สวัสดีค่ะน้องๆชาว Dek-D.com เจาะลึกสถาบันในวันนี้ พี่สตางค์ ได้รับเกียรติจาก
"พี่ปิ่น" ที่จะมาช่วยแนะนำสถาบันซึ่งเป็นสถาบันที่โด่งดังในสาขาวิชาเซรามิคมากๆ นั่นคือ Alfred University แห่งสหรัฐอเมริกานั่นเองค่ะ เราไปรู้จักมหาวิทยาลัยแห่งนี้พร้อมๆกันเลยดีกว่าค่ะ ^^
"พี่ปิ่น" ที่จะมาช่วยแนะนำสถาบันซึ่งเป็นสถาบันที่โด่งดังในสาขาวิชาเซรามิคมากๆ นั่นคือ Alfred University แห่งสหรัฐอเมริกานั่นเองค่ะ เราไปรู้จักมหาวิทยาลัยแห่งนี้พร้อมๆกันเลยดีกว่าค่ะ ^^
“Alfred University”
1) ประเภทสถาบัน : เอกชน
2) motto ของสถาบัน : Fiat Lux (Let there be light) แปลว่า เพื่อให้เกิดแสงสว่างขึ้น
3) ที่ตั้งของสถาบัน : ตั้งอยู่ Western New York อยู่ทางใต้ของเมืองโรเชสเตอร์ ห่างออกไปชั่วโมงครึ่ง, อยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้จากเมืองบัฟฟาโล 2 ชั่วโมง, อยู่ทางตะวันตกห่างจาก NYC (นิวยอร์กซิตี้) 5 ชั่วโมง
4) สภาพแวดล้อมในมหาวิทยาลัย : เป็นมหาวิทยาลัยที่เล็กมาก (เล็กแบบที่ว่ามีไฟจราจรเพียงอันเดียวทั้งเมือง) เคยพยายามที่จะเดินให้หลงทาง แต่ก็ทำไม่สำเร็จ เพราะเมืองมันเล็กมากจริงๆ เมื่ออยู่ช่วงหน้าหนาวก็จะหนาวมากค่ะ ส่วนหน้าร้อนก็อาจจะพอๆ กับบ้านเรา
5) ทำไมถึงเลือกมาเรียนที่นี่ : เพราะที่นี่เป็นมหาวิทยาลัยชื่อดังทางด้านเซรามิกซึ่งเป็นสาขาที่สนใจที่จะเรียนต่อค่ะ
6) requirement ที่มหาลัยกำหนด : สำหรับ Undergraduate (ป.ตรี) ใช้คะแนน TOEFL ibt 80 หรือ IELTS 6.0 ส่วน Graduate (ป.โทขึ้นไป) ใช้ TOEFL ibt 90 หรือ IELTS 6.5 ส่วนตัวปิ่นมาต่อป.โท สอบ TOFEL ibt ได้ 92/120 จ้า
7) ระดับการศึกษา/หลักสูตรที่เปิดสอน : เปิดสอนตั้งแต่ป.ตรี ถึง ป.เอกเลยจ้า
8) คณะที่เปิดสอน :
แบ่งแบบกว้างๆ ได้เป็น
- College of Business
- College of Liberal Arts and Sciences
- School of Art and Design
- Inamori School of Engineering
- The Graduate School
9) อันดับของมหาวิทยาลัย : U.S. News and World Report จัดให้ Alfred University เป็น “America’s Best Graduate Schools” (สถาบันด้านบัณฑิตศึกษาที่ดีที่สุดในอเมริกา) คือได้อันดับ 1 ในสาขา ceramic art(ศิลปะงานเซรามิก) ของปี 2012
10) สาขาที่ดังเป็นพิเศษ : Ceramic engineering!
11) จำนวนนักศึกษาทั้งหมด : เป็นปริญญาตรีประมาณ 2,000 คน และปริญญาโทขึ้นไปประมาณ 300 คน
12) ค่าเทอมเท่าไหร่ : ค่าเทอมราคาแล้วแต่คณะที่เรียน ประมาณ $21,758 - $36,736 ต่อปี (คูณ 30)
13) เทอมหนึ่งเรียนกี่วิชา ตารางเรียนเป็นยังไง : ที่ปิ่นเรียน ปิ่นเรียน 4 เทอม (สองปีการศึกษา) สองเทอมแรกเรียนเทอมละสองวิชา เทอมที่สามเรียนหนึ่งวิชา (รวม 5 วิชา มีวิชาบังคับ 3 วิชา วิชาเลือก 2 วิชา) แล้วเทอมสุดท้ายมุ่งทำ Lab ให้เสร็จ และเขียนวิทยานิพนธ์ค่ะ (ทำ lab ปิ่นเริ่มทำจริงจังตั้งแต่ summer หลังเรียนจบปีแรก เทอมที่สาม และสี่จ้า)
14) วิชาที่ชอบเรียนมากที่สุด : ชอบวิชา Bio Material (ชีววัสดุ) มากที่สุดเพราะอาจารย์ใจดี เนื้อหาแปลกใหม่ และเรียนสบายๆ
15) นักศึกษาที่เป็นชาวต่างชาติ : ที่ปิ่นเจอนานาชาติมาก (จีน สเปน ฝรั่งเศส อิหร่าน อินเดีย ตุรกี เกาหลี ญี่ปุ่น ไต้หวัน ออสเตรเลีย) แต่ถ้าคณะที่ปิ่นเรียนก็น่าจะมีพวกอเมริกันเยอะสุด ส่วนใหญ่เด็กจีนจะมาเรียนด้าน business มากกว่า
16) นักเรียนไทยที่นี่ : มีปิ่นเป็นคนไทยคนเดียว แต่ตอนเรียนเทอมสุดท้ายก็มีเพิ่มมาอีกคน และน่าจะกำลังมีไปเพิ่มอีกหนึ่งคนช่วงสิงหาคมนี้ รวมเป็นสองคน
17) อาจารย์ที่สนิทและอยากพูดถึง : อาจารย์ที่สนิทคงเป็นอาจารย์ที่ปรึกษาของเราเอง แต่เค้าก็ยุ่งๆ เลยไปสนิทกับผู้ช่วยอาจารย์มากกว่า เค้าเป็นคนเกาหลี นิสัยดีมาก ขาดเหลืออะไรก็คอยช่วยเหลือตลอด
18) เพื่อนชาวต่างชาติในมหาลัยที่อยากพูดถึง :
มีเยอะมาก เรียนจบมาได้เพราะพวกมันจริงๆ ตอนแรกที่ไปเรียนก็จะเข้าปฐมนิเทศกับเด็กต่างชาติด้วยกันก่อน ก็เลยมีแต่เพื่อนเป็นคนต่างชาติ ก็จะมีทั้ง จีน เม็กซิกัน สเปน ฝรั่งเศส ตุรกี ออสเตรเลีย ตามที่กล่าวไปแล้ว แต่ละคนก็เรียนไม่เหมือนกัน แต่ตอนเย็นก็จะมาสังสรรค์กัน จนเหมือนเป็นครอบครัวเดียวกัน แต่โดยส่วนมากแล้ว เด็กเหล่านี้จะมาเรียนแค่เทอมเดียว เหมือนเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยน หลังจากนั้นก็จะแยกย้ายกันกลับประเทศ ต่อมาจึงเพิ่งได้มีเพื่อนชาวอเมริกาตอนเทอมสอง เพื่อนส่วนมากเป็นผู้ชาย เพราะคณะนี้ส่วนใหญ่ก็มีแต่ผู้ชาย นิสัยดีทุกคน ช่วยเรื่องเรียนด้วย แล้วก็พาไปเที่ยวด้วย สนิทกันมาก ขนาดกลับมาเมืองไทยแล้ว ยังตามมาเที่ยวหลายคน
มีเยอะมาก เรียนจบมาได้เพราะพวกมันจริงๆ ตอนแรกที่ไปเรียนก็จะเข้าปฐมนิเทศกับเด็กต่างชาติด้วยกันก่อน ก็เลยมีแต่เพื่อนเป็นคนต่างชาติ ก็จะมีทั้ง จีน เม็กซิกัน สเปน ฝรั่งเศส ตุรกี ออสเตรเลีย ตามที่กล่าวไปแล้ว แต่ละคนก็เรียนไม่เหมือนกัน แต่ตอนเย็นก็จะมาสังสรรค์กัน จนเหมือนเป็นครอบครัวเดียวกัน แต่โดยส่วนมากแล้ว เด็กเหล่านี้จะมาเรียนแค่เทอมเดียว เหมือนเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยน หลังจากนั้นก็จะแยกย้ายกันกลับประเทศ ต่อมาจึงเพิ่งได้มีเพื่อนชาวอเมริกาตอนเทอมสอง เพื่อนส่วนมากเป็นผู้ชาย เพราะคณะนี้ส่วนใหญ่ก็มีแต่ผู้ชาย นิสัยดีทุกคน ช่วยเรื่องเรียนด้วย แล้วก็พาไปเที่ยวด้วย สนิทกันมาก ขนาดกลับมาเมืองไทยแล้ว ยังตามมาเที่ยวหลายคน
19) กิจกรรมและชีวิตนอกสถาบัน : เนื่องจากเป็นเมืองบ้านนอก ส่วนมากก็จะสังสรรคกับเพื่อนเป็นกลุ่มๆ ก็จะมี movie night (ที่บ้านเพื่อนคนนึงมีที่ฉายหนังจากคอมขึ้นกำแพง), game night (มีมาเล่นกัน board game และพวกเครื่อง wii), pot luck (ทำอาหารมาคนละจานแล้วกินด้วยกัน), hot tub party (บ้านเพื่อนอีกคนมี hot tub ก็จะมาเล่นกัน), โบว์ลิ่ง , สโนว์บอร์ด , สกี, วอลเลย์บอล ฯลฯ
20) ประเพณีหรือกิจกรรมสนุกๆของมหาลัย : กิจกรรมในมหาลัยก็มี พวก A2A (Alfred to Asia) ที่เด็กเอเชียจะมาแสดงอะไรเอเชียๆให้ฝรั่งดู แล้วก็มีพวก Chinese’s new year, hot dog day (มีคนมาเปิดร้านขายของข้างทางตลอดแนว คนเยอะมากๆ), Halloween ฯลฯ
21) ชมรมในมหาวิทยาลัย : ปิ่นเคยร่วมแค่สองชมรม คือ international student, กับ Mid-evil (คนจะแต่งชุดเสื้อเกาะแล้วมาต่อสู้กัน)
22) หอพักนักศึกษา : ไม่เคยเข้าไปหอพักเด็กป.ตรีเลย แต่คิดว่าน่าจะโอเคนะ แต่ว่าไม่มีครัว ทางมหาลัยจะบังคับให้ซื้อบัตรเข้าห้องอาหารของมหาลัย ซึ่งปิ่นว่าแพง ส่วนเด็กป.โท เค้าจะให้เช่าหอพักข้างนอก ซึ่งก็จะมีตั้งแต่แพงไปจนไม่แพงมาก ของปิ่นพักตกเดือนละ 450 เหรียญ ไม่ร่วมค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าอินเตอร์เน็ต แต่ว่าเค้ามีฮีทเตอร์ตามห้องให้ฟรี (ค่าที่พักปิ่นก็ถือว่าแพงแล้วในย่านมหาลัย)
23) ที่เที่ยวหรือแหล่งช้อปปิ้งที่อยู่ใกล้มหาลัย : รอบมหาลัยไม่มีที่ช้อปปิ้งเลย แค่จะไป super market อย่าง Wal-Mart ยังต้องนั่งรถไปประมาณ 20 นาที ถ้าจะซื้ออะไรส่วนมากจะซื้อผ่านอินเตอร์เน็ท ทั้งนั้น ส่วนที่เที่ยว จะเน้นเป็นสถานท่องเที่ยวธรรมชาติมากกว่าพวก natural park, น้ำตก ฯลฯ
24) วันหยุดนิยมทำอะไรกัน : ถ้าหยุดยาวปิ่นจะเข้านิวยอร์กซิตี้เกือบทุกครั้ง แต่ถ้าหยุดสั้นๆ ก็จะไป เที่ยวกับเพื่อนๆ แล้วแต่ว่าจะคิดกิจกรรมอะไรออก
25) คนไทยมีกิจกรรมอะไรที่ทำร่วมกันที่น่าประทับใจบ้าง : เป็นคนไทยอยู่คนเดียว :(
26) นี่แหละสถาบันของเรา : Alfred, where the sun comes out once a week. (Alfred ที่ที่พระอาทิตย์จะออกมาเพียงแค่อาทิตย์ละครั้ง)
27) ประทับใจอะไรมากที่สุดในมหาลัย : เพื่อน เพราะโชคดีเจอเพื่อนนิสัยดี ทำให้คลายเหงาไปได้มาก
28) ความในใจถึงมหาลัย : สำหรับคนที่สนใจทางด้าน ceramic engineering,material science & engineering, ceramic fine art ที่นี่ก็เป็นที่ที่หนึ่งที่น่าสนใจ และ Alfred เป็นเมืองเล็กๆ ที่ปลอดภัย และเต็มไปด้วยคนหลากหลายรูปแบบ จนตอนนี้ก็ยังไม่อยากเชื่อเลยว่า เมืองเล็กๆ ดูไม่มีอะไรแห่งนั้น จะมอบความสุข และความทรงจำดีๆ ให้เราได้มากขนาดนี้ :)
เป็นยังไงกันบ้างคะกับ Alfred University นับว่าเป็นมหาวิทยาลัยในเมืองเล็กๆ ที่น่าสนใจมากๆ เลยใช่มั้ยล่ะคะ โดยเฉพาะสำหรับคนที่สนใจเรียนต่อทางด้านเซรามิค ต้องขอขอบคุณ พี่ปิ่น มากๆเลยที่ทำให้เราได้รู้จักที่นี่มากขึ้น ^^
และหากน้องๆคนไหนสนใจอยากจะแนะนำสถาบันในต่างประเทศของน้องๆบ้าง ก็สามารถทำได้ง่ายๆเลยค่ะ เพียงแค่คัดลอกคำถามทั้งหมด เปลี่ยนคำตอบให้เป็นคำตอบของน้องๆ แนบรูปสวยๆมาด้วย แล้วส่งมาได้ที่ kanittha@dek-d.com มาให้เพื่อนๆได้ทำความรู้จักสถาบันของน้องๆกัน!
TWITTER@STANGDEKD
แนะนำสถาบันโดย : พี่ปิ่น ^_^
ภาพประกอบ : พี่ปิ่น
3 ความคิดเห็น