Spoil
- ควรล้างทำความสะอาดอวัยวะเพศด้วยน้ำเปล่า ไม่ใช้สบู่ที่มีฤทธิ์รุนแรง หรือน้ำยาทำความสะอาด
- หลังล้างทำความสะอาดควรเช๋็ดหรือซับให้แห้งทุกครั้ง โดยเช็ดจากด้านหน้าไปด้านหลังเท่านั้น
- นอกจากการล้างทำความสะอาดแล้ว กางเกงชั้นในก็เป็นสิ่งสำคัญที่ต้องดูแลรักษาความสะอาดเป็นประจำด้วย
อยากรู้เรื่องการทำความสะอาดอวัยวะเพศหญิงค่ะ
ถ้าเทียบกันแล้ว สาวๆ มักจะเป็นกังวลกับร่างกายของตนเองมากกว่าหนุ่มๆ เพราะพูดได้ว่าซอกหลืบแห่งความซับซ้อนนั้นดูเหมือนจะเยอะกว่าของผู้ชายมากนัก ไม่ว่าจะเป็นเต้านม (Breast) โดยเฉพาะอย่างยิ่งอวัยวะเพศ (Female genitalia) ซึ่งมีรายละเอียดทั้งความซับซ้อนภายใน การใช้งาน และการดูแลครับ และคำถามของเราวันนี้เป็นคำถามเรื่องของการรักษาความสะอาดอวัยวะเพศหญิง ซึ่งจริงๆ ก็เป็นคำแนะนำที่ใช้ได้กับทุกวัย แต่ในเมื่อถามมาที่เว็บ Dek-D.com พี่หมอก็ขอเน้นเป็นสุขอนามัยหญิงวัยรุ่นแล้วกันนะครับ มาดูรายละเอียดกันเลย
ความซับซ้อนของอวัยวะเพศหญิง
อวัยวะเพศหญิงมีความซับซ้อนและบอบบางมากอย่างที่บอกไปแล้วนะครับ โดยเรื่องนี้น้องๆ น่าจะได้เรียนรู้กันมาแล้วในวิชาสุขศึกษาที่โรงเรียน (หากใครยังไม่ลืมนะ) โดยความบอบบางก็ขึ้นอยู่กับลำดับของความซับซ้อนนี้เอง มาดูกันว่ามีส่วนประกอบอะไรบ้าง
หากมองด้วยตาเปล่า เราจะเห็นอวัยวะเพศหญิงจากด้านนอกตามลำดับ คือ แคมใหญ่ (Labia majora) แคมเล็ก (Labia minora) และ เม็ดละมุด (Clitoris) ซึ่งเป็นส่วนที่สัมผัสและทำความสะอาดได้ง่าย แต่สำหรับด้านในลึกเข้าไปในส่วนของ ท่อเปิดทางเดินปัสสาวะอยู่ด้านบน (Urethra) และภายในช่องคลอด (Vagina) ไปจนถึงปากมดลูก (Cervix) นั้น ส่วนใหญ่จะเป็นเนื้อเยื่อบอบบางและติดเชื้อได้ง่าย หากเราดูแลสุขอนามัยส่วนด้านนอกดี ส่วนด้านในนี้ก็ไม่ค่อยมีปัญหาอะไรครับ ดังนั้น สิ่งที่พี่หมอจะเน้นย้ำวันนี้ก็คือการดูแลสุขอนามัยภายนอกเป็นสำคัญครับ
ทำความสะอาดอย่างไร?
สิ่งที่ควรทำ และไม่ควรทำ ในการทำความสะอาดอวัยวะเพศของสาวๆ มีดังนี้ครับ
1. การล้างทำความสะอาด
ควร ทำความสะอาดภายนอกอย่างทะนุถนอม ด้วยน้ำสะอาดหรือในบางที่แนะนำให้ใช้น้ำอุ่นทำความสะอาด โดยควรทำความสะอาดทุกครั้งที่เข้าห้องน้ำ
ไม่ควร สวนล้าง หรือขัดทำความสะอาดด้วยอุปกรณ์ รวมถึงไม่ควรใช้สบู่ที่มีฤทธิ์รุนแรง หรือน้ำยาทำความสะอาดเฉพาะที่ หรือทิชชูเปียกที่มีส่วนผสมของน้ำหอม
เนื่องจากสภาพกรดเบสในช่องคลอดจะมีความเป็นกรดอ่อนๆ (Weak Acidity) เพื่อใช้ในการเลี้ยงดูแบคทีเรียปกติ และป้องกันสภาพการติดเชื้อโดยทั่วๆ ไปในช่องคลอด จึงไม่ควรทำการสวนล้าง เพราะนอกจากจะทำให้เกิดการบาดเจ็บได้โดยตรงต่ออวัยวะภายในแล้ว ยังเพิ่มโอกาสการติดเชื้อแบคทีเรียได้อีกด้วย (Bacterial infection) ซึ่งสังเกตได้จาก ตกขาวเปลี่ยนสี และมีกลิ่นเหม็นมากขึ้นครับ
ส่วนที่ไม่แนะนำให้ใช้สบู่ที่มีฤทธิ์รุนแรง/ น้ำยาทำความสะอาด/ ทิชชูเปียกที่มีน้ำหอม รวมไปถึงอะไรแปลกๆ เช่น น้ำเกลือ หรือแอลกอฮอล์ (ที่มีการแนะนำกันผิดๆ ตามอินเทอร์เน็ต) อาจทำให้เกิดการระคายเคืองได้ครับ ซึ่งปัจจุบันก็มีด้วยกันหลากหลายยี่ห้อ แต่พี่หมอขออนุญาตไม่รีวิวนะครับ เพราะไม่ได้ใช้เอง ฮ่าๆ
2. การเช็ดให้แห้ง หรือเป่าแห้ง
ควร เช็ดให้แห้งหลังจากล้างทำความสะอาดด้วยน้ำ ลองนึกถึงการสระผม การเป่าแห้งเป็นสิ่งที่ควรทำเหมือนเป่าผมกันเลยทีเดียว ความอับชื้นที่ตามมาหากไม่ดูแลผมให้แห้งฉันใด เชื้อราและผื่นคันก็อาจจะตามมาได้ฉันนั้นครับ โดยเช็ดทำความสะอาดจากด้านหน้าไปด้านหลังเท่านั้น โดยเฉพาะเมื่อถ่ายหนัก เพื่อลดการปนเปื้อนติดเชื้อ และสำหรับคนชอบเป่าแห้งหลังอาบน้ำใหม่ๆ ควรเป่าด้วยพัดลมอุณหภูมิปกติครับ
ไม่ควร เช็ดด้วยความรุนแรง ไม่ควรเช็ดจากด้านหลังมาด้านหน้าหรือถูไปมา และไม่ควรเป่าด้วยลมร้อนครับ อาจเกิดการอักเสบได้
3. สุขอนามัยวันปกติ
เรารู้อยู่แล้วว่าตามปกติแล้วสาวๆ จะมีตกขาวที่เป็นเมือกขาวใส ไม่มีสีแปลกๆ เช่น เขียว เหลือง ปนเลือด และไม่มีกลิ่นเหม็นเน่าหรือคาวแบบน้ำปลา แต่การจะมีตกขาวมากหรือน้อยนั้นก็ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยครับ
ในวันปกติแบบนี้ สาวๆ หลายคนนิยมใช้ แผ่นอนามัย ทั้งเป็นประจำและเฉพาะในวันที่ต้องการความมั่นใจเป็นพิเศษ เช่น สวมชุดรัดรูปหรือเสื้อผ้าสีอ่อน กรณีนี้ก็ต้องระมัดระวังเรื่องของสุขอนามัยเช่นกันครับ
ควร เปลี่ยนแผ่นอนามัยระหว่างวัน และถึงแม้จะใช้แผ่นอนามัย ก็ควรทำความสะอาดอวัยวะเพศด้วยน้ำ และเช็ด/ซับให้แห้งเสมอครับ
ไม่ควร ใส่แผ่นอนามัยเป็นเวลานาน จะยิ่งเพิ่มความอับชื้น เกิดการสะสมเชื้อโรคและแบคทีเรีย นำไปสู่การอักเสบ ติดเชื้อได้ครับ
4. สุขอนามัยวันที่มีประจำเดือน
สิ่งแรกคือสาวๆ ต้องรู้ว่าผ้าอนามัยยี่ห้อไหน แบบไหน เหมาะสมกับสรีระตัวเอง ไม่ว่าจะวันมามากหรือมาน้อยก็จะช่วยให้ทำกิจกรรมได้มั่นใจ และไม่เกิดอาการแพ้จากการเสียดสีหรืออับชื้นครับ ดังนั้นการเลือกผ้าอนามัยให้เหมาะก็สำคัญ รวมถึงการเลือกกางเกงชั้นในที่เนื้อผ้าเบาสบาย ไม่หนาเกินไปด้วยครับ
ควร เปลี่ยนผ้าอนามัยทุก 4-6 ชั่วโมง เพื่อลดความอับชื้น เลือดประจำเดือนเป็นเลือดสะอาดนะครับ แต่เมื่อมันออกมาแล้วสะสมที่ผ้าอนามัยทั้งวันก็จะเกิดความอับชื้น ไม่สบายตัว และเกิดการติดเชื้อได้ครับ สำหรับการล้างทำความสะอาดเมื่อเข้าห้องน้ำ ก็ทำตามปกติตามข้อบนๆ ได้เลยครับ
ไม่ควร ใส่ผ้าอนามัยนานเกินไป โดยเฉพาะผ้าอนามัยแบบสอดที่ต่างประเทศเคยมีข่าวติดเชื้อจนถึงแก่ชีวิตด้วย เนื่องจากใส่ไว้นานเกินไปครับ และสำหรับถ้วยอนามัยที่สาวๆ หลายคนเริ่มนิยมใช้กันในขณะนี้ ก็ต้องทำความสะอาดให้ดีพร้อมใช้ด้วยเช่นกันครับ
5. กางเกงชั้นในและเสื้อผ้าก็สำคัญ
นอกจากการดูแลรักษาสุขอนามัยด้วยการล้างทำความสะอาด เช็ด/ซับให้แห้งแล้ว กางเกงชั้นในและเสื้อผ้าที่เราสวมใส่ก็สำคัญครับ
ควร ใช้กางเกงชั้นในที่เนื้อผ้าบางเบา ระบายอากาศ ไม่หนาจนสะสมเหงื่อระหว่างวันจนอับชื้น กางเกงชั้นในควรเป็นผ้าที่ทำความสะอาดง่าย แห้งเร็ว โดยควรซักให้สะอาดและตากให้แห้งสนิทเสมอ และควรเปลี่ยนเมื่อใช้มาเป็นเวลานาน
ไม่ควร ใช้กางเกงชั้นในที่รัดแน่นจนเกินไป อาจเกิดการเสียดสีทำให้เจ็บหรือมีอาการคันได้ นอกจากกางเกงชั้นในแล้ว ไม่ควรสวมกางเกงชั้นนอกที่รัดแน่นซ้ำไปอีกชั้นด้วยเช่นกัน มีโอกาสทำให้เกิดอาการคันและเชื้อราตามมาได้ครับ
นอกจากการดูแลรักษาความสะอาดแล้ว การสังเกตอวัยวะเพศและจดบันทึกการมีประจำเดือนหรือสังเกตสีตกขาวนั้นก็เป็นสิ่งสำคัญครับ ตอนที่แล้วพี่หมอมีพูดถึงไปบ้างแล้วว่า จะทำให้เราสังเกตความผิดปกติที่เกิดขี้นได้เร็ว และเมื่อต้องไปพบแพทย์ก็สามารถให้ข้อมูลได้ถูกต้องแม่นยำด้วย ทั้งนี้ ความผิดปกติบางอย่างหายเองได้ บางอย่างต้องรักษา อย่ากังวลและปิดบังเก็บไว้คนเดียวครับ น้องๆ โดยเฉพาะวัยรุ่นอย่าอายที่จะบอกคนใกล้ชิดหรือไปพบแพทย์ ทั้งหมดก็เพื่อดูแลรักษาสุขภาพของตนเองให้สดใหม่พร้อมใช้งานอยู่เสมอนะครับ
นพ.ชนม์พิสิฐ มณฑล
1 ความคิดเห็น