5 เหตุผลดีๆ ทำไมเราควรเลือกไปเรียนต่อที่ ‘ประเทศนิวซีแลนด์’

      สวัสดีค่ะชาว Dek-D มีใครอยากไปเรียนต่อที่ต่างประเทศแต่ยังไม่รู้ว่าจะไปที่ไหนบ้างมั้ยคะ? วันนี้พี่หมิวจะพาน้องๆ ไปดูหนึ่งในประเทศที่เหมาะมากๆ สำหรับการไปเรียนต่อ ทั้งสภาพแวดล้อม ผู้คน วัฒนธรรมและค่าใช้จ่ายที่คุ้มค่ากับการลงทุน ประเทศที่พี่ว่าก็คือประเทศ ‘นิวซีแลนด์’ นั่นเองค่ะ พี่จะมาบอกเหตุผลเจ๋งๆ ว่าทำไมเราควรไปเรียนต่อที่นี่กัน ตามมาดูกันได้เล้ยยยย


1. ธรรมชาติและสภาพแวดล้อมที่สวยงาม  


      ประเทศนิวซีแลนด์แบ่งออกเป็นสองเกาะหลักคือ เกาะเหนือและเกาะใต้ นับว่าเป็นหนึ่งในประเทศที่นักท่องเที่ยวชอบไปมากที่สุดเลยค่ะ เหมาะสำหรับคนรักธรรมชาติที่ต้องการหลบหนีความวุ่นวายจากเมืองใหญ่ 
 

Mount Cook, New Zealand
 

       นิวซีแลนด์มี 4 ฤดูกาล เราสามารถท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปีจากสภาพอากาศที่เย็นสบายในฤดูร้อน และไม่หนาวมากในฤดูหนาว คอนเฟิร์มว่าอากาศสบายสุดๆ ตลอดทั้งปีเลยค่ะ ต้องบอกเลยว่าความเป็นธรรมชาติของประเทศนี้มีอยู่ทุกหย่อมหญ้าเพราะคนที่นี่เค้าให้ความสำคัญเเละใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อมมากจริงๆ ธรรมชาติของเขาสวยจนขนาดที่ว่า ประเทศนิวซีแลนด์ได้เป็นโลเคชันในการถ่ายทำหนังดังหลายเรื่องเลยค่ะ อย่างเช่น 'Narnia' และ 'The Lord Of The Ring' 
 


บ้าน Hobbit

      และสำหรับใครที่เป็นสายชอบความท้าทาย ชอบกิจกรรมผาดโผน นิวซีแลนด์ตอบโจทย์มากๆ ค่ะ เพราะที่นี่เขาจะมีกิจกรรมแบบนี้เยอะมากๆ ทั้งโดดหน้าผา เล่นสกีหิมะ สกีน้ำ เดินป่า รวมไปถึงบันจี้จัมพ์ที่พอเรากระโดดลงไปก็จะเห็นภาพของธรรมชาติที่สวยงาม น้ำตกที่ไหลลงมาตามภูเขา (แต่พี่ขอบายนะคะ ไม่ถูกกับความสูงจริงๆ 555555) กิจกรรมแบบนี้มีให้เลือกเล่นมากมายเลยค่ะ 
 

Waiohine Gorge Road, Dalefield, New Zealand
     
      นอกจากนี้ประเทศนิวซีแลนด์ยังติด Top 10 ประเทศที่ปลอดภัยที่สุดในโลก เเละยังติดอันดับประเทศที่มีความสงบสุขมากที่สุดเป็นอันดับที่ 2 ของโลกเลยค่ะ  เพราะฉะนั้นเราก็ไม่ต้องเป็นกังวลเรื่องความปลอดภัยเลยค่ะ อยู่อย่างสบายๆ หายห่วงแน่นอน พี่ว่าสภาพแวดล้อมของที่นี่เหมาะกับการมาเรียนมากๆ เลย
 
     
      ในส่วนของเรื่องเวลา เวลาของนิวซีแลนด์จะเร็วกว่าที่ไทยประมาณ 5 ชั่วโมง ถ้าเป็นช่วงหน้าหนาวด้วยแล้วล่ะก็ พระอาทิตย์จะตกเร็วมากๆ เลยค่ะ 5 โมงก็มืดมากๆ แล้ว 


2. ผู้คนใจดี


      ‘กีวี่’ คือฉายาที่เอาไว้เรียกแทนคนนิวซีแลนด์ค่ะ โดยจำนวนประชากรทั้งประเทศมีเพียง 4 ล้านกว่าคนเท่านั้น ด้วยความที่คนน้อย ก็เลยทำให้ประเทศไม่แออัด ไม่แย่งกันกินแย่งกันใช้ ระบบการขนส่งสาธารณะก็สะดวกสบาย สามารถรองรับปริมาณคนที่ใช้ได้อย่างดีเลยค่ะ 
 

      ประชากรของประเทศนี้ส่วนใหญ่แล้วสืบเชื้อสายมาจากคนอังกฤษ และมีอีกส่วนที่เป็นชนเผ่าพื้นเมืองของประเทศ จะเรียกคนพวกนี้ว่า 'ชาวเมารี' (Maori) ลักษณะนิสัยของคนที่นี่จะใจดีมากๆ ชอบผูกมิตร ใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย เข้าถึงง่าย รักอิสระ เฟรนด์ลี่สุดๆ เลยค่ะ (แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับแต่ละคนที่เจอด้วยนะคะ) ยิ่งถ้าเขาเห็นเราเป็นคนต่างชาติ เขาก็จะมาชวนคุย เข้ามาช่วยเหลือตลอดเลยค่ะ 
 

      จากประสบการณ์ที่พี่เคยเจอมา คนที่นี่จะไม่ค่อยใช้ของแบรนด์เนมให้เห็นกัน โดยรวมแล้วเขาจะไม่เป็นพวกวัตถุนิยมค่ะ จะเป็นคนง่ายๆ สบายๆ มากกว่า และที่แปลกสุดๆ คือ คนที่นี่ไม่ค่อยชอบใส่รองเท้าออกไปข้างนอกกัน ตอนพี่เจอแรกๆ นี่ก็งงอยู่เหมือนกัน บางคนให้เหตุผลที่ไม่ใส่รองเท้าออกไปข้างนอกว่า เพราะพื้นข้างนอกมันเย็นดี ไม่สกปรก เลยไม่จำเป็นต้องใส่รองเท้าออกไปค่ะ (เก๋เว่อร์)  อีกอย่างคือ คนที่นี่ชอบใช้ชีวิตกลางแจ้งมาก ถ้าเป็นวันหยุด คนนิวซีแลนด์จะพาครอบครัวไปพักผ่อน ปิกนิก เดินป่าหรือไปทะเลกัน พากันไปทำกิจกรรมข้างนอกบ้านค่ะ


3. ระบบการศึกษา


      นิวซีแลนด์เป็นหนึ่งในประเทศที่พูดภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลัก (ภาษาอังกฤษเป็นภาษาแม่) โดยในโลกนี้มีแค่ไม่กี่ประเทศเท่านั้น ได้แก่ ประเทศสหรัฐอเมริกา อังกฤษ แคนาดา ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ เพราะฉะนั้นเรื่องการเรียนไม่ต้องเป็นห่วงเลยค่ะ เพราะเราจะได้เรียนกับเจ้าของภาษาที่เป็น Native Speaker อย่างแท้จริง เเละใช้ภาษาอังกฤษในการเรียนการสอนกันอย่างแน่นอน 
 

      ระบบการศึกษาของประเทศนิวซีแลนด์นั้น หลักสูตรการเรียนการสอนในแต่ละโรงเรียนและมหาวิทยาลัยจะอยู่ภายใต้การควบคุมดูแลจากกระทรวงศึกษาธิการและรัฐบาลอย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ระบบการศึกษาของเขายังใช้ระบบเดียวกับการศึกษาของประเทศอังกฤษอีกด้วยค่ะ 

ระดับประถมศึกษา-มัธยมศึกษา

      นิวซีแลนด์มีโรงเรียนในระดับมัธยมศึกษาอยู่กว่า 400 แห่ง เป็นโรงเรียนของรัฐบาลและเอกชน โดยโรงเรียนมัธยมถูกกำหนดให้มีการสอนไม่น้อยกว่า 190 วัน ต่อปีการศึกษา นักเรียนจะต้องเรียนระดับประถมทั้งหมด 6 ปี และระดับมัธยมทั้งหมด 7 ปี รวมเป็น 13 ปี แล้วจึงสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ 

ระดับมหาวิทยาลัย 

      ประเทศนิวซีแลนด์มีมหาวิทยาลัยทั้งหมด 8 แห่ง ซึ่งทั้งหมดเป็นมหาวิทยาลัยของรัฐบาล มหาวิทยาลัยเหล่านี้จะกระจายอยู่ตามเมืองใหญ่ทั่วประเทศ โดยอยู่ที่เกาะเหนือ 5 แห่ง และเกาะใต้ 3 แห่ง

มหาวิทยาลัยชั้นนำของนิวซีแลนด์

1. University of Auckland
2. University of Otago
3. University of Canterbury
4. Victoria University of Wellington
5. University of Waikato
6. Massey University
7. Lincoln University
8. Auckland University of Technology
 

University of Canterbury, Christchurch, New Zealand
Photo Credit: 
stuff.co.nz


4. ได้สัมผัสความหลากหลายทางวัฒนธรรม


      เราสามารถเเบ่งประชากรของประเทศนี้ออกเป็น 3 เชื้อชาติใหญ่ๆ ค่ะ คือ ชาวยุโรป ชาวเมารี และชาวเอเชียที่มาอยู่ที่นี่ เรียกได้ว่าคนแทบจากทั่วทุกมุมโลกมาอาศัยอยู่ที่นี่ค่ะ ไม่ต้องแปลกใจเลยค่ะถ้าเราเห็นคนหน้าตาเอเชียๆ แต่พูดภาษาอังกฤษได้แบบไฟแลบระดับ Native Speaker (เจ้าของภาษา) เพราะชาวเอเชียบางคนย้ายถิ่นฐานมาอาศัยอยู่ที่นี่จนเป็นพลเมืองนิวซีแลนด์ไปแล้ว 
 

      นอกจากคนหลากหลายเชื้อชาติทั่วโลกที่มาอาศัยอยู่ที่นี่แล้ว นักเรียนจากทั่วโลกก็เข้ามาเรียนที่นี่เหมือนกัน คนอินเดียส่วนใหญ่ชอบมาเรียนต่อที่นี่กันค่ะ นับได้ว่าเป็นประชากรอันดับ 1 เลยที่เลือกเข้ามาเรียนต่อที่นิวซีแลนด์ และด้วยความหลากหลายของคนที่มาเรียนที่นี่ ทำให้เราได้ศึกษาความแตกต่างทางวัฒนธรรมเเละมีเพื่อนที่มาจากหลายที่ทั่วโลก มีความอินเตอร์มากๆ เลยค่ะ 


5. ค่าใช้จ่ายไม่แพง 


      ค่าครองชีพในประเทศนิวซีแลนด์ถือว่าถูกกว่าประเทศอื่นๆ ที่พูดภาษาอังกฤษเป็นภาษาแม่กัน (ค่าเงินตอนนี้คือ 1 NZD = 21 บาทไทย) ทั้งค่าเล่าเรียน ค่าที่พักและค่าอาหารการกินเลยค่ะ แต่ทั้งนี้ถ้าเราไปใช้ชีวิตอยู่ในเมืองหลวง ค่าครองชีพก็จะแพงขึ้นตามไปด้วยค่ะ
     
      และสำหรับใครที่อยากจะมาเรียนที่นี่แต่กลัวไม่มีที่พัก ต้องบอกก่อนเลยว่า ส่วนใหญ่แล้วหอพักนักศึกษาจะอยู่ใกล้ๆ กับมหาวิทยาลัยเลยค่ะ หรือถ้าใครไม่อยากอยู่หอ ที่นี่เขาก็จะมี Host Family ให้เลือกด้วยค่ะ 
 

      นอกจากนี้ ที่นี่ยังอนุญาตให้นักเรียนนักศึกษาสามารถทำงานพาร์ทไทม์ได้ด้วยค่ะ แต่เขาก็มีกฎหมายคุ้มครองในเรื่องพวกนี้อยู่เหมือนกัน อย่างเช่นจำกัดเวลาทำงานพาร์ทไทม์ ว่าควรทำอาทิตย์นึงกี่ชั่วโมง เพื่อไม่ให้เป็นผลเสียต่อตัวเด็กเองเเละกระทบกับการเรียน  

     

     น่าสนใจใช่มั้ยละค่ะน้องๆ บอกเลยว่าที่นี่อากาศดีสุดๆ อีกทั้งบ้านเมืองยังสะอาด ผู้คนก็ดี มีธรรมชาติสวยงามมากมายที่รอเราไปเยี่ยมชมอยู่ คุ้มสุดๆ ถ้าใครกำลังมองหาที่เรียนอยู่ละก็ พี่ว่านิวซีแลนด์ก็เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ดีนะคะ ^^ 
 
Sources:
topuniversities.com
theodysseyonline.com
studyabroad.shiksha.com
goabroad.comindiaeducation.ne
indiaeducation.net
isepstudyabroad.org
gooverseas.com
Photo Credit: Pixabay, Unsplash
พี่หมิว
พี่หมิว - Columnist จบเอกอิ้ง ชอบปิ้งหมูกิน แถมอินกับหนัง ฟังเพลงเสียงดัง หูแตกไปเลยจ้า

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

4 ความคิดเห็น

กำลังโหลด
กำลังโหลด
Noir Member 8 ต.ค. 61 16:30 น. 3

รีวิวจากประสบการณ์ตรงเลยนะคะ ตอนนี้พี่มาเรียนอยู่โอ๊คแลนด์ นิวซีแลนด์ได้ครึ่งปีแล้ว และกำลังจะอยู่ต่ออีกเป็นปี ขออนุญาตแยกเป็นข้อ ๆ


1. ธรรมชาติและสภาพแวดล้อมที่สวยงาม: "...ประเทศนิวซีแลนด์ยังติด Top 10 ประเทศที่ปลอดภัยที่สุดในโลก เเละยังติดอันดับประเทศที่มีความสงบสุขมากที่สุดเป็นอันดับที่ 2 ของโลกเลยค่ะ" — ทิวทัศน์สวยจริงแต่ส่วนใหญ่มาเรียนกันในโอ๊นแลนด์ ที่สวย ๆ อยู่ด้านนอก และสวยสุด ๆ อยู่เกาะใต้ ใช่ว่ามาเรียนแล้วจะได้เห็นได้ชมทุกวัน เรื่องความปลอดภัยมากกว่าไทยแน่นอน แต่อย่างในโอ๊คแลนด์ปัจจุบันนี้โฮมเลสและโจรขโมยเยอะมาก มีคนโดนยกเค้าเยอะแยะ โฮมเลสบางคนดี บางคนอันตราย ตำรวจที่นี่ไม่ค่อยขยันจับโจรเท่าจับรถฝ่าฝืนกฎจราจรเด้อ


2. ผู้คนใจดี: "...โดยรวมแล้วเขาจะไม่เป็นพวกวัตถุนิยมค่ะ จะเป็นคนง่ายๆ สบายๆ มากกว่า..." — คนใจดีมันก็แล้วแต่คน เอาจริง ๆ เรื่องคนยังไม่รู้สึกต่างจากไทย แต่ถ้าเทียบกับลูกค้าที่ร้านเรื่องความเลือกมากคนที่นี่ไม่มากเรื่อง กลุ่มลูกค้าคนไทยเรื่องมากที่สุด ส่วนเรื่องวัตถุนิยมคนที่นี่ไม่บ้าแบรนด์เนม แต่ใช่ว่าจะไม่ถือแบรนด์เลย เขาเน้นเรื่องคุณภาพมากกว่า แบรนด์ไหนดีแต่แพงก็ซื้อ เช่น กาธมันดุ เป็นต้น


3. ระบบการศึกษา: "...เพราะฉะนั้นเรื่องการเรียนไม่ต้องเป็นห่วงเลยค่ะ เพราะเราจะได้เรียนกับเจ้าของภาษาที่เป็น Native Speaker อย่างแท้จริง เเละใช้ภาษาอังกฤษในการเรียนการสอนกันอย่างแน่นอน" — เรื่องนี้ถ้าเรียนในโอ๊คแลนด์บอกเลยว่า "มีความจริงน้อยมาก" เพราะปัจจุบันนิวซีแลนด์ โดยเฉพาะโอ๊คแลนด์นั้นเต็มไปด้วยคนต่างชาติที่ย้ายถิ่นที่อยู่มาอาศัย คนกีวี่และเมารีมีน้อยกว่าจีนกับแขกซะอีก ดังนั้นหากมาเรียนที่โอ๊คแลนด์คุณจะได้เรียนกับแขก อินเดีย ปากีสถาน จีน เป็นต้น ซะมากกว่า มีโอกาสได้เรียนกับ Native แท้อยู่แต่อาจจะน้อยเพราะงานด้านการสอนเดี๋ยวนี้ขาดแคลน Native จนต้องจ้าง Non-native มาสอนแทนกันหมดแล้ว


4. ได้สัมผัสความหลากหลายทางวัฒนธรรม — ได้แน่นอน 100% เพราะที่นี่มีคนหลายชาติมาก


5. ค่าใช้จ่ายไม่แพง — ขอแสดงความคิดเห็น 2 แบบ หากฐานะที่บ้านคุณดีมาก ที่นี่ถือว่าค่าใช้จ่ายด้านการศึกษาไม่แพง แต่หากที่บ้านคุณแค่ปานกลางลงไป ยังไงก็ถือว่าแพง ส่วนค่าใช้จ่ายกินอยู่ โอ๊คแลนด์ติด 1 ใน 10 เมืองที่ค่าครองชีพสูงที่สุดในโลก ค่าเช่าบ้าน ค่ารถบัส ค่าเดินทาง แพงมาก แต่ถ้าเทียบกันแล้ว ทางเกาะใต้ค่าเช่าบ้านถูกกว่ามากโข

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด