หนีห่าววว! สวัสดีชาว Dek-D ทุกคนค่า อย่างที่รู้กันดีว่าในปัจจุบัน “ภาษาจีน” เป็นอีกหนึ่งภาษายอดฮิตผู้คนในหลายประเทศทั่วโลกใช้ในการติดต่อธุรกิจและสื่อสารในชีวิตประจำวัน ซึ่งประเทศจีนเองก็เห็นถึงความสำคัญและได้ส่งเสริมด้านการศึกษา โดยได้มอบทุนให้ชาวต่างชาติเข้ามาเรียนฟรี แถมยังมีแพลตฟอร์มออนไลน์หลากหลายรูปแบบคอยให้บริการ
วันนี้ พี่ปุณ เลยขออาสามาชี้เป้า “7 แพลตฟอร์มเรียนออนไลน์แบบฟรีๆ จากจีน” บอกเลยว่าแต่ละแหล่งคือที่สุด ความรู้แน่น ใช้งานง่าย แถมเรียนได้ทุกที่ทุกเวลา ใครอยากอัปสกิลภาษาเพื่อใช้ในการทำงานหรือเตรียมตัวไปเรียนต่อที่จีนก็รีบตามไปดูกันเลย!
..............................
1. Tencent Classroom
มาเริ่มกันที่ ‘Tencent Classroom’ แพลตฟอร์มเรียนภาษาจีนออนไลน์สำหรับผู้เรียนสายอาชีวศึกษาที่อยากพัฒนาทักษะเฉพาะทางในด้านต่างๆ อย่างเช่น ด้านภาษา, การพัฒนาซอฟต์แวร์, การออกแบบดีไซน์, ดนตรี, หรือแม้แต่ด้านคหกรรม คอร์สฝึกทำอาหารก็มีให้เลือกครบ
โดยตลอดหลายปีที่แพลตฟอร์มนี้เปิดให้บริการมา Tencent ธุรกิจบริการวางระบบคอมพิวเตอร์และเครือข่ายสำหรับองค์กรก็ได้สนับสนุนคอร์สเรียนกว่า 400,000 คอร์ส ให้ผู้ใช้กว่า 400 ล้านคนทั่วโลกได้เรียนรู้กันแบบฟรีๆ ใครไม่อยากพลาดโอกาสดีๆ แบบนี้ก็ลองเข้าไปท่องเว็บไซต์ส่องหาคอร์สเรียนที่ใช่กันได้เลย
Tencent Classroom..............................
2. Bilibili
‘Bilibili’ เป็นแพลตฟอร์มวิดีโออนิเมชันชั้นนำแห่งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่เติบโตอย่างต่อเนื่องด้วยคลังคอนเทนต์ขนาดใหญ่ โดยนอกจากจะอัดแน่นไปด้วยเนื้อหาด้านความบันเทิงอย่างอนิเมะและซีรีส์ แพลตฟอร์มนี้ก็ยังรวม “คลิปวิดีโอสอนภาษาจีน” เอาไว้มากมาย ทั้งเนื้อหาความรู้ทั่วไปและความรู้เฉพาะด้านเกี่ยวกับการทำอาหาร, การเขียนโปรแกรม, ศิลปะ, คณิตศาสตร์, ประวัติศาสตร์, และจิตวิทยา
นอกจากนี้ก็ยังมีฟีเจอร์ไลฟ์สตรีมกับ #StudyWithMe ให้ผู้ใช้ที่ไม่อยากเรียนคนเดียวเหงาๆ เข้ามาพูดคุยแลกเปลี่ยนความรู้กับผู้ใช้จากทั่วทุกมุมโลกได้ตลอดเวลา แอบกระซิบว่าแพลตฟอร์มนี้มีความคล้ายคลึงกับ Youtube แบบสุดๆ รับรองใช้งานง่าย แถมได้อัปสกิลภาษาแบบจัดเต็มแน่นอน
Bilibili..............................
3. NetEase Cloud Classroom
ในปี 2012 NetEase บริษัทผู้นำทางด้านเทคโนโลยีชื่อดังของประเทศจีนได้เปิดแพลตฟอร์มเรียนออนไลน์ภายใต้ชื่อว่า ‘NetEase Cloud Classroom’ ถึงแม้ว่าคอร์สเรียนในแพลตฟอร์มนี้จะมีทั้งแบบฟรีและเสียค่าใช้จ่าย แต่รับรองได้เลยว่าคุ้มค่าคุ้มราคาเป็นที่สุด เพราะเนื้อหาแต่ละคอร์สถูกออกแบบมาอย่างดี โดยวิทยากรผู้เชี่ยวชาญที่มากด้วยประสบการณ์ในด้านต่างๆ อย่างเช่น ด้านการเงินและการจัดการ, ด้านการเขียนโปรแกรม, และด้านภาษา ใครกำลังมองหาแหล่งเรียนออนไลน์สุดคูล ที่รวมความรู้หลากหลายสาขาเอาไว้ก็ตรงไปที่แพลตฟอร์มนี้ได้เลย
NetEase Cloud Classroom..............................
4. Kaikeba
เอาใจสายเทคโนโลยี! โอกาสดีๆ มาถึงแล้วกับ ‘Kaikeba’ แพลตฟอร์มเรียนออนไลน์จากจีนที่รวมคอร์สด้าน ‘Information Technology (IT) และ Business Intelligence (BI)’ ไว้กว่า 1,000 คอร์ส โดยผู้ใช้จะได้เรียนรู้เกี่ยวกับการวิเคราะห์และประมวลผลข้อมูลทางธุรกิจ การบริการจัดการ การนำเสนอโพรเจกต์สำคัญ รวมไปถึงการวางแผนงานภายใต้เงื่อนไขของเวลา
นอกจากนี้ Kaikeba ก็ยังมีอีก 2 แพลตฟอร์มย่อยไว้คอยให้บริการ อันได้แก่ Midui Xuetang แพลตฟอร์มที่จะให้ความรู้เกี่ยวกับการพัฒนาบุคลิกภาพและ Mingchun Xueshe แพลตฟอร์มสำหรับผู้สูงวัยที่อยากสร้างเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต (Lifelong Learning) น้องๆ คนไหนอยากอัปสกิลภาษาและพัฒนาตัวเองแบบมีวิชาชีพติดตัว ก็อย่ามัวรีรอแล้วรีบไปสมัครเรียนกันเลย!
Kaikeba..............................
5. iMOOC
เหล่าว่าที่โปรแกรมเมอร์มารวมกันตรงนี้ ‘iMOOC’ มีคอร์สเรียนออนไลน์ดีๆ มาฝาก! แพลตฟอร์ม iMOOC ก่อตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการเมื่อปี 2013 โดยมุ่งเน้นไปที่การมอบ “ความรู้เฉพาะทางด้าน IT”
ซึ่งจะมีเนื้อหาครอบคลุมทั้งการพัฒนาโปรแกรมในส่วนของหน้าบ้านและหลังบ้าน (Front-end and Back-end Development), การพัฒนาโปรแกรมบนโทรศัพท์มือถือ, วิทยาการคอมพิวเตอร์, เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์, วิศวกรรมการจัดการและวิเคราะห์ระบบข้อมูล, รวมไปถึงการทดสอบซอฟต์แวร์ เรียกได้ว่าเป็นแพลตฟอร์มขนาดใหญ่ที่เพียบพร้อมไปด้วยหลักสูตรทันสมัย แถมตอบโจทย์คนยุคใหม่แบบสุดๆ ไปเลยค่ะ
iMOOC..............................
6. Canva China
ใครเป็นสายออกแบบดีไซน์ก็คงคุ้นเคยกับแพลตฟอร์มที่มีชื่อว่า ‘Canva’ กันเป็นอย่างดี แพลตฟอร์มนี้เปิดให้ใช้งานในประเทศจีนเมื่อปี 2018 และได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เพราะนอกจากจะมีเทมเพลตสำหรับการสร้างสรรค์ผลงานหลากหลายประเภท ทั้ง Presentation, พอร์ตโฟลิโอ, โบรชัวร์, โปสเตอร์, และเรซูเม่แล้ว ก็ยังมีฟีเจอร์เท่ๆ ที่ช่วยตอบโจทย์และตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ ไม่ว่าจะเป็นการใส่เอฟเฟกต์ รูปภาพ ตัวหนังสือ หรือไอคอนต่างๆ ใครอยากรู้ว่าแพลตฟอร์มนี้ทำอะไรได้อีกบ้างก็ลองไปใช้กันดูได้เลย
Canva..............................
7. Woshipm
ปิดท้ายกันไปด้วย ‘Woshipm’ แพลตฟอร์มเรียนออนไลน์ภายใต้ชื่อภาษาจีนที่มีความหมายว่า ‘Everyone is A Product Manager’ ทุกคนสามารถเป็นผู้จัดการผลิตภัณฑ์ได้
โดยแพลตฟอร์มนี้จะมีทั้งคอร์สออนไลน์และ bootcamps ให้ผู้เรียนได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์และทำความเข้าใจในภาระงานของ “ผู้จัดการผลิตภัณฑ์” ซึ่งจะมีหน้าที่ในการวางกลยุทธ์ทางธุรกิจ, ออกแบบผลิตภัณฑ์, สื่อสารและแก้ไขปัญหา, รวมถึงนำเทคโนโลยีมาปรับใช้ให้เหมาะสม น้องๆ คนไหนสนใจอยากเรียนต่อหรือทำงานในสายอาชีพนี้ พี่ก็ขอแนะนำให้เข้าไปศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่แพลตฟอร์มนี้เลย
Woshipmและทั้งหมดนี้ก็คือ “7 แพลตฟอร์มเรียนออนไลน์แบบฟรีๆ จากจีน” ที่พี่ได้รวมมาฝากกัน บอกเลยว่าแต่ละแพลตฟอร์มผ่านการคัดสรรมาอย่างดี แถมมีความเฉพาะทางที่แตกต่างกันไป ยิ่งถ้าใครมีพื้นฐานด้านภาษาจีนมาก่อน ก็จะยิ่งได้เปรียบและนำความรู้ไปต่อยอดได้ง่ายขึ้น ส่วนถ้าใครยังฟัง พูด อ่าน เขียนได้ไม่คล่องก็อาจจะต้องใช้ฟังก์ชันของเบราว์เซอร์ช่วยแปลเป็นภาษาไทยควบคู่กันไป ใครอยากเรียนรู้เพิ่มเติมในด้านไหนก็เลือกแพลตฟอร์มที่ใช่แล้วไปฝึกภาษากันได้เลย!
Source:https://www.classcentral.com/report/chinese-online-learning-platforms/
1 ความคิดเห็น