เปิดอันดับ 20 มหาวิทยาลัยดีที่สุดในโลก ประจำปี 2025 จาก QS World University Rankings

สวัสดีครับชาว Dek-D สำหรับน้องๆ คนไหนหรือใครที่วางแผนไปเรียนต่อต่างประเทศในปีหน้า และกำลังอยู่ในขั้นตอนการเลือกค้นหาคอร์สเรียนที่ใช่หรือมหาวิทยาลัยที่ชอบ แต่สุดท้ายแล้วก็ยังตัดสินใจไม่ได้ ต้องบอกว่าการพิจารณาจากผลการจัดอันดับมหาวิทยาลัย (Rankings) ก็เป็นอีกปัจจัยที่หลายคนให้ความสำคัญ และช่วยทำให้เราค้นหาแหล่งเรียนได้อย่างมีคุณภาพ 

วันนี้ พี่วุฒิ เลยขอพาทุกคนไปอัปเดตผลอันดับมหาวิทยาลัยโลกโดย “QS World University Rankings 2025” ที่เพิ่งประกาศกันออกมาสดๆ ร้อนๆ ว่าแล้วก็ตามมาส่องกันเลยว่าปีนี้มีสถาบันไหนมาแรง รวมถึงภาพรวมการศึกษาทั่วโลกและในประเทศไทยเป็นอย่างไรบ้าง?

QS Quacquarelli Symonds (QS) ผู้เชี่ยวชาญด้านการศึกษาระดับอุดมศึกษาชั้นนำระดับโลก ประกาศเผยแพร่ผลการจัดอันดับมหาวิทยาลัยโลกประจำปี 2025 ซึ่งเป็นการจัดอันดับมหาวิทยาลัยนานาชาติที่ได้รับความนิยมสูงสุด โดยเป็นกรอบการจัดอันดับเพียงแห่งเดียวที่ประเมินทั้งความสามารถในการจ้างงานและปัจจัยด้านความยั่งยืน 

ส่องเกณฑ์ในการจัดอันดับ

การชี้วัดสัดส่วนคะแนน
ชื่อเสียงทางด้านวิชาการ (Academic Reputation)30%
การยอมรับจากนายจ้าง (Employer Reputation)15%
สัดส่วนอาจารย์ต่อนักศึกษา (Student to Faculty Ratio)10%
การอ้างอิงผลงานทางวิชาการ (Citations Per Faculty)20%
สัดส่วนอาจารย์ต่างชาติ (International Faculty Ratio)5%
สัดส่วนนักศึกษาต่างชาติ (International Faculty Ratio)5%
เครือข่ายการวิจัยระหว่างประเทศ (International Research Network)5%
ผลลัพธ์การจ้างงาน (Employment Outcomes)5%
ความยั่งยืน (Sustainability)5%

รายละเอียดเกี่ยวกับวิธีการจัดอันดับสามารถศึกษาเพิ่มเติมได้ที่ 
QS World University Rankings 2025 methodology 

20 อันดับมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดในโลกโดย QS ปี 2025

การจัดอันดับมหาวิทยาลัยโลก QS ประจำปี 2025 ครั้งนี้ ประเมินมหาวิทยาลัย 1,500 แห่ง จาก 106 ระบบการศึกษาระดับอุดมศึกษา โดยสหรัฐอเมริกาส่งสถาบันเข้าร่วมการจัดอันดับมากที่สุด โดยมีสถาบันที่ติดอันดับ 197 แห่ง ตามมาด้วยสหราชอาณาจักร 90 แห่ง และจีน (แผ่นดินใหญ่) 71 แห่ง 

ส่วนประเทศไทยมีสถาบันที่ติดอันดับ 13 แห่ง ในจำนวนนี้ 3 แห่ง มีอันดับดีขึ้น 5 แห่ง มีอันดับลดลง และอีก 5 แห่ง ยังคงอยู่ในอันดับเดิม ส่งผลให้ภาพรวมของประเทศไทยดีขึ้น 23%

 

ปี 2025ปี 
2024
สถาบันประเทศ  
1  1  Massachusetts Institute of Technology (MIT)   United States  
2  6  Imperial College London  United Kingdom  
3  University of Oxford  United Kingdom  
Harvard University United States 
5  2  University of Cambridge  United Kingdom  
6  5  Stanford University  United States  
7  7  ETH Zurich - Swiss Federal Institute of Technology  Switzerland  
8  8  National University of Singapore (NUS)  Singapore  
9  9  UCL  United Kingdom  
10  15  California Institute of Technology (Caltech)  United States  
11  12  University of Pennsylvania  United States  
12  10  University of California, Berkeley (UCB)  United States  
13  14  The University of Melbourne  Australia  
14  =17  Peking University  China (Mainland)  
15  =26  Nanyang Technological University, Singapore (NTU)  Singapore  
16  13  Cornell University  United States  
17  =26  The University of Hong Kong  Hong Kong SAR  
18  =19  The University of Sydney  Australia  
19  =19  The University of New South Wales (UNSW Sydney)  Australia  
20  25  Tsinghua University  China (Mainland) 
Photo Credit:
Photo Credit: MIT News


สรุปภาพรวมทั่วโลก

  • สหราชอาณาจักรมีมหาวิทยาลัยชั้นนำมากที่สุดในโลก ด้วย 3 ใน 5 อันดับแรก และโดดเด่นในอัตราส่วนนักศึกษานานาชาติ โดยได้คะแนนเฉลี่ยสูงเป็นอันดับสองรองจากซาอุดีอาระเบียเท่านั้น
  • สหรัฐอเมริกายังคงรักษาชื่อเสียงระดับโลกตามการจัดอันดับของนายจ้างและนักวิชาการ
  • ระบบการศึกษาระดับสูงของแคนาดาโดดเด่นด้านความยั่งยืน โดยมีมหาวิทยาลัย 2 แห่งติดอันดับ 5 ของโลก รวมถึงมหาวิทยาลัยโทรอนโต
  • ออสเตรเลียเป็นผู้นำเครือข่ายวิจัยระหว่างประเทศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ครอง 9 ใน 10 อันดับแรก และมีสถาบัน 3 แห่งติดอันดับ 20 อันดับแรก
  • ใน 5 มหาวิทยาลัยชั้นนำ 100 อันดับแรกของจีน มี 4 แห่งที่ขยับอันดับขึ้น มหาวิทยาลัยปักกิ่งอยู่อันดับที่ 14 ซึ่งสูงที่สุด เพิ่มขึ้น 3 อันดับ
  • อินเดียประสบความสำเร็จอย่างน่าทึ่ง โดยมหาวิทยาลัยที่ติดอันดับ 46 แห่งจากทั้งหมด 91% ขยับอันดับ คงที่ หรือเป็นสถาบันที่เพิ่งเข้าร่วมการจัดอันดับ
  • อินโดนีเซีย ปากีสถาน และตุรกี เป็นประเทศที่พัฒนาขึ้นมากที่สุด
  • ละตินอเมริกา มีมหาวิทยาลัย 4 แห่งติดอันดับ 100 อันดับแรก ได้แก่ Universidad de Buenos Aires, Pontificia Universidad Católica de Chile, Universidad Nacional Autónoma de México และ Universidade de São Paulo
  • KFUPM (อันดับที่ 101) ในซาอุดีอาระเบีย เป็นสถาบันอาหรับที่ติดอันดับสูงสุด เกือจะติด 100 อันดับแรก ในขณะเดียวกัน University of Cape Town (อันดับที่ 171) เป็นผู้นำของแอฟริกา

ผลการจัดอันดับของประเทศไทย
QS World University Rankings 2025

อันดับปี 2025 อันดับปี 2024สถาบัน
229211จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
=368=382มหาวิทยาลัยมหิดล
=567=571มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
=596=600มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
781-790751-760มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
951-1000901-950มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
951-1000951-1000มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี
951-1000951-1000มหาวิทยาลัยขอนแก่น
1201-14001201-1400มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี
1201-14001201-1400มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ
1201-14001201-1400สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง
1401+1201-1400มหาวิทยาลัยนเรศวร
1401+1201-1400มหาวิทยาลัยศิลปากร
Photo Credit:
Photo Credit: Chulalongkorn University

สรุปภาพรวมประเทศไทย

  • จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยครองอันดับมหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศไทย โดยขึ้นแท่นอันดับหนึ่งในหกจากเก้าตัวชี้วัดของ QS มหาวิทยาลัยแห่งนี้ได้รับคะแนนสูงสุดในประเทศไทย สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งเน้นการสร้างงานที่มีคุณภาพและความสัมพันธ์ที่ดีกับภาคอุตสาหกรรม ซึ่งส่งผลให้จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยติดอันดับ 60 ของโลกในด้านผลลัพธ์ด้านการจ้างงาน
  • สถาบันการศึกษากว่า 69% ของไทย ได้ขยับขึ้นในตัวชี้วัด ด้านชื่อเสียงทางวิชาการ ซึ่งชี้ให้เห็นถึงคุณภาพงานวิจัย แนวทางการเป็นพันธมิตรทางวิชาการ ผลกระทบเชิงกลยุทธ์ นวัตกรรมทางการศึกษา และผลกระทบที่สถาบันเหล่านั้นมีต่อการศึกษาและสังคมโดยรวม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยทำผลงานได้โดดเด่นที่สุดในตัวชี้วัดนี้ โดยติด 1 ใน 100 อันดับแรกของโลกที่อันดับที่ 97
  • ถึงแม้ว่ามหาวิทยาลัยไทยกว่าสองในสามจาก 13 แห่งที่ติดอันดับจะร่วงลงในตัวชี้วัด ด้านความยั่งยืน แต่มีถึง 8 แห่งที่ติดอันดับ 500 อันดับแรกของโลก มหาวิทยาลัยมหิดล พุ่งขึ้นถึง 195 อันดับในตัวชี้วัดนี้ โดยอยู่อันดับที่ 276 ของโลก ตามหลังจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยที่อยู่อันดับที่ 198 อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยยังคงครองอันดับสองในด้านคะแนนเฉลี่ยความยั่งยืนที่สูงที่สุดในเอเชีย
Photo Credit:
Photo Credit: Mahidol University
  • ประเทศไทยยังมีช่องว่างสำหรับการปรับปรุงผลลัพธ์ด้านการจ้างงานและการเชื่อมโยงกับภาคอุตสาหกรรม โดยมหาวิทยาลัยทั้งหมด 100% ของประเทศไทยมีคะแนนลดลงในตัวชี้วัด ด้านการยอมรับจากนายจ้าง (Employer Reputation) และ 92% มีคะแนนลดลงใน ด้านผลลัพธ์การจ้างงาน (Employment Outcomes)
  • ประเทศไทยมีโอกาสในการพัฒนากลยุทธ์ในการทำให้เป็นสากล ทั้งในด้านวิชาการ ทางด้านนักศึกษา และสถาบันการศึกษาของไทยทั้ง 13 แห่งที่ติดอันดับนั้น ไม่มีแห่งใดที่ติดอันดับ 500 อันดับแรกของโลกในตัวชี้วัดอัตราส่วนของอาจารย์ต่างชาติ (International Faculty Ratio) หรืออัตราส่วนนักศึกษาต่างชาติ (International Student Ratio) เมื่อพิจารณาคะแนนเฉลี่ยระหว่างตัวชี้วัดทั้งสองนี้ ประเทศไทยติดอันดับหกประเทศล่างสุดในเอเชีย
  • ประเทศไทยเป็นประเทศเดียวที่ทำคะแนนเฉลี่ยด้านความยั่งยืน (Sustainability) สูงกว่าค่าเฉลี่ยโลก สะท้อนให้เห็นว่ามหาวิทยาลัยไทยมีการนำแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืนมาใช้อย่างแข็งขัน นอกจากนี้ คะแนนเฉลี่ยสูงสุดของไทยยังอยู่ในประเภทเครือข่ายวิจัยระหว่างประเทศ (International Research Network) ซึ่งบ่งชี้ว่าความพยายามร่วมมือของมหาวิทยาลัยไทยกำลังส่งผลลัพธ์เชิงบวกและเริ่มสร้างผลกระทบที่สำคัญ

สำหรับใครที่อยากดูผลการจัดอันดับแบบเต็มๆ สามารถเข้าไปส่องกันได้ที่เว็บไซต์ https://www.topuniversities.com/world-university-rankings กันได้เลยนะครับ โดยในโปรแกรมสามารถฟิลเตอร์ได้ทั้งการจัดอันดับระดับภูมิภาค  การจัดอันดับในประเทศ หรือจะดูผลย้อนหลังปีก่อนๆ ก็ได้เช่นกันครับ 

สำหรับใครที่มองหาโอกาสโกอินเตอร์ ตอนนี้มีหลายทุนกำลังเปิดรับสมัคร
ตามไปเช็กกันต่อได้เลยที่ "โปรแกรมค้นหาทุนเรียนต่อนอก by Dek-D

พี่วุฒิ
พี่วุฒิ - Columnist มนุษย์ 4 มิติผู้หลงใหลในเพลงเกาหลี ชาเนสที และหมูกระทะ

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

0 ความคิดเห็น