พี่เหมี่ยวชวนน้องตามหาความหมายของ "เรียลิตี้ร้องเพลง"

     "เราคือที่ที่เตรียมพร้อมให้เขาสำหรับการแข่งขัน ซึ่งคนที่พร้อมที่สุดก็จะได้รับเลือก เขาก็ต้องพิสูจน์ตัวเองกับคนอีก 7 คนที่เข้าร่วมแข่งขัน พอจบแล้วก็ถึงเวลาที่เขาจะต้องออกไปแข่งกับคนข้างนอกอีก มันไม่ใช่ว่าจบที่เรา"

     "เดอะ สตาร์" จึงไม่ใช่ทางลัดสำหรับใครทั้งสิ้น เสร็จรายการก็ต้องพยายามแข่งขันต่อไปเพื่อให้ได้การยอมรับจากประชาชน ซึ่งกว้างกว่าตอนอยู่ในรายการ

     สำหรับ "กิตติกร เพ็ญโรจน์" ผู้บริหารบริษัท ทรูแฟนเทเชีย และทรูมิวสิค ที่นำผู้เข้าประกวดเอเอฟมาปั้นต่อ ก็ว่าต้องเข้าใจว่าที่พวกเขาทำอยู่ คือ การเป็นโรงเรียน

"คนที่จบจากเราจะพร้อมสำหรับการทำงานบันเทิง ซึ่งก็อาจจะไม่การันตีความสำเร็จ หากก็ได้พยายามผลักดันทุกๆ คน แต่ในโลกแห่งความเป็นจริง บางครั้งคนมีงานก็มีงานอยู่นั่นแหละ คนไม่มีก็ไม่มีเลย อันนี้เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้"

     อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เขาพยายามทำกับเอเอฟมาตลอดคือการขายแบบพ่วง ให้คนที่ดังกว่าช่วยกันผลักดันคนที่ไม่ดังเท่าให้ไปด้วยกันและมีโอกาสแสดงความสามารถมากขึ้น สังเกตได้จากอัลบั้มต่างๆ ที่มักจะออกเป็นกลุ่มศิลปิน งานโชว์ตัวหรือคอนเสิร์ตก็จะไปกันหลายๆ คน

     "ส่วนคำถามที่ว่ามันคุ้มค่าไหม? กับสิ่งที่คนดูโหวตและคนแข่งขัน นั่นเป็นเรื่องที่ต้องลองถามใจตัวเองดีๆ"