพันธ์ประจำปี และวันนั้นก็มีรุ่นพี่ ม.5 มาเป็นพี่เลี้ยงให้ตลอดการเข้าค่าย

 

 

            อลิซาเบธ ชอบบอกเราบ่อยๆ ว่าเขาแอบชอบรุ่นพี่ ม.5 ที่เป็นฝรั่งเหมือนกัน เราได้ยินครั้งแรกก็แปลกใจ เพราะตั้งแต่เราเรียนมาก็มีตอนม.1 ครั้งเดียวที่มี ม.5 เป็นฝรั่ง แต่ ตอนนี้ที่โรงเรียนมีแต่นักเรียนลูกครึ่ง เท่าที่ไล่ดูไม่มีฝรั่งแน่นอน ตอนนั้นเราก็คิดว่าอลิซาเบธ คงจำเข้าใจผิด !!

 

           หลังจากร่วมกิจกรรมค่ายมาตลอดทั้งวัน พอถึงตอนกลางคืนเราเหนื่อยมากก็เลยรีบเข้านอน (เรานอนตึก 1 ชั้น 4) อลิซาเบธ ก็ไม่ยอมนอน เอาแต่เล่าให้เราฟังว่า “วันนี้รุ่นพี่ฝรั่งคนนั้นมองเธอตลอด” เราก็พูดกลับไปว่า จะเป็นไปได้ยังไงโรงเรียนเราไม่มีฝรั่งสักคน มีใกล้เคียงสุดก็แต่ลูกครึ่ง แต่เธอก็ทำเป็นไม่สนใจหาว่าเราโกหก

 

           ระหว่างที่เรานอนจะหลับแล้วนั้น อลิซซาเบธ ซึ่งกำลังเอาของออกมาจากกระเป๋า และเธอก็ปรากฏเห็นจดหมายฉบับหนึ่งแนบไว้ในกระเป๋าเธอ จดหมายฉบับนี้เขียนว่า “I want see you Alice ? and you. see you at behind school แล้วเธอก็อ่านชื่อผู้เขียนให้เราฟังว่าชื่อ Ian (เอียน) เรากับเพื่อนถึงกับผงะ !!

 

           เรารีบคว้าจดหมายฉบับนั้นมาดู แต่ปรากฏว่าภาพที่เราเห็น มันเป็นแค่ซองกฐินผ้าป่าที่ครูแจกให้ จังหวะนั้นเรารีบบอกให้เธอนอนเร็วๆ เพราะตอนนั้นเราเหนื่อยมาก และยังทิ้งท้ายก่อนนอนอีกว่าอย่าเอ่ยเรื่องนี้อีก พอตื่นเช้ามา เธอก็บอกว่าจะไปถามรุ่นพี่ๆ เพื่อหาคนที่ชื่อ Ian (เอียน) เจ้าของจดหมายที่เธอได้รับ ซึ่งเธอเชื่อว่าเป็นคนเดียวกับรุ่นพี่ฝรั่งที่แอบมองเธอแน่นอน

 

           เรื่องราวเริ่มบานปลาย อลิซาเบธ เริ่มไม่มีสมาธิที่จะเข้าค่าย และพูดถึงรุ่นพี่คนนั้นอยู่เรื่อยๆ จนเพื่อนในห้องเดียวกันทนไม่ไหว เดินเข้ามาแล้วจูงมือพาเรากับอลิซาเบธไปห้องๆ หนึ่ง ไปดูรูปพี่เขาอยู่ในห้องเก็บถ้วยรางวัลนักกีฬาว่าใช่คนนี้ไหม ?

 

           อลิซาเบธ บอกว่าใช่ เพื่อนกลุ่มนั้นจึงได้เล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เรา และเธอฟังว่า เมื่อ 3 ปีที่แล้ว ตอนเราอยู่ ม.1 มีรุ่นพี่คนนึงมาจากประเทศแคนาดา ชื่อเอียน เป็นคนเดียวกับที่เห็นในรูปห้องถ้วยรางวัลนี่แหละ พี่เขาหล่อมากเป็นป็อปสตาร์ของโรงเรียนพี่ เขาเก่งกีฬาบาสเกตบอลมากจึงเป็นตัวแทนของโรงเรียนไปแข่ง และได้ถ้วยมากมายอย่างที่เห็น

 

           พี่เขาได้ทุนมาเรียนแค่ 2 ปีพอจะกลับ แฟนพี่เขาก็ดันไม่อยากให้กลับ แฟนพี่เขาเลยคิดมากกลัวว่าเอียนจะไปมีกิ๊กเลยเครียดจัดโดดตึกที่บ้านฆ่าตัวตาย แต่พี่เอียนกลับไม่สนใจ กลับมีกิ๊กใหม่อีกหลายคน

 

           จนวันนั้นเพื่อนของพี่เอียนเล่าว่าเอียนเห็นกิ๊กของตัวเองเรียกเข้าไปหลังโรงเรียนเขาจึงตามไปพร้อมเพื่อน แต่สิ่งที่เห็นไม่ใช่กิ๊ก แต่เป็นแฟนพี่เอียนที่ตายไปแล้ว เพื่อนพี่เอียนตกใจมากรีบวิ่งออกมาแต่ระหว่างทางได้ยินเสียงร้องของเอียนดังออกมาแบบเจ็บปวดมากพอหันกลับไปก็เจอเอียนในสภาพมีดปักหัวเลือดอาบท่วมหัว !!

 

            ตั้งแต่วันนั้นมารุ่นน้องคนไหนที่สวยๆ รักคนง่ายก็จะเห็นพี่เขาอยู่บ่อยๆ แล้วก็จบลงด้วยการโดดตึกทุกคน พอได้ยินแบบนี้ อลิซาเบธ ถึงกลับตกใจมากจนแทบเสียสติไปเลย เรื่องนี้เป็นตำนานที่น่ากลัวที่สุดเท่าที่โรงเรียนเคยมีมา ใครที่อยู่ดึกๆ มักเห็นว่ามีผู้หญิงโดดตึก บางคนก็เหมือนกับว่าได้ยินใครมาเป่าลมขางหู มีคนมาจับขาพอมองลงไปก็เห็นเป็นผู้ชายในสภาพที่หัวยังมีมีดปักอยู่

 

            จนทุกคนต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า ผู้หญิงคนนั้นคือแฟน พี่เอียน ที่โดดตึกฆ่าตัวตาย และผู้ชายคือ พี่เอียน แม้กระทั่งรุ่นพี่ที่ไม่รู้จักตำนานนี้ก็ยังโดนหลอกกันแทบทุกคน และทุกวันนี้รุ่นพี่ๆ ก็มักจะเล่าสืบต่อกันว่า เอียน และแฟนของเขายังอยู่ที่โรงเรียนเสมอ เขาพร้อมให้ทุกคนเห็น ขึ้นอยู่กับว่าใครต่างหากที่จะเห็นพวกเขา !!

 

             ลาเต้ลิขิต : ส่งเรื่องลี้ลับในสถาบันของคุณมาได้ที่ latae@dek-d.com 

พี่ลาเต้ ขอขอบคุณรูปภาพจาก ภาพยนตร์บ้านผีสิง (สหมงคลฟิลม์)

พี่ลาเต้
พี่ลาเต้ - Columnist นักข่าวสายการศึกษา เกาะติดทุกข่าวแทนน้องๆ ตัวถีบ ตัวดันให้ ม.6 สอบติด

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

82 ความคิดเห็น

กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
k★jil3 Member 22 ก.ค. 54 13:58 น. 7
อุทาหรณ์ของเรื่องนี้ก็คือ การรักใครสักคนรักได้ แต่คนที่ควรรักมาที่สุดก็คือตัวของเราเอง และก็ครอบครัวของเรา เพราะแท้ที่จริงแล้วไม่มีใครรักเราเท่ากับครอบครัวหรอก ถ้าเราคิดจะรักใครสักคนเราก็ควรจะรักตัวเองให้เป็นเสียก่อน บางที่พอความรักมันบังตาทำให้เรากระทำการบางอย่างลงไปโดยที่ไม่ได้ทันยั้งคิด แต่คนที่อยู่ข้างหลังกับต้องเสียใจกับการกระทำของเราโดยที่เขาไม่ได้ผิดอะไรด้วย

รักได้แต่ต้องมีขอบเขต ความพอดี
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด