ระวังนะ! ดื่ม "น้ำอัดลม" มากเกินไป เสี่ยงเป็นคน "ขี้หงุดหงิด"

• น้ำอัดลม นอกจากทำให้อ้วน ฟันผุ   นอนไม่หลับ ยังส่งผลต่ออารมณ์อีกด้วย
  • เด็กที่ดื่มน้ำอัดลมวันละ 4 แก้วจะชอบเล่นแรงๆ ทำร้ายร่างกายผู้อื่น
  • วัยรุ่นที่ดื่มน้ำอัดลมมาก จะมีพฤติกรรมรุนแรง และบางรายยังซึมเศร้าด้วย

            “น้ำอัดลม” จัดว่าเป็นอีกหนึ่งเครื่องดื่มที่ไม่ดีต่อสุขภาพเท่าไหร่ แต่เราก็อดใจไม่ไหวใช่ไหมคะ แน่นอนว่าถ้าจะถามว่าน้ำอัดลมไม่ดีต่อสุขภาพอย่างไรบ้าง เราตอบได้ทันทีเลยว่าเพราะมีน้ำตาลสูง ทำให้เป็นโรคอ้วน ฟันผุ เกิดปัญหาในกระเพาะอาหาร มีคาเฟอีนที่ส่งผลกระทบต่อการนอนหลับ และอีกมากมาย...

            แต่จะมีใครรู้บ้าง  ว่านอกจากปัญหาด้านร่างกายแล้ว ยังมีวิจัยที่พบว่า น้ำอัดลมส่งผลกระทบต่ออารมณ์ด้วยนะ
 

ภาพจาก unsplash.com

 

            ในปี 2013 มีผลวิจัยถูกตีพิมพ์ลงใน The Journal of Pediatrics พบว่าเด็กที่มีปัญหาอารมณ์รุนแรงและเรียกร้องความสนใจ อาจเกี่ยวข้องกับน้ำอัดลมที่ดื่มเข้าไป

            การศึกษานี้รวบรวมกลุ่มตัวอย่างกว่า 3,000 คน จากเด็ก 5 ขวบทั่วสหรัฐอเมริกามาแยกเป็นหมวดหมู่ โดยแบ่งเป็นเด็กที่ซึมเศร้าโดยพันธุกรรม, ถูกกักขังหน่วงเหนี่ยว และมีความรุนแรงในครอบครัว พบว่า เด็กที่ดื่มน้ำอัดลมวันละ 4 แก้วขึ้นไป จะมีโอกาสทำลายข้าวของ ทะเลาะวิวาท และทำร้ายร่างกายผู้อื่น มากกว่าปกติถึง 2 เท่า 
 

ภาพจาก unsplash.com

 

            แม้จะยังไม่พบสาเหตุที่แน่ชัด แต่ผู้เชี่ยวชาญสันนิษฐานว่าวัตถุดิบที่ใช้ทำน้ำอัดลม เช่น น้ำตาลเทียมและกรดฟอสฟอริก อาจมีผลต่อปัญหาด้านพฤติกรรมต่างๆ และในน้ำอัดลมยังมีคาเฟอีนทำให้เกิดปัญหาพฤติกรรมร่วมด้วย

            นอกจากนี้ การบริโภคโซดามากๆ ยังมีผลกระทบต่อระดับน้ำตาลในเส้นเลือด ทำให้เมื่อไหร่ที่น้ำตาลในเลือดต่ำ เด็กๆ จะโหยหาโซดา ทำให้เกิดพฤติกรรมก้าวร้าวขึ้นมาได้
 

ภาพจาก unsplash.com
 

            หลายคนอาจมองว่านี่มันเป็นเรื่องของเด็กๆ แล้ววัยรุ่นล่ะ? วัยรุ่นก็มีงานวิจัยเกิดขึ้นในปี 2013 เช่นกันค่ะ เป็นงานวิจัยที่ถูกตีพิมพ์ลงใน International Journal of Injury Control and Safety Promotion กล่าวว่าน้ำอัดลมนั้นส่งผลให้เด็กวัยรุ่นก้าวร้าว ซึมเศร้า และเสี่ยงต่อการฆ่าตัวตาย เพราะการศึกษาพบว่า ยิ่งวัยรุ่นดื่มน้ำอัดลมมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งมีพฤติกรรมรุนแรงมากเท่านั้น แล้วยังรู้สึกเศร้า สิ้นหวังได้ง่ายกว่าปกติ ในบางรายรุนแรงถึงขั้นคิดฆ่าตัวเองเลยทีเดียว
 

ภาพจาก unsplash.com

 

            ปัจจุบันหลายๆ โรงเรียนในสหรัฐอเมริกาเริ่มยกเลิกการจำหน่ายน้ำอัดลมในโรงเรียนแล้วค่ะ และผู้เชี่ยวชาญก็แนะนำให้ปรับพฤติกรรมเด็กอย่างค่อยเป็นค่อยไปด้วยวิธีในทางบวก เช่น ชมเชยและให้รางวัลเมื่อทำได้ดี เพื่อช่วยปลูกฝังพฤติกรรมด้านบวกให้เด็กๆ แทน

            รู้แบบนี้แล้ว เรามาลองลดการดื่มน้ำอัดลมดูบ้างไหมคะ ทั้งดีต่อสุขภาพ แล้วยังดีต่ออารมณ์ของเราด้วย แบบนี้พี่กวางว่าต้องลองสักหน่อยแล้วล่ะ