ไทยลองมั้ย? ข้อสอบแอดมิชชั่นที่จีน คนละเมือง คนละข้อสอบ!! (มีตัวอย่างข้อสอบให้ดู)

       สวัสดีค่ะน้องๆ ชาว Dek-D.com ... ผ่านพ้นไปแล้วสำหรับการสอบเข้ามหาวิทยาลัยของเด็กๆ รุ่น 58 ตอนนี้ก็คงเริ่มมีการรับน้องกันแล้ว ยังไงก็ขอให้สนุกกับชีวิตมหาวิทยาลัยทุกคนนะคะ ^^ และเมื่อต้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา เด็กๆ ที่ประเทศจีนก็เข้าสู่สนามสอบแอดมิชชั่นเหมือนกันค่ะ โดยในแต่ละปีมีเด็กๆ สอบกันเกือบ 10 ล้านคน!! (ไม่ต้องตกใจ เพราะบ้านเค้ามีประชากรเยอะกว่าบ้านเรามาก) พี่เป้ เลยมีเรื่องน่าสนใจจากการสอบที่จีนมาฝากค่ะ



       ข้อสอบที่ใช้ในการสอบของไทย ไม่ว่าจะเป็น GAT PAT 7 วิชาสามัญ หรือ ONET จะเหมือนกันทุกชุดเพื่อให้เกิดความยุติธรรมไม่ว่ากับเด็กกรุงเทพหรือเด็กต่างจังหวัด แต่ที่จีนนั้น การสอบเข้ามหาวิทยาลัยมีชื่อเรียกว่า เกาเข่า (高考 – Gaokao)  ข้อสอบวิชาหลักที่ต้องสอบทุกคนคือ ภาษาจีน และ คณิตศาสตร์ (แต่ก่อนบังคับสอบภาษาอังกฤษด้วยแต่ตอนนี้ไม่แล้ว) นอกจากนั้นนักเรียนเลือกสอบได้อีก 4 วิชา อย่างวิชา ESSASY หรือการเขียนเรียงความ เป็นอะไรที่พิเศษมากๆ ค่ะ เพราะข้อสอบจะมีแตกต่างกันบ้างตามเมืองหรือมณฑล!!

เมืองปักกิ่ง   

       - มีฮีโร่หรือวีรบุรุษจำนวนมากในประวัติศาสตร์ของชาติจีน หากคุณได้รับโอกาสให้ใช้ชีวิต 1 วันอยู่กับฮีโร่คนไหนก็ได้ คุณจะเลือกฮีโร่คนไหนและเพราะอะไร
        - คุณมีความชอบหรือหลงใหลในเรื่องใดเป็นพิเศษ เลือกตอบอะไรก็ได้ไม่ว่าจะเป็นพืช สัตว์ หรือสิ่งของ
        - ให้เขียนวิเคราะห์ถึงวรรณคดีจีนเรื่องอะไรก็ได้ 1 เรื่อง
        - วิจารณ์พฤติกรรมของชาวปักกิ่งที่คุณคิดว่ามันเป็นพฤติกรรมที่ดูไร้อารยธรรมหรือไม่เจริญ

ส่วนคำถามนี้ใช้ใน 13 มณฑล   
  
        ในบุคคล 3 คนนี้ คุณคิดว่าใครคือคนที่มีเสน่ห์หรือน่าสนใจมากที่สุด และเพราะอะไร? นักเทคโนโลยีชีวภาพที่นำพาองค์กรของเขาเข้าสู่การวิจัยระดับนานาชาติได้ , ช่างเชื่อมธรรมดาที่ดังระดับโลกจากผลงานการทำงานของเขา , ช่างภาพที่ได้รับคำชมอย่างกว้างขวางจากผลงานซีรีส์ถ่ายภาพของเขา


และคำถามนี้ใช้ใน 5 มณฑล   

        เด็กผู้หญิงคนหนึ่งห้ามไม่ให้พ่อของเธอคุยโทรศัพท์ระหว่างที่ขับรถบนทางด่วน แต่พ่อของเธอไม่เชื่อ เธอก็เลยโทรเรียกตำรวจ ตำรวจจึงเดินทางมาอธิบายให้พ่อฟังว่าทำไมถึงไม่ควร .... หากคุณต้องเขียนจดหมายหาใครสักคนใน 3 คนนี้ คุณจะเลือกเขียนถึงใครและจะเขียนว่าอะไร

เมืองเซี่ยงไฮ้   

        คนเราทุกคนมีจุดแข็งและจุดอ่อนอยู่ภายในหัวใจ มันขึ้นอยู่กับว่าคุณจะแสดงความรู้สึกเหล่านั้นออกมาอย่างพอดีได้หรือไม่ ลองเล่าถึงจุดแข็งหรือจุดอ่อนของตัวคุณเองแล้วอธิบายถึงวิธีที่คุณควบคุมมันด้วย

มณฑลเสฉวน   

        คนที่ซื่อสัตย์อาจไม่ใช่คนฉลาด และคนฉลาดก็อาจไม่ได้มีสติปัญญาหลักแหลมอย่างแท้จริงก็ได้ คุณคิดเห็นยังไงกับประโยคนี้


เมืองฉงชิ่ง   

        หลังจากขึ้นรถประจำทางแล้ว เด็กชายตัวเล็กๆ คนหนึ่งก็บอกให้คนขับรอแม่ของเขาก่อน ผ่านไปสักพัก แม่ของเด็กชายคนดังกล่าวก็ยังไม่มา ผู้โดยสารคนอื่นบนรถเริ่มโวยวายเสียงดังจนเด็กชายเริ่มร้องไห้ จนสุดท้าย แม่ของเด็กชายก็ปรากฏตัว ทุกคนบนรถต่างก็พูดอะไรไม่ออกเพราะหล่อนเป็นคนพิการ .... ลองเขียนบทความอะไรก็ได้ทีเกี่ยวข้องกับข้อมูลนี้

มณฑลฝูเจี้ยน   

       แต่เดิมแล้ว บนโลกของเราไม่มีทางเดิน แต่เกิดจากคนเราชอบเดินบนทางซ้ำๆ เดิมๆ เลยเกิดเป็นทางเดินขึ้นมา และถึงแม้คุณจะเลือกทางเดินที่ผิด แต่ทุกๆ ทางเดินนั้นก็มีความหมายในตัวเอง ที่สำคัญ ไม่มีทางเดินไหนในโลกที่คุณไม่สามารถเดินไปได้ มีแต่ทางเดินที่คุณไม่กล้าเหยียบเท่านั้นเอง
.... จงเขียนเรียงความที่เกี่ยวกับข้อมูลข้างต้น
   

       
        แต่ละหัวข้อเรียงความนั้นเรียกได้ว่าเป็นคำถามปลายเปิดมากกกกกกกก กว้างจนไม่รู้จะเขียนอะไรเลยนะเนี่ย = =" แล้วน้องๆ ล่ะ จากข้อสอบข้างบน อยากเขียนตอบข้อไหนมากที่สุด ถ้าบ้านเรามีข้อสอบที่แตกต่างกันตามเมืองหรือภาค คงเป็นที่ฮือฮาน่าดูแน่ๆ เลย น้องๆ ว่ามั้ย

ข้อมูลและภาพประกอบ http://edition.cnn.com/
 
บทความนี้ถูกเขียนหรือแปลโดยทีมงานเว็บไซต์ Dek-D.com เป็นที่แรก
หากต้องการนำไปเผยแพร่ต่อในเว็บไซต์อื่น กรุณาใส่เครดิตให้ครบถ้วน
พร้อมทำลิ้งค์เชื่อมโยงกลับมาหน้านี้เท่านั้น


15 พิพิธภัณฑ์และที่เที่ยวธีมไดโนเสาร์ชื่อดังของโลก
พี่เป้
พี่เป้ - Columnist มนุษย์บ้างานและบ้านวด ผู้ตกหลุมรักปลาแซลมอน การนอน และและออฟฟิศ

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

มัณทนา[กำลังตามหาดอพเพลแกงเกอร์] Member 29 มิ.ย. 58 14:09 น. 1

เมืองปักกิ่ง อยากเขียนเรียงความข้อ 1 กับข้อ 3

อยากให้ระบบการศึกษาไทยเปลี่ยนข้อสอบที่ใช้ในการสอบเข้ามหาวิทยาลัยจาก

ข้อสอบปรนัย 4-5 ตัวเลือก (เลือกมา 2 คำตอบ) กับข้อสอบอัตนัยแบบเติมตัวเลข

มาเป็นข้อสอบแบบเขียนเรียงความเรื่องอะไรก็ได้ที่อยากจะเขียนก็จะดีมาก

บางวิชาแต่ละเรื่องที่เคยเรียนจากในโรงเรียนมาใช้ในการสอบไม่ได้เลย

ชอบออกนอกหลักสูตรประจำ

1
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กดเกดเ 30 มิ.ย. 58 00:37 น. 4
มันคือวิชา essay หรือการเขียนเรียงความ ซึ่งมันเป็นปลายเปิดแบบนี้ก็ไม่แปลกหนอก เพราะเขาจะได้ดูการใช้ภาษา การใช้หลักเหตุผล และการเรียบเรียงความคิดของผู้สอบ คนที่จะเขียนได้ดีคือต้องมีกระบวนการทางความคิดระดับหนึ่งอะ
0
กำลังโหลด

5 ความคิดเห็น

มัณทนา[กำลังตามหาดอพเพลแกงเกอร์] Member 29 มิ.ย. 58 14:09 น. 1

เมืองปักกิ่ง อยากเขียนเรียงความข้อ 1 กับข้อ 3

อยากให้ระบบการศึกษาไทยเปลี่ยนข้อสอบที่ใช้ในการสอบเข้ามหาวิทยาลัยจาก

ข้อสอบปรนัย 4-5 ตัวเลือก (เลือกมา 2 คำตอบ) กับข้อสอบอัตนัยแบบเติมตัวเลข

มาเป็นข้อสอบแบบเขียนเรียงความเรื่องอะไรก็ได้ที่อยากจะเขียนก็จะดีมาก

บางวิชาแต่ละเรื่องที่เคยเรียนจากในโรงเรียนมาใช้ในการสอบไม่ได้เลย

ชอบออกนอกหลักสูตรประจำ

1
กำลังโหลด
กำลังโหลด
blue_99 Member 29 มิ.ย. 58 22:53 น. 3

ไม่ดีมั้ง ขนาดสมัยเราเรียนโรงเรียนม.ปลาย ยังแยกข้อสอบเลย เพราะตอนนั้นเรียนตามคะแนนสอบ ม.สี่ได้อยู่ห้องคิงอยู๋หรอก แต่ ม.ห้า โดนเด้งค่ะ เพราะข้อสอบแบ่งแยกความยากง่ายตาม ระดับห้อง เสียใจ

0
กำลังโหลด
กดเกดเ 30 มิ.ย. 58 00:37 น. 4
มันคือวิชา essay หรือการเขียนเรียงความ ซึ่งมันเป็นปลายเปิดแบบนี้ก็ไม่แปลกหนอก เพราะเขาจะได้ดูการใช้ภาษา การใช้หลักเหตุผล และการเรียบเรียงความคิดของผู้สอบ คนที่จะเขียนได้ดีคือต้องมีกระบวนการทางความคิดระดับหนึ่งอะ
0
กำลังโหลด

ความคิดเห็นนี้ถูกลบเนื่องจาก

ถูกลบโดยทีมงาน เนื่องจากงดตั้งกระทู้วิจัย โครงงาน หรือใช้พื้นที่เว็บบอร์ดเพื่อการส่งการบ้าน เนื่องจากเป็นการรบกวนผู้ใช้บอร์ดท่านอื่นๆ ขออภัยในความไม่สะดวก

กำลังโหลด
กำลังโหลด