หน้าบานกันไปเลยนะคะสำหรับแฟนๆของ โจวเจี๋ยหลุน หรือ ที่แฟนๆ รู้จักกันในชื่อเจย์ โชว ซูเปอร์สตาร์อันดับหนึ่งของไต้หวัน ที่ล่าสุดได้เดินทางมาเยือนแฟนๆ ชาวไทยเป็นครั้งที่ 2 เมื่อวันศุกร์ที่ 1 ก.พ.ที่ผ่านมา เพื่อให้แฟนๆ ร่วมพิสูจน์ความสามารถอีกด้านหนึ่งของเขาที่นอกเหนือจากการร้องเพลง อันได้แก่การแสดงในผลงานที่ผสานการต่อสู้แบบกังฟูเข้ากับกีฬาบาสเก็ตบอล ในผลงานที่ดัดแปลงมาจากการ์ตูนญี่ปุ่นชื่อดังอย่าง Slam Dunk ในชื่อตอนว่า Kung Fu Dunk ศึกบาส ทะยานฟ้า
โดยในการเปิดใจให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนครั้งนี้ที่โรงภาพยนตร์สยามพาวาลัย นอกจากตัวเจย์ โชวแล้ว ยังรวมไปถึงนักแสดงอย่างเฉินฉูเหอ, ผู้อำนวยการสร้าง และผู้กำกับ จูยินปิง มาร่วมแถลงข่าวผลงานชิ้นใหม่เรื่องนี้ด้วย
วันนี้พี่เหมี่ยวก็เลยหยิบเอาบทสัมภาษณ์ของหนุ่มมากความสามารถคนนี้มาฝากกันค่ะ
>> หลังจากเคยเล่นหนังที่ดัดแปลงจากการ์ตูนมาแล้วครั้งหนึ่งอย่าง Initial D กับ Kung Fu Dunk อะไรเป็นแรงบันดาลใจให้คุณตัดสินใจเล่นเรื่องนี้
เจย์ โชว: ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณทุกท่านที่มาในงานแถลงข่าวครั้งนี้ ส่วนตัวผมที่เลือกเล่นผลงานเรื่องนี้ก็เพราะมีความชอบในด้านกังฟู และ การเล่นบาสเก็ตบอลเป็นพิเศษ และชอบในผลงานของผู้กำกับอย่างมาก ติดตามผลงานมาหลายเรื่องแล้ว รู้สึกเป็นเกียรติอย่างมากที่ได้เลือกให้มาสวมบทนำในเรื่องนี้
>> การสร้างผลงานเรื่องนี้มีการเตรียมความพร้อมอย่างไรบ้าง
เจย์ โชว: ก็มีบ้าง เพราะบาสนี่ผมเล่นมาตั้งแต่เด็กแล้ว ส่วนกังฟูก็เคยใช้ใน MV บ้าง ยิ่งในหนังก็เคยลองมากับเรื่อง Curse of the Golden Flower ในเรื่องนี้จึงไม่เป็นปัญหาครับ
>> เรื่องนี้มีจุดเด่นต่างจากผลงานเรื่องอื่นอย่างไรบ้าง
ผู้กำกับ: ก่อนหน้านี้ผมเคยเห็นคนไทยสร้างหนังเรื่อง สตรีเหล็ก ที่เกี่ยวสาวประเภทสองที่หันมาเล่นวอลเลย์บอล เลยอยากจะลองทำในหนังกีฬาในแนวทางของตัวเองบ้าง
>> หลังจากเดินสายโปรโมทมาหลายประเทศแล้ว แฟนๆ ให้การต้อนรับอย่างไรบ้าง
เจย์ โชว: ผมไปโปรโมทมาแล้วทั้ง ไต้หวัน เซี่ยงไฮ้ ฮ่องกง และประเทศไทย แต่ละที่แฟนๆ ก็ต้อนรับอย่างดี โดยเฉพาะจากแฟนเพลงของผม
>> อะไรเป็นเหตุผลในการดึงตัวเจย์ โชวมาเล่นในหนังที่มีฉากต่อสู้กังฟู
ผู้กำกับ: จริงๆ เจย์ โชวเขามีความสามารถในเชิงกังฟูมาก่อนแล้ว อย่างที่รู้ว่าซูเปอร์สตาร์ในด้านนี้ทั้งเฉินหลงหรือเจ็ทลีต่างก็อายุมากกันหมดแล้ว แต่ไม่มีใครคิดถึงเจย์ โชว ว่านอกจากความสามารถในทางดนตรี จริงๆ เขายังมีทักษะในทางกังฟูที่หาตัวจับยากคนหนึ่ง
>> งั้นช่วยทำท่าทางให้ดูหน่อย
เจย์ โชว: ไม่มีเพลงผมเต้นไม่ออก (ฮา)
>> มีวิธีการเลือกนักแสดงแต่ละคนอย่างไร
ผู้กำกับ: เลือกเพราะว่าชื่อเสียงของนักแสดง เพราะคิดว่าน่าจะขายได้ครับ (ฮา)
>> แล้วการทำหนังที่เกี่ยวกับกีฬาและกังฟูมีความยากง่ายอย่างไร
ผู้กำกับ: ฉากแอ็คชั่นในเรื่องนี้อาจจะไม่บู๊มาก แต่ฉากแข่งขันบาสนักแสดงต้องใช้กำลังอย่างมาก เฉินฉูเหอโดนกระแทกจนดั้งหักมาแล้ว ส่วนเจย์ โชว ต้องซ้อมฉากดังค์อย่างหนัก จนกลับไปบ้านถึงรู้ว่าแขนเขาช้ำไปหมด ผมก็ถามเขาว่าเจ็บทำไมไม่บอก เขาก็บอกว่าเจ็บแต่ว่ามันดี หลายคนในกองถ่ายต้องเจ็บตัวกันมาก บางฉากถ่ายเป็น 100 แต่คัดเอามาใช้จริงแค่ 3 เทคเท่านั้น ในส่วนของฉากดังค์ขอยืนยันว่าถ่ายทำออกมาได้สวยงามที่สุดในโลก
>> ใช้เวลาในการถ่ายทำทั้งหมดเท่าไหร่
ผู้อำนวยการสร้าง: ใช้เวลาตั้งแต่ Pre Production ถึง Post Production หลายปี โดยเฉพาะการรอให้คิวของเจย์ โชวว่างเราต้องรอถึง 2 ปี
>> สเปเชียล เอฟเฟคที่ใช้ในเรื่องเป็นอย่างไรบ้าง
ผู้อำนวยการสร้าง: เรื่องนี้เราใช้เอฟเฟคกันเยอะมาก แต่ที่ดูจากตัวอย่างจะเห็นว่าแทบไม่สังเกตเห็น เพราะเอามาใช้อย่างแนบเนียนมากๆ
>> เจย์ โชว เวลาว่างชอบทำอะไร แล้วชอบไปเที่ยวที่ไหน
เจย์ โชว: เหมือนในหนังเลยครับ เพราะผมชอบเล่นบาสอยู่แล้ว ส่วนสถานที่ที่อยากไปก็คือทะเล
>> หนังเกี่ยวกับกีฬายุคนี้คิดว่าจะขายได้ดีหรือเปล่า
เจย์ โชว: คิดว่าน่าจะประสบความสำเร็จ เพราะช่วงนี้ที่ไต้หวันกำลังนิยมกีฬาบาสเก็ตบอลอย่างมาก เพราะเป็นกีฬาที่สร้างความสามัคคี และช่วงนี้ก็ใกล้โอลิมปิคที่ปักกิ่งแล้ว ถือว่าเข้ากับกระแสได้ดี
>> เคยกำกับหนังของตัวเองมาแล้ว สนใจจะกลับมานั่งเก้าอี้ผู้กำกับอีกไหม
เจย์ โชว: ช่วงนี้คงยังก่อน แต่ถ้าจะกลับมาทำหนังอีกก็คงจะเป็นแนวกังฟูแบบนี้แน่นอน
>> มาไทย 2 ครั้งแล้ว ครั้งไหนประทับใจกว่ากัน
เจย์ โชว: คงเป็นครั้งแรกมั๊งครับ เพราะไม่นึกเลยว่าแฟนเพลงชาวไทยของผมจะมีเยอะขนาดนี้
>> เรื่องนี้ใช้นักแสดงแทนบ้างหรือเปล่า
เจย์ โชว: ใช้ฉากเดียวครับ นอกนั้นเล่นเองหมด
>> เมื่อไหร่จะมาเปิดการแสดงในประเทศไทย
เจย์ โชว: ตอนนี้ขอทำงานด้านหนังให้ดีก่อน เรื่องเพลงเดี๋ยวค่อยว่ากันอีกที
>> คิดว่าผลงานชิ้นนี้จะสู้กระแสของหนังเกาหลีในช่วงนี้ได้ไหม
เจย์ โชว: หนังจากจีน ฮ่องกง ไต้หวัน มีจุดเด่นของประสบการณ์ของทีมงานที่สูงกว่า ส่วนแฟนหนังจีนทั่วโลกก็มีอยู่มากมาย
>> เจย์ โชวมีสาวในสเป็คไหม
เจย์ โชว: มีครับ คุณแม่ของผมเอง เพราะแม่ผมมีความเป็นแม่บ้านสูง วาดรูปเก่ง และมีความกตัญญูอย่างยิ่ง
>> แล้วเฉินฉูเหอล่ะ
เฉินฉูเหอ: ของผมก็คุณยายครับ
>> สุดท้ายแล้วฝากอะไรกับแฟนหนังบ้าง
ผู้กำกับ: Kung Fu Dunk เป็นหนังที่ครบทุกรส ทั้งแอ็คชัน การแข่งขัน ตลก ความรัก
เจย์ โชว: ส่วนผมไม่ได้มาเมืองไทยนานแล้ว ครั้งที่แล้วก็มาเพราะงานเพลง ส่วนครั้งนี้มาเพื่องานหนังเรื่องนี้โดยเฉพาะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งซาวด์แทร็คเรื่องนี้เพราะมากมาย (ฮา) มาให้กำลังใจกันด้วยน่ะครับ
หลังจากให้สัมภาษณ์ต่อสื่อเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เจย์ โชวก็ไม่ลืมสัญญาออกมาโชว์ลีลาพลิ้วกับลูกบาสประกอบดนตรีต่อหน้าสื่อมวลชนด้วยลีลาอันเป็นธรรมชาติเรียกน้ำย่อยก่อนไปดูในฉบับหนังจริง จากนั้นทีมงานและนักแสดงก็มาร่วมกันเขียนข้อความไว้อาลัยต่อพระฉายาลักษณ์สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนากรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ก่อนที่จะปิดท้ายด้วยการไปร่วมงาน Meet & Greet กับแฟนๆ บริเวณสยามเซ็นเตอร์และสยามดิสคัฟเวอรี่ ซึ่งมีบรรดาแฟนๆ มาให้การต้อนรับอย่างอบอุ่นเช่นเคย
พี่เหมี่ยวขอขอบคุณ : ข่าวและภาพประกอบผู้จัดการออนไลน์ |
2 ความคิดเห็น
อาเฮีย หล่อเจงๆ