สวัสดีค่ะน้องๆ ชาว Dek-D.com ... ถ้าพูดถึงหลักสูตรการเรียนการสอนในแต่ละประเทศ น้องๆ คงทราบดีว่าแต่ละประเทศก็มีสาขาวิชาที่ขึ้นชื่อต่างกันไป เช่น ถ้าอยากเรียนวิศวะหรือวิทยาศาสตร์ ไปประเทศเยอรมนีก็ถือว่าดีงามสุดๆ และหากพูดถึง "สวิตเซอร์แลนด์" เชื่อว่าแว้บแรกหลายคนก็คงนึกถึง "การโรงแรม" เหมือนพี่แน่ๆ เลยใช่มั้ยคะ
เมื่อไม่นานมานี้ ทางเว็บไซต์เด็กดีดอทคอมของเราก็ได้รับโอกาสดีมากๆ จากทาง Swiss Education Group ที่ได้เชิญให้ไปชมสถาบันการศึกษาด้านการโรงแรมถึงประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และมีสิ่งหนึ่งที่ พี่เป้ ประทับใจมากๆๆ จนอดนำมาเล่าต่อไม่ได้ คือ "บรรยากาศการเรียนในครัว" ซึ่งถือว่าเป็นไฮไลต์เด็ดเลยค่ะ
ขอเริ่มต้นด้วยการแนะนำสถาบันกันก่อนค่ะ สถาบันที่จะพาน้องๆ ไปทำความรู้จักกันก็คือ César Ritz Colleges โดยมีถึง 3 วิทยาเขตด้วยกัน ได้แก่ วิทยาเขตเลอบูเวอเรต์ วิทยาเขตลูเซิร์น และวิทยาเขตบริก ในระดับปริญญาตรีเปิดสอน 2 สาขา ได้แก่ Bachelor of International Business in Hotel and Tourism Management และ Bachelor of Arts in Hospitality Businesss Management
ที่พี่ไปวันนั้นคือที่วิทยาเขตเลอบูเวอเรต์ ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากพรมแดนสวิส-ฝรั่งเศส ว่ากันว่าที่ César Ritz Colleges เค้าเด่นเรื่องครัวมากๆ เรียกว่าเป็นสถาบันที่รวมว่าที่เชฟชื่อดังในอนาคตเลยก็ว่าได้! เพราะหลักสูตรที่นี่เค้าขึ้นชื่อเรื่องศิลปะการทำอาหารมากๆ เลยค่ะ
พี่ไปถึงที่นั่นในช่วงบ่ายแก่ๆ พอดี โชคดีมากๆ ที่ไปตรงกับช่วงเวลาที่กำลังมีคลาสเรียนที่น่าสนใจมากค่ะ โดยจะเป็นวิชาที่นักศึกษาปี 1 และ นักศึกษาปี 2 ต้องมาเรียนและทำงานร่วมกัน พูดง่ายๆ คือ ปี 1 ออกไปดูแลและเสิร์ฟแขกในห้องอาหาร ส่วนปี 2 มีหน้าที่เป็นเชฟในครัวนั่นเอง! โอ้โห แค่ฟังยังตื่นเต้นเลยอะ
ส่วนห้องอาหารที่ว่าก็ไม่ใช่ห้องอะไรที่ไหนค่ะ เป็นห้องอาหารจริงๆ ของนักศึกษาที่นั่น (คือหรูเกินจะเรียกว่าโรงอาหาร สมกับเป็นสถาบันสอนการโรงแรม 55555) โดยนักศึกษาจะใช้ห้องนี้เป็นที่ทานอาหารเช้า กลางวัน และเย็น ถ้าวันไหนมีคลาสที่ทำการเรียนการสอนที่ต้องทำอาหารจริงๆ ยกออกมาบริการให้ทานกันจริงๆ ในห้องอาหารนี้ ทางสถาบันก็จะมีติดประกาศบอกไว้ นักศึกษาคนไหนอยากเล่นบทบาทสมมติเป็นลูกค้าในโรงแรมที่ได้ทานอาหารจริงๆ ก็สามารถลงชื่อจองที่นั่งได้ค่ะ (ได้ยินว่าถ้าตรงกับช่วงสอบก็แทบไม่มีใครมาลงชื่อเลย เพราะไปอ่านหนังสือกันหมด อาจารย์ต้องกวักมือเรียกให้ชวนๆ กันมาช่วยกิน ฮ่าๆ) และแน่นอนว่า พี่เองก็ได้รับบทบาทนี้ในวันนั้นเหมือนกัน โอ๊ย ฟินล่วงหน้า!!
พี่ได้มีโอกาสเข้าไปในครัว เห็นบรรยากาศการทำงานจริงๆ Real มากกกกกก คือตื่นเต้นมากๆ ค่ะ ใจนึงก็กลัวจะไปเกะกะเค้า อีกใจก็อยากรู้เหลือเกินว่าน้องๆ เค้าทำอะไรกันบ้าง ยกมือถือถ่ายไป ก็มือสั่นรัวๆ ทำไมต้องตื่นเต้นขนาดนั้นก็ไม่เข้าใจตัวเองจริงๆ 55555
น้องๆ ที่ใส่ชุดเชฟคือนักศึกษาปี 2 ค่ะ กลุ่มนี้มีประมาณ 10 คน และทุกๆ ครั้งที่เรียนวิชานี้ จะต้องมีคนผลัดกันทำหน้าที่เป็น Head Chef คือคนที่คอยคุมเชฟทั้งหมดอีกที สำหรับ Head Chef วันนี้ก็คือน้องผู้หญิงในภาพนั่นเอง เพื่อนๆ คนอื่นก็ต้องรับฟังคำสั่งจากน้องคนนี้อีกทีค่ะ
เวลาที่ Head Chef นำออเดอร์ที่ได้มาตะโกนบอก เชฟคนอื่นๆ จะต้องมีการตะโกนขานรับคำสั่งว่า Yes Chef! ด้วยนะคะ ตอนได้ยินรู้สึกเท่มากและพร้อมเพรียงมากอะ
ส่วนเด็กปี 1 จะมีหน้าที่คอยดูแลแขกในห้องอาหาร รับออเดอร์ นำเข้ามาบอก Head Chef เมื่ออาหารเสร็จก็ต้องเตรียมช้อนส้อมมีดแล้วนำออกไปเสิร์ฟที่ด้านนอก อย่างในภาพด้านล่าง น้องคนขวาก็คือนักศึกษาปี 1 นั่นเองค่ะ เป็นอะไรที่ดูเป็นทีมเวิร์กมากๆ เลยเนาะ
สงสัยล่ะสิว่าวันนี้มีเมนูอะไรบ้าง เอ๊ะ เราจะได้กินอะไรบ้างนะ >_< ลองดูจากเมนูข้างล่างเลยค่ะ ซึ่งคนที่ทานเสร็จแล้วจะต้องให้คะแนนประเมินด้วยนะคะ
อ่านแล้วแอบสะดุดตรงเมนูของหวาน Rhubarb Cheesecake?? อะไรคือ Rhubarb เหรอ? น้องๆ เค้าเลยช่วยอธิบายว่า รูบาร์บมันจะกึ่งผักกึ่งผลไม้ แต่หลายคนมองว่าเป็นผลไม้มากกว่าเพราะมีรสเปรี้ยว นิยมนำมาทำเป็นของหวานโดยเฉพาะแยม
เดินถ่ายรูปไปมา เอาล่ะ อาหารก็พร้อมเสิร์ฟแล้วจ้า มาดูหน้าตาอาหารกันดีกว่าว่าจะน่าทานแค่ไหน แต่ระดับเด็กการโรงแรมซะอย่าง เชื่อมืออยู่แล้ว!
เริ่มที่จานแรกคือ Amuse-bouche เป็นอาหารเรียกน้ำย่อยค่ะ เมนูนี้ชื่อ Buffalo Lolliop Chicken เป็นไก่ทอดชิ้นพอดีคำ อร่อยมากกกกกกกกก ไม่อยากให้เป็นแค่อาหารเรียกน้ำย่อยเลยค่ะ ช่วยไปเอาแบบนี้มาอีก 2 จานได้มั้ยคะ พี่ไหว้ล่ะ
ต่อด้วยเมนูเรียกน้ำย่อยอีกจาน คือ Octopus Tentacles หรือหนวดปลาหมึกนั่นเองค่ะ ข้างบนว่าอร่อยแล้ว อันนี้ก็อร่อยไม่แพ้ไก่ข้างบน ยอมแล้วจ้า
สองจานผ่านไป เรียกน้ำย่อยกันจนน้ำย่อยออกมากองเต็มพื้นแล้ว ทีนี้ก็ถึงเวลาเมนูหลักซะที เย่! ความเก๋คือว่า ก่อนจะลงมือทานเมนูหลัก จะมีเชฟมาแนะนำว่าเมนูหลักคืออะไร และเชฟที่ว่าก็ไม่ใช่ใครที่ไหนค่ะ เป็นนักศึกษาปี 2 นั่นเองแถมเป็นน้องคนไทยด้วย!
"น้องแอล" มาแนะนำเมนูหลักให้ฟังกันว่า Slow-Cooked Beef Cheek เป็นส่วนแก้มของวัวผสมไวน์แดงนั่นเองค่ะ พูดจาฉะฉานอธิบายภาษาอังกฤษคล่องมาก แอบปรบมือในใจเลยว่าเด็กไทยเรานี่เก่งจริงๆ
พอได้ลองจิ้มเข้าปาก บอกเลยว่าเนื้อนุ่มมากกกกกกก พี่ชอบทานเนื้อวัวอยู่แล้ว ถือว่าบรรลุเลยค่ะ รู้สึกเหมือนมีออร่าพุ่งออกจากปากเลยอะ อร่อยแค่ไหนไม่ต้องพูดถึง เอาไปสิบสิบสิบเลยจ้า! และถ้าให้พี่คะแนนตามความเห็นส่วนตัว พี่ชอบทุกจานเลย แต่แอบเทใจให้ปลาหมึกมากกว่าจานอื่นนิดนึงนะ อิอิ
เมื่อทานของคาวอิ่มแล้ว ก็จะมีน้องปี 1 เข้ามาเก็บโต๊ะค่ะ โดยวันนี้น้องปี 1 ที่มาดูแลโต๊ะที่พี่นั่งเป็นน้องคนไทยเช่นกัน ชื่อว่า "น้องเมเม" ที่ตั้งใจมาเรียนการโรงแรมถึงสวิตเซอร์แลนด์เพื่อกลับไปช่วยงานที่บ้านค่ะ
แอบเห็นในมือน้องมีโพยด้วย 555555 เลยขอดูซะหน่อย น้องบอกว่าต้องจดเอาไว้และจำให้ได้ว่าเมนูไหนชื่ออะไร เผื่อแขกถาม จะต้องตอบให้ได้ค่ะ
เอาล่ะ กินของคาวอิ่มแล้ว แอบหันกลับไปมองในครัว น้องๆ เริ่มเตรียมของหวานใกล้จะเสร็จแล้วล่ะ ขอชิมหน่อยว่าเจ้ารูบาร์บที่ว่ามันจะเป็นยังไงนะ
รูบาร์บค่อนข้างเปรี้ยวมากค่ะ กินแล้วรับรู้ได้เลยว่ามีวิตามินซีพุ่งเข้าร่างกายแบบเต็มที่มากๆ ตัดกับรสหวานของชีสเค้กได้ดีเลยค่ะ ฟินดีจริงๆ
กินของหวานจนอิ่ม หันไปมองอีกที น้องๆ เค้าก็กำลังเก็บกวาดครัวกันอยู่พอดีค่ะ ถือว่าโชคดีจริงๆ ที่ได้มาเห็น Process ตั้งแต่ต้นจนจบเลยว่า กว่าจะออกมาเป็นอาหารหนึ่งมื้อให้ลูกค้าได้ทานกัน คนในครัวเค้าต้องทำอะไรบ้าง เรียกว่าเป็นการเรียนที่ได้ลงมือทำงานของจริงเลยก็ว่าได้ :)
สรุปวันนั้นเป็นอะไรที่อิ่มอกอิ่มใจมากๆ ประทับใจมากๆ ด้วย ส่วนตัวพี่รู้สึกว่าการเรียนสาขาด้านนี้ต้องเป็นอะไรที่มีใจรักสูงมากๆ แถมต้องมีใจรักการบริการเป็นที่หนึ่ง ขอบคุณน้องๆ มากเลย วันนั้นน่าจะเป็นวันพี่ได้กินอะไรที่อร่อยมากที่สุดในชีวิตวันหนึ่งเลยก็ว่าได้ค่ะ :)
4 ความคิดเห็น
I want to be a chef <3
สนุกกกก
สนุกกกก