รู้จัก “พี่มาร์ค” นักศึกษาแพทย์ ที่หลงรักการ Cover Dance ฉายา #มาร์คหมกมุ่น

SPOIL

  • ตอน ม.ต้น อยู่ห้องบ๊วย แต่ก็ถีบตัวเองขึ้นมาได้จนสอบติดแพทย์!
  • ที่จริงอยากเรียนวิศวะฯ แต่แม่โม้กับคนอื่นไปแล้วว่าลูกจะเรียนหมอ เลยตามใจแม่
  • เริ่มเต้นโคฟเวอร์เพราะแก๊งเพื่อนสาว เพลงแรกที่เต้นคือ Ah Yeah ของ Exid!

พูดถึงนักศึกษาแพทย์ หลายคนคงคิดถึงภาพเด็กเรียนเนิร์ดๆ ใส่แว่นหนาๆ อ่านหนังสือตลอดเวลา ซึ่งต้องบอกว่าไม่เสมอไปเลยค่ะ
เพราะนักศึกษาแพทย์เฮ้วๆ ฮาๆ สายกิจกรรมยังมีอีกเยอะมากนะ เช่น “หมอมาร์ค” ฉายา #มาร์คหมกมุ่น นักเต้น Cover สุดฮอตคนนี้ไง
ที่จะพาไปเปิดโลกให้รู้ว่า นักศึกษาแพทย์ก็คูลได้ ไม่แพ้คณะไหนเลย!

นักศึกษาแพทย์ ที่เพื่อนบอกว่า “ไม่น่ามารู้จักเลย”

สวัสดีครับ ชื่อมาร์ค เรียนอยู่มหาวิทยาลัยขอนแก่น คณะแพทยศาสตร์ ชั้นปีที่ 2 ครับ นิสัยเป็นคนกวนๆ แล้วก็ชิลๆ เพื่อนบอกว่าตอนแรกเห็นในรูปเหมือนจะนิ่งๆ เงียบๆ แต่มาเจอก็ไม่เลย...ไม่น่ามารู้จักกันเลย 555

จากเด็กม.ต้นห้องบ๊วย สู่คณะแพทย์!

ตอนม.ต้นผมโง่มากเลยครับ แม่ส่งเรียนพิเศษก็โดดไปเล่นเกม
สอบได้เกือบบ๊วยของห้อง จำได้ว่าคะแนน O-Net ม.3 ต่ำมากจนอาย
คณิตเต็มร้อยได้ไม่ถึงยี่สิบ ขนาดเพื่อนที่ผมคิดว่าตัวเองฉลาดกว่า
เขายังได้คะแนนเยอะกว่าอีก แต่ผมก็ไม่ได้ซีเรียสนะ

จนม.4 ผมไปเรียนพิเศษกับเพื่อน แล้วเจอพี่ติวเตอร์จบจาก
วิศวะจุฬาฯ เขาเท่มาก ผมเลยยึดเป็นไอดอล อยากเข้าวิศวะจุฬาฯ บ้าง
เพื่อนคนอื่นก็อยากเข้ากันหมด เลยเรียนตามๆ กัน คะแนนก็พุ่ง
ขึ้นมา แม่ก็เริ่มโม้กับคนอื่นว่าผมอยากเป็นหมอ ไม่รู้เอามาจากไหน
ผมก็ครับ...หมอก็หมอ 555

ตัดสินใจสอบแพทย์ เพราะอยากเรียนวิศวะ!?

อย่างที่บอกว่าผมไม่ได้ตั้งใจเป็นหมอแต่แรก แค่เรียนทุกอันไปก่อน แต่ไปเจอพี่ติวเตอร์อีกคนหนึ่งแนะนำว่าถ้าอยากเรียนวิศวะฯ
ให้หวังหมอไว้ ประมาณว่าหวังสูงๆ ไปก่อน เพราะถ้าพลาด อย่างน้อยก็ได้วิศวะฯ แต่ถ้าพลาดจากวิศวะฯ มันจะไม่ได้อะไรเลย
สรุปไปๆ มาๆ โควต้าหมอออกก่อน แล้วคะแนนผมดันถึงจริงๆ แม่ก็ไม่ลังเลเลยครับ ให้เรียนหมอเลย 555 แต่เป็นหมอก็ดีครับ ชีวิตดีครับ
ตอนสอบติดแม่ก็ซื้อไอโฟนใหม่ให้ แล้วก็ได้ไปเรียนซัมเมอร์ที่นิวซีแลนด์ด้วย ถือว่าคุ้ม

วีรกรรมเด็ด ปวดท้องหนักในห้องสอบ!

จุดเหนื่อยที่สุดในการเรียนหมอของผมไม่ใช่การอ่านหนังสือครับ แต่เป็นตอนปวดท้องหนักในห้องสอบ เป็นอะไรที่ทรมานมากกก
เพราะวันนั้นสอบแบบข้อเขียน สมมติว่าแผ่นนี้มีเวลา 5 นาที เขียนให้เสร็จแล้วนั่งรอแผ่นต่อไป ซึ่งเราลุกไปเข้าห้องน้ำไม่ได้ วิชานี้ต้องสอบ
เป็นชั่วโมงกว่าจะเสร็จ ผมนี่ปวดตั้งแต่ช่วงแรกๆ แล้วปวดเรื่อยๆ เครียดมากเลยแต่ก็ต้องทน มันออกไม่ได้จริงๆ 555

เริ่มเต้นโคฟเวอร์เพราะแก๊งนางฟ้าหลังห้อง

เวลาว่างผมชอบเล่นเกม ดูหนัง นอน แล้วก็เต้นครับ ผมเริ่มเต้นตั้งแต่ม.4 เพราะเห็นแก๊งนางฟ้า (เพื่อนๆ เพศที่สาม) หลังห้องเต้นกัน
ก็เลยลองไปเต้นบ้าง เลยรู้ว่า เฮ้ย! สนุกดีนี่หว่า หลังจากนั้นก็ฟอร์มวงผู้ชายกันครับ เห็นแบบนี้เพื่อนบอกผมเต้นเป็นผู้หญิงดีกว่าผู้ชายนะ
เพลงแรกที่ผมเต้นคือ Ah Yeah ของ Exid ครับ

ช่วงแรกๆ ผมเต้นกากมาก เหมือนคนหัดเต้นใหม่ ก็ต้องใช้วิธีเต้นเก็บรอบเยอะๆ ให้ชินกับท่า เพลงนึงก็เต้นอยู่นาน เต้นวนไปเรื่อยๆ
มีไปแข่งบ้างครับถ้าไม่ไกลมาก อย่างล่าสุดแข่งในงาน Korea Festival ได้ที่ 5 จาก 25 วง ผมเต้นเพลง Boss และ Cherry Bomb ของ NCT
ตำแหน่งโดยอง ได้เงินรางวัลมา 2,000 บาทหารกัน 9 คน 555 จริงๆ ไม่ได้เต้นเพราะเน้นเงินรางวัลหรอกครับ เต้นเอาประสบการณ์
แล้วก็ได้อยู่กับเพื่อน ได้ออกกำลังกายด้วย

เป็นนักศึกษาแพทย์นักโคฟเวอร์ เลยมีสาวๆ มาแอบกรี๊ด

ไปไหนมาไหนก็มีคนจำได้บ้างครับ เขาจะชี้ว่านี่ไงๆๆ กันในกลุ่ม บางคนก็ดิ้นจนผมกลัวเค้าเป็นลมเลย 555 แต่แรกๆ ทักมาผมไม่ตอบนะ
เพราะผมไม่รู้จัก หรือมาดึงแขนผมก็ดึงออก เพราะตกใจ เวลาลงรูปเลยมีคนมาเมนต์ว่า “หล่อนะแต่หยิ่ง” หลังๆ ผมเลยพยายามยิ้มมากขึ้น
ใครทักก็พยายามสวัสดีตอบ แต่เรื่องดึงขอนะครับ ยังตกใจอยู่ 555

เต้นโคฟเวอร์ เล่นดนตรี เล่นกีฬา นอนดูการ์ตูน นี่แหละวันว่างของนักศึกษาแพทย์!

ผมเต้นโคฟเวอร์เกาหลี แต่จริงๆ ไม่รู้ภาษาเกาหลีเลย แค่มีดูซีรีส์เกาหลีบ้าง อย่างล่าสุดดูเรื่อง While You Were Sleeping ที่ลีจงซอกเล่น
ส่วนเพลงผมชอบ Day 6 ครับ เคยพยายามเล่นกีตาร์ด้วย แต่จับคอร์ดยังไงก็บอด พยายามอยู่นานจนเจ็บนิ้ว เลยเลิก

ผมติ่งการ์ตูนด้วยนะ โดยเฉพาะ Kuroko no Basket เรื่องมี 75 ตอน ผมดูจบมา 4 รอบแล้ว ชอบมากจนไปหัดเล่นบาสฯ ตาม
แต่ก็มีช่วงหยุดเล่นไป พอกลับมาอีกทีไม่ทันเพื่อนแล้ว เลยไม่เล่นแล้ว เต้นดีกว่า จริงๆ เวลาว่างผมชอบทำทุกอย่างที่ไม่ใช่อ่านหนังสือ 555

อย่ากลัวการเรียนหมอ เพราะสิ่งแวดล้อมจะช่วยให้เราฮึดสู้เอง

จริงๆ เด็กคณะแพทย์กวนๆ แบบผมเยอะแยะนะ ไม่แปลกหรอกครับ ใครจะเครียดอ่านหนังสือตลอดเวลามันไม่มีหรอก แต่ถ้าไม่อ่านเลยก็ตก
เลยต้องพยายามอ่าน ครั้งหนึ่งผมเคยไปอ่านหนังสือกับรุ่นพี่คณะอื่น เขาอยู่ปีสามก็ว่าหนักแล้ว แต่ผมเพิ่งปีหนึ่ง อ่านหนักกว่าเขาอีก
แต่จริงๆ ใครอยากเรียนหมอก็ไม่ต้องกลัวจะอ่านไม่ไหวนะครับ เพราะถ้ามองไปเห็นเพื่อนๆ อ่านกัน เราก็จะฮึดอ่านเอง พี่เป็นกำลังใจให้น้องๆ
ที่อยากเรียนหมอทุกคนครับ สู้ๆ

THANKS

Model : Suparchai Rujirot-ampai (Mark)
Makeup artist : O_indy
Interviewer : h_shhshh
Photographer : Boycanoneos, Naever
Video Editor : IBomber
Graphic Designer : O_indy

พี่มาร์ค Meet#599

พี่กวาง
พี่กวาง - Columnist พลเมืองบางบัวทอง ผู้ตามทันทุกเทรนด์ฮิต เพราะไถทวิตเตอร์ระหว่างรถติดแยกแคราย

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

7 ความคิดเห็น

กำลังโหลด
ได้ทั่ว 30 มิ.ย. 61 21:35 น. 2-1

ไม่นะ ดูแล้วไม่ได้อยากเป็นอะไรเป็นพิเศษต่างหาก แต่เพราะมีความสามารถรอบตัว ค่อนข้างทำอะไรก็ได้ดีทุกอย่าง (ถ้าตั้งใจจะทำ) และก็ครอบครัวดีมีพื้นฐาน เลยอยากทำไปทำอะไรก็ทำไปทุกอย่างมากกว่า อะไรที่สนุกก็ทำว่างั้น

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
Chok_Khathathon Member 1 ก.ค. 61 16:28 น. 4

พี่มาร์คอ่านหนังสือเยอะมั้ยครับ เตรียมตัวยังไง ผมว่าเท่าที่ผมทำตอนนี้มันไม่พอที่จะเป็นหมอ

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
Nunoi 23 ธ.ค. 61 09:31 น. 6

ไปนั่งดูวนคลิป พาหมอทั้ง4เที่ยว กทม ของ เพจchulacuteboy กับ tusexyboy เลยอยากให้เด็กดีจับ4หมอมานั่งเมาส์มอยส์จัง

#วาดฝันไว้

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด