น้องๆ เคยสงสัยกันมั้ยคะว่าทำไมค่าเทอมแพทย์ ม.รัฐ และ ม.เอกชน ถึงแตกต่างกันมาก นั่นก็เป็นเพราะว่ามหาวิทยาลัยเอกชน ผู้เรียนจะต้องเป็นคนจ่ายทุกอย่างเอง ส่วนมหาวิทยาลัยรัฐ ก็จะมีงบประมาณหรือเงินอุดหนุนจากรัฐมาช่วย ทำให้ผู้เรียนจ่ายแค่บางส่วน เพราะแพทย์ เป็นอาชีพที่มีความสำคัญต่อระบบสาธารณสุข และการลงทุนเพื่อสร้างบุคลากรทางการแพทย์ก็ใช้เงินค่อนข้างสูง
ดังนั้นน้องๆ อาจจะเคยได้ยินมาบ้างแล้วว่า หลังจากเรียนจบ แพทย์ ม.รัฐ ก็จะต้องทำงานเพื่อชดใช้ทุนด้วย ถึงจะชื่อว่าใช้ทุน แต่ก็ได้เงินเดือนนะ! โดยจะไปอยู่ตามโรงพยาบาลในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศค่ะ ใครที่ไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อน ตามมาอ่านเลยค่ะ
เส้นทางกว่าจะเป็นหมอ
แพทยศาสตร์ เป็นหลักสูตรที่ใช้เวลาเรียน 6 ปี โดยไม่มีแยกสาขาในระดับปริญญาตรี ทุกคนจะได้เรียนเหมือนกันหมด เมื่อจบออกมา จะเป็นแพทย์เวชปฏิบัติทั่วไป สามารถรักษาผู้ป่วยทั่วไปได้ ซึ่งในระยะเวลานี้นี่แหละที่น้องๆ จะได้ไปเป็นหมอตามโรงพยาบาลต่างๆ เพื่อเป็นการใช้ทุน และหลังจากใช้ทุน หากใครต้องการเรียนต่อเฉพาะทางก็สามารถเรียนต่อเพิ่มเติมเพื่อเป็นหมอเฉพาะทางได้ หรือ ถ้าต้องการเรียนต่อเฉพาะทางระหว่างใช้ทุน ก็สามารถลาเรียนและกลับมาใช้ทุนต่อก็ได้เช่นกัน
ทำไมเรียนแพทย์ ม.รัฐ ต้องใช้ทุน?
อย่างที่ได้บอกไปว่า การลงทุนผลิตบุคลากรด้านการแพทย์นั้นมีค่าใช้จ่ายสูงมาก ซึ่งรัฐก็ได้ช่วยสนับสนุน ทำให้นักศึกษาแพทย์ในมหาวิทยาลัยรัฐได้เรียนแพทย์ในราคาที่ไม่แพงเกินไป แต่มีเงื่อนไขว่า เรียนจบแล้วก็ต้องทำงานให้รัฐ โดยการไปเป็นแพทย์ในโรงพยาบาลต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นโรงพยาบาลทั่วไป โรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลชุมชนของจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศไทย เพื่อชดใช้ทุนเป็นระยะเวลา 3 ปีนั่นเอง
ซึ่งในปีแรกของแพทย์ใช้ทุน เป็นช่วงเวลาของการเรียนเพื่อเพิ่มพูนประสบการณ์และทักษะในการทำงานจริง เรียกว่า ได้ประสบการณ์แปลกๆ ใหม่ๆ และยังเป็นโอกาสที่ได้ค้นหาตัวเองด้วยว่าชอบด้านใดเป็นพิเศษ หลายคนรู้ตัวเองว่าอยากเรียนต่อเฉพาะทางด้านไหนก็ตอนใช้ทุนเลย
ไม่ใช้ทุน หรือ ลาออก โดนปรับสูงสุด 400,000 บาท
เป็นเรื่องที่คนอยากจะเรียนแพทย์ต้องรู้ล่วงหน้า หลายคนเข้าใจว่าเรียนจบมาแล้ว สามารถหางานทำเองได้เลย ก็วางแผนจะไปทำโรงพยาบาลเอกชนหรือคลินิกต่างๆ แต่เดี๋ยวก่อน! ทางเลือกนี้สามารถทำได้ค่ะ แต่ก็มีเงื่อนไขเรื่องค่าปรับ ที่จะต้องจ่ายให้กับมหาวิทยาลัย ซึ่งจะมีการเซ็นสัญญาตั้งแต่เข้าเรียนชั้นปีที่ 1 เลย
โดยใจความสำคัญของสัญญาจะมีดังนี้ คือ
1. จะต้องไปปฏิบัติงานใช้ทุน (รับราชการ) ไม่น้อยกว่า 3 ปีติดต่อกัน ตั้งแต่วันที่ได้กำหนดในคำสั่ง
2. ถ้าได้รับมอบหมายให้ไปอบรมหรือศึกษาเพิ่มเติมตามความต้องการของกระทรวง ทบวง หรือกรมใดๆ เมื่ออบรมเสร็จแล้ว จะต้องกลับมาทำงานให้ครบ 3 ปีเหมือนเดิม
3. ถ้าไม่ใช้ทุน จะต้องชดใช้เงินให้แก่มหาวิทยาลัย 400,000 บาทถ้วน ภายในเวลาที่มหาวิทยาลัยกำหนด (ส่วนใหญ่จะอยู่ที่ประมาณภายใน 30 วัน)
4. ถ้าใช้ทุน แต่ไม่ครบกำหนดเวลา 3 ปี ก็จะมีค่าปรับ โดยปรับตามสัดส่วนของระยะเวลาที่ได้ทำงานไปแล้ว
ทำงานใช้ทุน = ทำฟรี 3 ปีเลยหรือเปล่า?
ไม่ใช่ค่ะ ถึงจะเรียกว่าเป็นการใช้ทุน แต่จริงๆ ก็เป็นการทำงานทั่วไป เพราะได้รับเงินเดือนและสวัสดิการต่างๆ ตามปกติ เพียงแต่ว่าสถานที่ที่ไปทำงาน เราไม่ได้เป็นคนเลือกเอง 100% แต่แรก แต่เกิดจากการที่กระทรวงสาธารณสุขได้แจ้งความประสงค์ว่าโรงพยาบาลไหนที่ต้องการแพทย์ไปทำงานบ้าง
จากนั้น นักศึกษาแพทย์ที่ได้ใบประกอบวิชาชีพเวชกรรมแล้ว จะต้องไปลงชื่อว่าสนใจจะไปทำงานในจังหวัดใด หากจังหวัดนั้นมีผู้สมัครน้อยกว่าจำนวนรับ ก็จะไปทำงานที่จังหวัดนั้นเลย แต่ถ้ามีผู้สมัครมากกว่าจำนวนรับ ก็จะเข้าสู่ขั้นตอนการจับสลากว่าใครจะได้ไป ส่วนคนที่ไม่ได้ ก็จะต้องไปรอบถัดไป (ปัจจุบันมี 3 รอบ) ซึ่งตรงนี้อาจจะเป็นจุดที่หลายคนหนักใจ เพราะความยากง่าย ความสะดวกสบาย หรือภาระหน้าที่ แต่ละโรงพยาบาลก็จะแตกต่างกันไปด้วย
ซึ่งการทำงาน ก็จะได้รับเงินเดือนเสมือนแพทย์คนนึง อ้างอิงจากคุณหมอแอ๋ม (ใครสนใจอยากเรียนแพทย์ ติดตามช่องคุณหมอได้เลย คลิก) รายรับของแพทย์จบใหม่ โรงพยาบาลรัฐ จะมีที่มาของรายได้หลายส่วน คือ
- เงินเดือน ขึ้นอยู่กับโรงพยาบาลที่สังกัด ปัจจุบันจะอยู่ประมาณ 18,000 บาท
- เงิน พ.ต.ส. คือ เงินเพิ่มตำแหน่งพิเศษของผู้ปฏิบัติงานสาธารณสุข แพทย์ จะได้ 5,000 บาท
- เงินไม่ทำเวชปฏิบัติส่วนตัว คือ เงินเพิ่มกรณีที่ไม่ไปทำงานคลินิกหรือโรงพยาบาลเอกชนเพิ่ม จะได้ 10,000 บาท
- เงินค่าตอบแทนตามผลการปฏิบัติงาน (P4P : Pay for Perfomance) ซึ่งจะมีอยู่ 2 แบบคือ แบบที่กำหนดจำนวนเงินมาแล้วว่าในแต่ละเดือนจะได้เท่าไหร่ และแบบที่ขึ้นอยู่กับจำนวนหัตถการที่ทำ โดยเฉลี่ย ค่า P4P จะอยู่ประมาณ 5,000-7,000 บาท
- เงินค่าเวร รายได้จะขึ้นอยู่กับค่าเวรที่แต่ละโรงพยาบาลกำหนด โดยเฉลี่ยประมาณ 600-1,000 กว่าบาท ต่อ 8 ชั่วโมง ตรงนี้จะได้มากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับจำนวนเวรที่ทำด้วย
ดังนั้น รายได้ของแพทย์จบใหม่ แม้จะเป็นแพทย์ใช้ทุน ก็จะได้รับเงินเดือน 5 ส่วนนี้รวมกันเป็นเงินเดือนของแพทย์ นั่นเอง
ที่มาข้อมูล :https://www.youtube.com/watch?v=a-B07MJX1Zw
แม้ว่าปัจจุบันจะมีปัญหาเรื่องจำนวนแพทย์ที่ลาออก เนื่องจากภาระงานที่หนักเกินไป และยอมจ่ายค่าปรับแทนการใช้ทุน และมีหลายเสียงอยากให้เพิ่มจำนวนค่าปรับ เพื่อไม่ให้แพทย์ใช้ทุนไหลออกจากระบบมากเกินไป น้องๆ มีความคิดเห็นยังไงกันบ้างคะ มาแชร์กันได้นะ
0 ความคิดเห็น