สวัสดีค่ะชาว Dek-D ช่วงนี้ต้องบอกว่าบรรยากาศการเลือกตั้งประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกา เพื่อการชิงเก้าอี้ผู้นำทำเนียบขาวในขณะนี้ก็เข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ และยังเป็นที่จับตามองจากทั่วโลกอีกด้วย จนทำให้มีการคาดการณ์ว่าศึกการเลือกตั้งระหว่าง “โดนัลด์ ทรัมป์” จากพรรครีพับลิกัน กับ “โจ ไบเดน” จากพรรคเดโมแครต จะทำสถิติเป็นการเลือกตั้งที่มีผู้ออกมาใช้สิทธิ์เลือกมากสุดในรอบศตวรรษ! วันนี้พี่จะพาไปจดศัพท์ไว้เกาะติดสถานการณ์ที่ว่านี้กันค่ะ จะมีคำไหนน่าสนใจบ้าง ตามมาดูกันเลย!
Super Tuesday
มาเริ่มต้นที่ Super Tuesday กันค่ะ บรรดานักข่าวและผู้เชี่ยวชาญการเมืองเริ่มใช้คำนี้เมื่อราวๆ ปี 1976 หมายถึงวันที่หลายรัฐในอเมริกาจัดการเลือกตั้งขั้นต้น (Primary Election) พร้อมกัน ซึ่งมักจะจัดขึ้นในวันอังคารช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์หรือต้นเดือนมีนาคม ผู้ที่ได้คะแนนสูงสุดในขั้นนี้จะได้เป็นตัวแทนพรรคเพื่อเข้าชิงชัยตำแหน่งประธานาธิบดีในการเลือกตั้งทั่วไป เรียกว่าเป็นวันชี้ชะตาเลยค่ะ
อย่างเช่น เมื่อวันอังคารที่ 3 มีนาคม 2020 นายโจ ไบเดน ได้คว้าชัยชนะการโหวต Super Tuesday มาครอง เค้าเลยเป็นตัวแทนของพรรคเดโมแครตที่จะเข้าชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีกับนายโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งเป็นตัวแทนจากพรรครีพับลิกัน
ตัวอย่างประโยค
On Super Tuesday, voters in 14 states will pick their preferred Democratic candidate for November's election.
ประชาชนชาวอเมริกันใน 14 รัฐจะออกมาใช้สิทธิ์เลือกผู้แทนจากพรรคเดโมแครตในการเลือกตั้งขั้นต้น Super Tuesday เพื่อหาผู้แทนเข้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดีในเดือนพฤศจิกายนนี้
Recount
คำว่า Recount หมายถึง การนับคะแนนใหม่ค่ะ ตามปกติแล้วภายหลังสิ้นสุดการนับคะแนนทั้งหมดในวันเลือกตั้งทั่วไปแล้ว หากผลคะแนนของผู้เข้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดีมีความใกล้เคียงสูสีกันมากๆ ก็สามารถจัดให้มีการนับคะแนนใหม่ได้ เพื่อนำไปสู่ผลการนับคะแนนเสียงอย่างแท้จริงนั่นเอง
ตัวอย่างประโยค
Florida has ordered a machine recount of votes for state governor and senator following last week's closely fought mid-term elections.
รัฐฟลอลิดาสั่งให้มีการใช้เครื่องนับคะแนนเพื่อนับคะแนนใหม่สำหรับการเลือกตั้งผู้ว่าการรัฐและวุฒิสภา หลังผลคะแนนการเลือกตั้งกลามเทอมในสัปดาห์ที่ผ่านมาสูสีกันมาก
Quid Pro Quo
Quid Pro Quo มีรากมาจากภาษาละติน หมายถึง สิ่งหนึ่งเพื่อสิ่งหนึ่ง (something for something) โดยปัจจุบันมักใช้สื่อถึงการทำอะไรให้ใครโดยมีการยื่นข้อแลกเปลี่ยนตอบแทน คล้ายๆ กับสำนวนไทยที่ใช้กันว่า ยื่นหมูยื่นแมวนั่นเองค่ะ
อย่างเมื่อปีที่แล้วเคยมีคนออกมาเปิดโปง (Whistleblower) ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ว่าเค้าได้โทรศัพท์ไปกดดันประธานาธิบดียูเครนให้เปิดการสอบสวนคดีทุจริตของนายโจ ไบเดนและลูกชาย โดยแลกกับการให้เงินช่วยเหลือทางการทหารแก่ยูเครนเป็นมูลค่าเกือบ 400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากตอนนั้นไบเดนเองถือเป็นว่าที่คู่แข่งในการชิงเก้าอี้ผู้นำสหรัฐฯ คนสำคัญของทรัมป์นั่นเองค่ะ
ตัวอย่างประโยค
President Donald Trump has often insisted there was “no quid pro quo” between his administration and Ukraine.
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ยืนกรานว่าไม่มีการแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ตอบแทนระหว่างรัฐบาลของตนและยูเครน
Whistleblower
มาต่อกันที่ Whistleblower คำนี้ถ้าแปลตรงตัวจะหมายถึง “ผู้เป่านกหวีด” น้องๆ อาจสงสัยว่านกหวีดเกี่ยวอะไรกับบริบททางการเมืองอเมริกัน ซึ่งจริงๆ แล้วความหมายโดยนัยของศัพท์นี้จะสื่อถึงบุคคลที่ออกมาเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับการกระทำอันขัดต่อกฎหมายที่เกิดขึ้นภายในองค์กร, หน่วยงาน หรือประเทศนั่นเองค่ะ ส่วนมากผู้ที่ออกมาเปิดเผยมักเป็นบุคลากรในองค์กรที่ออกมาเปิดโปงความไม่ชอบมาพากลที่เกิดขึ้นนี้
ตัวอย่างประโยค
Edward Snowden is probably the most famous whistleblower of recent times. In 2013, he released classified information about global surveillance programs run by the US government.
เอ็ดเวิร์ด สโนว์เดนอาจเป็นหนึ่งในผู้เปิดโปงการกระทำผิดที่เป็นที่รู้จักมากที่สุด โดยเมื่อปี 2013 เขาได้ปล่อยข้อมูลลับเกี่ยวกับการสอดแนมมวลชนที่ดำเนินการโดยรัฐบาลสหรัฐฯ
Purple State
หลายคนคงทราบดีว่า รัฐส่วนใหญ่ในสหรัฐอเมริกาจะมีรัฐที่เป็นฐานเสียงของ 2 พรรคใหญ่ โดยรัฐสีแดง หมายถึง พรรครีพับลิกันครองคะแนนเสียงในรัฐนั้นๆ ส่วนสีน้ำเงินเป็นคะแนนเสียงส่วนใหญ่ของพรรคเดโมแครต ดังนั้น คำว่า Purple State หรือรัฐสีม่วง จึงหมายถึงรัฐที่ยังไม่สามารถคาดเดาได้ว่าประชาชนจะเลือกผู้สมัครจากพรรคใด
นอกจากนี้ บางทีเราอาจเรียกว่า ‘battleground states’ หรือ ‘swing states’ ก็ได้ค่ะ ยิ่งในช่วงโค้งสุดท้ายของการหาเสียง ผู้สมัครจากทั้ง 2 พรรคจะทุ่มตัวหาเสียงจากรัฐเหล่านี้กันสุดตัว เพราะผลคะแนนจากรัฐสีม่วง (Purple State) จะเป็นตัวชี้ชะตาว่าพรรคไหนจะเป็นฝ่ายชนะการเลือกตั้ง
ตัวอย่างประโยค
North Carolina is America's newest purple state. It voted Republican in 2004, Democratic in 2008 and Republican again in 2012.
นอร์ทแคโรไลนาถือเป็นรัฐสีม่วงรัฐล่าสุด เนื่องจากชาวเมืองนอร์ทแคโรไลนาส่วนใหญ่โหวตเลือกพรรครีพับลิกันในปี 2004 พรรคเดโมแครตในปี 2008 และกลับมาเลือกพรรคริพับลิกันอีกครั้งในปี 2012
Oval Office
ถ้าพูดถึงทำเนียบขาว หรือ White House หลายๆ คนคงรู้จักกันดีว่า เป็นที่พำนักและที่ทำงานอย่างเป็นทางการของประธานาธิบดีสหรัฐฯ ทั้งนี้ ทางฝั่งปีกฝั่งตะวันตก (West Wing) ของอาคารทำเนียบขาวยังเป็นที่ตั้งของห้องทำงานรูปไข่ (Oval Office) อันเป็นห้องทำงานส่วนตัวของประธานาธิบดี และเป็นสถานที่ไว้สำหรับต้อนรับผู้นำประเทศและเจรจาเรื่องสำคัญต่างๆ ด้วยค่ะ
ห้องทำงานรูปไข่นี้ถูกสร้างขึ้นใหม่และกลายเป็นห้องทำงานหลักของประธานาธิบดีสหรัฐฯ เมื่อปี 1909 ในสมัยอดีตประธานาธิบดีวิลเลียม เอช. แทฟต์ (William H. Taft) เนื่องจากอาคารเดิมมีความคับแคบ จึงได้มีการสร้างอาคารปีกตะวันออกและตกเพิ่มเติม โดยสร้างให้เชื่อมกับอาคารกลางส่วนเดิมนั่นเองค่ะ
ตัวอย่างประโยค
US President Donald Trump was on Wednesday back at work in the Oval Office just six days after testing Covid-19 positive.
เมื่อวันพุธ ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ กลับเข้ามาทำงานในห้องทำงานรูปไข่ ซึ่งเป็นเวลาเพียง 6 วันหลังจากมีผลตรวจโควิด-19 ออกมาเป็นบวก
Midterms
ส่วนคำว่า Midterms หรือ Midterm elections หมายถึง การเลือกตั้งกลางเทอม ซึ่งจะเป็นการเลือกตั้งทั่วไปในช่วงครึ่งวาระการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ หรือระยะเวลา 2 ปีหลังเข้ารับตำแหน่งค่ะ การเลือกตั้งกลางเทอมเป็นการเลือกตั้งเพื่อเปลี่ยนแปลงที่นั่งในสภาผู้แทนราษฎรของสหรัฐ ทั้งหมดจำนวน 435 คน ซึ่งมีวาระ 2 ปี, วุฒิสมาชิกอีกจำนวน 1 ใน 3 และรวมทั้งผู้ว่าการรัฐด้วยค่ะ
ทั้งนี้ การเลือกตั้งกลางเทอมยังถือเป็นตัวชี้วัดความพึงพอใจของประชาชนที่มีการทำงานของประธานาธิบดีเลยก็ว่าได้ โดยสามารถพิจารณาได้จากจำนวนที่นั่งที่พรรคฝ่ายรัฐบาลได้รับนั่นเอง
ตัวอย่างประโยค
The 2018 election has not only been the most watched midterms cycle in US history but also the most expensive.
การเลือกตั้งกลางเทอมของสหรัฐฯ ในปี 2018 ไม่เพียงเป็นการเลือกตั้งที่ถูกจับตามองมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของประเทศ แต่ยังมีค่าใช้จ่ายสูงที่สุดด้วยเช่นกัน
Air War
มาต่อกันที่คำว่า Air War กันบ้างค่ะ ศัพท์คำนี้แปลตรงตัวจะหมายถึง "การโจมตีทางอากาศ” ทีนี้ถ้านำเอาคำที่ว่านี้มาใช้ในบริบทการเมืองก็จะหมายถึงกลยุทธ์ในการรณรงค์หาเสียงที่ผู้แข่งขันต่างแย่งกันชิงพื้นที่สื่อ ทั้งทางโทรทัศน์, วิทยุ และสื่อออนไลน์ เพื่อใช้ช่องทางต่างๆ เหล่านี้สื่อสารกับประชาชนและทำให้ตนเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางมากขึ้น
ตัวอย่างประโยค
Election campaigns can traditionally be divided into two different approaches by parties - the "ground war" of door-knocking, leafleting and canvassing, and the "air war" of ideas and debates which are beamed out nationwide.'
การรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งของพรรคการเมืองแบ่งออกเป็น 2 แนวทาง ได้แก่ การลงพื้นที่ (ground war) เป็นการเดินเคาะประตูบ้าน, แจกแผ่นพับโฆษณา และติดป้ายหาเสียง ในขณะที่การใช้สื่อ (air war) จะเป็นการแสดงวิสัยทัศน์และดีเบตออกอากาศทั่วประเทศ
Lame Duck President
สำหรับคำว่า Lame Duck ถ้าแปลตรงตัวจะหมายถึง เป็ดง่อย แต่เมื่อใช้ในความหมายการเปรียบเปรยจะหมายถึง บุคคลที่ไม่เอาไหน / บริษัทที่ไม่มีเงิน เช่น the lame duck industry (อุตสาหกรรมที่ดูท่าแล้วจะไปไม่รอด) เป็นต้น
ทีนี้เมื่อใช้ในบริบททางการเมืองยังหมายถึง ประธานาธิบดีที่ใกล้พ้นตำแหน่ง และมีผู้ได้รับเลือกมารอดำรงอยู่แล้ว นอกจากนี้ ยังใช้สื่อถึงนักการเมืองที่ใกล้เกษียณก็ได้เหมือนกันค่ะ ซึ่งผู้ที่ได้รับสถานะนี้ยังมักมีอิทธิพลลดน้อยลงและทำอะไรลำบากด้วย เนื่องจากใกล้พ้นวาระเต็มทีแล้ว โดยศัพท์คำนี้มักใช้เรียกนักการเมืองผู้อยู่ในสถานะที่ไม่สามารถเข้ารับตำแหน่งในวาระถัดไป, แพ้การเลือกตั้ง, จำเป็นต้องดำรงตำแหน่งรอให้ครบวาระ เป็นต้น
ตัวอย่างประโยค
You've probably heard Mr. Obama referred to as a "lame-duck President" since the election.
คุณอาจเคยได้ยินว่า บารัค โอบามาถูกเรียกว่าเป็น “ประธานาธิบดีเป็ดง่อย” ตั้งแต่หลังการเลือกตั้งประธานาธิบดี
Voter Turnout
และแล้วก็มาถึงคำสุดท้ายกันแล้วกับคำว่า Voter Turnout /Turnout / Election Turnout นั้นจะแปลว่า สัดส่วนผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่ออกมาลงคะแนนเสียงนั่นเองค่ะ
ตัวอย่างประโยค
More than 98 million people have already cast their ballots in early voting, putting the country on course for its highest turnout in a century.
ชาวอเมริกันกว่า 98 ล้านคนได้ออกมาลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้าแล้ว ทำให้ในปีนี้คาดว่าสัดส่วนผู้ออกมาใช้สิทธิ์เลือกตั้งจะสูงสุดในรอบศตวรรษ
เป็นยังไงกันบ้างคะกับคำศัพท์ที่นำมาฝากกันวันนี้ หวังว่าจะช่วยให้น้องๆ เข้าใจศัพท์ที่ใช้ในการเลือกตั้งกันไม่มากก็น้อย และหากใครมีศัพท์คำอื่นๆ ที่น่าสนใจก็อย่าลืมแวะมาแชร์ให้พี่และเพื่อนๆ ชาว Dek-D ได้รู้กันด้วยนะคะ
Sources:https://www.bbc.co.uk/learningenglish/persian/features/us-elections-vocabulary https://dictionary.cambridge.org/dictionary/english/lame-duck https://www.history.com/news/voter-turnout-presidential-elections Oxford-River Books English-Thai dictionary
0 ความคิดเห็น