ปัญหาโลกแตก! "เมาเครื่อง" ป้องกันได้ แค่ทำตามนี้!

        พี่น้องเชื่อว่าน้องๆ หลายคนน่าจะเคยประสบปัญหา "เมาเครื่องบิน" เมื่อต้องเดินทางไปเรียนต่อต่างประเทศกันใช่มั้ยคะ
        บางคนกังวลถึงขนาดที่ไม่กล้าขึ้นเครื่องบินที่เป็นระยะทางไกลๆ เพราะกลัวเมาเครื่อง พี่น้องก็เป็นค่ะ มันทรมานมากจนเรากลัวว่าถ้าเราติดอยู่บนนั้นเป็นชั่วโมงๆ พร้อมกับอาการเมาเครื่องมันจะนรกขนาดไหน
        วันนี้
พี่น้องเลยมีข้อมูลเกี่ยวกับอาการเมาเครื่องมาฝาก ต่อไปนี้ทุกคนจะได้ไม่กลัวการขึ้นเครื่องบินอีกต่อไป
 

อาการเมาเครื่องเกิดจากอะไร?

        มาเริ่มกันที่สาเหตุกันก่อนค่ะ ตามหลักการทางวิทยาศาสตร์ คนเราจะมี "อุปกรณ์" ที่ช่วยเรื่องการทรงตัวอยู่ในร่างกาย 3 ส่วน ได้แก่ ตา หูชั้นใน และระบบประสาทสัมผัส เจ้า 3 ส่วนนี้จะช่วยกันทำให้ร่างกายเราทรงตัวอยู่ได้ และไม่เกิดอาการวิงเวียน
        แต่เมื่อไรก็ตามที่ส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกายนี้เริ่มทำงานผิดพลาด เช่น เรานั่งอยู่บนเครื่องบิน หูชั้นในรับรู้ได้ว่าเครื่องบินกำลังเอียงซ้ายเอียงขวาอยู่ แต่ตากลับมองไม่เห็นความเคลื่อนไหวนั้น พอสิ่งที่ตาเห็นกับสิ่งที่หูชั้นในรับรู้ไม่สัมพันธ์กัน ร่างกายก็จะ "งง" และเป็นเหตุให้เกิดอาการที่เรียกว่า "เมาเครื่อง" หรือ Motion Sickness (โมชั่น ซิกเนส) นั่นเอง
 

อาการเมาเครื่องเป็นอย่างไร?

        ใครไม่เคยเป็นคงไม่รู้ว่ามันทรมานแค่ไหน แต่พี่น้องจะอธิบายให้ฟังค่ะ
        เริ่มต้นอุณหภูมิในร่างกายเราจะสูงกว่าปกติ ทำให้เรารู้สึกเหมือนเป็นไข้และมีเหงื่อออกมาก ถ้าใครเดินทางไปเมืองหนาวอาจจะไม่สังเกตอาการนี้ของตัวเอง เพราะมันหนาว
        หลังจากนั้นเราจะเริ่มปวดหัว หรือเวียนหัว ถ้ามาถึงขั้นตอนนี้ให้เตรียมตัวเตรียมใจได้เลยค่ะ เพราะขั้นตอนต่อไปทรมานมาก
        เมื่อเราเวียนหัวมากๆ เข้า ร่างกายเราก็จะเริ่มมีปฏิกิริยาตอบสนองด้วยการอาเจียนเอาสิ่งใดก็ตามที่เรากินก่อนขึ้นเครื่องออกไป ข้าวจานละร้อยแปดสิบอาจลงไปอยู่ในถุงกระดาษสีขาวในที่สุด
        แม้อาการเมาเครื่องจะทรมาน แต่มันไม่ได้เป็นอันตรายกับร่างกายขนาดนั้นค่ะ ยกเว้นว่าเราอาเจียนจนเหลือแต่น้ำในกระเพาะ ร่างกายที่ขาดน้ำอาจทำให้เราอ่อนเพลียและเป็นลมได้ (จากประสบการณ์ตรง เป็นลมนี่ทรมานน้อยกว่าอาเจียนจริงๆ)
        หากมาถึงขั้นนี้แล้วควรดื่มน้ำเพื่อทดแทนน้ำที่เสียไป แล้วรีบไปหาหมอดีกว่านะคะ
 

อาการเมาเครื่องแก้ได้อย่างไร?

        ข่าวร้ายก็คืออาการนี้แก้ไม่ได้ค่ะ ถ้าเกิดแล้ว ต้องรอจนกว่าอาการนี้จะหายไปเอง หรือจนกว่าเราจะไปอยู่ในที่ๆ นิ่งแล้ว เช่น ลงจากเครื่องบิน รถ หรือเรือแล้ว พูดง่ายๆ ว่าถ้าเมาเครื่องตั้งแต่ต้นทาง ก็ต้องทนจนกว่าจะถึงปลายทางเลยค่ะ
        (แต่พี่น้องก็มีข้อแนะนำสำหรับคนที่เมาเรือนะคะ พี่น้องเคยไปดำน้ำแล้วเมาเรือ เลยไปดำน้ำรอบ 2 ไม่ไหว เจ้าหน้าที่แนะนำว่าระหว่างที่ทุกคนดำน้ำรอบ 2 ให้คนที่เมาเรือลงไปลอยคอในน้ำจะดีกว่า ซึ่งก็ดีกว่าจริงๆ ค่ะ แม้ในน้ำจะโคลงเคลง แต่เรากลับไม่รู้สึกมึนเท่านั่งอยู่บนเรือ)
        นอกจากนี้ก็มีวิธีการ "บรรเทาอาการ" ไม่ให้มันเป็นหนักกว่าเดิม นั่นคือ
  • กินแครกเกอร์แผ่นรองท้อง
  • หาอากาศบริสุทธิ์แล้วสูดเข้าไปให้เต็มปอด (ใครอยู่บนเครื่องบินคงใช้วิธีนี้ไม่ได้)
  • นอนราบ แล้วทำหัวให้นิ่งที่สุด อย่าขยับซ้ายขยับขวามากๆ
  • ถ้านั่งติดหน้าต่าง ให้มองออกไปที่เส้นขอบฟ้า หรือหาจุดๆ หนึ่งที่เราจะโฟกัสได้ อย่าวอกแวก เบนสายตาไปมา
  • จิบน้ำอัดลมหรือน้ำจำพวก refreshment เบาๆ (อย่าซัดโฮกนะคะ)
        ทั้งนี้ทั้งนั้น วิธีเหล่านี้อาจจะช่วยบรรเทาอาการได้ก็จริง แต่พี่น้องว่าทางที่ดีที่สุด เรามาป้องกันไม่ให้มันเกิดตั้งแต่แรกดีกว่าค่ะ จะได้ไม่เป็นภาระคนนั่งข้าง
 

อาการเมาเครื่องป้องกันได้!

        วิธีสามัญที่คนส่วนใหญ่ใช้กันคงเป็นการกินยาที่มีส่วนประกอบของสาร Dimenhydrinate ซึ่งหาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไป ไม่ได้เป็นยาอันตรายอะไร กินแค่เม็ดเดียวก่อนขึ้นเครื่องประมาณ 30 นาทีค่ะ
        แต่ยานี้ก็มีข้อเสียคือ ทำให้ง่วง (หรือเพราะทำให้เราง่วงจนหลับ เราเลยไม่เมาเครื่องก็ไม่รู้) จึงไม่เหมาะกับการเดินทางระยะสั้น ที่พอไปถึงที่หมายแล้วก็ต้องเที่ยวต่อ อาจทำให้เราเพลียจากผลข้างเคียงของยาได้
        ถ้าเราไม่อยากใช้ยาตัวนี้ พี่น้องก็มีวิธีปรับตัวเองเพื่อป้องกันอาการเมาเครื่องค่ะ
  • กินอาหารก่อนขึ้นเครื่องแค่พอดีๆ ไม่เยอะไป ไม่น้อยไป แต่ต้องมีอาหารในท้องเล็กน้อยนะคะ
  • อย่าดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก่อนขึ้นเครื่อง
  • หลีกเลี่ยงสิ่งที่มีกลิ่นแรง
  • หลีกเลี่ยงอาหารรสจัด
  • พักผ่อนให้เพียงพอก่อนขึ้นเครื่อง
        ทำทั้งหมดนี้ได้ก็น่าจะช่วยป้องกันอาการเมาเครื่องได้เกือบร้อยเปอร์เซ็นต์แล้ว แต่ถ้ายังไม่ชัวร์อีก พี่น้องก็มีภูมิปัญญาชาวบ้านที่ต่างประเทศเขาฮิตกัน เช่น ใช้ออยล์กลิ่นสมุนไพรหรือดอกไม้อย่าง เปปเปอร์มิ้นท์, ลาเวนเดอร์, จิงเจอร์ (ข่า) ทาที่หลังใบหูหรือเอามาดมสดๆ เป็นยาดม เขาว่าจะช่วยป้องกันไม่ให้เมาเครื่องได้

flemingmedical.ie
 
        นอกจากนี้ยังมีการใช้เจ้าแถบแปะข้อมือที่ช่วยส่งกระแสไฟฟ้าไปกั้นไม่ให้สมองส่งสัญญาณมาสั่งให้กระเพาะขย้อนอาหารออกไปด้วยนะ แต่เท่าที่พี่หาข้อมูลมา พี่ก็ไม่ชัวร์เหมือนกันว่าเจ้าแถบแปะนี้มันช่วยได้มากแค่ไหน ใครเคยใช้ก็มาบอกเล่าประสบการณ์กันดู
 

น้องๆ คนไหนที่มีเทคนิคการป้องกันหรือแก้ปัญหาอาการเมาเครื่อง
ก็มาโพสต์บอกเพื่อนๆ ไว้ที่ใต้บทความนี้ได้เลยนะคะ!
(พี่น้องจะได้ขอยืมไปใช้ด้วย)

ขอบคุณข้อมูลจาก
webmd.com
พี่น้อง
พี่น้อง - Columnist คอลัมนิสต์

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

พลอยนิล-อะเมะยูคิ Member 14 พ.ค. 59 00:46 น. 1

เมาแอร์รถค่ะ ถ้านั่งห่างแอร์จะไม่เมา ตอนแรกคิดว่าเมารถ แต่ไม่ใช่ อาจจะมีคนเป็นเหมือนกัน ลองทำดูนะคะ เผื่อช่วยได้

1
กำลังโหลด
Missy Luna Member 14 พ.ค. 59 16:39 น. 2

เราเป็นคนที่เมารถอย่างหนักค่ะ เพิ่งมารู้ตัวเอาตอนไม่นานนี้ คือเมื่อก่อนก็นั่งรถได้ปกติ ไม่มีอาการอะไร แต่ช่วงปีสองปีที่ผ่านมา เริ่มมีอาการมึนหัวเกือบทุกครั้งเวลานั่งรถ มารู้ตัวเอาจริงก็ตอนไปงานหนังสือครั้งที่ผ่านมาค่ะ คือนั่งแท็กซี่ไปแล้วก็เข้าใจว่ารถมันติด ก็ต้องขับๆเบรคๆไปด้วย เราเลยเริ่มเกิดอาการมึนหัว สักพักเริ่มคลื่นไส้ กลายเป็นว่าตอนนั่งแท็กซี่นี้แทบไม่แบบปากเลย กลัวอ้วกพุ่ง5555 ลงแท็กซี่ปุ๊บก็ไปต่อmrt อนาถตัวเองมากเพราะพอขึ้นไปซักพักเริ่มปวดหัวอีกรอบ แล้วเรายืนด้วย เป็นช่วงเวลาที่ทรมาณมากกกกกก สงสัยเพราะเรายืนคนละทิศกับทิศที่รถเคลื่อนละมั้ง

บ่นซะยาวเลยเรา อันนี้ขอแชร์วิธีของเราบ้างนะคะ

1.เลือกได้ให้นั่งเบาะหน้าหรือใกล้หน้าต่าง จะได้มองวิวไกลๆ อาการมึนจะลดลง(อันนี้สำหรับเรา แต่ไม่รู้ว่าคนอื่นมีผลรึเปล่า)

2.กินยาได้ก็กินเหอะค่ะ ดีกว่าไปนั่งทนทุกข์ทรมาณเป็นชั่วโมงๆ หลับได้ยิ่งดี5555

3.พยายามอย่าหันหน้าไปมาบ่อยๆ เพราะซักพักจะเริ่มเมา

4.เลือกได้อย่านั่งแท็กซี่ค่ะ นั่งทีไรเราเมาตลอด;____;

5.พยายามอย่าใส่หูฟัง เพราะใส่ไปซักพักหูจะอื้อ แล้วความบรรลัยจะตามมาทันที อันนี้ไม่รู้ว่าคนอื่นเป็นรึเปล่านะุ

6.อย่าคิดที่จะอ่านหนังสือหรือเล่นโทรศัพท์เชียว เพราะหลังจากนั้นซักพักอาการจะตามมาค่ะ

1
กำลังโหลด
รจนา 24 ก.ค. 61 11:44 น. 5

เมาตั้งแต่เด็กจนถึงทุกวันนี้ดีขึ้นเยอะค่ะ ผ่านสนามรบมาเยอะ จนแก้ปัญหาได้


-ห้ามทานนมเด็ดขาด

-ห้ามทานอาหารรสหวานเด็ดขาด

-ห้ามทานเยอะ พอดี อย่าหนัก แค่บิสกิส แคร็กเกอร์. ก็พอกับน้ำ แล้วไปทานต่อตอนถึงจุดหมายอดทนแม้หิว ดีกว่าทรมานตอนเมา เราเจอมาแล้ว

-ห้ามเล่นโทรศัพท์

-ห้ามใช้หูฟัง

-นั่งนิ่ง หลังตรง หายใจลึกๆ ตลอดการเดินทาง

-ใช้สำลีชุบยาหม่อง ติดไว้สะดือ

-ซื้อแผ่นปิดข้างหูตามร้านขายยา

-ทานยาแก้เมาเม็ดสีเหลืองแผงละ10฿ มี10-12เม็ด ก่อนเดินทาง 30นาที-1ชม. ทานทุก4ชม. ให้มันง่วงแล้วหลับบนเครื่องเลย(ดีที่สุดกินยาห้ามลืม)



เราซื้อติดเป็นแผงๆไปต่างประเทศ อย่าทานเยอะนะคะ ค่อยไปทานต่อเมื่อถึงจุดหมาย นั่งนิ่งๆ เราเมามาหมดแล้ว ตอนนี้ไปไหนสบายค้ะ ค้นพบหนทางเอาชีวิตรอด มา25ปี ทรมาน!


0
กำลังโหลด

5 ความคิดเห็น

พลอยนิล-อะเมะยูคิ Member 14 พ.ค. 59 00:46 น. 1

เมาแอร์รถค่ะ ถ้านั่งห่างแอร์จะไม่เมา ตอนแรกคิดว่าเมารถ แต่ไม่ใช่ อาจจะมีคนเป็นเหมือนกัน ลองทำดูนะคะ เผื่อช่วยได้

1
กำลังโหลด
Missy Luna Member 14 พ.ค. 59 16:39 น. 2

เราเป็นคนที่เมารถอย่างหนักค่ะ เพิ่งมารู้ตัวเอาตอนไม่นานนี้ คือเมื่อก่อนก็นั่งรถได้ปกติ ไม่มีอาการอะไร แต่ช่วงปีสองปีที่ผ่านมา เริ่มมีอาการมึนหัวเกือบทุกครั้งเวลานั่งรถ มารู้ตัวเอาจริงก็ตอนไปงานหนังสือครั้งที่ผ่านมาค่ะ คือนั่งแท็กซี่ไปแล้วก็เข้าใจว่ารถมันติด ก็ต้องขับๆเบรคๆไปด้วย เราเลยเริ่มเกิดอาการมึนหัว สักพักเริ่มคลื่นไส้ กลายเป็นว่าตอนนั่งแท็กซี่นี้แทบไม่แบบปากเลย กลัวอ้วกพุ่ง5555 ลงแท็กซี่ปุ๊บก็ไปต่อmrt อนาถตัวเองมากเพราะพอขึ้นไปซักพักเริ่มปวดหัวอีกรอบ แล้วเรายืนด้วย เป็นช่วงเวลาที่ทรมาณมากกกกกก สงสัยเพราะเรายืนคนละทิศกับทิศที่รถเคลื่อนละมั้ง

บ่นซะยาวเลยเรา อันนี้ขอแชร์วิธีของเราบ้างนะคะ

1.เลือกได้ให้นั่งเบาะหน้าหรือใกล้หน้าต่าง จะได้มองวิวไกลๆ อาการมึนจะลดลง(อันนี้สำหรับเรา แต่ไม่รู้ว่าคนอื่นมีผลรึเปล่า)

2.กินยาได้ก็กินเหอะค่ะ ดีกว่าไปนั่งทนทุกข์ทรมาณเป็นชั่วโมงๆ หลับได้ยิ่งดี5555

3.พยายามอย่าหันหน้าไปมาบ่อยๆ เพราะซักพักจะเริ่มเมา

4.เลือกได้อย่านั่งแท็กซี่ค่ะ นั่งทีไรเราเมาตลอด;____;

5.พยายามอย่าใส่หูฟัง เพราะใส่ไปซักพักหูจะอื้อ แล้วความบรรลัยจะตามมาทันที อันนี้ไม่รู้ว่าคนอื่นเป็นรึเปล่านะุ

6.อย่าคิดที่จะอ่านหนังสือหรือเล่นโทรศัพท์เชียว เพราะหลังจากนั้นซักพักอาการจะตามมาค่ะ

1
กำลังโหลด
ttt 19 พ.ค. 59 22:53 น. 3
เมามันทุกรถเลยค่ะ ตั้งแต่เด็ก ขนาดนั่งรถสองแถวที่ลมโกรกยังสามารถเมาได้อ่ะ แต่ถ้าได้นั่งตรงที่แอร์เย็นๆเป่าหน้าอ่ะ มันจะดีขึ้นนิดนึง ถ้ารถแอร์ไม่แรงนี่แทบแย่ แล้วยิ่งพวกรถตู้รถแท็กซี่ที่มีกลิ่นอับนี่แทบตาย เสียใจเสียใจเสียใจ
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
รจนา 24 ก.ค. 61 11:44 น. 5

เมาตั้งแต่เด็กจนถึงทุกวันนี้ดีขึ้นเยอะค่ะ ผ่านสนามรบมาเยอะ จนแก้ปัญหาได้


-ห้ามทานนมเด็ดขาด

-ห้ามทานอาหารรสหวานเด็ดขาด

-ห้ามทานเยอะ พอดี อย่าหนัก แค่บิสกิส แคร็กเกอร์. ก็พอกับน้ำ แล้วไปทานต่อตอนถึงจุดหมายอดทนแม้หิว ดีกว่าทรมานตอนเมา เราเจอมาแล้ว

-ห้ามเล่นโทรศัพท์

-ห้ามใช้หูฟัง

-นั่งนิ่ง หลังตรง หายใจลึกๆ ตลอดการเดินทาง

-ใช้สำลีชุบยาหม่อง ติดไว้สะดือ

-ซื้อแผ่นปิดข้างหูตามร้านขายยา

-ทานยาแก้เมาเม็ดสีเหลืองแผงละ10฿ มี10-12เม็ด ก่อนเดินทาง 30นาที-1ชม. ทานทุก4ชม. ให้มันง่วงแล้วหลับบนเครื่องเลย(ดีที่สุดกินยาห้ามลืม)



เราซื้อติดเป็นแผงๆไปต่างประเทศ อย่าทานเยอะนะคะ ค่อยไปทานต่อเมื่อถึงจุดหมาย นั่งนิ่งๆ เราเมามาหมดแล้ว ตอนนี้ไปไหนสบายค้ะ ค้นพบหนทางเอาชีวิตรอด มา25ปี ทรมาน!


0
กำลังโหลด
กำลังโหลด