#ลองดูไม่เสียหาย! กับ 7 เหตุผลที่อาจจะทำให้คนๆนั้นตกหลุมรักคุณ!

spoil

  • ความรัก ทำให้รู้สึกมีผีเสื้อในท้อง ใจเต้นแรง เหงื่อแตก
  • อยากถูกรัก  เราอาจจะต้องมีความคล้ายกัน ลองมองตากัน 2 นาที ใส่ชุดสีแดง
  • เล่นกีตาร์ ลองเลี้ยงน้องหมา   เป็นเพื่อนบ้าน  และทำสิ่งที่น่าตื่นเต้นด้วยกัน

ใกล้เทศกาลแห่งความรักเข้ามาทุกทีแล้ว คนโสดอาจจะอยากมีคู่ คนมีคู่อยากทำให้มันเป็นวันที่พิเศษสำหรับคนรัก วันนี้พี่ณัชชาพามาดูเหตุผลที่อ้างอิงจากงานวิจัยว่าคนเราจะรู้สึกดีต่อกันหรือถึงขั้นรักกัน มันอาจจะเป็นเพราะสิ่งเหล่านี้ได้จริง ๆ !! งานนี้พี่ขอแอบกระซิบว่าคนโสดที่อยากมีคู่ หรือใครที่กำลังติดอยู่ในสถานะคนคุยจะลองเอาไปใช้ตามดูก็ไม่เสียหายนะ !

(ภาพจาก www.freepik.com)
(ภาพจาก www.freepik.com)

ตกหลุมรักขึ้นไม่ไหว สมองใช่ไหมเป็นคนผลักฉัน

       เคยมั้ย เจอใครบางคนครั้งแรกแล้วรู้สึกเหมือนมีผีเสื้อบินอยู่ในท้อง ใจไม่รักดีก็เต้นแรง เหงื่อแตก อ้างอิงจากคุณหมอ Trisha Stratford เขาบอกว่า “สมองของคนตกหลุมรักเหมือนกับสมองของคนที่ติดเฮโรอีน” โดพามีนที่หลั่งออกมาตอนมีความรักจะทำให้เรารู้สึกอบอุ่น ทำให้ความผูกพันระหว่างคนสองคนเกิดขึ้นแบบฉับพลัน หรือที่เราอาจจะรู้สึกว่ามันคือ ‘รักแรกพบ’ มันเป็นเพียงเสี้ยววินาทีที่สมองรับรู้ว่าคนตรงหน้าเราน่าสนใจมาก และเรากับเขาสามารถพัฒนาความสัมพันธ์กันต่อไปได้ โดยงานวิจัยพบว่าใครที่มีประสบการณ์ได้พบเจอกับรักแรกพบ เขากับคนรักก็มักจะคบกันได้นาน

7 เหตุผลที่อาจจะทำให้คนหลงรักกัน

1. เมื่อเราเหมือนกันมาก ๆ

       แม้จะมีวลีที่ว่าคนยิ่งต่างจะยิ่งเข้าหากัน แต่ในความเป็นจริงกลายเป็นว่าความคล้ายคลึงกันต่างหากที่ดึงดูดให้คนสองคนเข้าหากันมากขึ้น ไม่ว่าจะคล้ายกันในเรื่องความชอบก็ดีหรือบุคลิกภาพก็ดี โดยงานวิจัยในปี 2007 พบว่า ความเหมือนหรือคล้ายจะทำให้คู่รักเข้าใจและเชื่อมโยงเข้าถึงกันได้เร็วกว่าคู่รักที่มีความชอบแตกต่างกัน

(ภาพจาก www.freepik.com)
(ภาพจาก www.freepik.com)

2. เมื่อเราจ้องตากันนาน 2 นาที

       งานวิจัยของมหาวิทยาลัยแมสซาซูเซตส์ให้ผู้เข้าร่วมวิจัยจำนวน 72 คน จับคู่และจ้องตากันนาน 2 นาที ผู้เข้าร่วมวิจัยรายงานว่า การมองตาสร้างความรู้สึกรักและผูกพันในคู่ที่ทำการทดสอบมากขึ้น และรายงานของ Scientific American ยังบอกอีกว่า การมองตาเป็นระยะเวลานานสามารถเชื่อมคนสองคนเข้าด้วยกันและสร้างความรู้สึกรักได้แม้ว่าเราจะไม่เคยเจอกันมาก่อนก็ตาม

(ภาพจาก pixabay.com)
(ภาพจาก pixabay.com)

3. เมื่อเราอาศัยอยู่ใกล้กัน

       อยากจะใกล้ชิดทางใจ ก็ต้องไม่ลืมที่จะใกล้ชิดทางกายด้วย (ทางกายในที่นี้ไม่ได้หมายถึงให้ไปลวนลามใครนะคะ ห้ามนะ) แต่หมายถึงให้ไปอาศัยอยู่ใกล้ ๆ เขา อ้างอิงจากการทดลองของสถาบันเทคโนโลยีแมสซาซูเซตส์ หรือ MIT พบว่า คนที่อาศัยอยู่ห้องข้างกันหรือละแวกเดียวกันจะมีความรู้สึกใกล้ชิดกันมาก เพราะมีโอกาสที่จะมีปฏิสัมพันธ์และสร้างบทสนทนาสั้น ๆ เวลาเดินสวน/เจอหน้ากัน หรือที่เราจะรู้จักปรากฏการณ์นี้ในชื่อ mere exposure effect

(ภาพจาก www.pexels.com)
(ภาพจาก www.pexels.com)

4. เมื่อเราเลี้ยงสุนัข

       การทดลองของมหาวิทยาลัยมิชิแกนให้ผู้หญิงอ่านบทความที่เกี่ยวข้องกับผู้ชาย พบว่า เมื่อไรก็ตามที่เจ้าของเรื่องในบทความ (ผู้ชาย) เป็นเจ้าของสุนัข ผู้หญิงจะให้คะแนนเจ้าของเรื่องคนนั้นว่าเป็นคนที่น่าดึงดูดใจในระยะยาวมากกว่า เพราะคนที่เลี้ยงสัตว์แสดงถึงความเป็นธรรมชาติ ดูเป็นคนผ่อนคลาย เข้าถึงได้ง่าย และดูมีความสุข

(ภาพจาก pixabay.com)
(ภาพจาก pixabay.com)

5. เมื่อเราใส่ชุดสีแดง

       งานวิจัยของ University of Rochester พบว่า ผู้หญิงที่สวมชุดสีแดงดูน่าดึงดูดใจและน่าเย้ายวนทางเพศมากกว่าผู้หญิงที่สวมชุดสีน้ำเงิน งานวิจัยบอกว่าสีแดงเป็นเหมือนแรงกระตุ้นทางเพศ และในสิ่งมีชีวิตที่ไม่ใช่มนุษย์ก็เป็นแบบนี้เหมือนกัน นอกจากนี้ ยังมีงานวิจัยที่บอกว่า ผู้หญิงมองผู้ชายที่ใส่ชุดสีแดงว่าเป็นคนที่ดูมีอำนาจและมีสถานะสูงกว่า ทำให้พวกเขาดูเป็นผู้ชายที่น่าเย้ายวนใจ

(ภาพจาก pixabay.com)
(ภาพจาก pixabay.com)

6. เมื่อเราเล่นกีตาร์

       นักวิจัยจากประเทศฝรั่งเศส พบว่า การเล่นดนตรีเกี่ยวข้องกับการเลือกคบคน โดยในการทดลอง นักวิจัยจะให้ผู้ชายคนเดียวสะพายกระเป๋า 2 แบบ คือ กระเป๋าใส่กีตาร์และกระเป๋ากีฬา จากนั้นให้เดินไปขอเบอร์ผู้หญิง 300 คนบนถนน การทดลองนี้พบว่า ผู้หญิงส่วนมากจะให้เบอร์ผู้ชายเมื่อเขากระเป๋าใส่กีตาร์มากกว่าตอนที่สะพายกระเป๋ากีฬา

(ภาพจาก pixabay.com)
(ภาพจาก pixabay.com)

7. เมื่อเราทำบางอย่างที่น่าตื่นเต้นด้วยกัน

       ในปี 1974, Donald Dutton และ Arthur Aron ต้องการทดสอบว่าความน่าดึงดูดทางเพศและความกังวลมันเกี่ยวข้องหรือมีความเชื่อมโยงกันมั้ย โดยให้ผู้ชายหนึ่งคนทำ 2 สถานการณ์ อย่างแรกคือให้เดินข้ามสะพานที่น่าตื่นเต้น (สั่นได้และสูง) อย่างที่สอง ให้เดินข้ามสะพานธรรมดา จากนั้นนักวิจัยจะให้ผู้หญิง (ที่เตรียมเอาไว้) มาหยุดอยู่ที่ปลายสะพายและให้เบอร์ผู้ชาย (ที่เพิ่งเดินข้ามสะพานเสร็จ)

       งานวิจัยพบว่า ผู้ชายที่เจอผู้หญิงหลังจากผ่านช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้นอย่างการเดินข้ามสะพานที่สั่นได้และมีความสูง มีแนวโน้มที่จะโทรหาผู้หญิงคนนั้นมากกว่าผู้ชายที่เดินข้ามสะพานธรรมดาที่ไม่ได้น่าตื่นเต้น ปรากฎการณ์นี้เกิดจากสะพานสูงสร้างความกังวลให้กับผู้ชาย แต่ผู้ชายเข้าใจผิด คิดว่าความกังวลนั้นคืออาการใจเต้นที่ได้เจอกับผู้หญิง ดังนั้นการทำเรื่องที่น่าตื่นเต้นอาจจะทำให้เดทแรกของเราไปต่อได้สวยก็ได้นะ!

 

       ใครที่กำลังดูใจหรืออยู่ในสถานะคนคุยก็อาจจะลองเอาวิธีการข้างบนไปใช้ได้นะคะ แต่ทั้งนี้ก็ควรจะนึกไว้เสมอว่าการตกลงปลงใจเริ่มต้นความสัมพันธ์ก็ต้องการปัจจัยด้านอื่นร่วมด้วย อาจจะจริงที่ใส่ชุดสีแดงทำให้เราดูน่าค้นหา แต่มันก็ไม่ได้การันตี 100% ว่าเรากับเขาคนนั้นจะไปต่อด้วยกันได้นะ ใครมีวิธีไหนที่ทำแล้วปัง ทำแล้วไปรอดก็เอามาแชร์กันได้เดี๋ยวพี่ณัชชาจะไปลองทำตามดู ฮ่า ๆ ลาแล้วสำหรับวันนี้ แล้วพบกันใหม่ค่ะ : )

 

ข้อมูลจากhttps://www.businessinsider.com/weird-psychological-reasons-people-fall-in-love-2015-2https://www.insider.com/psychological-reasons-people-fall-in-love-2015-12https://www.goalcast.com/surprising-psychological-reasons-someone-might-fall-in-love-with-you/https://www.insider.com/is-love-at-first-sight-real-2018-6https://www.huffpost.com/entry/17-facts-about-human-sexual-attraction_n_3817941

 

พี่ณัชชา
พี่ณัชชา - Columnist นักเขียนฝึกหัดใกล้จะเรียนจบที่ชอบอ่านงานแฟนตาซีเป็นชีวิตจิตใจ

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

0 ความคิดเห็น