รวมมาให้ครบ! 5 ทุนเรียนต่อ Top5 มหาวิทยาลัยแห่งสหราชอาณาจักร (Oxford, Cambridge, Edinburgh, etc.)

สวัสดีชาว Dek-D ทุกคนครับ 'UK หรือสหราชอาณาจักร' เป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่หลายคนใฝ่ฝันอยากไปเที่ยวหรือไปเรียนต่อ เรื่องเที่ยวอาจจะพอทำได้ แต่ถ้าไปเรียนต่อก็อาจไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลยเพราะต้องใช้ทั้งความสามารถ ดวงและโอกาส นอกจากนี้ค่าเล่าเรียนก็น่าจะสูงมากๆ (ยังไม่รวมค่ากินค่าอยู่ด้วยนะ) สำหรับใครที่กดเข้ามาอ่านเพื่อส่องหาข้อมูลทุนถึงตรงนี้ พี่วินเลยจะมาแนะนำ 5 ทุนฟรีเรียนต่อ UK ซึ่งครอบคลุมทั้งค่าเล่าเรียน ค่าที่พัก ค่ากินอยู่ ฯลฯ มาให้น้องๆ ได้รู้จักกัน จะมีจากที่ไหน เงื่อนไขเป็นยังไงบ้าง มาอ่านกันเลยครับ!

Photo by Aron Van de Pol on Unsplash
Photo by Aron Van de Pol on Unsplash

บทความนี้อิงเรตราคา 1 บาท = 45.94 บาท (อัปเดตเดือนสิงหาคม 2564)

1. Reach Oxford Scholarship และ Simon and Li Undergraduate Scholarship

 สองทุนนี้ส่งตรงจากมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด (University of Oxford) ที่เปิดโอกาสให้คนไทยได้มีโอกาสไปเรียนในมหาวิทยาลัยชั้นนำแห่งเมืองผู้ดี ทั้งนี้ ทั้ง 2 ทุนมีข้อกำหนดที่คล้ายๆ กัน ก็คือจะต้องสมัครเป็นนักเรียนของที่นั่นให้ได้ก่อน และสามารถเลือกได้เกือบทุกคณะ ยกเว้นคณะแพทย์ (สามารถดูคณะเรียนได้ที่เว็บไซต์ของมหาวิทยาลัย)

Photo by Ben Seymour on Unsplash
Photo by Ben Seymour on Unsplash

ทั้งสองทุนจัดตั้งขึ้นมาด้วยจุดประสงค์ต้องการช่วยเหลือนักศึกษาของมหาวิทยาลัยที่มาจากประเทศที่มีรายได้ต่ำ (low-income countries) หรือมีปัญหาทางด้านการเงิน โดยมอบให้ระยะเวลา 3-4 ปี (ขึ้นอยู่กับระยะเวลาของคอร์สเรียน) เป็นทุนให้เปล่า ครอบคลุมค่าครองชีพ และค่าตั๋วเครื่องบินไป-กลับประเทศปีละครั้ง รวมมูลค่าทุนอย่างน้อย £12,533 ต่อปี (ประมาณ 575,781 บาท)  นอกจากนี้ยังฟรีค่าเล่าเรียนซึ่งมูลค่าต่างกันไปแต่ละคณะ (สามารถดูได้ที่เว็บไซต์ของมหาวิทยาลัย) และถึงแม้ว่าคณะที่เราเข้ามาเรียนนั้นไม่สามารถเข้าร่วมกับทุนนี้ก็ยังสามารถขอทุนนี้ได้อยู่ครับ

สำหรับรอบปีนี้ (2021) แม้ว่าจะปิดรับสมัครเรียบร้อยแล้ว แต่ปีหน้าและปีถัดๆ ไปยังมีทุนให้แน่นอนครับ รายละเอียดการสมัครสามารถเข้าไปดูได้ในเว็บไซต์ของมหาวิทยาลัยได้เลยครับ บอกก่อนเลยว่าทุนนี้มีโควตาจำกัดมากกกก ดังนั้นอัตราการแข่งขันต้องสูงมากๆ // ก็ Oxford อะเนอะ

คลิกเพื่อดูคอร์สเรียนของมหาวิทยาลัยคลิกเพื่อเช็กมูลค่าทุนแต่ละคณะ

2. Cambridge Thai Foundation Scholarship

 เกิดจากความร่วมมือของศิษย์เก่าเคมบริดจ์ จัดตั้งขึ้นโดย 'อานันท์ ปันยารชุน'  อดีตนายกรัฐมนตรีของไทย เป็นทุนที่ให้สำหรับคนไทยโดยเฉพาะ โดยจะเป็นทุนบางส่วน และครอบคลุมทั้งป.ตรี โท และ เอก

วิธีสมัครไม่ยาก ใช้การสมัครเรียนปกติ แต่ตรงท้ายเอกสารจะมีช่องให้ติ๊กว่าต้องการสมัคร Cambridge Trust มั้ย ซึ่งถ้าติ๊ก จะต้องเขียนเรียงความว่าทำไมเราถึงควรได้ทุน และเขียนชื่อทุนที่เราต้องการขอไปด้วยครับ (สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.cambridgetrust.org)

Photo by K. Mitch Hodge on Unsplash
Photo by K. Mitch Hodge on Unsplash

  สำหรับเอกสารที่ใช้สมัครของแต่ละคณะจะต่างกัน สามารถเช็กได้ที่ Course Directory ของแต่ละคณะได้เลยครับ เช่น พี่วินต้องการสมัคร PhD in Linguistics: Theoretical and Applied Linguistics เขาจะกำหนดเอกสารเช่น Academic References (คล้ายๆ recommendation letter จากอาจารย์เราในมหาวิทยาลัยครับ)  ผลการเรียน (Transcript) บทเสนองานวิจัย 500-1000 คำ (Research Proposal) งานเขียน (Written Work) เป็นต้น บางคณะอาจต้องการคะแนนสอบ GRE ด้วย และสำหรับใครที่ไม่ได้เรียนในประเทศอังกฤษมาก่อน ก็จำเป็นต้องเข้าไปดูใน International Qualification ด้วยนะ

ฟังแล้วอาจจะดูยาก แต่พี่วินเชื่อว่าถ้าเราสู้สุดใจแล้ว อะไรก็ทำเราไม่ได้ และถ้าได้ไปเรียนที่นี่บอกเลยว่าคุ้มค่าแน่นอนครับ

3. Royal Thai Government Scholarship

เป็นที่รู้จักในนาม 'ทุนรัฐบาลไทย' นั่นเองครับ ทุนนี้จัดตั้งขึ้นเพื่อสนับสนุนเด็กไทยในการศึกษาต่างประเทศในระดับที่สูงขึ้น ครอบคลุมการเรียนต่อทั้งในระดับป.ตรี โท และ Ph.D. เลย และสามารถเลือกเรียนต่อมหาวิทยาลัยต่างประเทศได้หลายที่ รวมถึง University College London (UCL) หนึ่งในมหาวิทยาลัยชั้นนำของ UK ด้วยครับ (UCL ออกให้ 10% ส่วนที่เหลือสำนักงาน ก.พ.จะออกให้)

เช็กมูลค่าทุนตลอดการศึกษาได้ที่เว็บไซต์ของสำนักงานก.พ. หรือถ้าเป็นของ UK โดยเฉพาะ สามารถเข้าไปศึกษาที่ไฟล์นี้ได้เลยครับ

สำหรับเงื่อนไขการสมัคร พี่วินสรุปไว้ให้ในตารางแล้วครับ

เงื่อนไขป.ตรีป.โทPh.D.
อายุไม่เกิน 20 ปีไม่เกิน 35 ปีไม่เกิน 40 ปี
ระยะเวลาให้เงินทุน4 ปี2 ปี3 ปี
เกรดขั้นต่ำGPA 3.50 ขึ้นไปGPA 2.75 ขึ้นไปGPA 3.50 ขึ้นไป
คะแนนสอบ (อย่างใดอย่างหนึ่ง)TOEFL ibt  213 คะแนนขึ้นไปTOEFL pbt 500 คะแนนขึ้นไปIELTS 6.0 ขึ้นไปTOEFL ibt  213 คะแนนขึ้นไปTOEFL pbt 500 คะแนนขึ้นไปIELTS 6.0 ขึ้นไปTOEFL ibt  213 คะแนนขึ้นไปTOEFL pbt 500 คะแนนขึ้นไปIELTS 6.0 ขึ้นไป

ทั้งนี้ เงื่อนไขของทุนรัฐบาลคือมีข้อผูกมัด นั่นคือหลังเรียนจบจะต้องทำงานให้หน่วยงานราชการตามจำนวนปีที่ใช้ทุนในการศึกษาต่อ หรืออย่างทุนบางประเภท เช่น ทุน Undergraduate Intelligence Scholarship Program (UIS) ต้องปฏิบัติราชการชดใช้ทุนเป็น 2 เท่าของระยะเวลาที่ได้รับทุนเลยครับ  แนะนำว่าใครที่สนใจทุนนี้ ลองปรึกษารุ่นพี่ทุนดูว่ามีข้อดีข้อเสียอย่างไร และลองถามตัวเองแล้วชั่งน้ำหนักให้ดีว่าเราชอบทำงานกับราชการและโอเคกับเงื่อนไขข้อผูกมัดของทุนหรือเปล่า 

4. World Scientific Scholarship

ชาวอาเซียนก็มีลุ้นครับ! ใครอยากเรียนต่อ Imperial College London จะมีทุน World Scientific Scholarship ที่มอบให้ผู้ถือสัญญา 10 ประเทศในอาเซียน (รวมไทยด้วย) แต่ข้อแม้คือมหาวิทยาลัยต้องตอบรับเข้าเรียนแล้วเท่านั้นครับ ดังนั้นอันดับแรกเราต้องเข้าไปเป็นนักศึกษาให้ได้ แล้วทางทุนจะเสนอมาต่อเมื่อคุณสมบัติเราเข้าข่าย โดยพิจารณาจากสถานะการเงินและศักยภาพของนักเรียน 

Photo Credit: https://www.imperial.ac.uk/
Photo Credit: https://www.imperial.ac.uk/

สำหรับทุนนี้จะมอบให้จัดเต็ม £5,000 ต่อปี (ประมาณ 230,000 บาท) เป็นระยะเวลา 4 ปี ถ้าคิดรวมคือสนับสนุนเกือบล้านบาทตลอดหลักสูตรเลยครับ! อย่างไรก็ตามอาจต้องพกดวงมาเต็มเปี่ยม เพราะเขามอบโควตาให้ปีละ 1 คนเท่านั้น (ถือว่ายากพอๆ กับ Royal Straight Flush) และหากได้ทุนก็จะไม่สามารถขอเลื่อนไปใช้ทุนปีการศึกษาอื่นได้ครับ

5. Edinburgh Global Undergraduate Mathematics Scholarships

ว่ากันว่าเด็กเอเชียเก่งเลข ใครเป็นเทพคณิตไปโชว์ให้เขาดูว่าเราเก่งจริงกันครับ! สำหรับทุนนี้เป็นของ มหาวิทยาลัยเอดินบะระ (ไม่อ่านว่าเอดินเบิร์กนะจ๊ะ) ที่มอบให้นักเรียนต่างชาติที่มีความโดดเด่นด้านคณิตศาสตร์ ให้ไปเรียนใน The School of Mathematics ซึ่งเป็นคณะคณิตศาสตร์ของ University of Edinburgh กันเลยครับ เงื่อนไขคือต้องได้รับการตอบรับเป็นนักศึกษาแล้ว (*เพิ่งเข้าใหม่ ยังไม่เริ่มเรียน) และไม่นับรวมนักศึกษาสาขาอื่นที่ลงรายวิชาคณิตศาสตร์เป็นส่วนหนึ่งครับ

Photo by tommao wang on Unsplash
Photo by tommao wang on Unsplash

ทุนนี้มอบให้ £5,000 ต่อปี (เป็นระยะเวลา 4-5 ปี) ถ้าเทียบเป็นเงินไทยประมาณ 230,355 บาทต่อปี หรือ 921,420 ~ 1,151,775 บาทตลอดหลักสูตร โดยผู้ได้ทุนต้องรักษาเกรดให้ได้ตามที่เขากำหนด ไม่งั้นมีสิทธิ์โดนถอดทุนนะครับ ส่วนใครอยากรู้ว่าคณะคณิตศาสตร์เขาเรียนอะไรกันบ้าง สามารถเข้าไปดูได้ที่เว็บไซต์ของมหาวิทยาลัยได้เลยครับ

ทำความรู้จัก University of Edinburgh 

จะเห็นได้ว่าทุนเรียนต่อ UK ส่วนมากเราจะต้องสมัครเข้าไปเป็นนักศึกษาของแต่ละมหาวิทยาลัยและได้การตอบรับเข้าเรียนให้ได้ก่อน หลังจากนั้นถึงจะสมัครทุนที่เขา offer ให้ได้ ดังนั้น ชาว Dek-D คนไหนที่อยากไปเรียนที่ UK ก็ควรเตรียมพร้อมและศึกษารายละเอียดทุนให้ดีก่อน เพราะยิ่งเป็นมหาวิทยาลัยระดับโลก การแข่งขันยิ่งสูงมากกก และคนที่พร้อมที่สุดก็มีโอกาสคว้าทุนมากกว่า สุดท้ายนี้พี่วินก็ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนครับ

พี่วิน
พี่วิน - Columnist Sentio amorem, ergo sum.

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

0 ความคิดเห็น