เล่าชีวิตปริญญาโทนักศึกษาการโรงแรมในสวิส + ฝึกงานสุดโหดแต่มันส์ที่อาหรับเอมิเรตส์!

     เราเป็นคนชอบภาษาอังกฤษตั้งแต่เด็กๆ จะเด่นภาษาอังกฤษมาก และตั้งใจว่าจบปริญญาตรีแล้วจะไปเรียนโทที่เมืองนอก ตอนแรกสมัครมหาวิทยาลัยในอังกฤษไว้หลายที่ แต่ก็เปลี่ยนใจมาสวิสแทน เพราะตอนมัธยมปลาย เราเคยไปแลกเปลี่ยนที่สวิส อยู่กับโฮสต์ซึ่งใจดีมากและสนิทกับเรามาก ติดต่อกันตลอด โฮสต์ก็ชวนให้มาเรียนต่อสวิส พ่อแม่ก็โอเคเพราะจะได้หายห่วงว่ามีคนช่วยดูแลเราได้ เลยลองหาข้อมูลว่า ถ้าไปเรียนสวิสก็ต้องเรียนการโรงแรมสิ สุดท้ายมาเรียนที่นี่ตอนต้นปี 2016

 

     บอกเลยว่าการเรียนปริญญาโทด้านนี้ เป็นการเรียนที่ปฏิบัติเยอะมากกกกก ใครที่คิดว่าจะมีแต่ทฤษฎี บอกเลยว่าไม่ใช่นะคะ มีเรียนเสิร์ฟ เรียนเรื่องอาหารและเครื่องดื่ม มีให้สร้างคิดคอนเซ็ปต์ร้านอาหารจำลองเองด้วย ตอนนั้นคือจริงจังมาก ในกลุ่มก็แบ่งหน้าที่กัน ของเราดูเรื่องการดีไซน์ตกแต่ง ต้องไปขอคำปรึกษาจากเพื่อนที่เรียนสถาปัตย์เลยนะ กลุ่มเราทำเป็นร้านอาหารแบบ Fusion Food ระหว่างไทยและอิตาเลียน เมนูก็เช่น Ravioli มันจะเป็นเกี๊ยวอิตาลี เราเอามาดัดแปลงไส้เป็นไส้คั่วกลิ้งอะไรแบบนี้แทน จำได้ว่าตอนออกไปพรีเซนต์คือตลกมากกกก เราจำลองบรรยากาศให้ดูไทยๆ ก่อน ไปซื้อผงชานมมาชงกัน แล้วไม่มีที่กรอง เลยเอาถุงน่อง(ที่ยังไม่ได้ใช้นะ 5555 รับรองว่าสะอาด) มาใช้แทน ฮากันทั้งห้องเลย ขำมากๆ

cr: pixabay.com
 

     อีกงานที่ทำคือ อาจารย์ให้คิดคอนเซ็ปต์ของโรงแรม ที่เราทำส่งไปเป็น Small Boutique อยู่ที่เมืองคาปรี อิตาลี เป็นที่พักที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม เช่น ขอความร่วมมือแขกไม่เปลี่ยนผ้าเช็ดตัวทุกวัน เพราะซักบ่อยๆ มันก็จะมีน้ำเสียทำลายธรรมชาติ จำได้ว่าต้องทำเว็บด้วย แล้วเราเขียน HTML ไม่เป็น ยากมาก เครียดมาก คือทุกอย่างต้องลงมือทำจริง ออกแบบจริง ยกเว้นไม่ต้องสร้างโรงแรมของจริงแค่นั้นแหละ 5555555

หนึ่งในชิ้นงานที่ทำส่งอาจารย์

      หลังเรียนจบเทอม 2 ต้องออกไปฝึกงาน เราได้ออฟเฟอร์จากโรงแรมแชงกรีล่าที่อาบูดาบี อาหรับเอมิเรตส์ ได้ไปฝึกในห้องอาหาร ซึ่งแขกส่วนมากที่นั่นจะเป็นคน Local หรืออาหรับเลย บอกเลยว่าเหนื่อยมากกกกกกกก คือแขกบางคนไม่รู้เป็นอะไร กินแบบว่าทุกอย่างกระจายลงบนพื้น อาหารเลอะทุกที่ยกเว้นในจาน  ช้อนส้อมหล่นหมด งงมาก ทำความสะอาดทีคือปวดหลังไปหมด พีคสุดคือเราเคยทำงาน 14 วันไม่ได้พักเลย เหนื่อยมากจริงๆ แต่ข้อดีคือได้เจอแขกน่ารัก บางคนพักที่โรงแรมยาวเป็นอาทิตย์ เราได้เจอเค้าทุกวัน ได้คุยกัน บางคนเค้าก็เอ็นดูเรา ให้นามบัตร แนะนำงานให้ว่าให้สมัครมาทำงานกับเค้าได้เลย เราเองก็ดีใจมากที่มีคนเห็นความสามารถของเรา

      ที่พีคกว่าคือว่า เวลาคนอาหรับแต่งงาน เค้าจะมีการจัดงานแยกวันกัน วันหนึ่งสำหรับเจ้าบ่าว อีกวันสำหรับเจ้าสาว วันของเจ้าสาวเค้าเรียกว่า Lady Function จะมีแต่เจ้าสาวและญาติกับเพื่อนฝ่ายหญิงเท่านั้น ผู้ชายห้ามเข้า! สต๊าฟที่มาดูแลแขกก็ต้องมีแต่ผู้หญิง ทุกคนมาแบบจัดเต็ม หน้าแน่น แต่งตัวเริดมาก แล้ววันนั้นเมเนเจอร์เรียกเราเข้าไปคุยแล้วบอกว่า งานนี้จะให้เธอเป็นเมเนเจอร์คุมงานแทน!!! คือตกใจมากกกกเพราะเราต้องบริหารงานวันนั้นเอง เครียดเหมือนกัน เพราะคนอาหรับจะค่อนข้างดุ สุดท้ายก็คุมงานจนผ่านไปได้ ประทับใจและภูมิใจมาก พูดตรงๆ คือเราไม่ใช่ลูกคุณหนูนะ แต่ก็ไม่คิดว่าเราจะทำงานนี้จนผ่านไปได้ด้วยดี เลยจำได้ไม่ลืม ไม่คิดว่าเราจะบริการคนอื่นได้ขนาดนี้

 

     ตอนนี้เราเรียนเทอม 3 แล้ว เรียน 6 วิชา เน้นทฤษฎีค่ะ เช่น การจัดการการตลาด การจัดการทรัพยากรมนุษย์ เศรษฐศาสตร์ธุรกิจ การบัญชี ที่พีคคือวิชารีสอร์ตและการท่องเที่ยว วิชานี้ให้สร้างคอนเซ็ปต์รีสอร์ทด้วย กำลังทำอยู่เลย เราทำเป็น Glamping มาจาก Camping+Glamour คือเป็นแคมปิ้งแต่มีความหรู อารมณ์ฮิปสเตอร์แบบมีเงิน 55555 คอนเซ็ปต์คืออยู่ที่เกาะใต้ นิวซีแลนด์ เป็นการมาตั้งแคมป์แบบเก๋ๆ ทำกิจกรรมเอาท์ดอร์แล้วถ่ายรูปสวยๆ

     สำหรับการเรียนการโรงแรม หลายคนอาจมองว่าหรู หลายคนอาจมองว่าสนุก แต่บางทีก็เครียดมากจนจิตตก อย่างที่นี่มีเทอมละแค่ 11 วีค แป๊บๆ หมดเทอม ยังทำงานส่งไม่ทันเลยอะ 55555 บางงานส่งพร้อมกันอีก มีสอบด้วย แต่มันก็ทำให้เรามีวินัยในตัวเอง ได้ทำงานกับเพื่อนเป็นกลุ่มเป็นทีมเวิร์ค ถือว่าได้ฝึกตัวเองเยอะมากๆ ใครสนใจก็อยากให้ลองมาเรียนกันดูค่ะ^^ 

 
    

     อื้อหือ ยอมใจในความเก่งและสวยแซบที่แท้จริง (สีผิวสวยมากกกกก) ใครคิดว่าเรียนการโรงแรมจะสบาย คงต้องคิดใหม่แล้วล่ะ เพราะต้องออกไปฝึกงานที่ได้ฝึกความอดทนขั้นเซียน แต่ก็ทำให้ได้ประสบการณ์ที่ดีและเยอะมากๆ ขอปรบมือให้เลย! ส่วนใครมีประสบการณ์เด็กนอกสนุกๆ อยากแบ่งปันแบบนี้บ้าง ก็เขียนส่งมาได้ที่ pay@dek-d.com เดี๋ยวนำมาลงให้แน่นอนจ้า

SPONSORED BY