|
...พี่เหมี่ยวเชื่อว่า สำหรับน้องๆที่รักในการอ่านหนังสือ และเป็นแฟนพันธุ์แท้ของวรรณกรรมเยาวชน คงต้องรู้จักนิยายขนาดสั้นชื่อน่ารักอย่าง ความสุขของกะทิ แน่ๆ และพี่เหมี่ยวก็เชื่ออีกเช่นเดียวกันว่า ใครที่ได้อ่านหนังสือเล่มนี้แล้วก็คงจะต้องรู้สึกประทับใจและอิ่มเอมไปกับความรักและความผูกพันธ์ของคำว่า ครอบครัว ที่อบอวลอยู่ในหนังสือเล่มนี้

และก็เป็นเรื่องที่น่ายินดีเหลือเกินที่ทาง สหมงคงฟิล์ม เล็งเห็นความสำคัญและคุณค่าของหนังสือเล่มนี้ จึงได้หยิบเอาหนังสือเล่มนี้มทำเป็นภาพยนตร์ เพื่อถ่ายทอดเรื่องราวชีวิตของหนูน้อย กะทิ ... ปัญหาหนักอีกอย่างหนึ่งในการทำภาพยนตร์เรื่องนี้ คือการหาตัวหนูน้อยผู้ที่จะมารับบทเป็น กะทิ ตัวละครสำคัญของภาพยนตร์เรื่องนี้
|
ซึ่งหลังจากควานหาตัวเด็กหญิงที่จะมารับบทเป็น กะทิ ในภาพยนตร์ ความสุขของกะทิ อยู่เป็นนาน ในที่สุดก็มาลงตัวกันที่ น้องพลอย-ด.ญ.ภัสสร คงมีสุข มาสวมบทเด็กน้อยผู้ต้องผ่านประสบการณ์การสูญเสียครั้งสำคัญ ซึ่งน้องพลอยได้เปิดใจกับสื่อมวลชนเป็นครั้งแรกว่า
"ที่มาเล่นเรื่องนี้ได้ก็คือ คุณแม่ได้เห็นข่าวจากทางหนังสือพิมพ์ ก็เลยอยากให้ลอง ก็เลยมาสมัคร ซึ่งตอนที่มาแคสนั้นเขาก็ให้เล่นบทบางตอน ตอนมาแคสไม่มั่นใจว่าจะได้เพราะมีคนเก่ง ๆ มาแคสเยอะ แต่พอรู้ว่าได้เล่นก็ดีใจ ก่อนหน้าจะแคสก็ได้หาหนังสือมาอ่าน พออ่านแล้วก็ชอบมาก สนุกดี แล้วก็มีร้องไห้ไปตามหนังสือด้วย" |
น้องพลอยกล่าวต่อว่า "คาแรกเตอร์ของกะทิ คือจะเป็นเด็กที่เก็บความรู้สึก ชอบบทของกะทิตอนที่ต้องเล่นบทร้องไห้ อยากลองเล่นบทแบบนี้ดู ก่อนหน้านี้หนูก็เคยเล่นละครมาบ้างแล้วคือ กาษานาคา เล่นเป็นพี่นุ่น-วรนุช ตอนเด็ก กับเรื่อง เลือดในดิน เล่นเป็น หนูดี แต่ก่อนหน้านี้ก็เคยเล่นแต่เป็นตัวประกอบ ก็ได้ประสบการณ์จากตอนที่ อาตู่ นพพล สอนมา เพราะคือถ้าเล่นไม่ดีอาตู่ก็จะมาบอกว่าต้องทำยังไง แล้วก็เคยไปเรียนการแสดงมาบ้าง เพราะเป็นคนชอบทางด้านนี้ แต่เพิ่งมาเล่นหนังครั้งแรกก็กลัวเหมือนกันว่าจะทำให้พี่เขารอนาน แต่ก็ไม่กดดันมาก เพราะถ้ากดดันเราจะทำไม่ได้"
สำหรับหนังสือเรื่อง ความสุขของกะทิ เป็นนวนิยายขนาดสั้น ของ งามพรรณ เวชชาชีวะ ได้รับรางวัลวรรณกรรมสร้างสรรค์ยอดเยี่ยมแห่งอาเซียน (ซีไรต์) ของประเทศไทย ประจำปี พ.ศ. 2549

ความสุขของกะทิ เล่าเรื่องราวของกะทิ เด็กหญิงวัย 9 ขวบที่กำลังจะต้องสูญเสียแม่ ซึ่งป่วยเป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง แม่รู้ตัวดีว่าไม่สามารถเลี้ยงดูกะทิได้ จึงฝากกะทิให้ตากับยายเลี้ยง กะทิเติบโตมาด้วยความรักของตาและยาย มีชีวิตอย่างสุขสบายในบ้านหลังน้อยริมคลองอันอบอุ่น
"ผู้เขียน เล่าเรื่องราวของกะทิอย่างเรียบง่าย เนรมิตบ้านริมคลองให้เป็นบ้านในฝัน ที่อบอวลด้วยบรรยากาศอันรื่นรมย์ของอดีต ฉายรายละเอียดสิ่งละอันพันละน้อย ของวิถีชีวิตที่สุขสงบของครอบครัวชนชั้นกลางระดับสูงให้ผู้อ่านประทับใจ"
กะทิมีครอบครัวที่เอาใจใส่ ดูแลกะทิด้วยความรัก และความห่วงใยจากใจจริง เธอมีคุณตาที่เคยเป็นทนาย ซึ่งสามารถเรียกเสียงหัวเราะจากกะทิและครอบครัวได้อยู่เสมอๆ คุณยายของกะทิเป็นคนที่เคร่งครัด และหัวโบราณ แต่ถึงกระนั้นก็สอนกะทิเรื่องต่างๆนาๆ อะทิเช่น การทำอาหาร การอยู่ในสังคม เป็นต้น พี่ทองเป็นคนที่เข้าอกเข้าใจกะทิเป็นอย่างดี และเป็นคนที่มีบุญคุณต่อกะทิ เพราะว่าพี่ทองเคยช่วยชีวิตกะทิไว้ตอนกะทิเป็นเด็กเล็ก น้าฏา และน้ากันต์ซึ่งเป็นคนที่ห่วงใยกะทิ และคอยหาสิ่งดีๆให้กะทิอยู่เสมอๆ และเป็นคนที่พูดปลอบใจกะทิในยามที่กะทิเศร้าโศกเสียใจ และที่ขาดไม่ได้ก็คือ แม่ของกะทิ ที่ถึงแม้จะจากไปก่อนวัยอันควรแต่ก็จัดสิ่งต่างๆไว้ให้กะทิอย่างดิบดี ด้วยความรัก และเอาใจใส่จากใจ
แต่ในความสุขมีความเศร้า ในวิถีชีวิตที่สุขสงบนี้ กะทิต้องเผชิญประสบการณ์ทางอารมณ์ที่ต้องสูญเสียแม่ และในความเศร้านั้นก็มีความสุข กะทิไม่คิดจะโหยหาถึงพ่อที่อยู่ไกลโพ้นต่างแดน หากเลือกอยู่ในอ้อมกอดของตากับยาย และผ่านชีวิตอันควรจะทุกข์นั้นด้วยใจที่เข้มแข็ง
เสน่ห์ของนวนิยายขนาดสั้นเรื่องนี้อยู่ที่กลวิธีการเล่าเรื่อง ที่ค่อยๆ เผยปมปัญหาทีละน้อย ๆ อารมณ์สะเทือนใจจะค่อยๆ พัฒนาและดิ่งลึกในห้วงนึกคิดของผู้อ่าน นำพาให้ผู้อ่านอิ่มเอมกับรสแห่งความโศกอันเกษม ที่ได้สัมผัสประสบการณ์ทางอารมณ์ของชีวิตเล็กๆ ในโลกเล็กๆ ของเพื่อนมนุษย์คนหนึ่ง ซึ่งอาจไม่ไกลจากชีวิตจริงของเราเลย
ปัจจุบัน ผู้เขียนได้ตีพิมพ์หนังสือภาคต่อของ ความสุขของกะทิ ชื่อว่า ความสุขของกะทิ ตอน ตามหาพระจันทร์
สำหรับน้องๆที่ยังเคยอ่านหนังสือเล่มนี้ พี่เหมี่ยวขอแนะนำให้รีบหามาอ่านด่วนเลยนะคะ เพราะพี่เหมี่ยวเชื่อว่า หากน้องๆเป็นคนหนึ่งที่กำลังตั้งคำถามกับตัวเองว่า ความสุขในชีวิตของเราอยู่ที่ไหน หนังสือเล่มนี้จะสามารถให้คำตอบที่น้องต้องการได้ค่ะ
และสำหรับใครที่ได้อิ่มเอมไปกับ ความสุขของกะทิ ในรูปแบบของตัวหนังสือมาแล้ว ก็ต้องลองติดตาม ความสุขของกะทิ ในรูปแบบของภาพยนตร์นะคะ แล้วมาพิสูจกันค่ะว่า เมื่อตัวหนังสือมีชีวิต กะทิ บนแผ่นฟิล์มจะเป็นยังไง ...

พี่เหมี่ยวขอขอบคุณ : ข้อมูลประกอบจากหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ |
27 ความคิดเห็น
แต่อบอุ่นมากมายคับ
ถึงแม้กะทิจะเสียคุณแม่ไป แต่ก็เป็นเด็กที่อบอุ่นมาก ๆ
เคยอ่านเเล้วค่ะ
เปนหนังสือที่สนุกมากๆเลยอ่ะ
เคยอ่านแล้วค่ะ ดีมาก ๆ เลย ชอบอ่ะ อยากดูเป็นหนังซะแล้วสิ อิอิ
น้องพลอยน่ารักดีค่ะ
เป็นเรื่องที่อ่านแล้วประทับใจสุดๆเลยค่ะ อ่านแล้วไม่มีคำว่าผิดหวังเลยค่ะ
อยากดูเป็นหนังมานานแล้ว
อ่านแล้วร้องไห้ซะ.....
เด็กผู้หยิงน่ารักดีค่ะ เหมาะที่จะเล่นกะทิ :]